ตอนที่ 5 : ความวุ่นวาย
ตอนที่ 5 : ความวุ่นวาย
ทว่าทันใดนั้น ก็เหมือนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา เพราะวัวดำได้พุ่งเข้ามาหาเขา ขนาดเขาที่ใหญ่กว่าเดิม 2 เท่า หากต้องชนหลี่เทียนเทียนจริง ๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง
แต่เสี่ยวเฮยกลับเห่าออกมาพร้อมกับพุ่งออกไป มันไม่ได้กลัวตายแม้แต่น้อย ราวกับอัศวินที่พร้อมจะตายเพื่อปกป้องราชาของตัวเอง !
เสี่ยวเฮยไม่ได้พุ่งเข้าหาวัวตรง ๆ แต่ใช้ความได้เปรียบเรื่องขนาดและความเร็วในการอ้อมไปด้านหลังวัวพร้อมกับกัดวัวอย่างต่อเนื่อง
วัวหันกลับมาพร้อมกับเตรียมที่จะกระทืบสุนัขให้ตายก่อน
ตอนนั้นเองกลับมีร่างเหล็กพุ่งเข้ามา
ปัง ! สุนัขหุ่นยนต์เบอร์ 1 ได้รับคำสั่งจากหลี่เทียนเทียน จึงพุ่งเข้าหาวัวกลายพันธุ์ มันอ้าปากออกเผยให้เห็นคมเขี้ยวที่ยาวของมันกัดเข้าที่คอของวัว !
ฉัวะ !
แกร๊ก !
เสียงกระดูกหักดังลั่นขึ้นมา หัวของวัวโดนกัดจนขาดในทันที
หลี่เทียนเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นมา “เสี่ยวเฮย กลับมานี่ !”
หลังจากที่ตรวจสอบแผลบนตัวเสี่ยวเฮยและพบว่ามันไม่ได้ร้ายแรงนัก หลี่เทียนเทียนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ตอนนี้อันตรายอยู่รอบตัวจริง ๆ
ในวันหายนะแบบนี้มีอันตรายที่มองไม่เห็นอยู่ทั่วทุกที่ ดูเหมือนว่าเขาต้องจัดการกับอันตรายที่อยู่รอบตัวให้หมดก่อน หากเกิดปัญหาเช่นนี้กับหลี่ฮาน ผลกระทบคงเกินกว่าจะคาดถึง !
5 นาทีต่อมา
ภายในฟาร์มก็มีไฟลุกโชนขึ้นมา
เนื่องจากหลี่เทียนเทียนกำลังเผาต้นพืชผลที่เปื้อนรังสีทั้งหมด แม้แต่วัวที่กลายพันธุ์ก็ถูกเผาไปด้วย
หากมนุษย์กินมันเข้าไปแล้ว แม้ว่าจะไม่เกิดการกลายพันธุ์แต่ก็อาจจะถูกพิษได้ สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นอาการอาหารเป็นพิษ
ถ้าไม่จัดการเรื่องพวกนี้ สุดท้ายแม้แต่ฟาร์มของเขาก็จะกลายเป็นพื้นที่หายนะเช่นกัน
หลี่เทียนเทียนตั้งใจจะปลูกเมล็ดพันธุ์ที่มีในคลัง แต่ทันทีที่หว่านมันลงไป พลังชีวิตของพวกมันก็หมดลงไปทันที พร้อมกับแห้งเหี่ยว
ทันทีที่ขุดเมล็ดพันธุ์พวกนี้ขึ้นมา ก็พบว่าข้อมูลอของพวกมันเปลี่ยนไปทั้งหมด
[ เมล็ดเน่า : เมล็ดที่โดนพิษกัดกร่อนเพราะสัมผัสกับพื้นที่ปนเปื้อนรังสี และไม่อาจจะปลูกได้อีก ]
“ดูเหมือนว่าเมล็ดพวกนี้ถึงปลูกไปก็เสียเวลาเปล่า ...” หลี่เทียนเทียนถอนหายใจออกมา
แต่ไม่นานเขาก็เอาเมล็ดกันรังสีออกมาจากระบบ
แล้วปลูกลงไปในดิน ก่อนจะทำการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง
**เมล็ดข้าวป้องกันรังสี
[ อัตราการเติบโต : 1% (100% เติบโตเต็มที่ สามารถเก็บเกี่ยวได้) ]
[ ความต้องการ : แสงอาทิตย์และน้ำที่เพียงพอ ]
[ ระยะเวลา : 72 ชั่วโมง ]
ไม่นานผ่านไป 5 นาทีเมล็ดก็ไม่ได้เน่า และอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมาที่ 2%
เขาสามารถปลูกเมล็ดกันรังสีพวกนี้ได้ !
ระยะเวลาสำหรับการปลูกนั้นสั้นกว่าข้าวปกติทั่วไปอีกด้วย สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 3 วัน
หลี่เทียนเทียนคำนวณในใจ อย่างน้อยเรื่องอาหารสำหรับเขากับหลี่ฮานก็ไม่มีปัญหาแล้ว
แม้ว่าเขาจะปลูกได้เยอะ แต่ไม่อาจจะเก็บไว้ได้นาน อย่างมากก็เก็บไว้ได้ 10 -15 วันเป็นอย่างมาก
เมื่อกินหมดไปแล้วและไม่อาจจะหาเมล็ดมาเพิ่มได้ งั้นในระยะยาว หลี่ฮานกับเขาก็คงขาดวิตามิน สุดท้ายก็จะทำให้ป่วยและร่างกายอ่อนแอลงรวมถึงผลกระทบอื่น ๆ
.....
ยามเย็น
หลี่ฮานที่พึ่งตื่นนอนรีบวิ่งออกจากห้องนอนเพราะได้กลิ่นเนื้อย่าง ทั้งที่เธอยังสวมชุดนอนรูปหมูและตายังหลับอยู่ เธอเหมือนละเมอและพยายามจะลืมตาขึ้นมองไปที่ห้องครัว ไม่นานสมองของเธอก็ทำงานเต็มที่ !
“พี่เทียน วันนี้มีแกะย่างใช่ไหม !” หลี่ฮานวิ่งเข้ามาในครัวด้วยขาสั้น ๆ ของเธอ และโผล่หัวมาที่ประตูและมองไปที่หม้อสีทองในครัวที่มีน้ำมันหยดลง พร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากมุมปาก
หลี่เทียนเทียนไม่ยอมให้เธอเข้ามาในครัว เพราะของมีคมและไฟในครัวนั้นมันอันตรายเกินไปสำหรับเธอ
อีกอย่างหลี่ฮานก็กลัวด้วยเช่นกัน
ย้อนความกลับไป ตอนที่เธออายุได้ 4 ขวบ หลี่เทียนเทียนทำเนื้อย่างอยู่แต่เพราะเขาเดินไปที่ห้องเก็บของเพื่อเอาเครื่องปรุง เขาจึงไม่ได้สนใจในครัว และสั่งหลี่ฮานที่นั่งอยู่หน้าเตาว่าอย่าไปจับเหล็กย่าง ไม่งั้นแล้วมืออาจจะถูกลวกได้ แต่ทันทีที่เขาเดินไปได้สองก้าวหลี่เทียนเทียนก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นมา
หลี่ฮานน่ะเชื่อฟังดีจริง ๆ เธอจำคำพูดของหลี่เทียนเทียนได้ดี เธอกอดอกไม่กล้าจะจับเหล็กย่าง แต่กลับแลบลิ้นออกมาเลียมันแทน !
ตั้งแต่นั้นมา ห้องครัวก็กลายเป็นเขตต้องห้ามสำหรับหลี่ฮานไปในทันที
หลังจากที่กำจัดพืชและสัตว์ที่ปนเปื้อน หลี่เทียนเทียนก็เห็นแกะและวัวที่ยังรอดอยู่ คงอยู่ได้ไม่เกินคืนนี้ แม้ว่าจะรอดจากอุณหภูมิที่ต่ำไปได้ แต่เขาก็กังวลว่าวัวและแกะพวกนี้จะกลายพันธุ์ หากกินพืชผลที่ปนเปื้อนรังสีเข้าไป
หลังจากคิดทบทวนดีแล้ว หลี่เทียนเทียนก็ตัดสินใจที่จะฆ่าแกะและวัวทั้งหมดเพื่อเก็บเนื้อพวกมันเอาไว้
เขาเดาว่าค่าของผัก ผลไม้ เนื้อและข้าวนั้นคงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อข่าวเรื่องโลกเปื้อนรังสีเผยแพร่ออกมา ราคาของพืชผลและเนื้อในคลังนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 เท่า !
เดือนหน้าผักจะกลายเป็นของที่มีแต่คนรวยสามารถซื้อได้ !
แต่เรื่องพวกนี้ไม่ได้ส่งผลต่อหลี่เทียนเทียน หลังจากที่พบว่าเมล็ดกันรังสีสามารถนำไปปลูกได้ เขาก็ใช้คะแนนกว่า 20,000 คะแนนเพื่อซื้อเมล็ดผักและผลไม้กันรังสีรวมไปถึงพวกข้าว บล็อกโคลี่ ผักกาด องุ่น สตรอเบอรี่ และผักอื่น ๆ
มันมีเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ที่เขาซื้อไว้อยู่แล้ว ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่หลี่เทียนเทียนจะหว่านเมล็ดผักและผลไม้ในพื้นที่กว่า 10 เอเคอร์ในพื้นที่เพาะปลูกเสร็จ
อีก 3 วันผลผลิตรอบแรกก็พร้อมเก็บเกี่ยว
ไม่นานกลิ่นเนื้อแกะย่างก็ลอยคลุ้งไปทั่ว หลี่เทียนเทียนโปรยเกลือและพริกไทยพร้อมกับเอาข้าวและผักที่เหลือในตู้เย็นออกมา
เพราะพวกมันถูกเก็บไว้ในตู้เย็น พวกมันจึงไม่ได้เปื้อนรังสีจากพื้นดินมาด้วย
ผลไม้ที่เขาเก็บไว้ในคลังนั้นอยู่ในสภาวะเปื้อนรังสีเพราะพวกมันสัมผัสกับดินและเริ่มเน่าไป
จากนี้ไปพื้นดินไม่ได้สะอาดอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มันอยู่ในสภาพเปื้อนรังสี
....
ไม่นานผักก็ถูกทอด ข้าวถูกนำไปต้มเป็นโจ๊ก สุดท้ายอาหารเย็นก็พร้อมทาน
หลี่เทียนเทียนรู้วิธีการทำอาหารมาตั้งแต่ที่เขาได้ที่ดินผืนนี้มา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับเชฟแต่ก็ถือว่าพอมีฝีมืออยู่บ้าง
เนื้อย่างนั้นด้านนอกกรอบ ด้านในก็นุ่ม ผักทอดเองก็หวาน
ตอนนี้ปากของหลี่ฮานนั้นมันแผ่บไปด้วยคราบน้ำมัน และมีเนื้อชิ้นโตวางอยู่ในชามของแต่ละคน รวมไปถึงสุนัขด้วย
ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตนั้นวุ่นวายอย่างมาก
“ดวงอาทิตย์ปกคลุมไปด้วยฝุ่น จุดจบของโลกมาเยือนแล้ว !”
“ไม่ใช่ว่านักวิทยาศาสตร์บอกว่า เป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติทั่วไปหรือไง ?”
“ช่วยด้วย ! ต้นไม้ที่บ้านฉันอยู่ ๆ ก็แห้ง แกะของฉันกินต้นไม้แห้งไปและกระอักเลือดออกมา ผ่านไป 3 นาทีตัวของมันก็ระเบิด !”
“มีหนูขนาดเท่ากับสุนัขโผล่มาทางใต้ของเมือง ทันทีที่เห็นคน พวกมันก็วิ่งเข้ามากัดทันที ...”
“ต้นไม้ที่ฉันปลูกไว้แห้งเหี่ยวไปหมด...พืชผลกว่า 10 ไร่เน่าเสียไม่เหลืออะไรแล้ว !”
“ร้านค้าใกล้ ๆ บ้านฉันน่ะมันโจรชัด ๆ ราคาของอาหารเพิ่มสูงขึ้น แอปเปิ้ลลูกเดียวก็ราคา 50 หยวนแล้ว ! กะหล่ำปลีหัวเดียวก็ราคา 118 หยวน !”
หลี่เทียนเทียนเปิดเว็บไซต์ดูและพบหัวข้อพวกนี้นับไม่ถ้วน
“จำได้มั้ยว่าประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนมีคนโพสต์ว่าหายนะกำลังมาเยือน ให้ทุกคนเตรียมตัวกันไว้ ! เขาเป็นใคร เขาคือคนให้เบาะแสกับทุกคน เราควรขอบคุณเขา !”
หลี่เทียนเทียนเลิกคิ้ว โพสต์ที่เขาโพสต์เอาไว้อยู่ได้ไม่ถึง 3 นาที ก่อนจะโดนลบไป