SW-ตอนที่ 15 การเดินทางขนาดเล็ก
เป็นเวลาสามวันแล้วที่อเล็กซ์เริ่มฝึกฝนร่างกายของเขา และเขามีความก้าวหน้าค่อนข้างมาก
การฝึกทำร้ายตนเองนั้นรับมือได้ยากในช่วงแรก แต่อเล็กซ์ก็ค่อยๆ ชินกับมันหลังจากกระโดดข้ามเงาความเจ็บปวดของเขาหลายครั้ง
หลังจากกระโดดข้ามเงาความเจ็บปวดได้สองสามครั้งแรก อเล็กซ์ก็ไม่อยากเจ็บปวดอีกต่อไป
สิ่งนี้มันมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเห็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาอย่างเห็นได้ชัด เขาก็บังคับตัวเองเพื่อดำเนินการต่อ
รสชาติของพลังช่างเย้ายวนเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เขาต้องยกเลิกการฝึกฝน
เพราะน้ำของอเล็กซ์ได้หมดลง และสัตว์ร้ายที่เขาฆ่าก็เริ่มถูกแมลงรบกวน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น เนื้อยังคงสามารถกินได้ แต่แมลงที่อยู่ในซากศพนั้นกลับน่าขยะแขยงเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นของสัตว์ร้ายก็ค่อยๆ จางหายไป และอเล็กซ์ก็ได้เห็นกวางเข้ามาในระยะการมองเห็นของเขาก่อนที่มันจะหนีไปหลังจากเห็นเขา
สามวันที่ผ่านมา ไม่มีสัตว์ตัวใดปรากฏตัวใกล้กับสถานที่นี้
นั่นหมายความว่าพื้นที่อยู่อาศัยของอเล็กซ์ค่อนข้างปลอดภัย
ปัง! ปัง!
อเล็กซ์กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และพุ่งตัวขึ้นไปอีกครั้งด้วยขาของเขา พร้อมกับคว้ากิ่งไม้ที่อยู่ต่ำที่สุด
เมื่อสามวันก่อน อเล็กซ์ยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้
แต่ในปัจจุบันเขาสามารถทำได้ เพราะการเติบโตของพลังทางกายภาพของเขานั้นน่ากลัวมาก!
ตอนนี้ร่างกายของอเล็กซ์มีพลังมากกว่าร่างกายเก่าของเขาในช่วงจุดสูงสุด
มานาของที่นี่ได้สร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับความเร็วในการพัฒนาของอเล็กซ์
อเล็กซ์รีบปีนต้นไม้และมองไปรอบๆ ป่านี้มีสัตว์มากมาย ดังนั้นจะต้องมีแหล่งน้ำสักแห่ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากต้นไม้ที่ค่อนข้างหนาแน่น อเล็กซ์จึงไม่สามารถมองเห็นพื้นดินจากบนนี้ และ ทำให้ยากที่จะมองเห็นแหล่งน้ำใดๆ
อเล็กซ์สามารถตรวจสอบจุดที่มีต้นไม้น้อยกว่าได้เท่านั้น
อเล็กซ์พบสถานที่สองแห่งและตัดสินใจที่จะลองตรวจสอบ
ในเวลาเดียวกัน อเล็กซ์ก็ออกหาอาหารเพิ่มเช่นกัน
ปัง!
อเล็กซ์ปีนลงจากต้นไม้และกระโดดครั้งสุดท้ายโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
'เอาล่ะ ฉันว่าได้เวลาที่จะออกตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้ว’' อเล็กซ์คิดพร้อมกับขมวดคิ้ว
นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาไปจากที่นี่อย่างแท้จริง และเขาก็ไม่รู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่ข้างหน้าบ้าง
เขาหวังเพียงว่าสิ่งมีชีวิตที่มีพลังใกล้เคียงกันเช่นสัตว์ประหลาดที่เขาฆ่าตายด้วยโชคนั้น จะพบเจอได้ยาก
มิฉะนั้นเขาอาจตายได้
อเล็กซ์คว้าเสื้อผ้าที่สกปรก ถุงกระเป๋า และดาบของเขา
สุดท้าย เขาก็สวมเสื้อคลุมสีดำขนาดมหึมาไว้รอบตัวซ่อนดาบไว้
เสื้อคลุมนี้ทำมาจากขนของสัตว์ร้าย และตอนนี้มันถูกทำให้แห้งหลายครั้งแล้ว โดยพื้นฐานแล้วเสื้อคลุมนั้นทำมาจากหนังสัตว์ทั้งตัว จึงทำให้มีขนาดค่อนข้างใหญ่
อเล็กซ์หยิบหญ้าขึ้นมาจากพื้นแล้วสอดผ่านรูที่ขอบเสื้อคลุม ทำให้เกิดรอยต่อ
หลังจากทำเช่นนั้นสองสามครั้ง เสื้อคลุมก็ห่อหุ้มร่างกายของอเล็กซ์อย่างสมบูรณ์ จนทำให้เขารู้สึกอบอุ่น นอกจากนี้ เสื้อคลุมยังสามารถซ่อนดาบของเขาได้ค่อนข้างดี
ที่ด้านหน้า เสื้อคลุม ได้ถูกทำให้สั้นลงเล็กน้อยเพื่อที่อเล็กซ์จะได้วิ่งได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
อเล็กซ์ผูกดาบไว้ที่หลังด้วยเชือกชั่วคราวที่ทำจากหญ้า โดยซ่อนไว้ด้านหลังข้างในเสื้อคลุม
ที่น่าเศร้าที่อเล็กซ์เย็บปะไม่เก่งพอที่จะสร้างที่เก็บดาบของเขาอย่างถาวร ถ้าอเล็กซ์ต้องการใช้ดาบของเขา เขาจะต้องตัดเชือกทั้งหมด ซึ่งจะต้องสร้างใหม่หลังจากนั้น
อเล็กซ์ยังวางถุงกระเป๋าพาดไปข้างหลังของเขาและพันไว้รอบลำตัวของเขาโดยวางไว้ทางด้านซ้ายของต้นขาของเขา โชคดีที่สายนี้ยาวพอ
อเล็กซ์วางกระเป๋าไว้ทางซ้าย เพราะเมื่อเขาจับดาบ เขาจะเหวี่ยงมันไปทางขวา กระเป๋าจะไม่ขวางทางก็ต่อเมื่ออยู่ทางขวา
ในที่สุด อเล็กซ์ก็ยืนอยู่ตรงนั้น โดยสวมชุดคลุมสีดำสนิท
ผมสีดำรุงรังที่ดูสกปรกของเขาดูเหมือนจะเข้ากับเสื้อคลุมที่เขาสวมพอดี สิ่งนี้ทำให้เขาดูเหมือนคนป่าลึกลับ
ถ้ามีใครมาเห็นเขาในสภาพแบบนี้ พวกเขาคงคิดว่าเขาเป็นคนบ้าไม่ก็คนเร่ร่อนเป็นแน่
จากนั้นอเล็กซ์ก็ก้าวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็วด้วยมือที่ว่างเปล่า
ทำไมอเล็กซ์ไม่ถือดาบในมือของเขา?
มันมีสองเหตุผล
เหตุผลแรกเขาต้องการซ่อนมัน เพราะพวกสัตว์ไม่ได้โง่ ถ้าพวกมันเห็นวัตถุสีดำยาวในมือของเขา พวกมันจะระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
ประการที่สอง ถ้าใครโจมตีเขาจากด้านหลัง ดาบของเขาจะช่วยปิดกั้นระหว่างพวกเขา เพราะอย่างไรก็ตาม เนื่องจากดาบถูกซ่อนไว้ ผู้ที่โจมตีจึงไม่รู้
หากอเล็กซ์ถูกโจมตีจากด้านหลัง ผู้โจมตีอาจตายอย่างรวดเร็วเนื่องจากดาบจะอยู่ระหว่างฟันของพวกเขาแล้ว
เมื่อถึงจุดนั้น อเล็กซ์เพียงแค่ขยับดาบของเขาขึ้นไปตรงตำแหน่งปากของผู้โจมตีเท่านั้น
ดาบของอเล็กซ์คมอย่างน่าสะพรึงกลัว และเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังมากในการฆ่าผู้ที่โจมตี
อเล็กซ์คิดทุกอย่างเอาไว้แล้วในขณะที่เขาแต่งตัว
เพราะเขาจะต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากในป่าแห่งนี้
จากนั้น อเล็กซ์ก็วิ่งออกจากพื้นที่ของเขาด้วยความเร็วพอสมควร
ทำไม?
เพราะถ้าเขาเดินช้า ผู้ซุ่มโจมตีก็จะมีเวลามากขึ้นในการวางแผนการซุ่มโจมตีเขา แน่นอนว่าอเล็กซ์อาจผ่านไปได้โดยไม่มีใครสังเกตุเห็นหากเขาเดินช้าลง แต่การซุ่มโจมตีอาจจะร้ายแรงกว่านั้น
อเล็กซ์ไม่กล้าพนันว่าจะไม่มีการซุ่มโจมตี
เพราะอเล็กซ์ไม่เห็นสัตว์ตัวอื่นเลยหลังจากวิ่งจ๊อกกิ้งเงียบ ๆ มาเกือบสิบนาที
อย่างไรก็ตาม เขาพบอาหารบางอย่าง
เมล็ดเกาลัด!
อเล็กซ์หยุดทันทีเมื่อเขาเห็นต้นเกาลัดและปีนขึ้นไป
ในอีก 30 นาทีต่อมา อเล็กซ์เก็บเมล็ดเกาลัดไว้กินพวกมันในภายหลังเป็นจำนวนมาก
'หวังว่าจะไม่ใช่ผลไม้ที่มีพิษนะ' อเล็กซ์คิดขณะที่เขากระทืบเท้า
หลังจากลิ้มลอง รสชาติมันก็ได้อร่อยสักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยพวกมันก็มีรสชาติที่พอจะกินได้
'เอาล่ะ มาคิดเผื่อในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ที่ฉันต้องทำก็แค่การวิ่งหนี’ เขาคิด
อูด อูด!
อเล็กซ์ได้ยินเสียงร้องและมองไปที่ต้นตอของเสียง
ห่างจากต้นไม้ไปไม่กี่เมตรมีหมูตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
มันไม่ใหญ่เท่ากับตัวที่อเล็กซ์เห็น แต่ก็ยังหนักกว่าหมาป่าเล็กน้อย
เมื่ออเล็กซ์เห็นหมู ดวงตาของเขาก็หรี่ลง
'ฉันไม่ได้โจมตีหมูตัวที่แล้วเพราะฉันไม่มีอาวุธที่ดี แต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว!' เขาคิดในใจ
หมูกำลังมองดูต้นไม้อย่างระแวดระวัง
มันเห็นและได้ยินเสียงของอเล็กซ์ตั้งแต่เขายังไม่ได้ปรากฏ
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้จากไปไหน
นี่คือต้นเกาลัดของมัน และมันก็เคี้ยวเกาลัดไปไม่น้อย
อเล็กซ์ดูตัวโตกว่าที่เป็นจริงเล็กน้อย ต้องขอบคุณเสื้อคลุมสีดำของเขาซึ่งทำให้หมูตัวนี้ดูกลัวเขาเล็กน้อย
การได้เห็นสิ่งมีชีวิตสีดำขนาดใหญ่บนต้นไม้นั้น ทำให้มันดูค่อนข้างน่ากลัว
สัตว์ประหลาดสีดำอเล็กซ์ ค่อยๆ เคลื่อนไปรอบๆ กิ่งก้านบนต้นไม้อย่างช้าๆ และเงียบเชียบอย่างสบายๆ และหายวับไปเมื่อเขาขยับร่างกายอย่างรวดเร็ว
ครื่นน!
ลูกเกาลัดจำนวนมากสั่นคลอนจากการเคลื่อนไหวของเขาและตกลงมาบนพื้น
จากนั้นกิ่งไม้ด้านหลังต้นเกาลัดก็ขยับเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบอีกครั้งแต่มันอยู่ไกลออกไป
มีสิ่งมีชีวิตตัวนั้นไปแล้วงั้นหรือไม่?
หมูไม่แน่ใจ
หลังจากลังเลอยู่หลายนาที หมูก็เดินไปรอบ ๆ ต้นไม้จากระยะไกล และ พยายามหาสิ่งมีชีวิตสีดำ
หลังจากค้นหาสัตว์ตัวนี้อยู่หลายนาที หมูก็รีบหยิบเกาลัดหนึ่งลูกแล้วถอยกลับไปอีกครั้ง
มันกินเกาลัดอย่างรวดเร็วและมองดูรอบๆ
กระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำสองสามครั้งจนกระทั่งในที่สุดหมูก็ไม่กระวนกระวายอีกต่อไป
ดูเหมือนสัตว์นั้นได้จากไปแล้ว
กึก!
ทว่าทันใดนั้น ก็มีเสียงกรอบแกรบดังเงียบ ๆ จากต้นไม้เหนือร่างของ หมู และสิ่งนี้ก็ทำให้มันเงยหน้าขึ้นมอง
อเล็กซ์กระโดดลงมา พร้อมกับดาบของเขาที่ถูกจับอยู่ในมือทั้งสองของเขา มือขวาของเขาได้จับด้ามแน่นในขณะที่มือซ้ายได้วางบนตัวคมดาบ
อเล็กซ์รู้อยู่แล้วว่าดาบของเขาจะไม่สามารถทำร้ายตัวเองได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง นั่นก็หมายความว่าเขาสามารถคว้าดาบได้เหมือนกับกำลังถือไม้เท้า
อเล็กซ์ตกลงมาและบั่นคอหมูเหมือนกับมีดกิโยติน
ฟวับ!
ดาบนั้นคมอย่างบ้าคลั่งจนสามารถฟันคอหมูอ้วนได้อย่างง่ายดาย สิ่งนี้ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังลั่นเมื่อมันกระทบกับพื้นด้านล่างของหมู
ภายใต้การลอบโจมตีนี้ทำให้หมูตายในทันที
ร่างกายของ อเล็กซ์ ท่วมไปด้วยเลือดหลังจากที่ท้องของเขากระแทกเข้ากับหัวที่ขาดของหมู
อเล็กซ์ทำหน้าบูดบึ้งด้วยความขยะแขยงเมื่อเห็นเลือดทั้งหมด
'ฉันจำเป็นต้องล้างมันออก ไม่เช่นนั้นเลือดจะแข็งตัวและมีกลิ่นเหม็น' เขาคิด
ภาพของหมูที่ถูกตัดหัวทำให้อเล็กซ์สั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่เขารู้ว่าเขาต้องคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้
เขาจะต้องฆ่าสัตว์จำนวนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ และเขาอาจต้องฆ่ามนุษย์ด้วยซ้ำเมื่อเขากลับเข้าสู่สังคมของพวกเขา
อเล็กซ์ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดที่เขาเชื่อว่าสังคมมนุษย์ที่มีอำนาจจะเป็นสถานที่ที่ดี
อเล็กซ์มองดูการฆ่าของเขาอยู่พักหนึ่ง และ พยายามทำความคุ้นชินกับฉากฆ่าดังกล่าว
ที่นี่มีร่างของหมูที่หัวขาดและเลือดออกอย่างบ้าคลั่ง ถึงอย่างนั้นร่างของมันก็ยังคงกระตุกอยู่
ในขณะเดียวกัน สายตาที่ว่างเปล่าของหัวหมูที่ถูกตัดศีรษะก็มองไปที่อเล็กซ์ พลางถามเขาว่าทำไมเขาถึงฆ่ามัน
อเล็กซ์หายใจเข้าลึก ๆ ทันทีที่ถูกโจมตีด้วยกลิ่นหืนของเลือดหมูสด
อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ก็กัดฟันแน่น
'ตอนนี้ปัญหาเรื่องอาหารและน้ำก็ได้รับการแก้ไขแล้ว' อเล็กซ์คิดขณะมองไปที่ศพ
'ดาบของฉันค่อนข้างคม ซึ่งมันน่าจะทำให้ฉันสามารถแกะสลักเครื่องมือบางอย่างจากไม้ได้ เช่น ถังและชาม'
'ตอนนี้ฉันสามารถดื่มน้ำกลั่นที่ทำจากเลือดหมูได้ แม้ว่าออกจะน่าขยะแขยงเล็กน้อยและไม่ดีต่อสุขภาพ แต่นั่นก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับฉันมากนัก'
'เอาเป็นว่ามาจุดไฟกันก่อนเถอะ’