ตอนที่ 14 : ความบ้าคลั่ง
ตอนที่ 14 : ความบ้าคลั่ง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายตัวอ้วนถึงกับอึ้ง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาแสร้งทำเป็นสับสนและพูดขึ้นมา
“นายหมายถึงอะไร ?”
หลี่เทียนเทียนยิ้มออกมาและโน้มตัวไปใกล้กับหน้าต่างรถแล้วพูดขึ้น
“มีพวกเจ้าเล่ห์มากมาย นายคิดจะปั่นหัวฉันหรือ ? ของพวกนี้...นายกล้ากินมันต่อหน้าฉันหรือเปล่า หากนายกล้ากิน ฉันถึงจะยอมซื้อ !”
“นายไม่เชื่อฉันหรือไง ?” ชายตัวอ้วนถามขึ้นมา
“พอแล้ว หลีกไปให้พ้นทาง...” หลี่เทียนเทียนหมดความอดทนและไม่คิดจะเถียงกับอีกฝ่ายต่อ
พร้อมกับได้นำโทรศัพท์ออกมาและชูขึ้น “ไม่งั้นฉันจะโทรเรียกตำรวจ”
“อย่าเพิ่ง !” ชายตัวอ้วนรีบโบกมือและยิ้มออกมา
“ถ้านายไม่อยากซื้อก็ไม่ต้องซื้อ แต่อย่ามาทำให้ธุรกิจของคนอื่นพัง...น้องชาย ฉันจะหลีกทางให้”
รถบรรทุกที่จอดขวางอยู่นั้นสุดท้ายก็เคลื่อนออกไป เมื่อมีช่องว่างพอให้รถผ่านได้ หลี่เทียนเทียนก็ขับออกไปทันที
“พี่เทียน เขาเป็นคนขี้โกหกงั้นหรือ ?” หลี่ฮานเอ่ยถามขึ้นมา
“ใช่ !” หลี่เทียนเทียนพยักหน้า
ตอนที่ชายตัวอ้วนเปิดกระเป๋าเมื่อครู่นี้นั้น เขารู้ว่าแตงโมพวกนั้นเปื้อนรังสี
แม้ว่าจะไม่ได้มีรังสีมากนัก และมองแทบไม่ออก แต่หลี่เทียนเทียนที่ปลูกผักผลไม้มาหลายปี
หากเขาไม่เห็นสิ่งผิดปกติที่ผิวของแตงโมแล้ว เขาคงเสียเวลากับการเป็นชาวไร่เปล่า ๆ
“เขาเป็นคนโกหกและโกหกได้แย่อีกด้วย”
ตอนนี้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาแล้ว ผู้คนที่คิดจะเอาเปรียบคนอื่นก็มักจะฉวยโอกาสในตอนนี้ ถึงหลี่เทียนเทียนจะอยากได้กำไร แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่มีทางทำเช่นนี้เด็ดขาด !
ก็เหมือนกับตอนก่อนเกิดหายนะขึ้นมา มีคนเดินตามท้องถนนคอยขายยาให้กับคนแก่
ยาที่หลอกว่าทำมาจากโสมแต่อันที่จริงแล้วทำมาจากแป้ง..ถึงจะเป็นเช่นนั้นอย่างน้อยแป้งพวกนั้นก็ไม่ได้ฆ่าคนตายไม่ใช่หรือ ?
ทว่าผลไม้และผักที่เปื้อนรังสีนั้น หากกินไปแล้วก็เท่ากับตาย !
ในอดีตนั้นคนที่หาเงินโดยการฆ่าคนมักจะถูกจับ แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
เมื่อมองจากจุดนี้แล้ว หลี่เทียนเทียนก็ยิ่งรับรู้ถึงผลกระทบจากการเกิดหายนะในครั้งนี้มากกว่าเดิม
แม้แต่การดูแลของกองทัพก็ยังอ่อนแอลงกว่าเดิม !
หลี่เทียนเทียนจำได้ว่าจากการแจ้งเตือนของระบบนั้นมีประโยคหนึ่งที่บอกว่าให้สร้างสังคมมนุษย์ขึ้นมาใหม่
หรือว่าสังคมของมนุษย์ในตอนนี้จะล่มสลายลงเพราะหายนะ ?
หลี่เทียนเทียนพึมพำออกมา “แม้ระบบในตอนนี้ยังไม่ล่มสลายลง แต่เมื่อหายนะครั้งที่สองเกิดขึ้น และแหล่งน้ำถูกทำลายไป ฉันกลัวว่าคงเกิดความวุ่นวายขึ้นทุกหนแห่ง แม้แต่กองทัพและตำรวจก็ไม่อาจจะรับมือไหว”
หลี่เทียนเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เอาจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่อยากให้ระบบและสังคมล่มสลายลง แต่เขาไม่ใช่พระเจ้า เขาไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงโลกได้
....
ทว่าสิ่งที่เขาเห็นในคืนนี้ได้ปลุกความขยันในใจเขาขึ้นมา และเขาได้เรียนรู้ว่ามีแค่การพึ่งระบบและความขยันเท่านั้น ถึงจะทำให้เขากับหลี่ฮานไม่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับคนอื่น ๆ !
ทันทีที่เขากลับถึงฟาร์ม หลี่ฮานก็งอแงอยากกินข้าวทันที
เด็กน้อยน่ะยังมีแรงเหลือเยอะ หลี่ฮานเป็นเด็กกำลังโต ดังนั้นเธอจึงกินมากกว่า 4 มื้อต่อวัน
ไม่งั้นแล้วเธอคงตื่นเพราะความหิวตอนกลางดึก
เมื่อเข้าไปในบ้าน หลี่เทียนเทียนก็ใส่ผ้ากันเปื้อนและรีบเข้าไปทำอาหารง่าย ๆ ออกมาให้เธอรับกิน
ทันที
การทำอาหาร ทำสวน เก็บเกี่ยว บางทีนี่อาจจะเป็นความสามารถที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ผ่านพันธุกรรม เขาไม่ได้รู้สึกแปลกหรือติดขัดกับเรื่องนี้ แต่เขากลับรู้สึกสนุก
เมื่อเห็นว่าอาหารที่เขาทำนั้นถูกหลี่ฮานกินอย่างมีความสุข เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย
แกะที่ถูกฆ่าไปเมื่อไม่กี่วันก่อนถูกเอาออกมาจากตู้แช่ เพื่อละลายน้ำแข็ง
หลังจากที่ตัดหัวไชเท้าออกเป็นสองส่วน หลี่เทียนเทียนก็เติมน้ำลงไปในเตา เขานำขาแกะไปล้างเลือดออกด้วยน้ำเย็น ก่อนจะนำมันไปต้มในหม้อ
เขาไม่ได้ใส่เครื่องปรุงลงไปมากนักใส่แค่ขิงหั่นเท่านั้น
ถึงไม่มีเครื่องปรุงมากนัก รสชาติของขาแกะก็อร่อยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันรสชาติจางลงไปเลย
เขาตุ๋นมันด้วยไฟอ่อน ๆ และไม่นานน้ำในหม้อก็เริ่มเดือด
กินเวลา 30 นาทีก่อนที่กลิ่นหอมจะลอยไปทั่วทั้งห้อง
จากนั้นหลี่เทียนเทียนก็เทเนื้อแกะออกมา ก่อนจะโรยด้วยเกลือ
หลี่ฮานนั่งถือถ้วยของตัวเองอยู่ เธอยืนอยู่ตรงหน้าห้องครัวด้วยสายตาละห้อย
อีก 10 นาทีต่อมา
ขาแกะก็ตุ๋นจนเสร็จ หลี่เทียนเทียนใช้ตะเกียบแทงลงไปที่ขาแกะ และพบว่ามันแทงทะลุได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ทำการโรยต้นหอมลงไป
“ซุปขาแกะพร้อมแล้ว”
นี่ถือว่าเป็นอาหารที่หนักไปหน่อยสำหรับมื้อดึก นอกจากซุปขาแกะคนละสองชามแล้ว สองพี่น้องก็ยังกินของหวานตบท้ายอีก
การกินเยอะในมื้อดึกนั้นไม่ได้ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก ทว่าตั้งแต่ที่เขากินผักผลไม้กันรังสีไป หลี่เทียนเทียนก็รู้สึกว่ากระเพาะอาหารของเขานั้นใหญ่ขึ้น เขาไม่ได้รู้สึกอิ่มหรือจุกเลยแม้แต่น้อย
เขารู้สึกว่าตอนนี้เขากินอาหารลงไปแค่เพียง 7 ใน 10 ส่วนของกระเพาะเท่านั้น
และที่สำคัญที่สุด คือหลี่ฮานเหมือนจะกระเพาะใหญ่กว่าเขาเสียอีก
เธอกินซุปตรงหน้าจนหมดถ้วย
“ดูเหมือนว่าร่างกายเด็กที่กำลังโตนั้นจะต้องการสารอาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ ...” หลี่เทียนเทียนคิดและมองไปที่หลี่ฮาน
ข้อมูลของเธอโผล่มาตรงหน้าเขา “ตามการพัฒนาแล้วเธอคงไม่กลายเป็นมนุษย์ไดโนเสาร์หรอกนะ ? ถ้าเป็นแบบนั้นเธอต้องกินเนื้อมื้อละกี่ตันกัน ?”
หลี่เทียนเทียนตกใจกับความคิดของตัวเอง ก่อนที่สุดท้ายจะสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ด้วยการที่มีระบบอยู่ แม้ว่าในอนาคตหลี่ฮานจะกินจุแค่ไหน แต่เขาก็ดูแลเธอได้อยู่ดี !
หลังจากที่กินและดื่มเสร็จแล้ว หลี่เทียนเทียนก็เข้าไปในเว็บไซต์ของเมือง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่อาจจะรู้ได้จากข่าว มีแค่ในอินเทอร์เน็ตเท่านั้นที่จะหาข้อมูลพวกนี้ได้
ทันทีที่เขาเปิดเว็บขึ้นมา ก็มีโพสต์นับไม่ถ้วนโผล่มา
ส่วนมากพูดถึงประสบการณ์ของพวกเขาใน 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ความลำบากที่พวกเขาเผชิญ โพสต์หาอาหารรวมไปถึงความน่ากลัวต่าง ๆ ที่พบมา
ยกตัวอย่างเช่น มีคนเห็นสัตว์กลายพันธุ์โจมตีคน อีกฝ่ายโดนกัดจนเหลือแต่กระดูก
อีกโพสต์บอกว่าเขากับเพื่อนต้องมาทะเลาะกันเองเพื่อแย่งข้าว พวกเขาถึงกับลงไม้ลงมือกัน
หลี่เทียนเทียนคลิกเข้าไปดูในโพสต์หนึ่ง
“ไม่นานมานี้พวกสัตว์เลี้ยงที่กลายพันธุ์ได้เข้าโจมตีมนุษย์รอบ ๆ หมู่บ้านของเรา บ่ายวันนี้พ่อฉันได้ฆ่าควายที่ครอบครัวเราเลี้ยงกันมานาน น่าเจ็บใจจริง ๆ ! ตอนฉันยังเด็กยังเคยขี่มันด้วย พ่อฉันตัดเขาของมันมาทำเป็นหวี ตอนนี้ฉันปวดใจอย่างมาก เห็นหวีนั่นเมื่อไร่ น้ำตาฉันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว..”
หลี่เทียนเทียนมองดูโพสต์พวกนี้แล้วถอนหายใจออกมา
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย หลายคนต้องฆ่าสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเลี้ยงดูมาหลายปีทิ้ง
แม้แต่ตำรวจก็ต้องเริ่มออกกำจัดพวกแมวและหมาจรจัดตามท้องถนน
เมื่อหลี่เทียนเทียนไล่อ่านความคิดเห็น ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็แข็งทื่อไป
“เดาว่าตอนนี้นายคงใช้หวีนั่นหวีผมอยู่พร้อมกับมืออีกข้างที่ถือเนื้อควายย่างอยู่สินะ ? พวกตอแหล !”
“นายช่วยแบ่งเนื้อควายให้เราหน่อยได้ไหม ? ฉันอยากซื้อมันจากนาย...”
“เอาเนื้อที่เหลือเอามาแบ่งกันได้หรือเปล่า ?”
“ทุกคนบ้าไปหมดแล้ว”
สุดท้ายหลี่เทียนเทียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ถึงอ่านความคิดเห็นพวกนี้ต่อก็มีแต่ทำให้เขาเศร้าใจเปล่าๆ
หลี่เทียนเทียนกดออกมาจากโพสต์เหล่านั้น พร้อมกับเรียกสติตัวเองกลับมา
หลังจากนั้นก็มีหลายโพสต์ที่ทำให้เขาสนใจ
“ให้รางวัล ! ตามหาเจ้าของโพสต์เมื่อสามวันก่อน ! เขาโพสต์เรื่องวันหายนะ ! ขอบคุณที่ให้ข้อมูล ! รางวัล 300,000 หยวน...”
หลี่เทียนเทียนเลื่อนลงมาดูพร้อมสีหน้าที่บิดเบี้ยวไป มีโพสต์คล้าย ๆ กันแบบนี้อีกกว่า 2 ถึง 3 โพสต์จากใน 10 โพสต์
แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังตามหาเขา ตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน !
“ยังมีอีกหรือ ....” หลี่เทียนเทียนคิ้วขมวด
“นี่จะตามหาให้เจอให้ได้หรือไง ?”
…………………………………………