เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 8 - ราชาแห่งขุนเขา
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 1 บทที่ 8 - ราชาแห่งขุนเขา
[หมาป่าอาร์กอน_วิญญาณ ระดับ 33 เลือด: 4997/5003 สถานะ: ทั่วไป สมญานาม ราชันแห่งขุนเขา]
โอ้
พระ
เจ้า
ช่างเป็นจำนวนเลือดที่สูงมากมายอะไรขนาดนี้
ทุกครั้งที่ข้าพบกับเขา ข้ามักจะรู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อได้เห็นปริมาณเลือดอันมหาศาลนี้
ว่าแต่ส่วนของ [หมาป่าวิญญาณ] หมายความว่ายังไงกัน? สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับลักษณะของสิ่งมีชีวิตบนโลก
มันมีระบบที่เกี่ยวข้องกับระดับภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิตอยู่ สัตว์ที่มีคุณสมบัติพิเศษหรือความสามารถพิเศษคือ [สัตว์มหัศจรรย์/สัตว์ร้าย] ส่วน [สัตว์ประหลาด] คือสัตว์ที่น่ารำคาญและ[สัตว์วิญญาณ] สื่อถึงสัตว์อันเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดที่เคยมีมา แม้จะถูกเรียกว่า "วิญญาณ" แต่พวกมันคือสิ่งมีชีวิตทั่วไปและมีอวัยวะที่สามารถมองเห็นผ่านร่างได้คล้ายวิญญาณ เป็นเพราะ [สัตว์วิญญาณ] มีพลังมากมายที่เกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์จะเข้าใจได้ พวกมันจึงถูกตั้งชื่อเช่นนี้
.
ด้วยพลังที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของมนุษย์ ก็หมายความว่าพวกมันแข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างภัยพิบัติได้ พวกมันฉลาดมาก ดังนั้นพวกมันจึงยิ่งเป็นอันตราย
นอกจากนี้ถึง [ราชันแห่งขุนเขา] จะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในพื้นที่นี้ที่มีระดับอยู่ที่ 33 แต่แท้จริงแล้วมันอาจมีระดับสูงกว่าที่เป็นอยู่ หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือก่อนจะเพิ่มระดับ มันก็จะมีหลอด 1-100 บางทีเจ้าราชันแห่งขุนเขาตัวนี้อาจจะค้างอยู่ที่ช่วงรอยต่อขึ้นระดับก็เป็นได้ แต่ที่จริงสัตว์ประหลาดระดับ 33 สามารถจัดการได้ง่าย หากมีการเตรียมการมากพอ
แต่ตัวนี้มันคือ [สัตว์วิญญาณ]
ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าทุกคนรู้ดีว่าสัตว์ส่วนใหญ่ไม่รู้จักภาพสะท้อนของตนเองในกระจกใช่ไหม? แต่หมาป่าตัวนี้ตระหนักรู้ด้วยตัวมันเอง ทั้งยังถึงขั้นตั้งชื่อให้ตนเองได้ด้วย
หากพวกมันมีสติปัญญาขนาดนี้ พวกเจ้าลองจินตนาการดูสิว่าพวกมันจะสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
ข้ายืนอยู่หน้าทางเข้าเหมืองร้าง โดยรอบมีศพหลายสิบศพที่ถูกทิ้งไว้เต็มไปหมด ศพทั้งหมดมีปลอกคอที่ทำจากเหล็กหรือทองสัมฤทธิ์ที่คอ...พวกเขาเป็นทาสงั้นเหรอ?
ถ้าพวกเขาเป็นทาส คนพวกนี้อาจมาจากนอกหมู่บ้าน ถึงในหมู่บ้านจะมีทาสอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่ได้มีมากพอกับจำนวนศพที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นเลย
มีทาสบางส่วนตายไปแล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็กำลังถูกจัดการโดยลูกน้องของ [ราชันแห่งขุนเขา] หรือก็คือหมาป่าในฝูง
ข้ารู้ว่าเรื่องนี้อาจดูแย่ไปหน่อย แต่ข้าไม่ต้องการยุ่งเรื่องระหว่างของ [ราชันแห่งขุนเขา] กับทาสพวกนี้เลย นอกจากนี้พวกเขายังเป็นคนนอก พวกเขาตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ข้ากังวลมีเพียงแค่เรื่องรังลับชั่วคราวของข้าเท่านั้น
ม่ายยยยยยย ~~~
ทุกอย่างกำลังถูกทำลาย! นี่มันหายนะชัดๆ!
ดูจากวัตถุและสิ่งของที่วางอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว ข้าคิดว่าทาสพวกนี้กำลังทำเหมืองอยู่
พวกเขาอาจจะมาโดยไม่มีอาวุธและไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ไม่อย่างนั้นทาสกลุ่มใหญ่ขนาดนี้คงไม่ถูกโจมตีและกำจัดได้อย่างง่ายดายนัก
ว่าแต่ทำไมถึงมีคนเข้าป่าและไม่พกอาวุธกันนะ? เรียกว่าการต่อสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกทาสไม่สามารถรวมตัวต่อต้านใดๆ ต่อสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้เลย
หมาป่าบางตัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นบาดแผลที่ถากๆ ด้วยซ้ำ ในขณะที่ทาสเกือบทั้งหมดตายไปแล้ว แถมลองมองไปยัง [ราชันแห่งขุนเขา] ดูสิ! เขาเสียพลังชีวิตไปเพียงหกหน่วยเท่านั้น หกหน่วย!
แต่ข้าไม่ต้องการให้รังลับของข้าถูกทำลายมากกว่านี้แล้ว ข้าคิดว่าข้าคงต้องเข้าไปแทรกแซงเสียหน่อย
“โอ้พระเจ้า เจ้าทำเรื่องยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว” ข้าก้าวออกมาจากต้นไม้ที่ปกคลุมตัวเองและตะโกนออกมา
[ราชันแห่งขุนเขา] ละสายตาจากความโกลาหลและเบนมาทางข้า มันอยู่ใกล้กับถ้ำเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้กับฝั่งตะวันตก
ตัวมันถูกปกคลุมไปด้วยขนสีเหลืองทองสดใสและยืนสูงด้วยความสูงห้าเมตร ช้างโดยเฉลี่ยสูงแค่สี่เมตรเอง นั่นทำให้ตัวมันใหญ่โตมโหฬารมาก
เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็ตัดสินใจมุ่งมาหาข้า
ข้ารีบต่อบล็อกหินกรวดที่ข้าสร้างไว้ล่วงหน้าและมองดู [ราชันแห่งขุนเขา] ที่กำลังพ่นไฟใส่ข้า
โอ้
พระ
เจ้า
หมาป่าพ่นไฟได้
หมาป่าพ่นไฟได้!
หมาป่าที่ไม่ใช่แค่หมาป่าธรรมดา แต่ยังสามารถพ่นไฟได้!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าพบมัน และไม่ใช่ครั้งแรกที่มันพ่นไฟใส่ข้า แต่มันก็ยังคงน่าตกใจเมื่อใดก็ตามที่มันเกิดขึ้น
แม้จะมีบล็อกก้อนกรวดขวางอยู่ แต่ข้าก็รู้สึกได้ถึงความร้อนมากมาย คล้ายกับมันเป็นสิ่งที่กั้นข้าไว้ระหว่างความตาย [ราชันแห่งขุนเขา] ค่อนข้างสับสนมาก แม้ว่ามันจะฉลาดพอสมควรก็ตาม
พวกเจ้าอาจสับสนว่าทำไมจู่ๆ ข้าถึงมีบล็อกก้อนกวาดสินะ? ต้องขออธิบายก่อนว่ามันเกิดขึ้นจากการทดลองบางอย่างในเวลาหลายปีของข้า
ข้าได้ตระหนักว่าข้ามี "ระยะ" ที่ซึ่งสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในระยะของมัน ข้าสามารถควบคุมมันได้ ข้าค้นพบสิ่งนี้โดยบังเอิญ ดีเหลือเกินที่ข้าค้นพบ
ข้าสามารถรวบรวมบล็อกที่แตกต่างกันล่วงหน้า จากนั้นก็เก็บไว้ใน [กระเป๋าเก็บของ] ของข้า ตราบใดที่มันไม่ใหญ่เกินไป มันก็จะใช้ได้ ลองคิดดูสิ ข้าสามารถยัดกำแพงบล็อกก้อนกวาด 3x3 ลงใน [กระเป๋าเก็บของ] ได้เลยนะ
ข้าขอเรียกความสามารถนี้ว่า [การประกอบ] แล้วกัน ข้าคิดคำอื่นไม่ออกจริงๆ
แต่ที่จริงมันก็มีข้อจำกัดในความสามารถนี้อยู่ สิ่งที่ข้าประกอบต้องไม่ใหญ่หรือซับซ้อนเกินไป สิ่งที่ดีที่สุดที่ข้าทำได้คือการประกอบผนังหรือบันไดหลายขั้น โดยไม่จำเป็นต้องทำทีละช่วงบล็อก
การดึงกำแพงบล็อกก้อนกวาดออกมาเป็นการซ้อมป้องกันที่ดีมาก ซึ่งมันก็ทำให้ข้าพึงพอใจไม่น้อย และเนื่องจากกำแพงบล็อกก้อนกวาดได้ผ่าน [การแปลง] ไปแล้ว มันจึงมีคุณสมบัติคล้ายกับหินกรวดในมายคราฟ
ไม่ว่าจะเป็นการเฉือน ทุบ บดฯลฯ จะไม่ทิ้งรอยขีดข่วนไว้เลย เว้นแต่จะขุดมันอยู่ที่จุดเดิมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะทิ้งรอยขีดข่วนไว้ แต่มันก็จะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยเวลาสองสามวินาที
แม้ว่าเกือบทุกอย่างในมายคราฟจะเสี่ยงต่อการระเบิด แต่ข้าก็ได้ทดสอบกำแพงหินกรวดแล้ว มันสามารถป้องกันระเบิดได้นิดหน่อย แต่คงเทียบกับบล็อกชนิดอื่นไม่ค่อยได้นัก
นี่ทำให้ยามใดก็ตามที่ข้าต้องเผชิญหน้ากับ [ราชันแห่งขุนเขา] ข้าจะพกกำแพงก้อนกรวดไปด้วยเสมอ
[ราชันแห่งขุนเขา] และข้ามีความสัมพันธ์ที่แปลกมาก
โดยปกติแล้ว มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีมอนสเตอร์โจมตีฐานลับของข้าและเหมืองร้าง แต่ข้าได้ทำข้อตกลงกับ [ราชันแห่งขุนเขา] และมันก็ทำเครื่องหมายอาณาเขตว่า ‘ห้ามเข้า‘ จากนั้นจำนวนสัตว์ประหลาดที่อยู่แถบนั้นก็ลดลงไปมาก
กล่าวก็คือ เจ้านี้เหมือนกับหมาทั่วไป มันจะฉี่ในจุดที่ต้องการและบอกว่าเป็นที่ของมัน
ในครั้งแรก เราประชุมและพูดคุยกันอย่างเข้มข้นมาก มันโจมตีข้าและข้าก็ตอบโต้
เห็นได้ชัดว่าข้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะจับมันได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเจ้าคงสงสัยว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
ในยามนั้นข้าสิ้นหวังมาก ทว่าข้าก็ได้รวบรวมดินปืนที่ได้จากการสังหาร [ครีปเปอร์] ให้กลายเป็นระเบิดและโยนไปทาง [ราชันแห่งขุนเขา] การใช้สิ่งพวกนั้นเป็นอาวุธและใช้กำแพงหินกรวดของข้าก็พอทำให้ข้ารอดตายมาได้ พอผ่านไปเป็นเวลานานพอสมควร เมื่อยามที่ข้ากำลังจะยอมแพ้ มันก็หยุดโจมตีข้า
กลายเป็นว่ามันสนใจสถานที่ของข้า เพราะอาหารที่ข้ามีตุนเอาไว้ พูดให้ถูกคือเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบ่มใน [กระเป๋าเก็บของ] ของข้า
อันที่จริงเรียกว่าบ่มคงไม่ได้นัก แต่ข้าไม่รู้เลยว่าจะอธิบายเช่นไรดี
ข้าทำเนื้อพวกนี้โดยผ่านกระบวนการใส่เกลือหมัก และอื่นๆ อีกมากมาย ในทางเทคนิคแล้ว มันอาจเรียกได้ว่าเป็นเบคอน แต่เรียกแบบนั้นออกจะสิ้นคิดไป ข้าจึงตัดสินใจไม่เรียกมันเช่นนั้น
ซึ่งข้าขอบอกเลยว่า พวกมันอร่อยมาก
ดังนั้นข้าจึงยกโทษให้ความสงสัยของ [ราชันแห่งขุนเขา] และแบ่งเนื้อให้มันไป
ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดนี้ก็เริ่มขึ้น ข้าจะ "ถวาย" เนื้อสัตว์ที่ผ่านการหมักเป็นระยะๆ ในจุดที่มันไปบ่อยครั้ง และมันก็จะให้ความคุ้มครองแก่ข้า
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า ใจเย็นก่อน หยุดทำร้ายข้าวของข้าได้แล้ว! หรือข้าจำเป็นต้องอ้อนวอนและคุกเข่าลงต่อหน้าอาร์คอน? ราชาแห่งขุนเขาทั้งมวลบนโลก?” ข้าก้าวออกมาจากด้านหลังกำแพงก้อนกรวดที่ข้าสร้างขึ้นและเห็นภาพหมาป่าที่กำลังคำรามใส่ข้า
หากข้าไม่พูดเช่นนี้ บางทีมันอาจโจมตีข้าไปแล้ว
จากนั้นมันก็คำรามออกมาอีกครั้งเป็นคำตอบ
ข้ากำระเบิดไว้ในมือแน่นและตรวจสอบ [แผนที่ขนาดเล็ก] เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีลูกน้องของมันเข้ามาโจมตีข้า
หา? ข้าเห็นอย่างอื่นใน [แผนที่ขนาดเล็ก]
ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้รอดชีวิตท่ามกลางศพทั้งหมด
[แผนที่ขนาดเล็ก] ระบุว่าบุคคลนั้นอยู่ภายในถ้ำเล็กๆ ด้านหลัง [ราชันแห่งขุนเขา]
ข้าแอบดูและพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่านางจะอายุไม่เกินสิบขวบ นางสวมผ้าขี้ริ้วสกปรกและมีปลอกคอทาสรอบคอ
นางมีผมสีแดงเข้ม แต่ข้าไม่แน่ใจว่าสีนั้นเป็นสีธรรมชาติหรือไม่ เพราะบางทีมันอาจถูกย้อมเป็นสีแดงเพราะเลือด
แต่นางไม่มีหู ทว่ากลับมีสิ่งที่ดูคล้ายเกล็ดและครีบของปลา
เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ ข้าสังเกตเห็นว่านางมีเกล็ดสีม่วงอมน้ำเงินรอบๆ แก้มและแขนขาของนางก็มีหางที่มีสีเดียวกัน
ขาขวาของนางขาดไปแล้วอย่างสมบูรณ์ มีเลือดออกมาก
เมื่อพิจารณาจากร่องรอยของเลือดบนพื้นดิน นางอาจจะพยายามหลบหนีเข้าไปในถ้ำ
[มนุษย์กิ้งก่าไร้นาม_ระดับ 5_เลือด: 4/41_สถานะ: “เลือดออก”,“หิวโหย”, “โรคพาร์กินสัน”_สมญานาม: ทาสไร้นาย]
ไร้นามงั้นเหรอ? นี่หมายความว่านางไม่มีชื่อเหรอ?
เดี๋ยวก่อนสิ พลังชีวิตสี่จุด?
อีกแค่สี่จุดนางก็จะตายแล้วเนี่ยนะ?
ให้ตายเถอะ ข้าไม่อยากจะเห็นคนตายต่อหน้าอีกแล้ว ถึงพวกเจ้าอาจจะคิดว่าข้าเย็นชาและเฉยเมย แต่ข้าก็ยังมีใจช่วยเหลือคนใกล้ตายอยู่นะ
“ข้าทำข้อตกลงกับเจ้าดีไหม? เจ้าสามารถกินเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบ่มพวกนี้ได้ทั้งหมด และข้าจะขอเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังเจ้า” พอพูดจบ ข้าก็นำเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบ่มออกมาสามกองจาก [กระเป๋าเก็บของ] ของข้าและวางมันลงบนพื้น
ข้าวางแผนที่จะนำบางส่วนไปที่หมู่บ้านและให้เกรซได้ลิ้มรส แต่ข้ายังมีอันเหลือๆ อยู่ในฐาน ดังนั้นเอามันไปช่วยชีวิตคนก่อน คงไม่มีปัญหาอะไรนัก
ว่าแต่ข้าเคยพูดถึงเรื่องเวลาที่หยุดนิ่งใน [กระเป๋าเก็บของ] ของข้าหรือยัง? สิ่งที่อยู่ภายในจะไม่มีวันเน่าเสียหรือแตกหัก เพราะเวลาไม่ขยับ
หลักการเดียวกันนี้ใช้กับ [หีบ] ที่ข้าสร้างขึ้นมาด้วย ข้ามีพวกมันมากมายในฐานลับเพื่อเก็บของของข้าไว้
[ราชันแห่งขุนเขา] ยังคงคำรามใส่ข้าอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่พอใจนัก
แค่นี้คงไม่พอจะทำให้มันสงบลงสินะ
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าสามารถเอาเนื้อมิลโทว์ที่ผ่านการบ่มไปแล้วได้เลย” ข้าหยิบกองเนื้อขนาดใหญ่มาวางลงบนพื้นด้วย
มิลโทว์เป็นวัวป่าชนิดหนึ่งที่มักจะอาศัยอยู่ลึกเข้าไปในภูเขา ระดับของพวกมันสูงกว่าข้าและมีค่าสถานะที่ดีมาก พวกมันจะโกรธเมื่อถูกยั่วยุ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากพอสมควรที่ข้าจะได้เนื้อนี้มา ข้าต้องวางกับดักและซุ่มโจมตีพวกมันเป็นเวลาสองสัปดาห์ติดต่อกันเลย
เนื้อวัวนุ่มมีความหวานเล็กน้อยตามรสชาติปกติ และมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวมาก ถ้าข้าขายมันคงจะได้ราคาดีมาก
ดูเหมือนว่าการเพิ่มเนื้อวัวมิลโทว์ที่ผ่านการบ่มแล้วจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เนื่องจากมันดูผ่อนคลายลงมากจากท่าที่คุกคามก่อนหน้านี้ มันกระโดดเข้ามาคาบและกระโดดหายเข้าไปในป่า
พวกลูกน้องของมันก็เดินออกมาและคาบเนื้อเข้าปาก จากนั้นก็เดินตามผู้นำของพวกมันออกไปจากสถานที่แห่งนี้
ส่วนตัวข้ารีบพุ่งไปที่เด็กสาวมนุษย์กิ้งก่าทันที และพยายามตรวจสอบอาการของนาง…
มีเกล็ดที่ตกลงมาบนพื้นจำนวนมาก ข้าคิดว่าอาการของนางคงบาดเจ็บหนักมากกว่าสภาพที่เห็นเป็นแน่
“อาการบาดเจ็บของเจ้ารุนแรงมาก อดทนไว้!” ขณะที่ข้ากำลังพึมพำ สายตาของข้าก็มองผ่าน [กระเป๋าเก็บของ] หา [ยารักษามัลบอร์]
ได้เวลาดูแล้วว่ายาอันราคาสูงนี้จะสามารถทำอะไรได้บ้าง