ตอนที่ 1181 นี่มันอาจจะเป็นเกมที่ง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ทีมเย่เฉิง แล้วมั้ง!

“บอลเข้าไปแล้ว! 1 ประตูต่อ 0 แล้ว นี่มันเพิ่งเริ่มเพียงแค่ 5 นาที ทีมเย่เฉิง ก็กลับทำประตูไปได้แล้ว…”

ย่านถนนที่คึกคัก ..ภายในร้านอาหาร

เมื่อเห็น ทีมเย่เฉิง ทําประตูได้ เถ้าแก่ ที่กําลังเตรียมอาหารให้กับลูกค้าก็ได้วางช้อนข้าวในมือลง และตบต้นขาตัวเองอย่างแรง : “เชี่ย! เสียประตูไปเร็วขนาดนี้ ตามคาดไว้.. อาโต้ว ยังไงก็ไม่เอาไหนจริงๆ!”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

ลุงที่กําลังกินข้าวอยู่ก็ได้เงียบไป เขาทำเพียงแค่ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มเข้าไปอย่างอึดอัด…

ลุงอีกคนที่ได้อยู่ข้างๆ ก็ได้ถอนหายใจ แล้วพูดว่า : “อู๋ ต๋า เป็นผู้เล่นอัจฉริยะในปีนั้น แต่ในตอนนี้เขากลับมาเป็นโค้ช... แต่จะให้โทษเขาก็ไม่ได้ ทำไงได้.. ยังไงเขาก็ได้ห่างหายจากสนามไปนานกว่าสามสิบปีให้แล้ว”

“ในความคิดของฉัน คืนนี้ทีมหยุนเฉิง อาจจะแพ้อย่างย่อยยับ ลุงสี่ คุณคิดว่าอย่างไร?” เถ้าแก่ ได้ถือจานข้าวเดินเข้ามาวางที่โต๊ะของลุง

ทางลุงเองก็ได้นิ่งเฉย ทำเพียงก้มหน้าหยิบตะเกียบคีบเนื้อขึ้นมากิน

ลุงอีกคนได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “เขาคงโกรธไปเสียแล้ว”

เมื่อได้ยินลุงแกก็ถึงกลับเงยหน้าขึ้น แล้วจ้องมองไปที่ลุงอีกคน แล้วพูดว่า : “นายมันจะไปรู้ตดอะไร กินข้าวของนายไป!”

ในเวลานี้ ภาพในทีวีได้กลับไปที่ห้องถ่ายทอดสด ลู่ตง ก็กําลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำประตูเมื่อกี้ว่า : “การป้องกันของ ทีมหยุนเฉิง มันไม่ต่างอะไรกับกระดาษ ไม่น่าดูเลยด้วยซ้ำ…”

เถ้าแก่ ที่ได้ฟัง ก็รู้สึกงงงวย เขาได้พูดว่า : “ไม่ใช่ล่ะ คนๆ นี้ถึงมันจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะพูดออกมาตรงๆ ได้ และนี่ดูทําไมถึงปากเหม็นได้เช่นนี้!”

ลุงอีกคน กล่าวว่า : “ผู้ชายคนนี้ มันก็ปากเหม็นเช่นนี้มาตลอดแหละ แต่คืนนี้ดูเหมือนปากมันจะเหม็นเป็นพิเศษ หรือไม่มันอาจจะมีความแค้นอะไรกับ ทีมหยุนเฉิง อยู่ด้วยมั้ง อย่างไรก็ตาม.. การเสียประตูก็คือการเสียประตู แล้วการถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเราจะไปทําอะไรได้!”

พูดจบ ลุงแกก็ตักข้าวคำโตๆ ใส่เข้าปากไป แล้วไม่พูดอะไรอีก

หางโจว, อาคารวั่นกู่

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้เดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกสํานักงานของ เว่ย เทียนเฉิง เขาได้กล่าวว่า : “คุณลู่ คืนนี้คุณทําได้ดีมาก พ่อของฉันมีความสุขมาก และหวังว่าเกมต่อไป คุณจะทำให้มันดูแรงขึ้น!”

ที่ปลายสายเป็นเสียงของนักบรรยายฟุตบอลชื่งดังอย่าง ลู่ตง : “คุณเว่ย วางใจได้.. คืนนี้ ฉันจะทําให้ดีที่สุด และแน่นอนว่าฉันจะต้องฉีกร่างกายของพวก ทีมหยุนเฉิง จนให้มันแหลกเป็นชิ้นๆ!”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้หัวเราะ แล้วพูดออกไปว่า : “ดีมาก ฉันจะตั้งตารอการแสดงต่อไปของ คุณลู่ โอ้.. ใช่แล้ว คุณลู่ อย่าลืมว่าคุณยังมีฉบับร่างสีดําที่ฉันได้ขอให้คุณเตรียม…”

ลู่ตง ได้ตบหน้าอกตัวเอง แล้วพูดว่า : “วางใจได้ครับ ฉบับร่างสีดําผมเตรียมเอาไว้นานแล้ว และดูๆ ไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคําอะไรเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างผมเองก็ได้ตั้งเรื่องประเด็นที่จะพูดไว้แล้ว พอหลังจากการแข่งขันจบลง ผมจะส่งมันออกไปทันที!”

ได้ฟังเช่นนี้ เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้พูดด้วยความพอใจไปว่า : “โอเค.. ในหน้าคำค้นหายอดนิยม ฉันได้จองเอาไว้ให้คุณแล้ว ทันทีที่ คุณลู่ เอามันลงไปในบล็อกส่วนตัว ฉันจัดการให้มันขึ้นไปอยู่ในหน้าการค้นหายอดนิยมในทันที และในคืนนี้.. ฉันก็ต้องการทำให้ ทีมหยุนเฉิง กลายเป็นเรื่องตลก ไปในโลกออนไลน์ทั้งหมด!”

หลังจากวางสายไป เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้โทรออกไปอีกครั้ง

ในครั้งนี้เขาได้ใช้เงินออกไปไม่น้อย เพื่อจัดการกับ หลินฟาน และหยงจิ่ว กรุ๊ป นอกจาก ลู่ตง แล้ว เขายังจัดหาบิ๊กวี (1)(大Ⅴ, Big V) ในหลากหลายกลุ่ม เอาไว้พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนในวงการฟุตบอล หรือในวงการธุรกิจ

ครั้งนี้เขาต้องการใช้มันเพื่อจัดการกับ หลินฟาน ในทุกๆ ด้าน แม้ว่าจะเป็นเกมอุ่นเครื่องเล็กๆ ก็ตาม แต่เขาก็ต้องการทําให้เรื่องนี้ มันกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้น..

หลังจากโทรออกไปอีกรอบหนึ่ง เขาก็จัดการกับทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เว่ย เจี้ยนเซิง จึงได้ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“หลินฟาน ตัวน้อย ในคืนนี้มันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น ถึงแม้นี่มันจะเป็นเกมอุ่นเครื่องนัดแรกของทีมแก แต่ด้านหลังมันก็ยังมีเกมอุ่นเครื่องอีกสองนัด แถมมันจะยังมีการแข่งขันอย่างเป็นทางการในตอนนี้อีก ฉันในตอนนี้ แค่อยากจะถามแกว่า กลัวไหม ฮ่าฮ่าๆ…”

เว่ย เจี้ยนเซิง อดไม่ได้จริงๆ ที่จะหัวเราะมันออกมาดังๆ

จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในสำนักงานของ เว่ย เทียนเฉิง

เว่ย เทียนเฉิง ได้มองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า : “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ครับพ่อ พวกเราสามารถดูละครดีๆ ได้อย่างสบายใจได้แล้ว”

เว่ย เทียนเฉิง ได้พยักหน้า : “ดี เกมการแข่งขันได้ดําเนินต่อแล้ว และมันก็ต้องเป็นไปตามที่คาด ทีมเย่เฉิง จะทําประตูได้อีกครั้งในไม่ช้า!”

เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้เดินไปนั่งลง เมื่อนั้นทั้งสองพ่อลูกก็ได้เฝ้าดูเกมการแข่งขันต่อไป

พวกเขาได้ต่อสู้กับ หลินฟาน มาอยู่หลายครั้ง แต่ในทุกครั้งพวกเขาก็ได้พ่ายแพ้ให้กับ หลินฟาน.. ทุกครั้งพวกเขาก็ตกลงไปในหลุมเสมอ พอมันนานๆ เข้า พวกเขาก็ได้โกรธเกลียด หลินฟาน จนมันเข้ากระดูกไปแล้วในตอนนี้

ในคืนนี้.. ในที่สุดอย่างน้อยๆ พวกเขาก็สามารถลืมตาอ้าปากได้สักครั้ง

ตราบใดที่พวกเขาเห็น หลินฟาน โชคร้าย พวกเขาก็จะมีความสุข.. ในเวลานี้คนที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงหนาน คาดไม่ถึงเลยว่า.. วันที่เขาจะได้มานั่งเฝ้าดูเกมการแข่งขันฟุตบอลไปอย่างเพลิดเพลินเช่นนี้ จะมาถึง…

สําหรับแผนการต่างๆ ของสองพ่อลูกในครั้งนี้ หลินฟาน เขาย่อมไม่ได้รับรู้เลย…

ในเวลานี้ หลินฟาน ได้นั่งปะปนอยู่กับแฟนๆ ของทีมหยุนเฉิง และกำลังดูเกมการแข่งขันฟุตบอล หลังจากที่ ทีมเย่เฉิง ทําประตูได้ เกมการแข่งขันก็ยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และผู้เล่นของทั้งสองฝ่ายก็กําลังแข่งขันกันอยู่ในสนาม

ทั้งประตูที่ ทีมเย่เฉิง ทำไปได้ในก่อนหน้านี้ มันก็ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมาก

หลินฟาน มีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาระดับบนสุด ระดับฟุตบอลของเขา อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาเพียงแค่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ก็สามารถตัดสินสภาพโดยรวมของทั้งสองทีมได้

หลังจาก ทีมหยุนเฉิง เสียประตูไปหนึ่งประตู อารมณ์ของทุกคนก็ออกจะดูผิดหวังไปเล็กน้อยในตอนแรก แต่ อู๋ ต๋า ก็ได้ให้กําลังใจพวกเขา และแนะนําให้พวกเขาเล่นต่อไปตามจังหวะแท็กติกของพวกเขาแต่ละคน เมื่อนั้นฟอร์มของ ทีมหยุนเฉิง ก็ถูกปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หลังจากปรับตัวให้เข้ากับสนามไปตามจังหวะของผู้เล่นในทีมได้แล้ว พวกเขาก็จะค่อยๆ ระเบิดฟอร์มออกมา...

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ ทีมเย่เฉิง ทําประตูได้ ความคิดของเหล่าผู้เล่นของทางฝั่งทีมพวกเขาก็ดูออกจะประมาทไป ..อย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาดูสูงใหญ่ขึ้น ทำราวกับพวกเขากลายเป็นดาวเตะในระดับโลกไปทีละคนๆ และเห็นเพียงฝั่งตรงข้ามเป็นได้แค่ ‘นกผัก’(2) ระดับฝีมือเองก็อยู่เพียงระดับเด็กนักเรียนประถม

แต่เดิม ทีมเย่เฉิง ไม่ได้มองทีมหยุนเฉิง อยู่ในสายตาอยู่ก่อนแล้ว ในตอนแรกก็รู้สึกว่าพวกเขาสามารถชนะทีมหยุนเฉิงได้ หรืออาจจะยังเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่เลยก็ได้

แต่ในความคิดก่อนหน้าของ ทีมเย่เฉิง นั้น.. มันกลับแตกต่างจากความคิดในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ ทีมเย่เฉิง ยังมองทีมหยุนเฉิง ว่าเป็นคู่แข่งได้ แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่ได้มอง ทีมหยุนเฉิง ว่าเป็นคู่แข่งเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังรุมกลั่นแกล้งเด็กๆ กันอยู่เสียมากกว่า

และด้วยความคิดนี้ ทีมเย่เฉิง จึงได้ผ่อนคลายความระมัดระวังลง พวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้มาเตะบอลเลยด้วยซ้ำ แต่มันกลับดูราวกับว่าพวกเขาได้กำลังพาสุนัขออกไปเดินเล่นอยู่ในแถวละแวกชุมชน

แต่เมื่อเผชิญกับความคิดของทีมเย่เฉิง ทุกฝ่ายก็ต่างเริ่มรู้สึกว่ามัน ..ดูสมเหตุสมผลจริงๆ

“ทีมหยุนเฉิง มันกากขยะขนาดนี้ แค่ยืนเฉยๆ นิ่งๆ พวกเขาก็สามารถชนะได้อย่างสบายแล้ว!”

“ฮ่าฮ่า, นี่มันอาจจะเป็นเกมที่ง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ทีมเย่เฉิง แล้วมั้ง!”

“เงินนี่มันช่างหาง่ายมาก, ฉันเองยังรู้สึกว่าฉันสามารถขึ้นไปยิงทำประตูทีมหยุนเฉิงได้สักสองสามประตู!”

“บอกตามตรงฉันไม่เคยเห็นทีมขยะอย่างทีมหยุนเฉิง มาก่อน อีกอย่างพวกแกน่ะ รีบประกาศถอนตัวออกจากซูเปอร์ลีกฤดูร้อนได้แล้ว!”

ห้องถ่ายทอดสด

เพราะรู้สึกว่าเกม.. มันน่าเบื่อ พิธีกรจึงได้หันมาพูดคุยกับ ลู่ตง : “อาจารย์ลู่ เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการเล่นของทีมเย่เฉิงค่อนข้างผ่อนคลายลงไปมาก ทั้งการทำประตูในเกมนี้ อาจจะถือได้ว่าเป็นเกมการแข่งขันที่ชนะได้ง่ายที่สุด สําหรับ ทีมเย่เฉิง แล้ว”

ลู่ตง ได้ยิ้ม แล้วพูดไปว่า : “ฉันแน่ใจมากว่าไม่ว่าทีมใดๆ ที่ได้ลงมาเตะกับทีมหยุนเฉิง ก็จะมีชัยชนะที่ได้มาโดยง่ายดายที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมพวกเขา!”

พอคําพูดนี้ออกมา ความคิดเห็นในห้องถ่ายทอดสดก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะกันลงมาเป็นแถว

“ปากของ อาจารย์ลู่ นี่มัน.. เลวมาก! แต่ว่า.. ฉันชอบวะ!”

“666…”

“และใช่.. นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึง!”

พิธีกร กล่าวว่า : “อาจารย์ลู่ คําพูดนี้ค่อนข้างที่จะแน่นอนที่สุด แต่ท้ายที่สุดทีมหยุนเฉิงก็ได้เข้ามาอยู่ในรายการซูเปอร์ลีก แต่แล้วในเรื่องนี้ ท่านคิดว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร?”

ลู่ตง ได้พูดอย่างดูถูกออกไปว่า : “แค่พวกเขา.. ไม่คู่ควรกับซูเปอร์ลีก จริงๆ ฉันกล้าพูดว่าแม้คุณจะดึงเด็กจากค่ายฝึกอบรมเยาวชนมาสิบเอ็ดคน และจัดตั้งทีมขึ้นชั่วคราว คุณก็ยังสามารถเอาชนะทีมหยุนเฉิงนี้ได้ นี่คือการตัดสินของฉัน และถึงแม้พวกคุณจะไม่เชื่อ แต่นั่น.. มันก็คือความจริง!”

พิธีกร กล่าวว่า : “นี่ถือเป็นการตัดสินของ อาจารย์ลู่ และมันก็ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของสถานีของเรานะครับ”

ลู่ตง คนนี้มีฉายาว่า ‘ลิ้นพิษ’ ซึ่งเขาก็ได้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในเรื่องนี้อย่างมาก พิธีกรเองก็รู้ดี แต่ในค่ำคืนนี้ พิธีกร ก็กลับค่อยๆ รู้สึกถึงกลิ่นทะแม่งๆ นั่นก็เพราะคำพูดในคืนนี้ของ ลู่ตง.. มันค่อนข้างดูออกจะรุนแรงเกินไป ทั้งมันยังดูเป็นการเสียมารยาทมาก แล้วหากว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็อาจจะควบคุมได้ยาก…

ลู่ตง กล่าวว่า : “อา.. ใช่ ทั้งหมดฉันแค่ประเมิน ทีมหยุนเฉิง เท่านั้น และความจริงมันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าฉัน ..พูดถูก”

แต่ในเวลานี้ พิธีกร กลับมามุ่งความสนใจไปที่สนามฟุตบอล : “โอเค เรากลับมาดูเกมนี้กันต่อครับ.. ในเวลานี้ ทีมเย่เฉิง ได้ครองบอลอยู่ และได้บุกเข้าโจมตีทางปีกซ้าย เข้าใกล้เขตโทษของทีมหยุนเฉิงแล้วครับ มาดูกันว่าจังหวะรุกเข้าทำประตูในครั้งนี้จะสำเร็จได้หรือไม่... โอ้วว สวยงามมากครับ!”

ลู่ตง ได้หัวเราะ แล้วพูดว่า : “ก็เป็นไปตามที่ฉันว่าไง พวกเขากำลังจะยิงทำประตูนี้ได้อีกครั้ง…..”

เขายังพูดไม่ทันจบ..

พิธีกร ก็ได้พูดขึ้นขัดจังหวะเขา : “เดี๋ยวก่อนนะครับ ทีมหยุนเฉิงได้เข้าสกัดบอลเอาไว้ได้ และนี่คือ หลี่ อี้ เป็นนักเตะเบอร์ 16 ของทีมหยุนเฉิง ทั้งท่าการเข้าสกัดบอลของเขามันเหมือนกับ อ็องรี อยู่ไม่น้อย… เอาล่ะครับ ตอนนี้ ทีมหยุนเฉิง ได้เริ่มตอบโต้กลับอย่างรวดเร็ว …”

(1)[บิ๊กวี (大Ⅴ)] - หมายถึงผู้ใช้ Weibo ที่ได้รับการรับรองส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์ม Weibo ตัวอย่างเช่น Sina , Tencent และ Netease และต้องมีแฟนคลับจำนวนมาก 

    และเนื่องจากผู้ใช้ Weibo ที่ผ่านการยืนยันแล้วจะมีไอคอนคล้ายๆ กับตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ ‘V’ ติดอยู่ที่หน้าชื่อเล่นบน Weibo ของพวกเขา ซึ่งชาวเน็ตจึงได้ใช้อ้างถึงผู้ใช้ Weibo ดังกล่าวที่ได้รับการรับรองเป็นการส่วนตัว และมีแฟนๆ จำนวนมากมายว่า ‘บิ๊กวี’

(2)[นกผัก (菜鸟)] - เป็นคำศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต ทางหนึ่ง หมายถึง มือใหม่ อีกทางหนึ่ง หมายถึง ผู้ไร้ประสบการณ์ในด้านใดด้านหนึ่ง

    และคำว่า นกผัก, นกโง่ ก็เกิดมาจากในอดีตที่เมื่อก่อน ผู้คนได้เลี้ยงนกพิราบ ไม่ใช่เพื่อกินนกพิราบ แต่เลี้ยงเพื่อเล่นครับ