ตอนที่ 6 : หายนะอันน่ากลัว
ตอนที่ 6 : หายนะอันน่ากลัว
เนื่องจากโพสต์ของหลี่เทียนเทียนถูกลบอย่างรวดเร็ว จึงมีไม่กี่คนที่ได้เห็นโพสต์นี้
แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่พวกนั้นก็คิดว่าเป็นคนที่ป่วน และเลือกที่จะไม่สนใจ
คนแบบนี้มีจำนวนมากในอินเทอร์เน็ต มีโพสต์ป่วน ๆ จำนวนมากในแต่ละวันอย่างเช่น
‘ฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวที่จะบุกโลกในอีก 24 ชั่วโมง’
‘ขอเงิน 300 หยวนจ่ายให้กับดินแดนแห่งแสงเพื่อฟื้นฟูพลังงานให้โลก’
ดังนั้นโพสต์ของหลี่เทียนเทียนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนจะมองว่าเป็นคนที่เข้ามาป่วนโลกโซเชียล
หลังจากที่มีคนเปิดอ่าน พวกนั้นก็เลือกที่จะปิดแทบจะในทันที
ทว่าสุดท้าย โพสต์ที่ตามหาตัวหลี่เทียนเทียนก็กลายเป็นโพสต์อันดับต้น ๆ
หลี่เทียนเทียนลูบคางและปิดคอม เขาไม่คิดจะติดต่อหาคนอื่นก่อน
ในยุคหายนะเช่นนี้ ก่อนที่สถานการณ์จะชัดเจน
การเปิดเผยตัวตนนั้นเท่ากับการรนหาที่ตายให้กับตัวเอง
ใครจะไปรู้ว่าพวกนั้นคิดอะไรกันอยู่บ้าง ?
หลังจากที่ปิดคอมแล้วหลี่เทียนเทียนก็ได้เปิดทีวี เพื่อฟังข่าวแต่สถานีต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เอาวิดีโอเก่ามาฉาย และไม่ได้มีข่าวใหม่เลยแม้แต่น้อย ช่วงข่าวในตอนเย็นกลับมีละครถูกนำมาฉายแทน
เมื่อหลี่เทียนเทียนเห็นเช่นนั้น เขาก็หนักใจมามากกว่าเดิม
นี่หมายความว่าข่าวช่วงเย็น ไม่สามารถออกอากาศได้งั้นหรือ ?
มีความเป็นไปได้แค่สองอย่าง อย่างแรกคือสัญญาณล่ม ไม่อาจจะทำการถ่ายทอดสดได้ แต่ความเป็นไปได้นี้แทบจะเป็นศูนย์ เพราะเพิ่งเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์และพบว่าสัญญาณยังทำงานได้ดีอยู่
อย่างที่สองคือผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หนักหนา จนแม้แต่พวกระดับสูงก็ยังไม่กล้าจะรายงานความจริงเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้ เพราะพวกเขากลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายจนไม่อาจจะควบคุมได้ !
“เริ่มมีคนตายหรือยัง ?” หลี่เทียนเทียนยืนอยู่ข้างหน้าต่างพร้อมสีหน้าที่แสดงความกังวลออกมา
....
ความจริงนั้นแย่กว่าที่หลี่เทียนเทียนคิดเอาไว้
เวลา 19.00 นาฬิกา ที่โรงพยาบาลของเมือง
แผนกฉุกเฉินนั้นเต็มไปด้วยคนป่วย พวกคนป่วยที่ไม่ได้เตียงได้แต่นอนอยู่ที่ทางเดินพร้อมกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฉากนี้ช่างน่าเวทนายิ่งนัก
“หัวหน้า ! เตียง 2 หายใจติดขัด ความดันตกอย่างรวดเร็ว เลือดไหลในช่องอก !”
“หมอหลิว ! เตียง 6 หัวใจวาย !”
“แจ้งห้องผ่าตัดด่วนให้เตรียมผ่าตัด !”
“หมอ..ไม่มีเตียงว่างในห้องผ่าตัด !”
หมอและพยาบาลนับไม่ถ้วนพากันวิ่งวุ่นท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของคนป่วย พวกเขาถึงกับต้องตะโกนคุยกัน
แค่ 3 ชั่วโมง โรงพยาบาลก็มีคนป่วยเพิ่มเข้ามากว่า 132 คน
อาการทุกคนเป็นเหมือนกันหมด ก็คือปอดเกิดพังผืดขึ้นมาพร้อมกับอาการกระเพาะอาหารและกระเพาะปัสสาวะรั่ว
คนป่วยเหล่านี้ คือคนที่อยู่ชานเมืองและกินผักที่ตัวเองปลูกเอาไว้
บางคนกินเนื้อวัวและแกะที่กลายพันธุ์
แค่เพียง 10 นาทีพวกเขาก็เริ่มหายใจติดขัด พร้อมกับอาการที่แย่ลงไปเรื่อย ๆ
มีคนกว่า 50 คนที่หยุดหายใจ ตอนที่ถูกส่งตัวถึงโรงพยาบาล
หมอหวังหัวหน้าแผนกฉุกเฉินตาแดงก่ำ เขาดูแลที่นี่มากกว่า 40 ปีแต่กลับไม่เคยเจอคนป่วยที่อาการหนักและทรุดตัวอย่างรวดเร็วแบบนี้มาก่อน
เขาได้แต่ใช้ยาและเครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ แต่นั่นก็ช่วยได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยก็หยุดหายใจเพราะอวัยวะภายในล้มเหลว
“นี่คืออาการถูกพิษ ต่างจากการถูกพิษที่เรารู้จัก ! เราไม่อาจจะหายารักษาได้ !” หมอหวังเรียกสติตัวเองและบอกกับผู้ช่วย
“รีบแจ้งเรื่องนี้กับทางโรงพยาบาล แจ้งสื่อและกระทรวงสาธารณสุขบอกประชาชนทุกคนว่าไม่ควรกินผักและผลไม้ที่เก็บไว้ !”
“บอกญาติผู้ป่วยให้ไปที่บ้าน เพื่อเก็บผักผลไม้ที่กินแล้วเกิดอาการกลับมาส่งไปที่แล็ปด้วย !”
“เข้าใจแล้วค่ะ !” ผู้ช่วยตอบกลับทันที
จากนั้นผู้ช่วยก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดกับหมอหวัง
“หัวหน้า เพื่อนผมที่ทำงานที่โรงพยาบาลชานเมืองบอกว่าโรงพยาบาลของพวกเขาก็มีคนป่วยที่อาการคล้ายกันหลายร้อยคน...นี่อาจจะเป็นหายนะที่คร่าชีวิตมนุษยชาติ !”
หมอหวังถามขึ้นมา “นายต้องการจะบอกอะไร ?”
ผู้ช่วยเม้มปากก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้
“เรา...เราจะรอดจากหายนะครั้งนี้ไปได้จริง ๆ หรือคะ ?”
...
เวลา 21.00 น.
หลี่เทียนเทียนเพิ่งล้างจานเสร็จและเตรียมตัวจะไปพักผ่อน
หลี่ฮานยังนั่งอยู่โซฟาดูทีวีอยู่ เธอกำลังดูการ์ตูนปีศาจน้อย...ตัวหลักในเรื่องเป็นสาวน้อยใส่ชุดสีฉูดฉาดถือคทาพร้อมกับตะโกนสโลแกนของตัวเองออกมา ก่อนจะกำจัดปีศาจ
หลี่ฮานหัวเราะออกมาอย่างพอใจกับการ์ตูนเรื่องนี้
ความวุ่นวายที่โลกภายนอกนั้นเหมือนไม่ได้ส่งผลอะไรกับเธอเลย
“ฉัน หลิงเม่ยซิว พี่เทียนคือเจ้าชายแห่งความขบขัน ! เสี่ยวเฮย เทพปีศาจ ตายซะ !” หลี่ฮานหยิบเอาแท่งไม้มาเป็นคทาพร้อมกับฟาดไปที่เสี่ยวเฮย
เสี่ยวเฮยนอนอยู่ข้างโซฟา ได้แต่กลิ้งไปมากับพื้นเพื่อเล่นกับหลี่ฮาน ลิ้นของมันห้อยออกมาจากปาก มันทำราวกับโดนหลี่ฮานฆ่า
เสี่ยวเฮยเหมือนกับกำลังดูแลเด็กอยู่
นี่แหละความสุขของเด็กน้อย หลี่เทียนเทียนไม่ได้ใส่ใจอะไร เขามองไปที่ทั้งสองอย่างมีความสุข ก่อนจะเปิดคอมขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้มีรายงานด่วนถูกปักเอาไว้ด้านบนสุด
“21.03 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 จำนวนคนของเขตหยานหวงที่เสียชีวิต 38,021 คน !”
“จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 486,527 คน !”
หลี่เทียนเทียนหรี่ตาลงทันที และทำการอ่านรายงานต่อ
ตัวเลขพวกนี้สูงจนน่าตกใจ และมันกำลังแทนถึงชีวิตคน !
หลี่เทียนเทียนอ่านรายงานและพบว่าสาเหตุการตายของผู้คนคือ อาหารเป็นพิษ !
หลี่เทียนเทียนรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะพืชผักรวมถึงเนื้อปนเปื้อนรังสี
สำหรับพวกนักชิมตัวโยงที่กินได้แม้กระทั่งตะขาบกับค้างคาว พวกอาหารปนเปื้อนรังสีเหล่านี้ไม่ได้ทำให้พวกเขากลัว แต่กลับทำให้พวกเขาสนใจขึ้นมาแทน
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือในรายงานนี้มีสัตว์กลายพันธุ์เกือบพันตัว และมีมนุษย์กลายพันธุ์ปรากฏขึ้นมาในหลายที่ภายในโลก
หลี่เทียนเทียนคิดว่าความเป็นไปได้แค่ 2% นั้นไม่ได้สูงมากนัก ไม่น่าจะมีการกลายพันธุ์ในมนุษย์ได้
แต่เขาลืมอย่างหนึ่งไป ถึงความเป็นไปได้นั้นจะต่ำ แต่มนุษย์ในโลกนั้นก็มีอยู่จำนวนมาก เมื่อรวมกับสัตว์กินพืชตามธรรมชาติแล้วก็มีจำนวนมากขึ้นอีกหลายเท่า แม้ว่าโอกาส 2% จะน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ในหมู่สิ่งมีชีวิตจำนวนมากแบบนี้ !
ส่วนสุดท้ายของรายงานเขียนกำกับเอาไว้
เตือนประชาชนทุกคนของรัฐหยานหวง ก่อนที่จะมีการแจ้งเตือนครั้งใหม่ อย่ากินผลไม้, พืชผักที่เก็บไว้ในบ้าน อย่ากินเนื้อของสัตว์ที่รูปร่างเปลี่ยนไป !
ในรายงานนี้ไม่ได้บอกอะไรมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบกับข่าวที่ถกเถียงกันในอินเตอร์เน็ตทั้งในตอนนี้และในอดีตแล้ว รายงานการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าตกใจจริง ๆ
แต่หลี่เทียนเทียนรู้ความจริงอย่างหนึ่งจากรายงานนี้ ยิ่งรายงานมีเนื้อหาน้อยเท่าไหร่ ก็หมายความว่าปัญหายิ่งหนักขึ้นเท่านั้น
เขาเลื่อนลงมาอ่านต่อและพบว่าใน 10 นาทีกลับมีคอมเมนต์หลายหมื่นอันแล้ว
“เมืองของเราถูกปิด ! ที่บ้านเราไม่มีอาหารเหลือแล้ว ใครเหลืออาหาร ฉันขอซื้อแพงกว่าเดิม 10 เท่า !”
“พ่อค้าในเมืองเราโดนจับเพราะเพิ่มราคาสินค้า !”
“น่ากลัวจริง ๆ ! เมื่อครู่นี้ฉันโยนผลไม้และผักที่เก็บไว้ในตู้เย็นทิ้งไป ฉันต้องล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อตั้ง 3-4 ครั้ง...”
“นาข้าวถูกทำลายในเวลา 3 ชั่วโมง มันจะเกิดความอดอยากขึ้นหรือเปล่า ? บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในร้านค้าถูกซื้อไปจนหมดแล้ว ฉันว่าจะไปที่เมืองข้าง ๆ เพื่อซื้อของมากักตุนเอาไว้ !”
หลี่เทียนเทียนอ่านดูคอมเมนต์เหล่านั้น เขาเดาถูก ตอนที่หายนะเริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ทุกคนต้องห่วงมากที่สุดก็คืออาหาร
ตอนนั้นเองโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา ที่หน้าจอมีชื่อแสดงขึ้นมา....ซงหลิง