(ฟรี) ตอนที่ 78 แต่งกับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ?
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 78 แต่งกับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ?
แน่นอนว่าซาสึเกะไม่ได้จะชักอาวุธเล่นจริง
ต้องไม่ลืมว่า เมื่อทำลงไปแล้ว หากเจ้าไม่ยั้งใจ... พอมีครั้งต่อไปความตื่นเต้นจะลดลงอย่างแน่นอน!
แต่ถึงจะเป็นแค่การกระตุ้นอารมณ์อย่างเดียว แต่ทำให้พัฒนาได้หลายครั้ง จากที่ทำเพียงครั้งเดียวแล้วได้ผลน้อยลง
แม้นว่าซาสึเกะจะไม่ได้พัฒนาเนตรวงแหวนขึ้นมันตาเห็น แต่เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
เขาจะปล่อยใจไปละกัน ถือซะว่าเป็นการบรรเทาความเหนื่อยล้าที่แอบแฝงอยู่ในร่างกาย เคริบเคริ้บกับสัมผัสอันนุ่มนวลก็พอ...
"นี่อาจจะเป็นหนทางในการพัฒนาเนตรวงแหวนได้ไหม?" ซาสึเกะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที: "ถึงครั้งนี้ข้าจะล้มเหลว แต่ถ้าข้าพยายามต่อ คราวข้าอาจจะยกระดับเนตรวงแหวนได้ก็ได้!"
ความอัปยศสามารถกระตุ้นความก้าวหน้าของพลังเนตรได้จริงๆ!
ซาสึเกะแสดงในสิ่งนี้ทันที
แน่นอน เขารู้สึกว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เขาล้มเหลวในการยกระดับพลังเนตรคือนารูโตะ
ในตอนแรกนารูโตะกัดฟันและเอาแต่จ้องซาสึเกะอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว —เขาไม่มีเงิน เขาทำอะไรไม่ได้ จึงบอกว่าอยากออกไป
นารูโตะ: ข้าจะอยู่ดูทำเพื่อ?
ซาสึเกะจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาได้ให้คำมั่นสัญญามากมาย
ไม่ว่าจะเลี้ยงมันฝรั่งทอด ซื้อการ์ตูน ซื้อไอศกรีม บาร์บีคิว...
แต่เขารั้งนารูโตะไว้ได้แค่ชั่วครู่ และสุดท้ายหมอนั่นก็ทนไหวได้อยู่ดี บอกว่าไม่อยากได้แล้วจากไป
ซาสึเกะได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจากไปเช่นกัน
"เอานารูโตะมาด้วยครั้งหน้า ข้าน่าจะยกระดับพลังเนตรได้!" ซาสึเกะคิดกับตัวเอง
แน่นอน เขายังถือว่านารูโตะเป็นเครื่องมือ หลังจากออกจากหอโคมแดง เขาก็ตรงไปที่ย่านการค้าแล้วเริ่มซื้อของอร่อยๆ ทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อดับไฟที่สซุ้มอยู่ในอกของนารูโตะ
ซาสึเกะรู้สึกว่าของพวกนี้น่าจะคืนดีกับนารูโตะได้ คราวหน้าเขาน่าจะสามารถลากนารูโตะมาได้อีก
จากนั้นยกระดับพลังเนตรได้แน่!
แต่นารูโตะกลับคิดอีกอย่าง
"ข้าต้องเก็บตังค์!" นารูโตะแอบกระตุ้นตัวเอง: "คราวหน้าข้าต้องไม่เป็นฝ่ายดูคนเดียว!"
"ข้าเองก็... อยากจับมั้ง!"
แค่มองจากข้างสนามนั้นรู้สึกน่าสมเพชซะไม่มี มันช่างน่าสมเพชเสียจนรับไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะฟางเส้นสุดท้ายหัวใจยังไม่ขาด เขาคงลักพาตัวเด็กสาวของชาวบ้านแล้ว!
สำหรับตอนนี้...
กิน!
กิน!
“กินให้อิ่มอ่ำ กินเผื่อเย็นนี้ ข้ามไปกินมื้อเช้า…”
นารูโตะกัดเนื้อเสียบไม้เข้าไปคำใหญ่ รู้สึกพอใจมาก
เมื่อเห็นท่าทาง 'มีความสุข' ของนารูโตะ ซาสึเกะก็รู้สึกพอใจมากเช่นกัน
มิตรภาพระหว่างเพื่อนเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว...
และในเวลาเดียวกัน
ตระกูลอุจิวะได้ต้อนรับแขกที่ไม่คาดคิด
“สวัสดีครับ ท่านนัตสึฮิโกะ ผมมาเยี่ยมครับ”
คุรามะ อุนไกและคุรามะ ยาคุโมะใส่ชุดกิโมโน โค้งตัวคำนับนัตสึฮิโกะอย่างน้อบน้อม
หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจมา!
ไม่มีทางเลือก ปรมจารย์วิชาลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดของโคโนฮะ คุเรไนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงมีเพียงตระกูลอุจิวะเท่านั้นที่น่าจะแก้ปัญหาได้!
“สวัสดีครับ ผู้นำตระกูลคุรามะ ตระกูลอุจิวะยินดีต้อนรับ” นัตสึฮิโกะเอ่ยต้อนรับทั้งสองด้วยคำพูดตามมารยาท
หรืออันที่จริงแล้ว นี่เป็นงานเดียวของนัตสึฮิโกะก็ว่าได้ นอกจากการมีลูกและดูแลอาณาจักรธุรกิจของตระกูลอุจิวะ
ผู้นำตระกูลยังมีหน้าที่ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำตระกูลนินจาต่างๆ!
เขานำทางคุรามะ อุนไกและคุรามะ ยาคุโมะไปยังห้องรับแขก
หลังจากดื่มชาไปไม่กี่คำ อุนไกก็ไม่ปิดบัง กล่าวคำขอของตัวเองทันที
“ผมหวังว่าท่านจะช่วยยาคุโมะได้ครับ” อุนไกก้มหัวแล้วพูดเสียงต่ำ: "นี่เป็นความหวังเดียวสำหรับตระกูลคุรามะของเรา ตระกูลอุจิวะมีประวัติศาสตร์และมรดกอันยาวนาน ท่านเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาของหลานสาวของผมได้!"
"ได้โปรดเถอะครับ!"
พูดจบก็โค้งคำนับทันที
"ยาคุโมะ... ขอผมดูสถานการณ์ก่อนนะครับ" นัตสึฮิโกะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด
ระหว่างที่พูด เขาก็เดินไปหายาคุโมะ มองหญิงสาวที่พิเศษคนนี้อย่างมั่นใจ
คุรามะ ยาคุโมะ สวยมาก อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ออกไปไหนนาน ผิวของเธอจึงขาวมาก ถึงกับออกซีด และผมสีน้ำตาลแดงของเธอตัดกันอย่างงดงาม
แค่ผิวขาวก็ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นงดงามแล้ว
ไม่ว่าจะขี้เหร่แค่ไหน พวกเธอก็จะสวยเพราะความขาว นับประสาอะไรกับรูปร่างหน้าตาของยาคุโมะสวยมากอยู่แล้ว
เธอถือว่าเป็นสาวสวยอันดับต้นๆ ในฮาเร็มของเขาที่มีอยู่มากมาย
นัตสึฮิโกะบีบมือ กดกล้ามเนื้อ แล้วเปิดเนตรใหม่ จ้องมองเข้าไปในดวงตาเธออย่างระมัดระวัง......
"พลังจิตแข็งแกร่งมาก" นัตสึฮิโกะถอนมือออก: "ถึงเธอจะไม่ขยับ เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันแผ่วเบา... เด็กสาวคนนี้น่าจะมีพรสวรรค์สูงสุดในตระกูลคุรามะของเจ้า"
"ใช่ครับ เป็นเรื่องจริง" อุนไกยิ้มอย่างขมขื่น: "แต่เป็นเพราะเธอมีพรสวรรค์สูงเกินไปจนร่างกายของเธอรับไม่ไหว"
สถานการณ์ของยาคุโมะนั้นง่ายมาก - พลังจิตแข็งแกร่งเกินไป กดดันร่างกาย!
วิธีการฝึกฝนของตระกูคุรามะนั้นเกี่ยวข้องกับวิชาลวงตา ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไหร่ พลังจิตก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ในทางกลับกัน มันจะยิ่งกดดันร่างกายของมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และช่องว่างระหว่างร่างกายกับจิตใจก็จะยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าตระกูลคุรามะก็คิดถึงการฝึกฝนร่างกายเช่นกัน
แต่ภายใต้อิทธิพลของพลังจิตที่ทรงพลังจนกดขี่ร่างกายแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่ร่างกายที่อ่อนแอจะทนได้กับการฝึกฝน...
กลายเป็นปมที่แก้ไม่หายของตระกูลคุรามะ!
"แต่ยาคุโมะเป็นความคาดหวังจากทั้งตระกูล เธออยากจะแข็งแกร่งขึ้น และอยากจะฝึกฝนอยู่เสมอ... สุดท้าย ทำให้เกิดหายนะนั่น" คุรามะ อุนไกเงียบไปครู่หนึ่ง และในที่สุดร่างกายที่รับไม่ไหวก็ทำให้ปลดปล่อยปีศาจจากจิตใต้สำนึกออกมาฆ่าพ่อแม่ของเธอ
ยาคุโมะไม่เชื่อ เธอเชื่อว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ต้องการฆ่าเธอ
ทุกคนเห็นการท่าท่างของเธอ แต่ไม่มีใครสนใจ
ต้องไม่ลืมว่า ผู้ป่วยทางจิตมักพูดเสมอว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ป่วยทางจิต หนำซ้ำนี่ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากมาก
รากฐานของมันคือพลังจิตที่แข็งแกร่งเกินไปจนร่างกายของเธอที่ไม่สามารถฝึกฝนได้!
"เราปิดผนึกพลังจิตของยาคุโมะได้ไหม?" นัตสึฮิโกะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ผมไม่มีวิธีที่จะทำให้ร่างกายของเธอแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพราะงั้น ในขณะที่ปิดผนึกพลังจิต ผมจะฝึกร่างกายของเธอจนกว่าจะมีร่างกายแข็งแกร่งพอที่จะรองรับพลังจิตได้"
"นี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด"
“โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ก็พูดแบบนี้เหมือนกัน แต่…” อุนไกหยุดชั่วขณะ: “ไม่มีใครในโคโนฮะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้”
ในตอนแรกเขาและโฮคาเงะรุ่นที่ 3 มองหาคุเรไนเพื่อแก้ปัญหานี้
แต่สุดท้ายเธอก็ล้มเหลวเช่นกัน
เมื่อเผชิญกับพลังจิตอันแข็งแกร่งของตระกูลคุรามะ ยาคุโมะและปีศาจที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอ ถึงกับทำให้คุเรไนหมดกำลัง
“ถ้างั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” นัตสึฮิโกะพูดอย่างสงบ: "แต่เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับผมแล้ว ผมสามารถให้ยาคุโมะไปที่ห้องเก็บคัมภีร์นินจาของตระกูลอุจิวะของข้าเพื่อค้นหาบันทึกเกี่ยวกับพลังจิตได้ บางทีอาจจะช่วยเป็นประโยชน์กับเธอได้บ้าง"
ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล?
ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอะไร?
ด้วยความแข็งแกร่งของนัตสึฮิโกะ เขาคงไม่มีทางแก้ปัญหาที่คุเรไนแก้ไม่ได้หรอก
แต่ทำไมต้องพยายามให้เหนื่อยด้วย?
การแก้ปัญหาของยาคุโมะนั้นต้องใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งกว่าของยาคุโมะ ต้องเป็นนินจาระดับสูงที่เชี่ยวชาญด้านคาถาลวงตาถึงจะยับยั้งพลังจิตของยาคุโมะได้
หากทำแบบนี้ เขาจำเป็นต้องเปิดเผยพลัง
นัตสึฮิโกะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขาจึงไม่สนใจเรื่องการซ่อนตัวมากนัก
แต่สีหน้าของผู้นำตระกูลคุรามะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ค่อยดีนัก!
ให้ยาคุโมะอยู่ตรวจสอบบันทึกที่ตระกูลอุจิวะ นั่นเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับพวกเขาอย่างยิ่ง
“ยังไงซะ ต่อให้ข้าช่วยยาคุโมะ เธอก็แต่งงานกับข้าไม่ได้” นัตสึฮิโกะพูดอย่างเฉยเมย: "งั้นช่วยเธอ ตอนข้าเปิดเผยตัวในอนาคตแล้วกัน!"
คุรามะ ยาคุโมะเป็นทายาทที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดของตระกูลคุรามะ เขาไม่มีทางแต่งงานแบบส่งเดชได้
ไม่ต้องพูดถึงว่า ยาคุโมะยังไม่เด็กมาก เธอยังโตไม่เป็นผู้ใหญ่ ยังไม่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ที่ดีที่สุด กล่าวคือเธอยังไม่ถึงวัยแต่งงาน
และแน่นอน เขาไม่อยากเห็นหญิงสาวน่ารักคนนี้ดูเป็นคนป่วย
งั้น คราวหน้าค่อยช่วยวิธีแก้ปัญหานี้แล้วกัน
แต่น่าจะไม่นานเกินรอ ตามต้นฉบับ โอซึซึกิ คางูยะจะปรากฏตัวในอีกสี่ปี
และเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศแห่งสงครามโลกนินจาครั้งที่สี่ที่อาจจะเริ่มขึ้นเมื่อใดก็ได้ งั้นเอาไว้ คราวนี้แล้วกัน
ยาคุโมะจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นแน่นอน เพราะงั้น จึงไม่เป็นปัญหาใหญ่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นัตสึฮิโกะก็ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบอย่างใจเย็น
เขากำลังจะพูดส่งแขก
แต่กลับคาดไม่ถึงก็คือ
ผู้นำตระกูลคุรามะที่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูด
“ผู้นำตระกูลอุจิวะ นัตสึฮิโกะ หากผมยอมให้คุรามะ ยาคุโมะแต่งงานกับท่าน ท่านจะช่วยเธอแก้ปัญหานี้ด้วยกำลังทั้งหมดได้รึไม่?”
พูห์!
นัตสึฮิโกะพ่นชาเต็มปาก
เขามองไปที่คุรามะ อุนไกที่มีสีหน้ามุ่งมั่น จากนั้นมองไปที่คุรามะ ยาคุโมะที่งุดหน้าลงเล็กน้อยและกำลังดูเขินอาย
"ว่าอะไรนะ?
แต่งกับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ? (น่าจะอายุ 14-15 ปี)