นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 11 - แผนการของสถาบัน
แล้วภาพโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศเบื้องหน้าเดวิด และมีเขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นมันได้ เพราะมีการลงทะเบียนด้วยรหัสพันธุกรรมของเขาเอาไว้แล้ว ทำให้บุคคลอื่นที่มีรหัสทางพันธุกรรมที่ไม่ตรงกัน ไม่สามารถที่จะรับรู้เนื้อหาของภาพโฮโลแกรมของเขาได้
“อืมม์?” ตอนนี้เดวิดรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาก มันเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ใช้เทคโนโลยีที่ไฮเทคมากขนาดนี้
หลังจากมองสำรวจไปที่เนื้อหาทั้งหมดของมัน เขาก็พบกับตัวเลือกจำนวนหนึ่ง มันค่อนข้างจะเยอะกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
สิ่งที่ทำให้เขาปวดหัวมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ตัวเลือกเหล่านั้นวางกันอยู่อย่างกระจัดกระจาย ไม่มีการจัดเข้าเป็นหมวดหมู่เอาไว้เลย การจัดรูปแบบของมันแย่กว่ามือถือธรรมดาบนโลกเสียอีก
“นี่มันวุ่นวายเกินไปแล้ว จัดเรียงข้อมูลทั้งหมดขึ้นใหม่อีกครั้ง ให้จัดกลุ่มแยกตามประเภทของข้อมูล” เขารีบระบุความต้องการออกไปทันที ในใจเกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อย ในเมื่อพวกเขาสามารถสร้างเทคโนโลยีระดับนี้ขึ้นมาได้ แต่กลับไม่รู้เรื่องการจัดการข้อมูลให้เรียงลำดับกันอย่างเรียบร้อย
‘ยืนยันคำสั่ง กรุณารอสักครู่ การจัดเรียงจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น’ เสียง AI ประจำตัวของเขาตอบกลับมา
หลังจากนั้นมันก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว ตัวเลือกและข้อมูลที่อยู่กันอย่างกระจัดกระจายในตอนแรก เริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่ม และเรียงกันอย่างมีระเบียบมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้เดวิดประหลาดใจมากก็คือ ข้อมูลเหล่านั้นที่ปรากฏอยู่เหล่านั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นของจริง ที่เขาสามารถสัมผัสมันได้ หรือแม้แต่ได้กลิ่นลอยออกมาจากพวกมัน
‘นี่มันน่าสนใจมาก’ เดวิดคิดอยู่ในใจ พร้อมกับมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า และเมื่อคำสั่งของเขานั้นถูกทำจนสำเร็จลง เขาก็พบว่าหน้าจอโฮโลแกรมถูกจัดเรียงใหม่จนเข้าใจได้ง่ายกว่าเดิม ตอนนี้มันเริ่มคล้ายกับหน้าจอของโทรศัพท์มือถือบนโลกแล้ว
‘ตอนนี้ฉันควรจะเรียก AI ของฉันว่าอะไรดี? มันจะเรียกว่า AI ตลอดไปคงจะไม่ดีแน่’
‘อืม ฉันควรตั้งชื่อเธอว่าอะไร? ลิซซี่? ฟังดูธรรมดาไป แล้วอีไลซ่าล่ะ?’ สมองของเขานั้นใช้ความคิดอยู่ทางหนึ่ง ในขณะที่นิ้วของเขาก็เคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ ในท่าทางที่เหมือนกับกำลังหมุนอะไรอยู่
‘ฮ่า! นึกออกแล้ว ‘เฮเซล’’ เดวิดยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาสามารถคิดชื่อที่ดีออกมาได้
‘ในเมื่อพวกเราจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน ผมเลยคิดชื่อใหม่เอาไว้ให้คุณแล้ว’ เดวิดยังนั่งอยู่บนม้ายาวตัวเดิม และนิ้วมือของเขาก็ยังหมุนวนอยู่เหมือนเดิม
‘นั่นเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ฉันเป็นทรัพย์สินของทางสถาบัน ที่ถูกมอบให้เป็นผู้ช่วยของนักเรียนใหม่ในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เท่านั้น และมันมีระยะเวลากำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน’ เสียงอันไร้อารมณ์ดังขัดขึ้นมา ก่อนที่เดวิดจะสามารถสื่อสารสิ่งที่คิดเอาไว้ได้จบ
และข้อมูลใหม่ที่ได้รับ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เพราะคิดไปเองว่า แม้จะออกจากสถาบันไปแล้ว นักเรียนก็ควรที่จะได้รับอะไรจากทางสถาบันไปบ้าง แต่กลายเป็นว่า เขาคิดผิดไปอย่างมหันต์เลย
‘กระบวนการจัดเรียงข้อมูลสำเร็จแล้ว กรุณาตรวจสอบ’ เสียงของ AI ดังขึ้นมาอีกครั้ง ดึงให้เขากลับมาจากการครุ่นคิด
ป้ายประจำตัวที่ฝังอยู่ที่ข้อมือส่งแสงสีฟ้าออกมาเป็นภาพโฮแกรมอยู่กลางอากาศ ตอนนี้ข้อมูลของมันไม่สะเปะสะปะอีกต่อไปแล้ว และหลังจากที่เขาลงมือปรับมันเองอีกเล็กน้อย มันก็ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบสำหรับเขาแล้ว
เดวิดเริ่มใช้นิ้วของเขาแตะไปที่มัน ความรู้สึกที่ได้รับกลับมาเหมือนกับเป็นการแตะอะไรที่แข็ง ๆ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความนุ่มนวลของพื้นผิวต่าง ๆ ได้ด้วยซ้ำ
นี่ยิ่งทำให้เดวิดอัศจรรย์ใจมากขึ้นไปอีก เทคโนโลยีของโลกใบนี้ก้าวหน้ากว่าโลกเดิมของเขาหลายเท่านัก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันสามารถทำงานแบบนี้ได้อย่างไร แต่เขาก็นึกชื่นชมมันเป็นอย่างมาก
และหลังจากที่เขาลองแตะนิ้วลงไปเปิดที่ไอคอนห้องสมุด ก็พบว่ามีหนังสือปรากฏเรียงเป็นแถวอยู่เบื้องหน้าของเขา ราวกับว่าเขานั้นอยู่ในห้องสมุดจริง ๆ
จนเมื่อเขาสังเกตเห็นคำว่า ‘สถานะส่วนตัว’ เขียนอยู่ที่มุมด้านหนึ่งของหน้าจอ มันสร้างความสงสัยให้เขาจนต้องยื่นมือไปแตะลงที่มัน
[ชื่อ : เดวิด ซินเทค
อายุ : 16
คะแนนจีโน : 100
กระบวนการ : เตรียมพร้อม
พรสวรรค์ : 3 ดาว
คู่มือการฝึก : ยังไม่มี
ยีน : ยังไม่มี
การไหลเวียนของโลหิต : 3 นาทีต่อ 1 รอบ (ค่าเฉลี่ย)
การเสริมพลัง : ยังไม่มี
ทักษะการต่อสู้ : ยังไม่มี
สภาพร่างกายในปัจจุบัน : ค่อนข้างแข็งแรง
การประเมิน : ยังอ่อนแอเกินไป แต่ในฐานะนักเรียนใหม่ ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นไปอีกได้ในหลายจุด...]
เสียงอุทานว่า ‘โอ้!’ หลุดออกมาจากปากของเดวิดทันที แน่นอนว่าเขาประหลาดใจกับข้อมูลที่ได้เห็น และค่อนข้างผิดหวังกับผลของการประเมินไม่น้อย ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสถานะส่วนตัวนี้ มีทั้งสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว อย่างเช่น ระดับพรสวรรค์ น้ำหนัก ส่วนสูง หรือเผ่าพันธุ์ และมีสิ่งที่เข้าไม่แม้แต่จะเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรปนอยู่ด้วย
และเมื่อเขากวาดสายตาดูอย่างละเอียดอีกรอบ ก็พบกับคำว่าคะแนนจีโน และจำนวน 100 ที่อยู่ด้านหลังของมัน ซึ่งแสดงว่าตอนนี้เขามีคะแนนจีโนอยู่ 100 คะแนน
เดวิดสงสัยมาตั้งแต่ตอนเช้า ที่เจ้า AI จอมดูดเงินนั่นพูดถึงแล้ว ว่าคะแนนจีโนบ้า ๆ นั่นคืออะไร แต่ก็ไม่ได้สนใจที่จะหาคำตอบมากนัก พอมาเห็นมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาเลยแตะดูข้อมูลของมันทันที
คำอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเด้งขึ้นมาทันที ในนั้นบอกเอาไว้ว่า คะแนนจีโนเป็นสกุลเงินที่ใช้กันอยู่ในสถาบัน และตราบใดที่มีคะแนนจีโนเพียงพอ จะสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่มีอยู่ในสถาบันแห่งนี้
รายละเอียดนี้ทำให้เดวิดยิ่งสงสัยมากเข้าไปอีก แต่เมื่อมาคิดดูดี ๆ แล้ว การที่สถาบันระบุข้อความนี้เอาไว้ในหน้าของสถานะส่วนตัว แสดงว่ามันต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน
และก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อไปอีก เดวิดก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อเขาจากทางด้านข้าง
“เฮ้! เดวิด” เป็นไนฮุนนั่นเอง เขากำลังเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“โอ้! ว่าไง” เดวิดตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้ เพราะเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับตัวเลือกต่าง ๆ ในหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเอง และกำลังคิดที่จะตระเวนดูภายในสถาบันให้ทั่ว ๆ สักรอบ เพื่อที่จะได้คุ้นเคยกับสถาบันแห่งนี้ได้เร็วขึ้น
ในเมื่อเขามีเวลาว่างอยู่อีกหลายวัน ก็ต้องหาอะไรทำบ้างอยู่แล้ว
“ช่วงนี้นายหายไปอยู่ที่ไหนมา? เมื่อวานฉันพยายามตามหานายทั้งวัน แต่ก็ไม่เห็นเลยแม้แต่เงา” ไนฮุนดูจะหงุดหงิดเดวิดอยู่ไม่น้อย เพราะเขามีเรื่องสำคัญที่จะต้องบอกเดวิด ทำให้พยายามตามหาอย่างเต็มที่จริง ๆ แต่พอเจอหน้ากันในวันนี้ เจ้าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ได้มีความรู้สึกยินดีที่ได้เจอกับเขาเลย
“ฉันพยายามตามหานาย เพราะมีข้อมูลสำคัญจะบอก ทางสถาบันได้เริ่มจัดให้มีการเรียนตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว พวกเราถูกหลอกกันหมด ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะทำอย่างนี้ทำไม แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่อยากให้นักเรียนได้เข้าเรียนในสัปดาห์แรก การบอกให้อยู่แต่ในอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุนั้นเป็นกับดักชัด ๆ แต่ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ไม่เข้าใจเหตุผลของพวกเขาเลย ถ้าทำแบบนี้ บางทีนักเรียนที่มีศักยภาพอาจจะไม่ผ่านการทดสอบก็ได้
และไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะรู้ข้อมูลนี้ด้วยนะ มีแต่คนที่ถูกเลือกไว้แล้วจำนวนไม่มากเท่านั้นที่รู้ ส่วนฉันเองก็รู้ได้เพราะบังเอิญได้ยินใครบางคนคุยกันเท่านั้น” ไนฮุนปล่อยคำพูดออกมายาวเหยียดในรวดเดียว
เดวิดที่นั่งฟังอยู่ตรงนั้น เริ่มมีสีหน้าครุ่นคิด ถ้าสิ่งที่ไนฮุนพูดออกมาเป็นความจริง มันก็ต้องมีเจตนาอะไรอยู่เบื้องหลังสักอย่างแน่ ๆ
และเดวิดเกลียดการถูกหลอกเป็นอย่างมาก
เขาจึงพยายามคิดแล้วคิดอีก และในที่สุด เขาก็คาดเดาถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังออกมาได้
นักเรียนที่ไม่ผ่านการทดสอบ จะไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนได้ และต้องถูกทำโทษให้ไปเป็นคนงานนานหลายเดือนเลยทีเดียว ถ้าคิดถึงความจริงที่ว่า สถาบันนั้นต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก นี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาวางแผนแบบนี้ขึ้นมา หลังจากการปล่อยตัวเองให้ว่างไปทั้งอาทิตย์ นักเรียนที่มีความสามารถแค่ระดับปานกลาง จะไม่มีทางเรียนได้ทันเพื่อนอย่างแน่นอน และจะทำให้เขาไม่ผ่านการทดสอบ และถูกส่งไปเป็นผู้ใช้แรงงานทันที
เมื่อเดวิดคิดได้แบบนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลงอย่างครุ่นคิด ดูเหมือนว่าสถาบันนี้จะไม่ใช่ที่ที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขมากนัก แค่เพิ่งเริ่มเปิดเรียน เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
และเขายังได้เดาออกมาอีกข้อว่า นักเรียนที่ได้เข้าเรียนในสัปดาห์แรก จะต้องได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากแน่นอน แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าการคาดเดาของตัวเองข้อไหนจะถูกต้อง แต่ข้อสรุปนั้นออกมาเป็นอย่างเดียวกัน เขาต้องไม่ขาดเรียนในสัปดาห์แรกนี้
เดวิดเริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง ‘การใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้นี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ’