ตอนที่ 60 กระบี่นักฆ่า
คฤหาสน์สูงใหญ่ ภายในคฤหาสน์ตระกูลสวี่ คนรับใช้ตื่นตัวและบรรยากาศเคร่งขรึม
ในห้องโถง ร่างสวี่ไจ้ชวนถูกวางไว้ในโลงศพ สวี่หวังเลี่ยงยืนอยู่ด้านข้างมองดูบาดแผลที่คอลูกชายด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“เป็นกระบี่รวดเร็ว เป็นกระบี่ไร้ปรานี!”
สวี่หวังเลี่ยงกัดฟันพูด อุณหภูมิโดยรอบลดลงเล็กน้อย สาวรับใช้ทุกคนภายในห้องโถงกลั้นหายใจเพราะกลัวจะทำให้สวี่หวังเลี่ยงขุ่นเคือง
“นายท่าน ท่านต้องล้างแค้นให้ชวนเอ๋อร์!” แม่ของสวี่ไจ้ชวนคร่ำครวญเสียงดัง เสียงของนางแหบแห้งเสียดหู
“ฆ่าลูกสวี่ของข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หนีไม่พ้นทั้งนั้น!”
สวี่หวังเลี่ยงหันไปมองพ่อบ้าน พ่อบ้านพูดทันทีด้วยเสียงต่ำ “นายท่าน ข้าน้อยสั่งการให้ไปตรวจสอบคนที่มีความขุ่นเคืองกับนายน้อยในวันนี้แล้ว หากพบสิ่งผิดปกติจะเข้าจับกุมทันที”
“เพี๊ยะ!”
สวี่หวังเลี่ยงตบแก้มพ่อบ้าน พ่อบ้านตัวลอยไปกระแทกเสาแล้วกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
พ่อบ้านมองสวี่หวังเลี่ยงอย่างหวาดกลัวโดยไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด คนรับใช้ที่อยู่รอบๆตัวสั่นงกและก้มหน้าลง
“ตราบใดที่มีความขุ่นเคืองให้จับไปสอบสวนทั้งหมด ไม่ว่าวันนี้จะพบความผิดปกติหรือไม่ก็ตาม”
สวี่หวังเลี่ยงมองลงพ่อบ้านและพูดอย่างเศร้าหมอง “วันนี้ยังมีพวกที่เดินไปมาแถวคฤหาสน์ของชวนเอ๋อร์ จับพวกมันมาให้หทด ข้อยอมฆ่าคนผิดดีกว่าปล่อยคนน่าสงสัยไป เข้าใจหรือไม่?”
“ขอรับขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!” พ่อบ้านลุกขึ้นและวิ่งออกไปพร้อมกับแก้มที่บวมเปล่งทันที
“นายน้อยตายทั้งคน ทำไมพวกเจ้าถึงไม่เศร้า!” สวี่หวังเลี่ยงหันมองคนรับใช้รอบตัว
คนใช้ทั้งหมดตกตะลึง เสียงคร่ำครวญดังสนั่นในห้องโถงและแผ่ออกไปนอกคฤหาสน์
ถนนกลางเมืองซิ่งเฝิน
“กล้านัก มันกล้าดียังไงถึงมาพังร้านของข้า!”
“นายท่าน ทุกคนในนั้นตายหมด ตายในกระบี่เดียว!”
“เจ้าพบอะไรบ้าง?”
“ร่องรอยที่ทิ้งไว้ถูกลบออกจนไม่เหลือ นายท่าน วันนี้ข้าได้ยินมาว่าสวี่ไจ้ชวนตายด้วยแผลกระบี่แบบนี้ เหอหยวนฉิวเช่นกัน”
“โอ้ น่าสนใจ”
“นายท่าน พวกเราจะทำเช่นไร?”
“ตรวจสอบ! หากร้านค้าถูกทำเช่นนี้แล้วไม่โต้ตอบ คนอื่นจะคิดว่าเรารังแกได้ง่าย!”
“ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
บรรยากาศในเมืองซิ่งเฝินตกอยู่ในความตึงเครียด ตรวจค้นจับกุม บางคนที่รู้ดีจึงรีบซ่อนตัวอยู่ในบ้านและไม่เที่ยวเตร่นอกบ้านเพื่อไม่ให้อันตรายตกมาถึงบ่อปลา(ตัวเองได้ไม่โดนลูกหลง)
ภายในเมืองเกิดเสียงร้องและการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ แต่มันก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว
ตระกูลอื่นในเมืองซิ่งเฝินยอมรับการกระทำของสวี่หวังเลี่ยง ท้ายที่สุดแล้วทายาทอันเป็นที่รักของเขาตาย หากมีใครกระโดดออกมาต่อต้าน เกรงว่าเขาคงได้มีความแค้นกับสวี่หวังเลี่ยงทันที
นอกจากนี้สวี่หวังเลี่ยงยังมีชื่อเสียงในเรื่องแก้แค้น หากมีความเข้าใจผิดกัน ตอนนี้อาจยังไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ในวันข้างหน้าอาจโดนสวี่หวังเลี่ยงแทง
บางตระกูลไม่กลัว แต่พวกเขาไม่ต้องการสร้างปัญหา
ในวันที่สอง ตระกูลสวี่เริ่มสอบสวนคนนอกในเมืองซิ่งเฝิน ทุกคนที่ปลอมตัวถูกจับกุมพาไปสอบสวน
กล้าใช้วิชาปลอมตัวแสดงว่าต้องการปกปิด ในเมื่อต้องการปกปิดเช่นนั้นไปคุยกันที่คุกตระกูลสวี่
อย่างไรก็ตาม ในเมืองซิ่งเฝินมีคนนอกมากมาย การที่ตระกูลสวี่จะไล่ตรวจสอบทีละคนเป็นเรื่องยากและเป็นการสร้างศัตรูมากมาย ไม่ใช่ว่าคนนอกทุกคนจะถูกรังแกได้ง่าย ในคนหมู่นี้มียอดฝีมือแข็งแกร่งอยู่ด้วยเช่นกัน
ในวันถัดไป การค้นหาบุคคลภายนอกจำนวนมากจึงหยุดลง ยังคงมีการสอบสวนเหมือนเดิมแต่การค้นหาที่ไร้ยางอายแบบนั้นไม่อาจทำได้อีก
ในขณะเดียวกันผู้ที่วางแผนออกจากเมืองหรือไปพร้อมกับกองคาราวานได้ตกเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบ ในขณะเดียวกันกองคาราวานเหล่านี้ยังได้รับแจ้งว่าหากคนที่เข้าร่วมเดินทางกับพวกเขาน่าสงสัย สามารถกลับมารับรางวัลก้อนโตได้
เมืองซิ่งเฝินไม่ได้วุ่นวายมาหลายปี ผู้คนจึงเกิดความตื่นตระหนก ตามท้องถนนและร้านอาหารมีคนน้อยลงมาก
คฤหาสน์ตระกูลสวี่
“อยู่ในคนกลุ่มนี้หรือไม่?”
สวี่หวังเลี่ยงหันมองอู่จางลี่ที่ตระกูลเฉียนส่งมา ตระกูลเฉียนส่งเขามาช่วยสวี่หวังเลี่ยงเป็นพิเศษ
การบ่มเพาะของอู่จางลี่อยู่ในระดับปกติ เขามีอายุมากกว่าครึ่งร้อยและเพิ่งทะลวงเข้าระดับหลอมกระดูกเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่ในสถานะของอู่จางลี่ตระกูลเฉียนเทียบได้กับนักยุทธ์ขัดเกลาไขกระดูก
นั่นเป็นเพราะอู่จางลี่มีทักษะพิเศษซึ่งสามารถควบคุมหนอนกู่บางชนิด
ประเภทของหนอนกู่นั้นแปลกประหลาด และหนึ่งในนั้นสามารถค้นหาคนจากกลื่นเลือด
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฉียนและตระกูลสวี่ค่อนข้างธรรมดา แต่ครั้งนี้สวี่หวังเลี่ยงสร้างความยุ่งยากในเมืองซิ่งเฝินจนเกิดความโกลาหล เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายมากไปกว่านี้ ตระกูลเฉียนจึงขอให้อู่จางลี่ลงมือ
เมื่อได้ยินคำถามของสวี่หวังเลี่ยง อู่จางลี่ไม่ได้ตอบทันทีและมองดูหนอนกู่มีปีกในมืออย่างใกล้ชิด หนอนกู่ในมืออู่จางลี่ไม่คิดจะบินออกไป
“ไม่ใช่คนพวกนี้” อู่จางลี่ส่ายหัวพูด
คนมากมายในคุกโดนทรมาณจนแทบจำหน้าไม่ได้ บางคนถึงกับเจ็บสาหัสจนตาย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้ยินการสนทนาของสวี่หวังเลี่ยงและเริ่มเข้าใจบางส่วน
เมื่อได้ยินคำพูดของอู่จางลี่ บางคนถึงกับอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ด้วยความดีใจ ในที่สุดพวกเขาจะได้ออกไปจากที่นี่สักที
“พวกเจ้าดูมีความสุขมากนะ!”
ตอนแรกสวี่หวังเลี่ยงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่พอเห็นผู้คนในคุกเปลี่ยนสีหน้าเขาก็ยิ่งรำคาญมากขึ้น ลูกชายเขาเพิ่งตายไป แต่คนเหล่ากลับกล้าแสดงสีหน้ามีความสุข
คนในคุกเหมือนจะสำลักและไม่กล้าส่งเสียงอีก
“ในคนกลุ่มนี้น่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิด เอาไปสอบสวนพวกเขาอย่างรอบคอบ คนที่สมควรฆ่าก็ฆ่าได้เลย!”
สวี่หวังเลี่ยงทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยคและหันหลังออกจากคุก อู่จางลี่หดคอรีบตามไป
ก่อนหน้านี้อู่จางลี่เคยได้ยินว่าสวี่หวังเลี่ยงอารมณ์แปรปรวน และตอนนี้เขาได้เห็นแล้ว คนในคุกช่างโชคร้ายจริงที่ได้มาพบสวี่หวังเลี่ยง
พูดได้คำเดียวว่าถ้าอยากมีชีวิตที่ดีในโลกนี้ บางครั้งการไม่สร้างปัญหาก็ยังไม่เพียงพอ
“อู่กงเฟิ่งจะตามหาคนที่ฆ่าลูกชายข้าได้หรือไม่?”
เมื่อมาถึงห้องโถง สวี่หวังเลี่ยงนั่งบนเก้าอี้สูงมองลงอู่จางลี่ แม้ว่าจะไม่ได้ปล่อยแรงกดดันออกมา แต่ร่างกายอู่จางลี่ยังคงเกร็งโดยไม่รู้ตัว
“หากคนนั้นยังไม่ออกจากเมืองซิ่งเฝิน ข้าน้อยย่อมหาตัวได้” อู่จางลี่พูดเสียงต่ำ
“ลำบากอู่กงเฟิ่งแล้ว!” สวี่หวังเลี่ยงพูดพร้อมมุมปากกระตุก
“ไม่กล้าไม่กล้า!”
อู่จางลี่โบกมือปัดอย่างรีบร้อน ชำเลืองมองหนอนกู่ในแขนเสื้อ หยิบดินดำขนาดเท่าเล็บมือจากกระเป๋าและวางไว้บนปากหนอนกู่
หนอนกู่ร่อนลงบนดินสีดำ เพียงครู่เดียวดินดำถูกกินจนหมด
ปีกหนอนกู่สั่นเล็กน้อยและเริ่มบินไปข้างหน้า
เมื่อครึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้หนอนกู่ตัวนี้ได้เลียเลือดของสวี่ไจ้ชวน ดังนั้นสิ่งที่หนอนกู่นี้กำลังมองหาในขณะนี้คือลมปราณเดียวกัน
ลมปราณเดียวกันย่อมติดอยู่กับกระบี่ที่ใช้ฆ่า