บทที่ 208: เครื่องดื่มที่ทีมชาติเลือกแล้ว: ชายามว่างชิงหลิน!
หลังจากได้ยินข่าวตัวแทนของทั้งสามแบรนด์คือฉือเหล่ย อู๋เฟย และเผิงซานก็ไม่เหลืออารมณ์กินข้าวอีกต่อไป
ปรากฏการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ทำให้พวกมันหดหู่ใจสุด ๆ
เผิงซานรีบถามอย่างกระวนกระวาย “ตกลงมันเรื่องอะไรกัน? พวกลูกค้ามันสติแตกกันหมดแล้วรึไงวะ! เสียเงินเพิ่มขวดละตั้งสามหยวนแต่ยังจะไปเหมาอีกเนี่ยนะ!”
ผู้ช่วยจึงยื่นมือถือให้ดูด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “เพราะคลิปนี่ครับ มีคนพบว่าชายามว่างชิงหลินมีผลพิเศษ”
ทั้งสามก็ดูคลิปด้วยกันทันที
คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่เล่าถึงความพิเศษของชายามว่างชิงหลิน
หลังจากที่คลิปวิดีโอของหวางหยางได้รับความนิยมสื่อหลายสำนักได้รีโพสต์กันยกใหญ่
เมื่อทั้งสามคนเห็นคำค้นหายอดนิยมต่างก็มีสีหน้าเหมือนถูกบังคับให้เอาอุจจาระยัดปาก
เห็นบอกว่าเครื่องดื่มนี่มีผลในการฟื้นฟูพละกำลัง พวกมันทั้งสามก็คิดว่าแค่เหมือนกับแบรนด์ที่พวกตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายซึ่งแค่โฆษณาโอ้อวดส่วนผสมเท่านั้น
อย่างคนที่กำลังจะตายแล้วได้ดื่มเครื่องดื่มไปขวดหนึ่งกลับสามารถลุกขึ้นมาเดินได้โดยตัวเบาไม่ต่างจากบินอยู่ แถมยังวิ่งต่ออีกร้อยเมตรได้สบายบรื๋อ ใครดูก็รู้ว่าปัญญาอ่อน
แต่เกิดอะไรขึ้นกับชายามว่างชิงหลิน? ทำไมเหมือนผลลัพธ์มันเป็นของจริงเลยล่ะ!
อู๋เฟยรีบสั่งผู้ช่วย “ไปซื้อชายามว่างชิงหลินมาซักแพคนึงซิ!”
แล้วผู้ช่วยก็จากไปทันที ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะกลับมาด้วยอาการเหนื่อยหอบพร้อมชายามว่างชิงหลินสามขวด “ผมหาซื้อในตลาดไม่ได้เลยครับเพราะว่าของหมดแล้ว สามขวดนี่ผมต้องไปขอซื้อต่อจากลูกค้าคนอื่นขวดละหลายเท่าเลย”
ชายามว่างชิงหลินขายได้ถึงระดับที่โคตรบ้าคลั่งในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นข่าวร้ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คนเหล่านี้เป็นตัวแทนอยู่
จากนั้นคนทั้งสามก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางพร้อมกับชายามว่างชิงหลินคนละขวด คนหนึ่งไปโรงแรม คนหนึ่งไปคลับ อีกคนกลับบ้าน
แน่นอนว่าเพราะต้องการทดสอบผลของชายามว่างชิงหลินด้วยตัวเอง
โลกออนไลน์
เมื่อคลิปวิดีโอของหวางหยางกลายเป็นไวรัลและนำไปสู่การซื้อชายามว่างชิงหลินอย่างบ้าคลั่ง ผู้คนจำนวนมากได้ออกมายืนยันผลที่หวางหยางเคยว่าไว้ มีไม่น้อยที่ถึงกับโพสต์คลิปวิดีโอเปิดหน้ายืนยันกันเลยทีเดียว
คนที่ออกมาโพสต์คลิปบางคนให้แฟนหรือไม่ก็เมียตัวเองเข้ากล้องมาด้วยโดยให้เธอถือชายามว่างชิงหลินจนดูไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกมันต้องการออกมาช่วยโฆษณาให้ชายามว่างชิงหลินหรือว่าต้องการอวดผู้หญิงของตนกันแน่ว่าตัวเองมีแฟนมีเมียสวย
จากนั้นอีกไม่กี่วันชายามว่างชิงหลินแทบจะเดือดสุด ๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังน่าเสียดายที่นอกจากแพลตฟอร์มการสั่งของออนไลน์ที่มีการจำกัดจำนวนต่อวันของบ้านไร่ออฟฟิเชียลแล้วก็ไม่มีช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ให้สั่งซื้ออีก
ทำให้มีผู้คนนับไม่ถ้วนอยากซื้อมาก ๆ แต่ก็หาซื้อไม่ได้
ยกเว้นก็แต่เมืองหลวงของมณฑลฝูเจี้ยน
เมื่อฉินหลินกับเติ้งกวงตกลงให้หวางหยางเป็นตัวแทนจำหน่ายในตอนแรกก็วางแผนไว้ว่าจะตีตลาดเมืองหลวงที่มีประชากร 8 ล้านคนก่อน
ในตลาดทุนของมณฑลฝูเจี้ยน ส่วนแบ่งการตลาดของชายามว่างชิงหลินได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วราวกับม้าป่าที่กำลังห้อตะบึง
เจียงหลิงหลิงกับเหล่าสาว ๆ ไนต์คลับต่างมีแรงจูงใจกันมาก พวกเธอใช้เวลาทั่งวันไปกับการนับจำนวนออเดอร์และได้เห็นว่ากำไรของตนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเธอแต่ละคนรู้สึกว่านี่มันช่างสนุกเหลือเกิน สนุกกว่าไปเที่ยวไนต์คลับอีก
แต่ก็มีคนที่ไม่สนุกนั่นคือตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ทั้งสามเนื่องจากต้องมานั่งทนมองยอดออเดอร์ของตนที่ลดลงแล้วลดลงอีก
โดยเฉพาะย่านซานฟางชีเซี่ยงที่ส่วนแบ่งทางการตลาดสามารถรักษาไว้ได้แค่ 50% ของยอดเดิมเท่านั้น
นี่เท่ากับเป็นการบอกว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสามของพวกตนถูกชายามว่างชิงหลินแย่งส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่าครึ่งในพื้นที่นี้
และหากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ส่วนแบ่งจะยังคงลดลงเรื่อย ๆ แน่นอน
มันคือหายนะที่แท้ทรู และเมื่อลองเช็กตลาดของทั้งเมืองหลวงแล้วบอกได้เลยว่าส่วนแบ่งในเขตอื่น ๆ ได้เริ่มถูกโจมตีแล้วเหมือนกัน
อีกทั้งทั้งสามได้ทดสอบผลของชายามว่างชิงหลินด้วยตัวเองแล้วด้วย สรุปคือไม่มีใครคิดว่าแบรนด์ที่ตัวเองเป็นตัวแทนอยู่จะสามารถเป็นคู่แข่งกับชายามว่างชิงหลินได้เลย แต่ที่ทำได้ก็แค่จัดประชุมแล้วจัดประชุมอีกเพื่อพูดกระตุ้นให้พนักงานสู้กลับอย่างสุดกำลังเพื่อชิงเอาตลาดกลับคืนมา
กระนั้นไม่ว่าจะอยากได้ตลาดกลับมาซักแค่ไหนก็ตามกลับหามาตรการใด ๆ ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้ ทำได้แค่โทรหาผู้ค้าปลีกเท่านั้น
ซานฟางชีเซี่ยง
หลังจากเห็นลูกค้าออกจากร้านไปแล้วเฉินฉวนเจิ้งก็รีบไปเอาชายามบ่ายชิงหลินอีกแพคมาแกวางบนชั้นอีกครั้ง
ชายามว่างชิงหลินนี้ขายดีอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากเติมของแล้วเขาก็หยิบมือถือออกมาโทรหาแม่หนูเจียงเพื่อจะสั่งเพิ่มอีก
หากยังไม่รีบสั่งก็กลัวว่าเดี๋ยวของจะหมดอีกรอบ
แต่ก่อนที่จะทันได้กดโทรก็มีสายโทรเข้ามาซะก่อน เป็นเบอร์ ‘Red Bull Delivery’ อีกแล้ว
“อย่าบอกนะว่าจะโทรมาสั่งไม่ให้ขายชายามว่างชิงหลินอีก? เห็นกูโง่เหรอวะ?” เฉินฉวนเจิ้งไม่คิดจะรับสายและกดตัดสายทิ้งทันที จากนั้นก็โทรสั่งของกับเจียงหลิงหลิงต่อ
พนักงานขายของกระทิงแดงที่โทรไปหาครั้งนี้แน่นอนว่าไม่ได้จะข่มขู่ให้เลือกเหมือนครั้งก่อน แต่จะขอให้ผู้ค้าปลีกสั่งของเพิ่มเท่านั้นเอง แต่ก็น่าเสียดายที่เมื่อพลาดไปแล้วทำให้เถ้าแก่ทั้งหลายทำเหมือนเฉินฉวนเจิ้งคือกดตัดสายทิ้งกันเกือบหมด บางคนรับสายก็บอกว่าตอนนี้กระทิงแดงมีเยอะพอแล้ว ถ้าจะแปลก็คือมันขายออกยากหรือขายไม่ออกเลยนั่นเอง
อู๋เฟยจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากต้องรายงานข่าวนี้กับตัวแทนระดับบนของตนซึ่งเป็นตัวแทนทั่วไปของภาคใต้
ตัวแทนทั่วไปของกระทิงแดงภาคใต้ชื่ออู๋เฉิง แซ่เดียวกับอู๋เฟย มีความสัมพันธ์คือเป็นลูกพี่ลูกน้องรุ่นที่สามของตระกูลเหมือนกัน
หลังจากที่อู๋เฉิงได้รับรายงานจากอู๋เฟยแล้ว ในฐานะตัวแทนทั่วไปของภาคใต้มีหรือจะมองไม่เห็นถึงภัยคุกคามของชายามว่างชิงหลิน
ถ้ายังไม่แก้ไขล่ะก็พออีกฝ่ายสามารถครองตลาดเมืองหลวงได้แล้วยังไงต่อ ก็ต้องขยายเป็นทั้งมฑล ต่อไปก็ทั้งภาคใต้ใช่มั้ยล่ะ แล้วตอนนั้นตัวเองจะยังเหลืออะไรอีก?
อู๋เฉิงได้เรียกให้ตัวแทนทั่วไปของภาคใต้อีกสองแบรนด์มาคุย เพราะอีกสองแบรนด์เองก็โดนคุกคามผลประโยชน์เหมือนกันดังนั้นสามารถร่วมมือกันกำจัดภัยคุกคามนี้ได้
ไม่นาน
อู๋เฉิงได้เรียกลูกน้องมารวมกันแล้วสั่งการว่า “รีบวางแผนเร็ว ๆ เลย เอาเป็นการวิจารณ์ว่าชายามว่างชิงหลินอาจมีการใส่สารกระตุ้น หากดื่มมากเกินไปจะส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย ส่วนรายละเอียดก็ไปหาเอาสิ่งที่พอจะเกี่ยวข้องยัดลงไปให้หมดเลย”
“วางแผนเสร็จแล้วก็เอาเงินไปจ้างบล็อกเกอร์ทั้งรายเล็กรายใหญ่ให้ทำคลิปโพสต์เผยแพร่เรื่องนี้พร้อม ๆ กันไปเลย แล้วอย่าลืมเก็บเป็นความลับด้วยอย่าปล่อยให้พวกแม่งลากเราเข้าไปเกี่ยวได้”
นี่คือวิธีการตอบโต้ของอู๋เฉิงกับตัวแทนทั่วไปภาคใต้อีกสองแบรนด์ที่ได้ข้อสรุปร่วมกัน
โดยอีกสองแบรนด์เองก็จะหาคนมาโพสต์เนื้อหาดังกล่าวในเวลาเดียวกันด้วย โกหกซ้ำ ๆ จนเรื่องโกหกเป็นเรื่องจริงพร้อมกระตุ้นความคิดเห็นจากสาธารณะชน
อีกฝ่ายโปรโมตเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ?
งั้นถ้าชี้นำว่าดื่มมากไปแล้วจะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ดูซิว่าใครจะกล้าซื้อดื่มอีก?
อันนี้คือหนักจริง เพราะอู๋เฟยกับตัวแทนเมืองหลวงอีกสองแบรด์แค่รวมหัวกันคว่ำบาตรชายามว่างชิงหลินเพื่อกดหัวไว้เท่านั้น แต่พวกตัวแทนทั่วไปภาคใต้คือต้องการทำลายผลิตภัณฑ์นี้ทิ้งโดยสมบูรณ์ไปเลย
กระบวนท่านี่ทั้งคงและเหี้ยมโหดกว่าเยอะ
และอู๋เฉิงมันยังเชื่อด้วยว่าหากพวกมันทั้งสามสร้างแรงผลักดันให้ล่ะก็บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอื่น ๆ จะต้องเอาด้วยแน่นอน เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากเห็นเครื่องดื่มที่เหนือกว่าของตัวเองขายดีขึ้น
พวกลูกน้องที่ได้รับคำสั่งก็ตอบรับและออกไปทำงาน
.....................................................................................................
บ้านไร่ชิงหลิน
เติ้งกวงมาที่ห้องทำงานของฉินหลินพร้อมกับข่าวดี
ไลน์ผลิต 15 ไลน์แรกของสาขาหนิงเฉิงได้เริ่มงานสองกะแล้วเรียบร้อย ด้วยความสามารถในการทำงานของคนงานที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถผลิตได้สูงถึงวันละ 500,000 ขวดแล้ว
นอกจากนี้ไลน์ผลิตใหม่ 1 ไลน์จาก 40 ได้ประกอบและจูนเครื่องใหม่แล้วและสามารถเริ่มการผลิตในวันนี้
“ทุกวันนี้จะในหนิงเฉิงยังอยู่ยาก” ฉินหลินยิ้มและรินชาให้เติ้งกวง
ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของบริษัทชิงหลินฟู้ดถือว่าเป็นงานหนักมากเลยที่จะต้องไปตรวจโรงงานสาขาด้วยตัวเองไม่พอยังต้องไปฝึกอบรมคนงานด้วยตัวเองอีก
หรือก็คือเพราะการพัฒนาที่เร็วเกินไปจึงไม่มีคนที่มีความสามารถในการจัดการระดับไฮเอนด์สำรองไว้
“ชานี่ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยครับ” เติ้งกวงดื่มชาด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้ม
ฉินหลินยิ้ม “เอากลับไปชงเองซักสองชุดละกัน ให้ได้แค่นี้แหละเพราะของมีน้อย”
“ขอบคุณครับ” เติ้งกวงตาลุกวาว
เขารู้เกรดชาของเถ้าแก่จากคุณหม่ามาแล้ว
มันคือชาทิกวนอิมจากอานซีราคาจินละ 670,000 หยวน และเป็นของที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้
“เฒ่าเติ้ง พอการผลิตของสาขาหนิงเฉิงเสถียรแล้ว คงให้นายเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นั่นไม่ได้ด้วยสิ มีคนไหนเหมาะสมบ้างมั้ย ขงหลินล่ะเป็นยังไง?” ฉินหลินถาม
ครั้งก่อนที่เจอกับขงหลินเขารู้ว่าอีกฝ่ายมาจากมหาลัย 211 เขาเลยเอาประวัติของอีกฝ่ายมาอ่านดู พบว่ามีประสบการณ์จัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพในระดับท้องถิ่นโดยผลงานระหว่างนั้นก็ออกมาดีมากด้วย
เขาไม่รังเกียจที่จะให้โอกาสชายหนุ่มประเภทนี้ แต่เขาที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการกลับไม่ได้รู้รายละเอียดเชิงลึกของขงหลิน ดังนั้นจึงต้องขอความเห็นจากเติ้งกวงก่อน
เติ้งกวงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกว่า “เสี่ยวขงเก่งกว่าวัยรุ่นคนอื่นจริง ๆ ครับ ผมตั้งใจฝึกเขาที่นี่ด้วย แต่เขาพึ่งเรียนจบออกมาทำงานได้ไม่นานและยังขาดประสบการณ์ ขนาดของโรงงานสาขานี้ก็ไม่เหมือนเดิม ลองให้ไปทดสอบฝีมือที่หนิงเฉิงก่อนก็ได้ครับ แล้วที่นี่ก็หา ผอ.โรงงานที่เก่ง ๆ คนใหม่”
“อืม!” ฉินหลินก็เห็นด้วยกับประเด็นนี้เช่นกัน
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้นเองได้มีความโกลาหลเกิดขึ้นในบ้านไร่ชิงหลิน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวหลายคนที่เป็นที่รู้จักเข้ามา โดยพวกเขาล้วนเป็นแชมป์โอลิมปิกฤดูหนาวที่พึ่งจะจบไปเมื่อไม่นานนี้
ด้วยพัฒนาการของยุคแห่งข้อมูลข่าวสารทำให้เหล่าดาราโอลิมปิกไม่ทุกข์ยากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปที่หลังเกษียณแล้วต้องไปทำตัวเป็นโจรไม่ก็พ่อค้าแม่ค้าข้างถนน
ในยุคข้อมูลข่าวสารสมัยใหม่ทำให้ผู้คนให้ความสนใจกับดารานักกีฬามากขึ้นเรื่อย ๆ แชมป์โลกที่คว้าชัยชนะให้กับประเทศล้วนเป็นวีรบุรุษในใจของทุกคน คนเหล่านี้มีค่าควรแก่การเคารพบูชามากกว่าดาราขาจรส่วนใหญ่อีกใช่มั้ยล่ะ?
ดังนั้นจึงมีผู้คนตามท้องถนนจดจำพวกเขาได้ทันที ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะโอลิมปิกฤดูหนาวพึ่งจบไปได้ไม่นานด้วย
เฉินหลี่มองสภาพแวดล้อมที่มีผู้คนคับคั่งแล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนจะพูดกับชายวัยกลางคนข้าง ๆ ว่า “ทำไมเราไม่เมินคนพวกนี้แล้วไปหาเถ้าแก่ฉินก่อนล่ะครับ ผอ.ฉู”
เอาตรง ๆ ในเมื่อคุณมาคุยธุระกับเถ้าแก่ฉินก็ไปคุยเลยซิ จะไปยุ่งกับคนพวกนี้ทำไม
ผอ.ฉูตอบด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับท่านรองเฉิน เอเชียนเกมส์ปีนี้ต้องให้พวกแชมป์เปี้ยนเขาช่วยทำคลิปโปรโมตด้วยน่ะครับ”
“ก่อนหน้านี้พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้จนไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วครั้งนี้พอได้ยินว่าผมจะมาบ้านไร่ชิงหลินก็เลยขอตามมาด้วย เห็นบอกว่าได้ดูคลิปบ้านไร่ชิงหลินมาตั้งนานแล้ว อยากมาเที่ยวโดยตลอดแต่ไม่มีโอกาสซักที”
เฉินหลี่ถอนหายใจและพา ผอ.ฉูไปที่ห้องทำงานของฉินหลิน
นอกจากโอลิมปิกฤดูหนาวแล้วประเทศนี้ยังยังได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ในปีนี้ด้วย ผอ.ฉูผู้นี้เป็นผู้รับผิดชอบคณะกรรมการเอเชียนเกมส์หางโจวในฐานะผู้จัดงาน
ฉินหลินกำลังคุยกับเติ้งกวงและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเฉินหลี่พาใครบางคนมาถึงหน้าประตูอย่างกระทันหัน
“เถ้าแก่ฉิน คนนี้คือ ผอ.ฉูเป็นผู้รับผิดชอบการวางแผนการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่มาเพราะมีเรื่องอยากคุยด้วยเรื่องชายามว่างชิงหลินเลยมาขอให้ทางอำเภอเราช่วยประสานให้น่ะครับ” เฉินหลี่พา ผอ.ฉูเข้าห้องมาแนะนำให้แล้วก็แอบถอนหายใจอีกรอบ
ชายามว่างชิงหลินอีกแล้ว
เมื่อรู้จุดประสงค์ของ ผอ.ฉูและคิดถึงชายามว่างชิงหลินที่ถูกทางหนิงเฉิงฉกไปท่านรองนายอำเภอก็ยิ่งเศร้าใจ
ฉินหลินกับเติ้งกวงต้องประหลาดใจเมื่อได้รู้จักฐานะของ ผอ.ฉู
ที่สำคัญคือเมื่อได้ยินคำว่าเอเชี่ยนเกมส์ทั้งคู่ก็มองหน้ากันโดยไม่รู้ตัว
“เชิญนั่งก่อนครับ” ฉินหลินรีบเชิญ
ผอ.ฉูนั่งลงก่อนจะพูดว่า “เถ้าแก่ฉินนี่อายุน้อยร้อยล้านจริง ๆ ครั้งนี้ที่ผมมาเพราะมีเรื่องอยากขอน่ะครับ ไม่ทราบว่าชายามว่าชิงหลินของเถ้าแก่ฉินจะช่วยสนับสนุนเราในเอเชียนเกมส์ได้มั้ยครับ?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ฉินหลินกับเติ้งกวงมองหน้ากันอีกครั้งและต้องเห็นว่าอีกฝ่ายประหลาดใจ
ฉินหลินถึงกับถามด้วยความสงสัย “โดยปกติแล้วจะมีผู้คนแย่งชิงการให้การสนับสนุนการแข่งขันระดับโลกแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ? แต่บ้านไร่ชิงหลินเราคงไม่ไหว ไม่สามารถจ่ายค่าสปอนเซอร์ที่สูงขนาดนั้นได้หรอกครับ”
แม้ว่าเอเชี่ยนเกมส์ปีนี้จะจัดขึ้นที่หางโจว แต่ประเทศเราก็ยังเป็นเพียงหนึ่งในผู้จัดร่วมเท่านั้น เจ้าภาพที่แท้จริงคือคณะกรรมการโอลิมปิกสากลและคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชียต่างหาก
นอกจากนี้โครงการสนับสนุนยังดำเนินการในพันธมิตรไตรภาคี หรือก็คือประเทศไม่ได้มีสิทธิ์พูดอะไรมากในเรื่องนี้ และสิทธิ์การเป็นผู้สนับสนุนก็แล้วแต่องค์กรในการจัดงานเหล่านั้นจะมอบให้
สุดท้ายแล้วองค์กรเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสปอนเซอร์ ไม่ใช่ใครก็ตามที่ต้องการเป็นสปอนเซอร์จะสามารถเป็นได้เลย ใครก็ตามที่เสนอราคาสูงสุดจึงจะสามารถเป็นสปอนเซอร์ได้
ยิ่งกว่านั้นค่าธรรมเนียมสปอนเซอร์สำหรับงานระดับนานาชาตินั้นน่ากลัวมาก ลองนึกถึง Coca-Cola ที่สปอนเซอร์งานเหล่านี้สิ ครั้งหนึ่งเป็นร้อยล้านหน่วยเป็นดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งแน่นอนว่าพวกฉินหลินไม่สามารถจ่ายไหว มันไม่ใช่ตาของพวกเขาเลย
ผอ.ฉูได้ยินก็ยิ้ม ๆ “คือ... จริง ๆ แล้วเราไม่ได้พูดถึงการสนับสนุนแบบนั้นครับ ที่อยากหารือกับเถ้าแก่ฉินคือการสนับสนุนเครื่องดื่มสำหรับทีมชาติในช่วงการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ต่างหาก คือเราต้องการแค่ให้เถ้าแก่ฉินเป็นสปอนเซอร์ในด้านเครื่องดื่มก็พอ ไม่มีการจ่ายค่าสปอนเซอร์ครับ”
ที่มาก็เพื่อการนี้เลย
คณะกรรมการจัดงานของพวกเขาได้เจอกับชายามว่างชิงหลินโดยอุบัติเหตุ เนื่องจากวิดีโอโปรโมตเอเชียนเกมส์ปีนี้มีการส่งเสริมวัฒนธรรมของจีนด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อขุดเอาภาพลักษณ์คลาสสิกของจีนมาใช้ และเมืองหลวงของมณฑลฝูเจี้ยนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อถ่ายทำฉากนี้ชายามว่างชิงหลินก็ได้รับความนิยมขึ้นมา และพวกเขายังเห็นหญิงสาวแสยสวยกำลังโปรโมตชายามว่างชิงหลินในโรงยิมพอดี ซึ่งพนักงานของพวกเขาบังเอิญอยู่ที่นั่นและได้รู้ถึงผลกระทบของเครื่องดื่ม
เมื่อพวกเขาได้ข่าวก็รู้สึกเหลือเชื่อมาก ๆ
ยังไงเครื่องดื่มชูกำลังก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากในท้องตลาด แต่ว่าพวกที่มีผลใช้ได้จริงมันมีมั้ย? จากนั้นก็ลองโดยการเล่นบาสเก็ตบอลจนเหนื่อยแล้วดื่มดู ผลคือต้องตกใจสุดขีด
เครื่องดื่มชูกำลังที่ชื่อชายามว่างชิงหลินนี่มันส่งผลในการฟื้นฟูพละกำลังร่างกายแบบทันตาเห็น!
สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท หากนักกีฬาได้ดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เพื่อเติมกำลังกายจะมีประโยชน์มากขนาดไหน! ถ้าช่วงครึ่งหลังของเกมมีชานี่ให้ดื่มล่ะก็... จะได้เปรียบสุด ๆ เลยไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นเขาจึงรีบส่งเครื่องดื่มไปยังแผนกที่คณะกรรมการป้องกันและตรวจสอบโอลิมปิกเอเชียให้ทำการตรวจสอบ
เพื่อความปลอดภัยแล้วมันต้องถูกส่งไปให้ผู้จัดการแข่งขันตรวจสอบก่อน
และผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีส่วนผสมของยาสลบหรือส่วนผสมที่ผิดกฎการแข่งขันเลย
อย่างน้อยปีนี้สิ่งนี้ก็สามารถเอาเข้าสนามแข่งเอเชียนเกมส์ได้ หากทีมชาติเตรียมเครื่องดื่มนี้ไว้ตลอดทั้งเกมล่ะจะเป็นยังไง?
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่การสนับสนุนทีมชาติของตนในการแข่งขันนั้นคือแล้วแต่แต่ละประเทศเลย
ซึ่งสิทธิ์ในการสนับสนุนเครื่องดื่มของทีมชาติอยู่ในมือของพวกเขาเอง
เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือทำให้ชายามว่างชิงหลินเป็นเครื่องดื่มสนับสนุนให้แก่ทีมชาติให้ได้
ปล. เรื่องเหล้านี่ว่าโคตรงงแล้ว เจอเรื่องโอลิมปิกเอเชียนเกมส์อะไรนี่อีก... เฮ่อ~