(ฟรี)ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 155 สองบุปผาแห่งนิกายวสันตบุปผา
“เขายังสามารถโจมตีเราได้ ในขณะที่ต่อกรกับแม่ทัพหรือ?” หวังหลันรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ในขณะที่มองไปยังจุดที่กำปั้นน้ำแข็งกระแทกกับพื้น
หวังหลันมองไปยังทิศทางของชายชุดคลุมสีฝ้าอ่อน เขาผู้นั้นกำลังวาดอักขระต่าง ๆ ในอากาศเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหอกน้ำแข็ง
“ดูเหมือนว่าแม่ทัพจะทนไม่ได้อีกต่อไป…” หวังหู่มองไปทางชายชุดคลุมสีฟ้าอ่อนเหมือนน้องชายของเขาและเห็นแม่ทัพกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
กำแพงที่แม่ทัพสร้างขึ้นนั้นกำลังจะพังทลาย เนื่องจากพลังที่เพิ่มขึ้นของหอกน้ำแข็ง
ดูเหมือนว่าชายจากอาณาจักรนภาครามจะไม่ต้องการให้การต่อสู้ระหว่างเขากับแม่ทัพยืดเยื้ออีกต่อไป เมื่อเห็นหวังหลันและหวังหู่่่ปรากฏตัว
หวังหลันและหวังหู่รู้ว่าพวกเขาต้องทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยแม่ทัพ แต่คนที่เหลืออีกสี่คนจากอาณาจักรนภาครามก็เห็นสถานการณ์นั้นเช่นกันและได้เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อขัดขวางพวกเขาไม่ให้ไปช่วยเหลือแม่ทัพได้
ทหารสองคนจากฝั่งผู้บังคับบัญชาก็เห็นสถานการณ์ปัจจุบันเช่นกันและทั้งคู่ก็เดินไปยังจุดที่หวังหู่และหวังหลันยืนอยู่
“เจ้าทั้งคู่ลองหาทางเปิดโอกาสให้พวกเราเข้าไปช่วยแม่ทัพได้หรือไม่?” หนึ่งในสองคนถามอย่างหมดหวัง ขณะที่เขามองไปทางแม่ทัพอย่างใจจดใจจ่อ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการช่วยแม่ทัพให้พ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน
“เรื่องนั้นพอเป็นไปได้ แต่เราอาจไม่สามารถรั้งพวกเขาทั้งสี่ไว้ได้นานนัก…” หวังหู่ตอบก่อนที่พี่ชายของเขาหวังหลันจะพูดสิ่งใดต่อ
“แค่นั้นก็เพียงพอ หากเจ้าพร้อมเมื่อใด เราก็จะไปในทันที!” ทหารผู้นั้นรู้สึกปลาบปลื้มกับหวังหู่อย่างยิ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดคุยบางอย่างกับทหารอีกคน
ทั้งคู่เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ชายชุดคลุมสีฟ้าอ่อนไม่ได้ไร้ที่พึ่งในขณะที่เขาจัดการกับแม่ทัพดังที่เห็นได้จากก่อนหน้านี้...
สิ่งที่ทั้งสองหวังไว้น่าจะเป็นโอกาสที่แม่ทัพจะหลุดพ้นจากภัยอันตรายนี้และหลบหนีไป
แม้สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม… พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าโอกาสในการถอยกลับนั้นแทบไม่เหลือเลย
หวังหู่สงสัยเล็กน้อยว่าแม่ทัพทำอย่างไรถึงได้คนที่อุทิศตนเช่นนี้มาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา
ทั้งสองคนอยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด! ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด พวกเขาก็ยังคงมีสถานะที่ทรงเกียรติ ไม่มีอาณาจักรใดที่จะกล้าปฏิเสธยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเช่นนี้
แม้แต่ในจักรวรรดิเช่นจักรวรรดินภาที่มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด มากมาย พวกเขาก็ยังคงมีสถานะมากขนาดหนึ่ง เนื่องจากฐานการบ่มเพาะของพวกเขา
“เราจะรั้งทั้งสี่คนไว้และปล่อยให้พวกเขาไปช่วยแม่ทัพได้อย่างไร?” หวังหลันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกเขาจะจับยอดฝีมือทั้งสี่จากอาณาจักรนภาครามและปล่อยให้ทหารสองคนไปช่วยแม่ทัพของพวกเขาได้อย่างไร
แม้การป้องกันจะสามารถทำได้ แต่การรั้งพวกเขาไว้และป้องกันไม่ให้พวกเขาเคลื่อนไหว เพื่อหยุดทหารทั้งสองไม่ให้ช่วยแม่ทัพเป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“คนสองคนที่ส่งมาจากนิกายวสันตบุปผาเพิ่งมาถึง ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา เราน่าจะสามารถรั้งทั้งสี่คนไว้ได้และปล่อยให้ทหารทั้งสองคนไปช่วยแม่ทัพของพวกเขา...” ขณะที่เขาพูดจบ กลิ่นอายพลังของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่มาใหม่สองคนก็ปรากฏขึ้นในระยะไกล
สาวงามสองคนสวมเสื้อคลุมของนิกายวสันตบุปผา พวกนางเดินไปหาหวังหู่และหวังหลันยืนที่อยู่กับทหารสองคน
พวกนางคือบุปผาที่ 7 และบุปผาที่ 5 จากนิกายวสันตบุปผา ทั้งสองเป็นหนึ่งในนวบุปผาแห่งนิกายวสันตบุปผา นวบุปผา (บุปผาทั้ง 9) เป็นชื่อที่นิกายวสันตบุปผาใช้เรียกผู้อาวุโสหลัก ซึ่งหมายความว่านวบุปผาแต่ละคนอยู่ที่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
บุปผาที่ 1 จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่บุปผาที่ 9 คือผู้ที่อ่อนแอที่สุด
บุปผาที่ 1 ในบรรดานวบุปผานั้นเทียบได้กับรองจ้าวนิกายของนิกายวสันตบุปผา
“ดูเหมือนว่าแม่ทัพกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างสิ้นหวัง… พวกเจ้ามีแผนจะช่วยเขาอย่างไร?” บุปผาที่ 7 ก้าวไปข้างหน้าและถาม ในขณะที่บุปผาที่ 5 ยังคงเงียบอยู่ข้างหลังนางและสังเกตพี่น้องหวังทั้งสองอย่างลึกซึ้ง
“ทหารสองคนที่นี่ต้องการให้ข้าและน้องชายช่วยรั้งยอดฝีมือทั้งสี่จากฝั่งอาณาจักรนภาคราม ขณะที่พวกเขาไปช่วยแม่ทัพ ข้าหวังว่าเจ้าทั้งคู่จะเต็มใจช่วยพวกเรา…”
“มันจะเป็นวิธีที่ง่ายกว่าสำหรับเราและอาณาจักรนภาสวรรค์จะไม่บ่นว่าเราไม่ได้ช่วยเหลือใด ๆ พวกเขา…” หวังหู่บอกเป็นนัยถึงความจริงที่ว่าอาณาจักรนภาสวรรค์อาจตำหนิพวกเขาสำหรับการสูญเสียแม่ทัพในอนาคต
หวังหู่อดทนรอ เพื่อดูว่าพวกนางจะยอมช่วยหรือไม่
“ฟังดูเป็นแผนการที่ดี เราจะระงับพวกเขาไว้สองคนและเจ้าสองคนก็จัดการกับอีกสองคนได้... พวกเราทั้งสี่จะต้องจัดการกับพวกเขาแต่ละคน!” เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง บุปผาที่ 7 ของนิกายวสันตบุปผาก็เห็นพ้องต้องกัน
ทหารสองคนที่ฟังจากด้านข้างก็ชื่นชมนางอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินว่านางตกลงที่จะช่วยเหลือ
“หากเป็นเช่นนั้นเราก็ไปกันเถิด!” เมื่อพูดเช่นนี้ หวังหู่และหวังหลันต่างก็โจมตีหนึ่งในสี่ของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด จากอาณาจักรนภาคราม ตามด้วยบุปผาที่ 7 และ 5 ของนิกายวสันตบุปผา
ในไม่ช้าทั้งสี่คนก็ตกอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบภายใต้แรงกดดันของทั้งสี่คน ส่วนใหญ่เป็นเพราะหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักมาก่อนแล้ว
“คราวนี้ล่ะ!” ทหารสองคนเห็นว่าหวังหู่และหวังหลันพร้อมกับบุปผาที่ 7 และ 5 ได้รับชัยชนะ
พวกเขาผลักยอดฝีมือทั้งสี่จากอาณาจักรนภาครามออกไปจากการปิดกั้นทางไปสู่การต่อสู้หลักของแม่ทัพและชายชุดคลุมสีฟ้าอ่อน
เมื่อเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยและใช้โอกาสนี้เคลื่อนผ่านพวกเขาไปในทิศทางของแม่ทัพ