ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 687 ทะเลเพลิงสวรรค์
เผ่าพันธ์แห่งจักรวรรดิปีศาจเหมันนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมากในพื้นที่เก่าแก่
ยังมีอีกหลายอย่างที่ซู่เสี่ยวไป่ยังไม่รู้จักเกี่ยวกับพื้นที่เก่าแก่แห่งนี้ และนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการสร้างจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ในพริบตา
และเมื่อลองแอบดูเส้นทางสู่สวรรค์ของสิ่งนี้แล้ว กลับเห็นเส้นทางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบรรลุเส้นทางสู่สวรรค์ สำหรับเผ่าพันธ์สิ่งมีชีวิตบางจำพวกก็แข็งแกร่งโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งใดเลย ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อเงาฆ่าเผ่าปีศาจเหมันจะได้รับวิชาภัยพิบัติจำนวนมาก
ซู่เสี่ยวไป่พยายามจะเรียกคืนความเยือกเย็น และมองไปยังตัวตนจ้าวภัยพิบัติเผ่าปีศาจเหมันที่อยู่ต่อหน้า พลังและความแข็งแกร่งของมันเทียบได้กับเงาของเขาทุกประการ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ
วินาทีนั้นคลังสมบัติของซู่เสี่ยวไป่ก็ถูกเปิดออก พร้อมกับอาวุธวิเศษมากมายกว่าสามหมื่นชิ้น ได้ปรากฏอยู่ด้านหลังของเงา
อาคมป้องกันทำงานทันที และคุ้มกันเงาศักดิ์สิทธิ์เต็มกำลัง
ก่อนที่อาวุธที่ทรงพลังที่สุดจะปรากฏขึ้นในมือของเงา มีดทมิฬสีดำสนิทที่ปล่อยกลิ่นไอที่หนาวเหน็บออกมา
“ในเมื่อมันมีคำว่าเหมันอยู่ในชื่อ -นั้นก็แปลว่ามันต้องไม่ถูกกับไฟ การจะเล่นงานมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
เส้นทางสู่สวรรค์ทั้งสามหมื่นเส้นทางปลดปล่อยพลังออกมา พร้อมกับพลังสวรรค์ที่เอ่อล้นและทุกอย่างถูกควบคุมโดยซู่เสี่ยวไป่ ก่อนที่จะก่อเกิดเปลวเพลิงบริสุทธิ์ มันถูกสร้างจากพลังงานสวรรค์ทั้งสามหมื่นเส้นทาง
เส้นทางสวรรค์สีเพลิง
เส้นทางสู่สวรรค์ไฟบรรพกาล
เส้นทางสู่สวรรค์มหาธาตุเพลิง
พลังงานสวรรค์ที่ถูกใช้ออกมานั้นหาได้ยากมากในยุคนี้ แต่ซู่เสี่ยวไป่ได้รับมันมาจากการท่องเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลา เขาจึงมีเส้นทางที่ตัวตนในยุคนี้ไม่อาจจะสัมผัสได้และรู้จักมาก่อน
นอกจากพลังที่เพิ่มขึ้น ไฟที่ถูกสร้างขึ้นนั้นทรงพลังกว่าไฟใดๆ ในใต้หล้า แล้วซู่เสี่ยวไป่ยังได้รับการสนับสนุนจากสองมังกรมือซ้ายและขวาของเขาอีก ที่ถ่ายทอดพลังมาให้จากอาณาจักรของเขา
ตูม!!
ด้วยทั้งหมดนี้ทำให้เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ปล่อยพลังที่เกรี้ยวกราดออกมาทันที
ท้องฟ้านับล้านๆ กิโลเมตรกลายเป็นทะเลเพลิง อาวุธวิเศษมากมายพุ่งโจมตีโหมกระหน่ำร่างของจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 จากเผ่าปีศาจเหมันอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
เวลานี้เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่รอจังหวะที่จะลงมือเท่านั้น
“-กระแสพลังป้องกันของศัตรูลดลงเหลือ 80 เปอเซ็น-”
“-กระแสพลังป้องกันของศัตรูลดลงเหลือ 60 เปอเซ็น-”
“-กระแสพลังป้องกันของศัตรูลดลงเหลือ 40 เปอเซ็น-”
“-กระแสพลังป้องกันของศัตรูลดลงเหลือ 20 เปอเซ็น-”
….
ใกล้จะถึงเวลาที่จะลงมือแล้ว
ซู่เสี่ยวไปมองทุกอย่างผ่านเงา และจ้องมองไปยังร่างของจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ที่กำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ
ด้วยสายตาที่เฉียบคม และสัมผัสจิตวิญญาณของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้เห็นถึงแก่นกลางของร่างนี้ มันเป็นทรงกลม และหมุนด้วยความเร็วสูง
ถึงทำลายร่างนี้ไปได้มันก็ยังไม่ตายจริงๆ จำเป็นต้องทำลายไปให้ถึงแก่นแท้ของมัน และต้องจัดการในการโจมตีเดียว
“โห…ถึงกับเอาร่างจริงมาที่นี่เองเลยงั้นหรอ? เจ้าถึงกับถูกบีบให้ออกหน้าเองแบบนี้ จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนึ่งปฐพีก็คงไม่ได้มีน้ำยาเท่าไร”
จ้าวภัยพิบัติเป่ยเมยนั้นกล่าวอย่างประชดประชัน เธอนั้นมันใจมากว่าซู่เสี่ยวไป่จะติดกับดักแผนการของเธอ และคงไม่มีใครทำลายร่างหุ่นที่เธอสร้างขึ้นมาได้
ซู่เสี่ยวไป่ไม่พูดสิ่งใด เขาเอาแต่จ้องมองไปยังแก่นแท้ของร่างจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ด้วยแววตาที่แน่วแน่ ก่อนที่จะกระชับมีดทมิฬในมือ
อาคมป้องกันแก่นแท้นั้นรับรู้ได้ถึงสัมผัสมุ่งร้ายของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้จ้าวพิบัติเป่ยเมยถึงกับนิ่งเงียบ
นางรู้แล้วว่าซู่เสี่ยวไป่รู้จุดอ่อนของหุ่นเชิดของเธอแล้ว
แต่ก็ยังมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งอยู่ และการหมุนเวียนอย่างรวดเร็วสร้างเกราะป้องกันตัวที่ยากต่อการเจาะ หากไม่สามารถทำลายในครั้งเดียวได้ จะถูกแก่นนี้ดูดกลืนพลังทันที!
เขากล้าที่จะท้าทายกับพลังที่ตัวเองไม่รู้จักมาก่อน เป็นผู้ชายที่ไม่กลัวตายเลยจริงๆ
จ้าวภัยพิบัติเป่ยเมยคิดในใจ และสมเพชซู่เสี่ยวไป่ เมื่อรู้ว่าชายผู้นี้กำลังเข้ามาติดกับของนาง
แล้วเวลารอบๆ เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ดูช้าลงเรื่อยๆ กระแสพลังเริ่มเข้มข้นและกดดันมากขึ้น
ซู่เสี่ยวไป่มองเห็นสายธารแห่งการเวลาที่กำลังไหลผ่านเท้าของเขา ก่อนที่สายธารนี้จะเริ่มแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ทุกความจริงทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต เริ่มไหลย้อนกลับ พลังสวรรค์กว่าสามหมื่นเส้นทางก็ถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว
และทั้งสายธารแห่งการเวลาและพลังสวรรค์ มันได้ถูกดูดเข้าหามีดทมิฬทั้งหมด
ถึงเวลาแล้ว….
ฟิ้ว!!!
มีดทมิฬถูกแทงออกไปสุดแรงและเจาะเข้ากับแก่นแท้ของจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 เผ่าปีศาจเหมัน
มันกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และระเบิดออกทันที และกลายเป็นปีศาจเหมันตัวเล็กตัวน้อยนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งพยายามหลบหนีอีกด้วย
ซู่เสี่ยวไป่ไม่มีทางปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้อยู่แล้ว เขาให้เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยเงาที่รวมร่างกับมัน และไล่จัดการปีศาจเหมันทั้งหมด!
“-ติ๊ง!! ได้รับวิชาโบราณหนึ่งแสนห้าพันวิชา และวิชาภัยพิบัติหกร้อยห้าสิบวิชา-”
ของเหล่านี้มีค่าอย่างมากกับซู่เสี่ยวไป่ เขาไม่คิดเลยว่าจักรวรรดิปีศาจเหมันจะสร้างผลประโยชน์ให้เขามากขนาดนี้!
ต้องทราบก่อนว่าการบุกโจมตีจักรวรรดิระดับสูงหนึ่งแห่ง หรือสองแห่งยังไม่ได้วิชาภัยพิบัติมากเท่านี้เลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้ซู่เสี่ยยวไป่เริ่มให้ความสนใจกับพื้นที่กลืนกินในคลิกเดียว แล้วในช่วงเวลาแบบนี้วิชาภัยพิบัติก็หายากมากขึ้น เพราะงั้นความสามารถนี้มีประโยชน์กับเขามาก
“ต่อไปก็ถึงเวลาที่จะชำระหนี้กันหน่อยแล้ว จ้าวภัยพิบัติเป่ยเมย!!”
ซู่เสี่ยวไป่กำหมัดขึ้น และส่งเงามุ่งตรงไปยังที่อยู่ของจ้าวภัยพิบัติเป่ยเมยทันที โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ในจักรวรรดิปีศาจเหมันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดเวลา มีพระราชวังแห่งหนึ่งมีสีขาวและส่องเป็นประกายระยิบระยับ ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น
ในห้องบัญชาการจ้าวภัยพิบัติเป่ยเมยนั้นเฝ้ามองดูซู่เสี่ยวไป่ทุกอย่างผ่านอุปกรณ์วิเศษ ด้วยสีหน้าเจ็บแค้น
“เจ้าพวกสัตว์ชั้นต่ำจากโลกเบื้องล่าง ครั้งนี้แกแค่โชคดีเท่านั้น ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปข้าจะให้แกต้องจมอยู่ใต้ความกลัวของข้าตลอดการ ฮ่าๆๆ”
จ้าวภัยพิบัติเป่ยเมยนั้นหัวเราะอย่างชอบใจ
ก่อนจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิปีศาจเหมัน กางแขนออกและสลายหายไป
นางกำลังหนีอย่างสุดกำลัง!
“หนี!?”
ซู่เสี่ยวไป่ที่เห็นก็ถึงกับตกตะลึง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะชิงหนีก่อนแบบนี้โดยที่เขายังไม่เริ่มบุกจริงๆ จังๆ เลยด้วยซ้ำ
แล้วซื่อหลิงก็ติดต่อเข้ามา
“นายท่านตามข้อมูลที่ได้รับมา กองกำลังของจักรวรรดิปีศาจเหมันถูกนายท่านจัดการไปเกือบหมดแล้ว เพราะงั้นจ้าวภัยพิบัติเป่ยเมย เลยไม่เหลือขุมกำลังไหนอีกแล้ว ไม่แปลกที่นางจะหนี”
น่าเบื่อชะมัด!
ซู่เสี่ยวไป่บ่นในใจ ก่อนที่เขาจะอารมณ์ดีขึ้น
เนื่องจากจักรวรรดิปีศาจเหมันไม่ต่างจากขุมสมบัติก้อนโต
ยังมีสายแร่ผนึกต้นกำเนิดอยู่อีก และมีแร่อีกหลายชนิดที่ล้ำค่ามาก และยังมีสุสารและซากโบราณสถานที่ยังไม่ถูกขุดพบอีก
ในฐานะจักรพรรดินีของจักรวรรดิก็ยังไม่สามารถสำรวจพื้นที่ทั้งหมดได้ แม้จะปกครองจักรวรรดิมาหลายปีแล้วก็ตาม ทำให้สมบัติทั้งหมดยังไม่ถูกค้นพบ และถูกแตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่ามูลค่าของมันจะมากมายมหาศาลขนาดไหน
ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ยึดดินแดนแห่งนี้ได้แล้ว และเขาจะไม่เสียเวลาแม้แต่การไปนำซื่อหลงกับเฉี่ยวเห้อมาที่นี่ด้วยซ้ำ