นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 18 - แผนการ
เดวิดหรี่ตาของเขาลงมาอีกครั้ง ทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะตอบคำถามของครูฝึกเอลล่าออกไปตามตรง
“อืมม! ผมไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง สำหรับคำถามนี้เลยครับ ครูฝึก!”
เอลล่าจ้องไปที่เดวิดอยู่หลายวินาที ก่อนที่จะหันหน้าออกมาจากเขา “หือ! ยังมีใครต้องการที่จะตอบคำถามนี้บ้างมั้ย?” เธอกล่าวขึ้น พร้อมกับกวาดสายตาไปยังเหล่านักเรียนคนอื่น ๆ
“ค่ะ! ครูฝึกเอลล่า หนูชื่อฟิลลิดา” เสียงหวานหยดย้อยดังขึ้นอย่างไม่ดังมากนัก แต่ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี
เดวิดไม่ต้องใช้เวลามากเลย ที่จะจำได้ว่านั่นเป็นเสียงของใคร แม้ว่าน้ำเสียงที่ดังขึ้นมานั้น จะแตกต่างจากก่อนหน้านี้พอสมควร และเสียงหวาน ๆ แบบนี้ เดวิดอยากจะหันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้งอยู่เหมือนกัน
และหลังจากที่หันหน้าตาอันเฉื่อยชาของตัวเองไปมองยังต้นเสียง คิ้วของเขาก็เลิกขึ้นอย่างแปลกใจเล็กน้อย ‘ดูเหมือนว่าเธอจะต่างจากเมื่อกี้พอสมควรเลย’
ตอนที่เดวิดเจอกับฟิลลิดาก่อนขึ้นเรือเหาะ เธอเป็นเด็กสาวที่มีบุคลิกที่ยั่วยวนและร้อนแรง แต่ในตอนนี้ เธอกลายเป็นเด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์ แบบเด็กผู้หญิงที่อาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ ไปแล้ว นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย
“รอสักครู่ก่อน” ครูฝึกเอลล่ายกมือขึ้นห้ามไม่ให้เด็กสาวหน้าตาซื่อ ๆ คนนั้นเอาไว้ ไม่ไห้ตอบคำถามออกมา ก่อนที่จะดึงมือกลับไปกอดอกของตัวเองเอาไว้ และการที่เธอทำอย่างนั้น มันยิ่งขับให้แตงโมลูกโตที่อยู่ใต้เสื้อเด่นขึ้นมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ มีเสียงสูดหายใจยาวดังออกมาจากเหล่านักเรียนชายจำนวนมาก รวมถึงตัวเดวิดเองด้วย การเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนเฉื่อยชา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศชายของเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากกลืนน้ำลายที่ไหลออกมาที่มุมปากกลับเข้าไปแล้ว เดวิดก็ตั้งสติของตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะฟังประโยคถัดไปของครูฝึกเอลล่า
“เด็กน้อยทั้งหลาย ให้ฉันได้บอกเรื่องนี้กับพวกเธอตามตรงนะ ฉันไม่เคยสนใจว่าพวกเธอจะมีชื่อว่าอะไร? ไม่สนใจว่าพวกเธอเป็นใคร? หรือข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพวกเธอเลย” ขณะที่เธอพูดออกมา ก็ไม่ลืมที่จะกวาดสายตาไปที่นักเรียนทุกคนอย่างทั่วถึง
เมื่อเดวิดได้ยินคำพูดพวกนี้ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันเลยเช่นกัน ไม่ได้สนใจอะไรเลยจริง ๆ แต่หลังจากที่เขามองเลยไปที่ฟิลลิดาผู้โชคร้าย ก็แสดงสีหน้าพอใจออกมาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจเธอจริงจังนัก แต่ก็รู้สึกดีใจที่เห็นเธอทำผิดพลาดออกมา
สีหน้าของฟิลลิดาที่เดวิดเห็นนั้น สามารถบอกได้อย่างง่ายดายเลยว่า เธอกำลังโกรธมาก และถึงแม้ว่าท่าทางที่แสดงออกมาของเดวิดในตอนนี้ จะเป็นเหมือนคนที่ไม่สนใจในสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะดวงตาที่ปิดลง ราวกับว่าเป็นคนขี้เกียจ ยังไม่ตื่นนอนเต็มที่อย่างนั้น แต่ประสาทสัมผัสของเขานั้นเฉียบคมมาก ไม่มีอะไรสามารถหลุดรอดไปจากสายตาของเขาได้เลย ยกเว้นว่าเขาจะตั้งใจปล่อยมันไปเท่านั้น
โดยเฉพาะ ตอนที่มีคนที่แข็งแกร่งมาปรากฏตัวอยู่ในระยะใกล้ ๆ ยกตัวอย่างเช่น ครูฝึกที่สามารถคุกคามเขาจนถึงชีวิตได้ เธอสามารถสังหารเข้าได้ง่าย ๆ เหมือนเชือดไก่สักตัวเท่านั้น เมื่อมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังระดับนี้มาอยู่ใกล้ ๆ เขา เปลือกตาของเขามันจะหรี่ลงเองโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการปิดบังสายตาของเขาจากการถูกฝ่ายตรงข้ามสังเกต ร่างกายของเขาจะอยู่ในสภาพที่ผ่อนคลาย จนดูเหมือนเฉื่อยชา ถ้ามองจากภายนอกจะเหมือนกับคนที่ขยับตัวขี้เกียจเชื่องช้า แต่กล้ามเนื้อภายในของเขานั้นกลับตื่นตัวอย่างเต็มที่ พร้อมที่จะตอบโต้กับทุกอย่างที่คุกคามเข้ามาได้อย่างฉับพลัน ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนไหน และในตอนนี้ เขารู้สึกถึงการคุกคามมาจากเบื้องหน้าของตัวเอง จากด้านซ้าย และจากด้านขวาในเวลาที่พร้อมเพียงกัน
แรงกดดันที่มาจากทางด้านซ้ายนั้น มันไม่ได้มาจากฟิลลิดาเพียงคนเดียวเท่านั้น มันยังมีที่มาจากคนอื่นด้วย และมันถึงกับเป็นแรงกดดันที่มากกว่าของฟิลลิดาเสียด้วยซ้ำ นั่นแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า นอกจากเธอแล้ว ยังมีนักเรียนคนอื่นอีกไม่น้อยในชุดเดียวกันนี้ ที่ได้รับการฝึกฝนจากตระกูลของตัวเองมาอย่างดี
และเขายังสามารถรับรู้ได้อีกว่า ภายใต้สีหน้าท่าทางเขินอายอย่างเสียหน้า จนทำให้หนุ่ม ๆ ที่มองเข้ามา อยากจะเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจ และปกป้องเธอจากคนที่เข้ามาทำร้าย โดยเฉพาะไนฮุน ที่ตอนนี้จ้องเขม็งไปที่ครูฝึกอย่างดุร้ายแล้วนั้น ดวงตาของฟิลลิดายังสงบราบเรียบ ราวกับทะเลสาบที่ไร้คลื่นลมแม้แต่นิดเดียว หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่เล็กน้อย เขาก็สามารถคาดเดาบางอย่างออกมาได้
‘บางทีเธออาจจะไม่ได้สนใจว่าครูฝึกจะคิดยังไงกับตัวเอง แต่จากการที่ฉันต้องหันไปมองเธอ และคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ แสดงว่าการที่เธอทำแบบนี้ เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าครูฝึกจะพูดว่าอะไร และต้องการที่จะยินอย่างนั้นด้วย แล้วเธอจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ? โอ้! ในเมื่อครูฝึกไม่ต้องการรู้ชื่อของพวกนักเรียนอีก แสดงว่าตอนนี้เธอจะรู้แต่ชื่อของฟิลลิดาเพียงคนเดียวเท่านั้น ช่างเป็นเด็กที่เจ้าแผนการจริง ๆ’ ตาของเดวิดเป็นประกาย เมื่อคิดมาถึงตอนนี้
ถ้าครูฝึกต้องการที่จะมอบหมายอะไรให้กับนักเรียนในวิชานี้ หรืออาจจะเป็นเรื่องอื่น ๆ ก็ตาม ชื่อของฟิลลิดาจะเป็นชื่อเดียวที่เธอนึกออกได้
“แน่นอน! แม้ว่าฉันจะไม่สนใจว่าพวกเธอจะชื่ออะไร แต่ฉันสนใจในพรสวรรค์ ในความสามารถในการต่อสู้ของพวกเธอ ถ้ามันดี! ฉันจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และจะเป็นคนที่อยากจะรู้ชื่อคน ๆ นั้นขึ้นมาเอง แต่ถ้ามันธรรมดาล่ะก็” แล้วครูฝึกเอลล่าก็หยุดคำพูดของตัวเองลง แล้วเปลี่ยนเป็นมองกวาดไปที่นักเรียนทั่ว ๆ อย่างทิ่มแทงเหยียดหยาม
“แล้วอีกอย่าง ถ้าพวกเราพบกันที่อื่น ไม่ใช่ในชั้นเรียนทักษะการต่อสู้แห่งนี้ ให้ถือว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกัน ให้ถือว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ไม่ต้องเข้ามาทักทายให้มันน่ารำคาญ เพราะฉันจะไม่สนใจพวกเธอเลย เข้าใจหรือไม่?” เสียงของเธอนั้นพูดออกมาอย่างเย็นชา
“เอาล่ะ! หนุ่มผมบลอนด์ตรงนั้น ตอบคำถามมา” เธอเลือกเด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ ที่มีดวงตาสีเดียวกันคนหนึ่งให้ตอบคำถามของตัวเอง เด็กหนุ่มคนนั้นยกมืออาสาที่จะตอบคำถามมาตั้งแต่ต้น ในขณะเดียวกัน สายตาของเธอก็เหลือบมองไปที่ฟิลลิดา “อืม ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ก็วางแผนได้ดีไม่ใช่น้อย แต่แย่หน่อยนะ เธอไม่สามารถหลอกฉันได้หรอก แต่แค่ไม่ต้องให้เธอพูดต่อ ก็น่าจะเป็นการลงโทษที่เพียงพอแล้ว’ เอลล่าคำรามออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะกลับมาให้ความสนใจกับคำตอบของเด็กหนุ่มผมบลอนด์
“ครับ ครูฝึก!” นักเรียนคนนั้นตอบกลับออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แสดงให้เห็นว่าเขานั้นมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองไม่น้อย
“สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ หรือสิ่งมีชีวิตที่มีการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วนั้น มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสามารถในการดูดซับสารเร่งการกลายพันธุ์ในอากาศ ซึ่งจะช่วยให้พวกมันพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ตราบใดที่พวกมันยังสามารถดูดซับสารกลายพันธุ์นี้เข้าไปได้ พวกมันจะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ” เขาจบคำตอบของตัวเอง ด้วยรอยยิ้มที่แสดงความมั่นใจ
ครูฝึกเอลล่ากรอกตาของเธอเล่น ก่อนจะถอนหายใจ ‘เจ้าเด็กโง่เอ้ย!’
และไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกอย่างสิ้นเชิง เธอกล่าวออกมาเสียงดังอีกครั้ง “ยังมีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้อีก? ฉันหมายถึงคำตอบที่ถูกต้องนะ”
ครั้งนี้ไม่มีใครยกมือขึ้นมาอีก เพราะนักเรียนส่วนใหญ่ที่เหลือ มีคำตอบที่ไม่ได้แตกต่างจากเด็กหนุ่มผมบลอนด์มากนัก
จะมีเพียงแค่ฟิลลิดาเท่านั้นที่ยกมือขึ้นกลางอากาศ
“เอาล่ะ! ยัยหนูน้อย พูดออกมา..” เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เอลล่าก็ได้แต่เลือกเธอแล้ว