ตอนที่ 343 แก๊งค์เด็กแสบ
ตอนที่ 343 แก๊งค์เด็กแสบ
ในตอนแรกพวกเขาก็หักห้ามใจไม่ใช้พลังพิเศษของตัวเองเอาไว้ เพราะเกรงว่ามันอาจจะเกิดความเสียหายที่ร้ายแรงเกินกว่าสิ่งที่พวกเขาจะรับผิดชอบได้
น่าเสียดายที่เมื่อการต่อสู้ได้ดำเนินผ่านไปฝ่ายที่ถูกทุบตีก็เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว พวกเขาจึงเริ่มใช้พลังพิเศษออกมาทีละน้อยจนเริ่มมีสายฟ้า, ก้อนหินและน้ำแข็งกระเด็นกระจัดกระจายออกไปรอบ ๆ บริเเวณ นอกจากนี้มันก็มีแม้กระทั่งคนที่ปล่อยแรดออกมาท่ามกลางวงต่อสู้ จนทำให้สถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม
เหล่าบรรดาฝูงชนที่กำลังเฝ้าดูต่างก็พยายามหลบหลีกออกไปทีละคน ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็กำลังยืนวิเคราะห์การต่อสู้ของหนุ่มสาวเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กับอันธ โดยไม่คิดที่จะหลบหลีกเลยแม้แต่นิดเดียว
ปกติผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเทศกาลขนาดใหญ่แบบนี้ได้ก็สมควรจะต้องเป็นคนที่มีสถานะในสมาพันธ์โดดเด่นมากเป็นพิเศษ แต่พลังการต่อสู้ของกลุ่มจัสทิสหนุ่มเรียกได้ว่าพวกเขาไม่ต่างไปจากพวกมือใหม่เลย
“ทักษะการต่อสู้ของเด็กหนุ่มพวกนั้นธรรมดามาก ฉันไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้รับบัตรเชิญมาเข้าร่วมงานเทศกาลครั้งนี้ได้ยังไง? ดูนั่นสิพวกเขาถูกพวกเฮอร์มิทล้อมเอาไว้หมดแล้ว แบบนี้อีกไม่นานพวกเขาก็คงจะพ่ายแพ้อย่างหมดรูป” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไอ้เด็กพวกนี้มันมือใหม่ชัด ๆ ฉันขอบอกได้เลยว่าแม้แต่ศิษย์ที่อ่อนแอที่สุดในสำนักก็สามารถเอาชนะไอ้เด็กพวกนี้ได้ง่าย ๆ” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างทนไม่ได้เหมือนกัน
ทันใดนั้นเองชายหนุ่มคนหนึ่งจากสมาพันธ์เฮอร์มิทก็ถูกกระแทกจนกระเด็นเซออกมาทางเซี่ยเฟย ซึ่งเขาก็เอื้อมมือออกไปรับชายหนุ่มคนนี้เอาไว้โดยอัตโนมัติ ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ชอบพวกกลุ่มอันธพาลจากสมาพันธ์จัสทิสอยู่เหมือนกัน แล้วเขาก็หวังว่าพวกหนุ่มสาวจากสมาพันธ์เฮอร์มิทจะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ
แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะตีความว่าเซี่ยเฟยมีเจตนาร้าย เขาจึงได้พ่นลูกบอลเปลวไฟออกมาจากปากเพื่อทำการจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟย
ตูม!
ลูกบอลเปลวไฟขนาดใหญ่ปะทะเข้าใส่หน้าอกของเซี่ยเฟยอย่างจัง จนทำให้ชุดกีฬาที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปอย่างฉับพลัน
โชคดีที่ด้านในเขาได้ใส่ชุดเกราะบลีดดิ้งก็อดเอาไว้ มันจึงทำให้ใบหน้าของเขามีคราบดำขึ้นมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่การเผาไหม้ก็ทำให้คิ้วของชายหนุ่มถูกเผาจนแหว่งไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“หื้อ!!?”
“ไอ้พวกบ้า! นี่พวกแกอยากตายมากนักใช่ไหม?!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด
เมื่อเซี่ยเฟยปรารถนาดีตั้งใจจะยื่นมือออกไปรับเฮอร์มิทอย่างจริงใจ แต่เขากลับถูกเผาด้วยลูกไฟมันจึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างควบคุมไม่อยู่
“ไอ้บ้าเอ้ย!” เซี่ยเฟยส่งเสียงคำรามพร้อมกับตบหน้าของเฮอร์มิทที่ปล่อยลูกไฟใส่เขาอย่างรุนแรง ทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานมันก็มีรอยนิ้วมือทั้งห้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฮอร์มิทคนนั้น
ฟู่ว!
เฮอร์มิทหนุ่มยังคงพยายามเผาเซี่ยเฟยด้วยลูกไฟของเขาต่อไป อย่างไรก็ตามครั้งนี้เซี่ยเฟยก็ได้ถีบเฮอร์มิทคนนั้นเข้าไปที่ท้องจนทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปไกลนับ 10 เมตร
เซี่ยเฟยพยายามเช็ดคราบดำบนใบหน้าด้วยแขนเสื้อ แต่ในทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่ามีแววตาอันดุร้ายหลายสิบคู่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ และเมื่อเขาได้หันศีรษะกลับไปเขาก็ได้พบว่าพวกจัสทิสตัวแสบถูกทุบตีจนนอนลงไปครวญครางกับพื้นหมดแล้ว ในขณะที่พวกเฮอร์มิทก็คงจะมองเขาเป็นพวกเดียวกันกับจัสทิสเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
เซี่ยเฟยจำสิ่งที่ทูรามเคยเตือนเอาไว้ได้ว่าระหว่างงานเทศกาลเขาต้องพยายามไม่สร้างปัญหา แต่ก่อนที่เซี่ยเฟยจะเล่าเรื่องโกหกที่คิดออกไป ทันใดนั้นมันก็มีเสียงตะโกนขึ้นมาจากฝูงชน
“เขาเป็นจัสทิส! เขาจะต้องเป็นพวกเดียวกันกับพวกนั้นแน่ ๆ”
ทันทีที่เสียงปริศนาพูดจบลงร่างทั้งสิบร่างก็พุ่งเข้าหาเซี่ยเฟยโดยไม่พูดอะไรสักคำ ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแต่พยายามเก็บความหงุดหงิดเอาไว้ในใจ เพราะจู่ ๆ เรื่องวุ่นวายมันกลับวิ่งเข้ามาหาเขาเอง
“ฉันเป็นเพียงแค่บรรณารักษ์ตัวเล็ก ๆ ในห้องสมุดไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกจัสทิสกลุ่มนั้นเลย”
เซี่ยเฟยพยายามอธิบายในระหว่างที่เขาใช้เล่ห์กายาเคลื่อนไหวหลบหลีกการจู่โจมของพวกเฮอร์มิท แต่น่าเสียดายที่กลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นไม่คิดที่จะรับฟังคำแก้ตัวของเขาเลยแม้แต่น้อย
บรรณารักษ์ที่ไหนจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังจู่โจมหนึ่งในพวกเขาอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ว่าจะมองจากมุมไหนชายหนุ่มก็กำลังพูดโกหกอยู่ พวกเขาจึงเริ่มพยายามใช้การโจมตีทุกวิถีทางโดยพยายามจะสั่งสอนเซี่ยเฟยให้ได้
เหตุการณ์ในปัจจุบันยิ่งทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อคนพวกนี้ไม่คิดที่จะรับฟังคำแก้ตัวของเขาเลย เขาจึงคิดที่จะยุติเรื่องทั้งหมดด้วยกำลัง
“ลงไปนอนสงบสติอารมณ์ซะ!”
เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับเริ่มขยับร่างกายจากการหลบหนีเปลี่ยนเป็นการโจมตีเข้าจุดสำคัญ
เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ! …
กว่าที่พวกเฮอร์มิทจะทันได้รู้ตัวร่างกายของเซี่ยเฟยก็หายไปจากจุดนั้นอย่างฉับพลัน จากนั้นไม่นานพวกเขาก็รู้สึกว่าถูกตบเข้าที่ใบหน้าและเตะตัดขาจนทำให้ร่างของพวกเขาคุกเข่าลงไปกองกับพื้น
“นายทำได้ดีมาก!”
“นายอยู่แผนกไหน? เดี๋ยวฉันจะขอให้คุณพ่อตอบแทนรางวัลกับนายอย่างสาสม”
“นายได้อยู่ในแผนกบุคคลหรือเปล่า? เดี๋ยวฉันจะบอกให้พ่อเลื่อนตำแหน่งของนายให้”
เหล่าบรรดาจัสทิสตัวแสบที่เคยนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นกลับมาพูดอย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่เซี่ยเฟยสามารถจัดการกับคู่อริของพวกเขาได้ในครั้งเดียว
เซี่ยเฟยอยากจะกระทืบพวกตัวแสบพวกนี้ให้นอนสลบลงไปอยู่ที่เดิม แต่พวกเขาติดตราสัญลักษณ์ของสมาพันธ์จัสทิสเอาไว้จริง ๆ ชายหนุ่มจึงไม่สามารถที่จะลงมือทำอะไรอย่างบุ่มบ่ามได้
ยิ่งไปกว่านั้นหากพิจารณาให้ดี ๆ เด็กพวกนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่ติดตราสัญลักษณ์จัสทิสดาวเงินและดาวทองแดง ในขณะที่เซี่ยเฟยมีเพียงแค่ตราสัญลักษณ์ของจัสทิสระดับฝึกหัดเท่านั้น ซึ่งมันก็หมายความว่าระดับในสมาพันธ์ของเขาต่ำกว่าพวกตัวแสบพวกนี้เสียอีก
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสมาพันธ์จัสทิส ทำไมไอ้พวกตัวแสบพวกนี้ถึงขึ้นมาเป็นจัสทิสระดับดาวเงินได้?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจอย่างหดหู่
หลังจากที่เจ้าพวกตัวแสบเริ่มด่าทอเฮอร์มิทที่หมดทางสู้อย่างไร้อย่างอาย พวกเขาก็มารวมตัวกันข้าง ๆ เซี่ยเฟยราวกับว่าชายหนุ่มเป็นพี่น้องในแก๊งเดียวกันกับพวกเขา
เซี่ยเฟยทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าและตั้งใจที่จะหลบหนีพวกตัวแสบออกไปไกล ๆ แต่ในทันใดนั้นเองมันก็มีกลุ่มคนสวมชุดเครื่องแบบในสมัยโบราณเดินเข้ามาส่งเสียงตะโกนท่ามกลางฝูงชน
“ใครมันกล้ามาสร้างความวุ่นวายในงานเทศกาลของสมาพันธ์! รีบจับกุมพวกมันทั้งหมดเดี๋ยวนี้เลย!!”
—
ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ถูกจับเข้ามาขังในคุกอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระมากที่สุดเท่าที่เขาเคยถูกจับขังคุกตั้งแต่ครั้งก่อน ๆ
คนอื่นทะเลาะกัน แต่เขาถูกจับขังคุกเนี่ยนะ?
“นายนี่เป็นพวกดวงสมพงษ์กับคุกจริง ๆ ตอนนี้นายเข้าคุกมาแล้วกี่ครั้งกันนะ?” อันธกล่าวพร้อมกับนับนิ้วตัวเองอย่างหยอกล้อ
“นี่นายไม่คิดว่าฉันจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิตใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับกรอกตาไปทางอันธ
“ไม่ว่านายจะพูดอะไรผลลัพธ์ก็คือนายถูกจับเข้ามาขังคุกอยู่จริง ๆ เอาเถอะถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่และนายก็มีประสบการณ์ในการถูกขังคุกอยู่แล้วนิ” อันธกล่าว
การกระทำของอันธถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก และถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ใช่วิญญาณเขาก็คงจะกระโดดเตะอันธด้วยความหงุดหงิดไปแล้ว
เซี่ยเฟยนั่งจุดบุหรี่อยู่บริเวณมุมห้องขังด้วยความหดหู่ แต่เจ้าพวกกลุ่มตัวแสบไม่ได้รู้สึกสลดเลยแม้แต่น้อย โดยในตอนนี้พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังพูดคุยด้วยเสียงหัวเราะอย่างแจ่มใส ราวกับว่าพวกเขาเป็นคนจัดการกับพวกเฮอร์มิทกลุ่มเมื่อสักครู่นี้เอง
“พี่เซี่ยเฟยไม่ต้องกังวล อีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องปล่อยพวกเราออกไป เพราะถ้าหากว่าพวกเขาขังพวกเราเอาไว้ ฉันก็จะเป็นคนทำให้พวกเขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
หลังจากที่ทุกคนได้แนะนำตัวกันสั้น ๆ เซี่ยเฟยก็จำได้ว่าคนที่กำลังพูดคุยกับเขาชื่อ ‘มังกี้’ ซึ่งดูภายนอกเขามีอายุเพียงแค่ประมาณ 15 ปีเท่านั้น ที่สำคัญคือก่อนการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นเด็กหนุ่มคนนี้คือคนที่ตะโกนส่งเสียงออกมาดังที่สุด แต่ในระหว่างการต่อสู้เขากลับวิ่งหนีหายไปจากการทะเลาะวิวาทหน้าตาเฉย
ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยจัดการกับพวกเฮอร์มิทพวกนั้น มังกี้ก็คงจะวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว
“ไอ้พวกนี้มันไม่รู้ซะแล้วว่าพ่อฉันเป็นใคร? ถ้าพวกมันกล้าทำให้ฉันไม่พอใจฉันจะให้พ่อบอกให้พวกมันมากราบร้องขอความเมตตาแทบเท้าของฉัน!” มังกี้กล่าวขึ้นมาอย่างดุร้ายพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นไปบนท้องฟ้า
***************
ไม่ได้ทำตัวเด่นนะ แต่มีคนมาหาเรื่องก่อนเองเน๊าะ 5555