ตอนที่แล้วSW-ตอนที่ 20 ความเชื่อมั่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSW-ตอนที่ 22 ศัตรูคือความสบายใจ

SW-ตอนที่ 21 เจ้าโลก


ครืดด! ครืดด!

เสียงของหนักที่ถูกดึงไปตามพื้นได้ส่งเสียงดังก้องไปทั่วป่า ยกเว้นเสียงนี้ เสียงอย่างอื่นล้วนเงียบสนิท

นี่คือเสียงของศพสตอร์กเกอร์ ที่ถูกลากผ่านป่า

เกล็ดหิมะสีขาวตกลงมารอบตัวอเล็กซ์ขณะที่เขาเดินผ่านความมืดมิด

ทันใดนั้น อเล็กซ์ก็เห็นแสงสีทองส่องลงมาจากท้องฟ้า ถ้าดวงตาของเขาไม่ได้แข็งแกร่ง เขาคงไม่สังเกตุเห็นแสงเล็กน้อยนี้

เหนือชั้นเมฆคือดาวตกสีทอง ซึ่งเขาแทบจะมองไม่เห็นแสงของมัน

'ดาวตกสีทองที่สว่างไสวจนฉันสามารถมองเห็นได้แม้จะพุ่งผ่านเมฆหนาทึบ' อเล็กซ์คิดพลางขมวดคิ้ว 'นี่เป็นเรื่องแปลก อย่างไรก็ตาม โลกนี้ก็แปลกมากพออยู่แล้ว นี่เป็นเพียงความแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในกองเหล่านั้น "

อเล็กซ์หันกลับไปมอง

เขาไม่ได้สนใจดาวตกสีทองนี้มากนัก

หลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซ์ก็มาถึงค่ายที่พักของเขา

เขาไม่ได้เห็นสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตัวอื่นตลอดเวลาที่เหลือนี้

หากเป็นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน อเล็กซ์คงได้พบกับสิ่งมีชีวิตอย่างน้อยหนึ่งตัวที่ดึงดูดเขาเพราะเสียงนี้ แต่ตำแหน่งของอเล็กซ์ได้เปลี่ยนไป

เขาไม่ใช่ผู้รอดชีวิตคนใหม่ที่เปราะบางอีกต่อไป

ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในนักล่าของป่า

สัตว์ทั่วไปจะหวาดกลัวเพราะศพของ สตอร์กเกอร์ และสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังจะสามารถสัมผัสถึงพลังของอเล็กซ์ได้

สตอร์กเกอร์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในป่า แต่พวกมันก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน

อเล็กซ์ยังจำสัตว์ยักษ์สองตัวที่เขาเห็นเมื่อเพิ่งมาถึงได้

ถ้าอเล็กซ์พยายามโจมตีพวกมัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะตายอย่างไร

เขาไม่สามารถต่อกรกับอสูรร้ายด้วยพลังที่มีอยู่ในปัจจุบันได้

ในปัจจุบันเขายังอยู่ในช่วงฝึกฝนเพื่อแข็งแกร่ง

เมื่ออเล็กซ์มาถึงค่ายของเขา เขาก็ปล่อยศพและนั่งลงข้างๆ

ชิง! ชิง!

อเล็กซ์หยิบดาบออกมาและเริ่มถลกหนังศพ

ในค่ำคืนที่เงียบสงัดและหนาวเย็น มีเพียงเสียงตัดเฉือนเท่านั้น

ราวกับว่าอเล็กซ์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเดียวในโลกนี้ที่มีเพียงความมืดมิดล้อมรอบเขา

หลังจากที่อเล็กซ์ถลกหนัง สตอร์กเกอร์ เสร็จแล้ว เขาก็เอาหนังไปวางไว้ใกล้ๆ กระท่อมของเขา

จากนั้น อเล็กซ์ก็คว้าไม้แห้งจากสต็อกไม้ของเขา อเล็กซ์รวบรวมไม้ได้หนึ่งตันในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เมื่อฤดูหนาวที่แท้จริงมาถึง หิมะจะทำให้ต้นไม้เปียกไปหมด และ อเล็กซ์ต้องการฟืนแห้งเพื่อก่อไฟ ดังนั้นเขาจึงต้องการไม้มากพอที่จะผ่านฤดูหนาวไปได้

ขณะที่อเล็กซ์วางกิ่งแรกลง หัวของเขาก็หันไปที่ขอบด้านหนึ่งของค่ายที่พัก

ตาสีเขียว.

อเล็กซ์รู้จักดวงตาคู่นี้

มันเป็นกิ้งก่าที่ขโมยอาหารจากเขามากกว่าหนึ่งครั้ง และเป็น ตัวที่ยิงลูกไฟใส่หมาป่า

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั้งหมดได้เปลี่ยนไป

เมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรก กิ้งก่าสามารถเอาชนะเขาได้ เพราะถ้ามันไม่หมดแรงไปกับพวกหมาป่า มันคงฆ่าอเล็กซ์ไปแล้ว

ในการพบกันครั้งที่สองพวกเขาทั้งคู่ล้วนมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากัน

สำหรับตอนนี้ อเล็กซ์มั่นใจว่าเขามีพลังมากกว่า กิ้งก่าตัวนี้

อเล็กซ์มีความมั่นใจอย่างมากในความสามารถของเขาในการหลบเลี่ยงลูกไฟ และแม้ว่าเขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงพวกมันได้ แต่เขาก็ยังสามารถใช้ดาบหรือเสื้อคลุมเพื่อสกัดกั้นพวกมันได้

กิ้งก่านั้นอันตรายก็จริง แต่มันก็ไม่อันตรายเท่ากับ สตอร์กเกอร์

แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของ อเล็กซ์

อเล็กซ์เกาคางอย่างครุ่นคิดขณะมองดูกิ้งก่าจากระยะไกล

อเล็กซ์ตัดสินใจว่าเขาอยากจะลองทำอะไรซักอย่าง

ฟืด!

อเล็กซ์จับขาที่ขาดของ สตอร์กเกอร์ แล้วเหวี่ยงไปที่กิ้งก่า กิ้งก่ากระโดดไปด้านข้างและมองไปที่อเล็กซ์อย่างระแวดระวัง

อเล็กซ์ไม่ขยับและมองดูกิ้งก่าชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น

จากนั้นอเล็กซ์ก็กลับไปก่อไฟ

กิ้งก่ารู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่ง แต่มันก็ไม่สามารถต้านทานสัญชาตญาณของมันได้ มันเดินเข้าไปใกล้ขาอย่างระมัดระวัง และจับตาดูอเล็กซ์ตลอดเวลา

ฟึบ!

กิ้งก่ากัดขาแล้ววิ่งหนีไปด้วยความเร็วเต็มที่

อเล็กซ์เพียงแสยะยิ้ม

'สัตว์เลื้อยคลานบนโลกล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสายสัมพันธ์ใดๆ กับพวกมัน แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงมานานหลายปีก็ตาม'

'อย่างไรก็ตาม โลกนี้กลับแตกต่างไปจากโลกดั้งเดิมของฉัน แม้แต่ สตอร์กเกอร์ ยังฉลาดพอที่จะสังเกตุเห็นว่าฉันคงอ่อนแอลงเมื่อฉัน ไม่มีอาวุธให้ใช้ ดังนั้นฉันคิดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีความฉลาดมากกว่าสัตว์ธรรมดา'

'อีกอย่างใครจะรู้? บางทีถ้าฉันพยายามมากพอ ฉันอาจสามารถสร้างความร่วมมือบางอย่างกับกิ้งก่าตัวนั้นได้ และ ถ้าพลังของมันเพิ่มขึ้น ฉันอาจจะใช้มันเป็นเครื่องมือในรูปแบบของเตาอบหรือเครื่องอบผ้าได้  และนั่น จะทำให้การอยู่รอดในฤดูหนาวนี้ง่ายขึ้นมาก '

'จริง ๆ แล้ว มันค่อนข้างน่าแปลกใจที่จะพบสัตว์เลื้อยคลานในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ สัตว์เลื้อยคลานส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลือดเย็นโดยธรรมชาติ และพวกมันจะแข็งตายในอุณหภูมิเช่นนี้ ฉันเดาว่าไฟที่กิ้งก่าสามารถใช้ได้ คงช่วยให้มันรู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาว'

'ยังไงก็ตาม นี่คือเรื่องของอนาคต ตอนนี้ฉันต้องดูว่ามันจะได้ผลจริงไหม' อเล็กซ์คิดขณะที่เขาก่อไฟต่อไป

อเล็กซ์จุดไฟห่างจากกระท่อมของเขามากกว่าสิบเมตรด้วยเหตุผลเฉพาะ

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ไฟขนาดใหญ่ก็สว่างไสวต่อหน้าอเล็กซ์

อเล็กซ์ตัดชิ้นส่วน สตอร์กเกอร์ ออกบางส่วนแล้วย่างรอบกองไฟ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้ทำให้หนังแห้ง

เพราะอะไร?

เขามีเหตุผลสำหรับสิ่งนั้น

อเล็กซ์ยังคงสร้างกระท่อมต่อไปในชั่วโมงต่อมา

บูม!

เขาได้ยินเสียงหนักๆ จากระยะไกล

อเล็กซ์ส่งยิ้ม

'มันได้ผล ฉันควรจะดีใจหรือกลัวดีนะ?'

เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ในอีกสองนาทีต่อมาจนกระทั่งมีบางอย่างปรากฏขึ้นที่ขอบรอบค่ายที่พักของอเล็กซ์

สิ่งที่ปรากฏ มันมีตัวขนาดใหญ่และมีสีเขียวเข้ม

มันคือเม่นยักษ์!

นี่คือสาเหตุที่อเล็กซ์ก่อไฟห่างจากกระท่อมของเขามาก

อเล็กซ์สันนิษฐานว่า ที่เม่นยักษ์ปรากฏตัวขึ้นก่อนหน้านี้ เป็นเพราะการมีอยู่ของไฟและกลิ่นของเนื้อสัตว์ และ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาลองดูอีกครั้ง

อเล็กซ์ไม่ได้ซ่อนตัวแต่นั่งห่างจากกองไฟหลายเมตร ซึ่งมันทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเม่นยักษ์

เม่นยักษ์มองไปที่อเล็กซ์สักครู่แล้วมุ่งความสนใจไปที่กองไฟ

เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว เม่นจะอุ่นตัวเองบนกองไฟเป็นเวลาหลายนาที ในขณะที่มันร้อน มันก็จะกิน สตอร์กเกอร์ ทั้งตัว

หลังจากนั้นอีกหลายนาที เม่นยักษ์ก็เดินออกไปจากกองไฟ ครั้งนี้มันไม่ได้ทำลายกองไฟ

หลังจากนั้นไม่กี่เมตร มันก็หยุดขณะที่มันเขย่าตัวอีกครั้ง

คราวนี้มันทิ้งผลไม้มากขึ้น

หลังจากสลัดผลไม้ออกจากตัว เม่นยักษ์ก็จากเข้าไปในป่าอีกครั้ง

‘หากคุณเสียสละเนื้อให้กับเทพเจ้าแห่งป่า คุณจะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทน’ อเล็กซ์คิดด้วยรอยยิ้มในใจ

อเล็กซ์มองไปที่เม่นยักษ์ ที่กำลังถอยห่างไปไกลและเห็นผลไม้หลายร้อยผลงอกขึ้นบนต้นเข็มของมัน

พลังของเขาจะดีขึ้นขนาดไหนกัน ถ้าเขาได้กินพวกมันทั้งหมด?

อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์จะไม่พยายามขโมยผลไม้เหล่านี้เป็นอันขาด

เม่นตัวนี้มีขนาดมหึมา ซึ่งสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้มันยังเชื่องช้าอย่างไม่น่าเชื่อ อเล็กซ์รู้ว่า สตอร์กเกอร์ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากที่สุดในป่านี้ ซึ่งหมายความว่ามันจะต้องมีตัวที่ทรงพลังกว่านี้

แต่ถึงกระนั้น เม่นก็ยังเดินไปมาอย่างช้าๆ โดยไม่สนใจสิ่งใด

หรือก็คือ ไม่มีสัตว์ร้ายตัวใดสามารถฆ่า เม่นยักษ์ตัวนี้ได้ หลังจากที่พวกสัตว์ได้ยินเสียงดังขนาดใหญ่จากระยะไกลเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร พวกมันก็จะพยายามวิ่งหนีไป

นี่หมายความว่าไม่มีสิ่งใดพยายามฆ่าเม่นหรือทุกสิ่งที่สามารถทำร้ายเม่นยักษ์ให้ตาย

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเม่นยักษ์ตัวนี้ไม่ธรรมดา

ยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซ์ยังจำกิ้งก่ายักษ์ที่เขาเห็นบนภูเขาในวันแรกได้ กิ้งก่าตัวนั้นอยู่บนภูเขาเท่านั้น แน่นอนว่ามันสามารถเข้าไปในป่าได้ และ สิ่งที่มันฆ่าก็อยู่ในป่า ไม่ใช่บนภูเขา

มันไม่มีเหตุผลใดที่กิ้งก่ายักษ์จะไม่เข้าไปในป่า เพราะท้ายที่สุด ก็มีอาหารมากมายที่นี่

อย่างไรก็ตาม มันกลับไม่เข้า

อเล็กซ์สันนิษฐานว่าเม่นตัวนี้เป็นต้นเหตุของเรื่องนั้น

กิ้งก่ายักษ์ จะต้องเคยเห็นเม่นตัวนี้ แต่มันไม่ได้โจมตี

เมื่อดูเบาะแสทั้งหมด อเล็กซ์สรุปได้ว่า เม่นตัวนี้น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในแอ่งน้ำแถบนี้

ผลไม้เพียงหนึ่งในร้อยของมัน สามารถทำให้ร่างกายของอเล็กซ์พลุ่งพล่านไปด้วยมานาจำนวนมาก

เจ้าสิ่งนี้คือสัตว์ประหลาดที่แท้จริง มันคือเจ้าโลกของแอ่งน้ำแถบนี้!

อเล็กซ์ ยังจำได้ว่า พระเจ้าเคยบอกเขาว่าเขาควรเข้าไปในป่าลึกในถิ่นทุรกันดารอื่น เมื่อป่านี้ไม่เป็นอันตรายสำหรับเขาอีกต่อไป นี่อาจจะหมายความว่า ถิ่นทุรกันดารรอบๆ แอ่งน้ำนี้ อันตรายกว่ามาก

ส่วนเหตุใดจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตจากที่นั่นเข้ามาในแอ่งน้ำแถบนี้ แน่นอนว่า ภูเขาไม่สามารถหยุดพวกมันได้เพราะมันไม่ได้สูงมากนัก

นั่นก็เพราะนี่คืออาณาเขตของเม่นยักษ์

เพียงแค่ดูจากภายนอก มันอาจจะถูกนับเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม อีกคำถามคือ ทำไมถึงไม่มีสิ่งมีชีวิตตัวใดกล้าเข้ามาที่นี่เลย…

หรือว่าสิ่งมีชีวิตทุกตัวที่เข้ามานั้นได้ตายไปแล้ว?

อเล็กซ์ไม่แน่ใจ แต่ความสนใจของเขาได้ถูกดึงไปที่ผลไม้บนพื้นอย่างรวดเร็ว

สิ่งนี้ทำให้ อเล็กซ์ยิ้มออกมา

บนพื้นนั้นมีผลไม้ตกอยู่มากมาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด