ตอนที่ 356 คิวเลกซ์
ตอนที่ 356 คิวเลกซ์
“ถ้าฉันจำไม่ผิดพรุ่งนี้น่าจะเป็นงานประมูลวันแรกใช่ไหม? ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่ามันจะมีอะไรน่าสนใจมาเข้าร่วมการประมูลบ้าง?”
คิวเลกซ์พยายามอ้าปากตอบคำถาม แต่เธอก็เหลือบสายตามองไปยังมังกี้อย่างระมัดระวังราวกับว่าถ้าเธอพูดอะไรออกไปอย่างกะทันหัน เธออาจจะถูกตบหัวเหมือนในก่อนหน้านี้ก็ได้
ในความเป็นจริงคิวเลกซ์ถือว่าเป็นเด็กเรียนเพียงคนเดียวท่ามกลางพวกอันธพาลเหล่านี้ และในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเขาก็กลายเป็นตัวโดนของกลุ่มมาโดยตลอด เขาจึงไม่คิดที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าพี่สนใจ พี่สามารถดูแคตตาล็อกรายการประมูลได้ แต่เนื่องมาจากพรุ่งนี้เป็นวันแรกมันจึงยังไม่มีของน่าสนใจมาเข้าร่วมการประมูลเท่าไหร่นัก” คิวเลกซ์กล่าว
ผัวะ!
“เรื่องแบบนี้ถึงไม่บอกพี่เซี่ยเฟยก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมล่ะ!” มังกี้กล่าวพร้อมกับตบหัวคิวเลกซ์อีกครั้ง
เหล่าสหายภายในกลุ่มส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาด้วยความพึงพอใจ แต่เซี่ยเฟยกลับขมวดคิ้วอย่างรำคาญอยู่เล็กน้อย
“คิวเลกซ์ก็พูดถูกแล้วนี่ แล้วนายจะไปตีหัวเขาทำไม?”
“ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย แค่เจ้านี่พูดผมก็ตีหัวมันได้แล้ว” มังกี้กล่าว
ขณะเดียวกันคิวเลกซ์ก็ถือว่าเป็นพวกขี้ขลาด ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะถูกรังแกแต่ปากเขาก็ยังคงพร่ำบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร
“ถ้านายทำแบบนี้กับศัตรูฉันจะไม่พูดอะไรสักคำ แต่นี่คิวเลกซ์เป็นพี่น้องของพวกเราไม่ใช่เหรอ? ในตอนที่ทุกคนทะเลาะกับพวกเฮอร์มิท คิวเลกซ์ก็ร่วมสู้รบไปพร้อมกับทุกคนใช่ไหม?”
“พวกเราทุกคนเป็นนักสู้ซึ่งในสนามรบ พวกเราต้องคอยให้พี่น้องระวังหลังของพวกเราเอาไว้ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่ต้องเสี่ยงอันตรายจะมีใครคอยระวังหลังได้ดีเท่าพี่น้องของพวกเราอีก ในชีวิตนี้เราไม่รู้ว่าเราจะมีศัตรูอีกกี่คนแต่เรารู้แน่ ๆ ว่ามีพี่น้องที่คอยเคียงข้างเรามากเท่าไหร่ ดังนั้นหากเรามีพี่น้องจงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันเอาไว้ให้ดี ๆ เพราะสักวันหนึ่งพี่น้องเหล่านี้จะเป็นคนช่วยให้เรารอดพ้นจากอันตราย” เซี่ยเฟยพยายามกล่าวเตือนสติพวกตัวแสบ
คำพูดอย่างจริงจังของเซี่ยเฟยทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก มังกี้จึงก้าวเท้าไปข้างหน้าและกล่าวกับคิวเลกซ์ว่า
“หลังจากนี้ฉันจะไม่ตีนายอีกแล้ว”
—
ไม่ว่าในอนาคตมังกี้จะยังรังแกคิวเลกซ์ต่อไปหรือไม่ แต่ตราบใดก็ตามที่พวกนั้นไม่รังแกคิวเลกซ์ต่อหน้าของเขา เซี่ยเฟยก็รู้สึกพอใจมากแล้ว
อย่าลืมว่าเด็กพวกนี้ทำตัวเกเรมานานหลายปี และการพยายามจะเปลี่ยนพวกเขาด้วยคำพูดไม่กี่คำก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หลังจากชายหนุ่มกลับเข้ามาพักภายในห้องได้เพียงแค่ไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูก่อนที่จะได้พบกับคิวเลกซ์ที่ยืนเขินอายรอเขาอยู่ด้านนอก
“พี่เซี่ยเฟยอยากรู้ข้อมูลรายการประมูลใช่ไหม? ฉันเอาข้อมูลของการประมูลพรุ่งนี้มาให้พี่ดู” คิวเลกซ์กล่าว
“เข้ามาสิ” เซี่ยเฟยเชิญคิวเลกซ์เข้ามาพูดคุยกันในห้อง
“งานเทศกาลนี้เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างลับ ๆ ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดจึงไม่ได้ลงเอาไว้ภายในสตาร์เน็ตเวิร์ก ฉันเลยขอข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่ของงานเทศกาลและสรุปข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ในนี้แล้ว เชิญพี่เซี่ยเฟยเอามันไปดูได้เลย”
เซี่ยเฟยรับเอกสารกองหนามาจากคิวเลกซ์ ก่อนที่เขาจะพลิกเอกสารดูแต่ละหน้าอย่างสบาย ๆ ทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่าคิวเลกซ์ได้อธิบายรายละเอียดสินค้าไว้อย่างครบถ้วน แล้วมันก็มีแม้กระทั่งมูลค่าราคาตลาดของสินค้าชิ้นนั้น รวมถึงมูลค่าประมาณการของสินค้าที่ไม่ได้มีวางขายในตลาดอีกด้วย
“นายทำข้อมูลพวกนี้เองหมดเลยงั้นเหรอ? นี่มันละเอียดมากเลยนะเนี่ย” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ถึงยังไงฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ฉันเลยใช้เวลาว่างทำข้อมูลพวกนี้ขึ้นมาเล่น ๆ” คิวเลกซ์กล่าวด้วยใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ขอบใจมากน้องชาย ครั้งนี้นายช่วยฉันได้มากจริง ๆ” เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะเสียงดังพร้อมกับใช้แขนเริ่มไปกอดคอคิวเลกซ์เอาไว้
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เพราะอุณหภูมิในร่างของคิวเลกซ์ได้เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ในขณะที่ใบหน้าของเขาก็กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และเด็กชายคนนี้ก็กำลังก้มหน้าลงพร้อมกับตัวสั่นราวกับว่าร่างกายกำลังทำงานอย่างผิดปกติ
ในสายตาของเซี่ยเฟยนั้นคิวเลกซ์เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบสวมหมวกเบสบอลและชุดกีฬา แต่เนื่องจากร่างกายที่บอบบางและบุคลิกที่ค่อนข้างขี้อาย มันจึงทำให้เขาได้รับฉายาว่าคิวเลกซ์ที่แปลว่ายุง
“นายโอเคใช่ไหม? ฉันว่านายมีไข้นิดหน่อยนะ” เซี่ยเฟยเอามือไปจับหน้าผากของคิวเลกซ์เพื่อพยายามตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
คิวเลกซ์กระโดดขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะเริ่มพูดขึ้นมาอย่างติดอ่าง
“ฉันไม่เป็นไร... เอ่อ…ฉันสบายดี… ตอนนี้มันดึกมากแล้ว... ฉันขอตัวไปก่อนนะ”
“กลับไปก็พักผ่อนซะนะ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็มาหาฉันได้ ฉันพอจะรู้วิธีปรุงยารักษาอยู่บ้าง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คิวเลกซ์พยักหน้าให้กับเซี่ยเฟยก่อนที่เขาจะรีบวิ่งหนีออกไปทางประตู
“แปลกจังทำไมจู่ ๆ อุณหภูมิในร่างของเขาถึงเพิ่มขึ้นแบบนั้น? หรือว่าเขาจะเป็นโรคอะไรที่ฉันไม่รู้จัก?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองหลังจากที่คิวเลกซ์หนีออกจากห้องไป
“ไอ้โง่” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“นายด่าใคร?” เซี่ยเฟยถามอย่างหงุดหงิด
“ด่านายนั่นแหละ! ปกติก็เป็นคนฉลาดแท้ ๆ ทีเรื่องแบบนี้กลับโง่ซะงั้น” อันธยังคงด่าต่อไป
—
ข้อมูลของคิวเลกซ์มีประโยชน์กับเซี่ยเฟยมาก เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถจะหาได้จากอินเตอร์เน็ต
มนุษย์ได้พัฒนาอารยธรรมบันทึกข้อมูลลงในอินเตอร์เน็ตมาเป็นเวลานานแล้ว เซี่ยเฟยจึงคุ้นชินในการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในงานเทศกาลไม่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ตเลย ดังนั้นข้อมูลของคิวเลกซ์จึงช่วยเหลือเขาได้มากจริง ๆ
วันรุ่งขึ้นเซี่ยเฟยก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า ก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปยังศูนย์การประมูลของงานเทศกาล
ศูนย์การประมูลของงานเทศกาลเป็นจุดรับสมัครผู้ที่ต้องการนำสินค้าของตัวเองมาเข้าร่วมการประมูล แน่นอนว่าเนื่องจากงานเทศกาลครั้งนี้เป็นงานเทศกาลแลกเปลี่ยนสินค้าระดับสูง ดังนั้นสินค้าที่จะผ่านเข้าไปในงานประมูลได้สำเร็จย่อมต้องเป็นสินค้าระดับสูงที่ไม่สามารถหาพบได้ง่าย ๆ
“สวัสดีค่ะคุณชาย ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ฉันช่วยเหลือไหมคะ?” หญิงสาวผู้มัดผมหางม้ากล่าวทักทายเซี่ยเฟยหลังจากที่ชายหนุ่มได้เข้าไปในศูนย์การประมูล
“ผมมีสินค้าที่อยากจะเอาเข้าร่วมงานประมูล” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหยิบบัตรเชิญที่เขาได้รับมาจากหยูจื่อเทามอบให้กับพนักงานสาว
“ที่แท้คุณก็เป็นแขกวีไอพีนี่เอง เชิญตามมาทางด้านนี้ได้เลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นมาด้วยความระมัดระวังหลังจากที่เธอได้ตรวจบัตรเชิญของเซี่ยเฟย
แม้ว่าหยูจื่อเทาจะไม่ใช่ชายชราที่น่าเชื่อถือนัก แต่ท้ายที่สุดเขาก็เคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสมาพันธ์จัสทิสอยู่ ด้วยเหตุนี้บัตรเชิญของชายชราจึงเป็นบัตรเชิญระดับวีไอพี และชายหนุ่มก็ได้เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษนี้อย่างไม่ทันได้ตั้งใจ
ฝูงชนที่กำลังรอส่งสินค้าเข้าร่วมงานประมูลต่างก็จับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความอิจฉา เพราะชายหนุ่มยังมีอายุน้อยมากแต่เขากลับได้กลายเป็นแขกวีไอพีของสมาพันธ์ฟราเทอนิตี้ได้แล้ว
พนักงานสาวเดินนำเซี่ยเฟยมาในห้องที่เงียบสงบ ก่อนที่เธอจะนำของว่างมาเสิร์ฟให้กับชายหนุ่มและกล่าวว่า
“กรุณารอสักครู่นะคะ ตอนนี้หัวหน้าผู้ประเมินของเรากำลังรองรับลูกค้ารายอื่นอยู่ แล้วเขาจะรีบมาหาคุณทันทีที่เขาประเมินสินค้าของลูกค้ารายนั้นเสร็จ”
เซี่ยเฟยไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนักก่อนที่เขาจะหยิบรายการประมูลขึ้นมาอ่าน ท้ายที่สุดมันก็มีสินค้าใหม่ ๆ มาเข้าร่วมงานประมูลในทุก ๆ วัน ดังนั้นเขาจึงพยายามอ่านข้อมูลทุกครั้งที่เขามีโอกาส
ไม่นานชายสูงอายุคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขาได้เห็นเซี่ยเฟยเขาก็หันไปถามพนักงานสาวด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า
“มันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า? เขาเป็นแขกวีไอพีจริง ๆ เหรอ?”
“บัตรเชิญของเขาเป็นบัตรดำ 3 ดาว หมายความว่าเขาเป็นแขกวีไอพีจริง ๆ ค่ะ” พนักงานสาวกล่าวตอบ
ถึงแม้ชายชรากับพนักงานสาวจะพูดคุยกันเบา ๆ แต่บทสนทนาของพวกเขากลับเข้าหูของเซี่ยเฟยอย่างชัดเจน
‘ทำไมไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็เจอแต่คนที่ตัดสินฉันจากรูปร่างภายนอกนะ?’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ
ชายชราให้พนักงานสาวปิดประตูก่อนที่เขาจะเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเซี่ยเฟย
“ไม่ทราบว่าคุณต้องการนำสินค้าอะไรมาเข้าร่วมการประมูลครับ อย่าลืมว่านี่คืองานประมูลของเทศกาลแลกเปลี่ยนสินค้าของสมาพันธ์ฟราเทอนิตี้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถรับสินค้าระดับต่ำไปเข้าร่วมงานประมูลได้”
เซี่ยเฟยยังคงรักษาความสงบก่อนที่เขาจะหยิบอุปกรณ์รับสัญญาณอเนกประสงค์ออกมาจากแหวนมิติและวางมันเอาไว้บนโต๊ะ
“นี่มันอุปกรณ์รับสัญญาณอเนกประสงค์จากอารยธรรมโบราณ! สินค้าชิ้นนี้สามารถเข้าร่วมงานประมูลได้ครับ” ชายชรากล่าวอย่างสบาย ๆ
“ไม่เอามันไปตรวจสอบก่อนเหรอ?”
“ไม่จำเป็นครับ ผมมีความเป็นมืออาชีพมากพอ แค่ดูมันแค่นี้ผมก็สามารถตัดสินด้วยสายตาได้แล้ว” ชายชรากล่าวอย่างมั่นใจ
ปัก!
เซี่ยเฟยสอดนิ้วเข้าไปในแหวนมิติอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหยิบเอาหัวใจจักรวาลสีม่วงก้อนเท่ากำปั้นเอามาวางไว้บนโต๊ะ
ชายชรารู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหยิบเครื่องมือซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความจริงจังขึ้นมาสวม จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หยิบก้อนแร่ตรงหน้าขึ้นมาพิจารณาอย่างระมัดระวัง
“มันคือหัวใจจักรวาลสีม่วงที่มีขนาดและความบริสุทธิ์สูงมาก นี่จะต้องเป็นหัวใจจักรวาลสีม่วงระดับสูงสุดในพันธมิตรอย่างแน่นอน” ชายชราอุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
แต่เรื่องมันยังไม่จบเพียงแค่นี้เพราะเซี่ยเฟยได้หยิบหัวใจจักรวาลสีม่วงก้อนที่ 2 เอามาวางไว้บนโต๊ะด้วย
ที่สำคัญคือคราวนี้หัวใจจักรวาลก้อนที่ 2 มีขนาดใหญ่กว่าหัวใจจักรวาลก้อนแรกประมาณ 50% และสีของหัวใจจักรวาลก้อนที่ 2 ยังดูบริสุทธิ์มากกว่าหัวใจจักรวาลก้อนแรกอีกด้วย
ชายชราอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เพราะโดยปกติหัวใจจักรวาลสีม่วงก็หาได้ยากมากอยู่แล้ว แต่เซี่ยเฟยกลับมีหัวใจจักรวาลสีม่วงระดับสูงสุดอยู่ในครอบครองถึงสองชิ้น และมันก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่แสดงท่าทางดูถูกเซี่ยเฟยออกไปในก่อนหน้านี้
เมื่อเซี่ยเฟยนำหัวใจจักรวาลสีม่วงก้อนที่ 3 ออกมาวางไว้บนโต๊ะ มันก็ทำให้ดวงตาของชายชราแทบที่จะถลนออกมาจากเบ้า
หัวใจจักรวาลก้อนที่ 3 มีขนาดเกือบจะเท่าลูกฟุตบอล ที่สำคัญคือด้านในไม่มีสิ่งเจือปนอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว!!
“โอ้พระเจ้า! นี่จะต้องเป็นหัวใจจักรวาลสีม่วงในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้มีโอกาสเห็นหัวใจจักรวาลที่มีความบริสุทธิ์สูงมากขนาดนี้” ชายชรากลืนน้ำลายพร้อมกับอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น
***************
พี่ไม่กลัวโป๊ะแตกเลยหร๊ออออออ