ตอนที่แล้วตอนที่ 88 ความดุร้ายของเสี่ยวไก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90 แมวกับค้างคาว

ตอนที่ 89 ลำแสงหิ่งห้อย


(วันนี้ตอนเดียวครับ แปลไม่ทัน ออกไปทำธุระทั้งวัน)

ตุบๆๆ

ไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักล่าทั้งหมดก็ปรากฏตัวจากสามทิศทาง

“ท่านเจ้าเมือง!”

ทั้งหมดเมื่อมาถึงก็แตกตื่นกับสัตว์อสูรสองตัว และซากของอสูรหนอนเก้าส่วนที่กองอยู่กับพื้น

“มาแล้วหรอ งั้นทุกคนเก็บเจ้านี้ไปที”

มู่เหลียงปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ควรมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง

“ขอรับ”

ทุกคนขานรับ และมองหน้ากันด้วยความตื่นตกใจ การออกล่าครั้งแรกในฐานะนักล่าของเมืองเต่าทมิฬ พวกเขากลับล่าอะไรไม่ได้เลย และเก็บได้แต่ฟืนไม้เท่านั้น

พวกเขาคิดภาพออกเลยว่าหากพวกเขากลับไปมือเปล่าคนในครอบครัวของเขาจะมีแววตาเช่นไร

“เอา!! ยืนบื้ออะไรอยู่ได้ มาช่วยกันตรงนี้สิ!”

เว่ยกังร้องตะโกนขึ้น ขณะกำลังแล่เนื้ออยู่

“งั้นฉันไปขนฟืนกลับไปดีกว่า”

หยู่เฟ่ยหยานยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนที่จะเดินไปที่ต้นไม้แถวๆ นั้น

มู่เหลียงเวลานี้ให้ความสนใจซากของอสูรหนอนเก้าส่วนมากกว่า

อยู่ๆ พื้นดินก็สะเทือน

ปัง!!

ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากพื้นดิน ได้ดันร่างส่วนที่เหลือของ อสูรหนอนออกมาจากพื้น

“....!?!”

เว่ยกังหงายหลังไป และรู้สึกตกตะลึง กับฝ่ามือที่ผุดขึ้นมาจากดิน….นี้เป็นพลังของมู่เหลียงยังงั้นหรอ?

“ท่านเจ้าเมืองเป็นผู้ตื่นพลังแห่งปฐพีงั้นหรอ?”

เว่ยกังพยักหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขาสามารถคาดเดาพลังของมู่เหลียงได้เลยจากขนาดของฝ่ามือนี้ อย่างน้อยๆ ท่านเจ้าเมืองของเขาก็เป็นผู้ตื่นขั้น 6

“ปฐพี….ไม่ใช่ว่าเป็นวารีงั้นหรอ แล้วไหนจะพ่นใยได้อีก?”

หยู่เฟ่ยหยานมองฝ่ามือที่ทำมาจากดินและหินด้วยความประหลาดใจ

ทำให้เธอนึกถึงเรื่องเล่าในตำนาน ผู้ตื่นที่มีพลัง 3 อย่าง

“นี้มัน….ขี้โกงชะมัด”

หยู่เฟ่ยหยานนั้นเคยรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้ความมั่นใจของเธอถูกบดขยี้จนไม่เหลือ

“เสี่ยวไก มานี้หน่อย แบกสิ่งนี้กลับไปที”

มู่เหลียงกวักมือเรียกกิ้งก่าสามสีให้มันมาแบกของ

กี้…..

มันส่งเสียงอ่อยๆ และมองดูซากร่างของอสูรหนอนเก้าส่วนอย่างไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็เดินมาอยู่ข้างๆ ฝ่ามือหินยักษ์อยู่ดี

“อย่าขยับนะ เดี๋ยวฉันจะเอาใยแมงมุมรัดมันเอาไว้”

มู่เหลียงให้ฝ่ามือนั้นเอาร่างของอสูรหนอนวางบนหลังของเสี่ยวไก และเริ่มจัดท่าให้เรียบร้อยก่อนจะมัดขนกลับ

“เอ๋…มีแมลงเรืองแสงได้ด้วย….”

เสียงประหลาดใจของหยู่เฟ่ยหยานดังขึ้น

“แมลงเรืองแสงงั้นหรอ”

มู่เหลียงหันมาสนใจทันที

เขาเดินเข้าไปหาหยู่เฟ่ยหยาน และเห็นว่ามีแมลงตัวเล็กๆ กว่านิ้วก้อยเกาะอยู่ที่กิ่งไม้ที่ตายแล้ว  มันเปล่งแสงสีเหลืองจางๆ ออกมา จากตูดของมัน

“โอ้ นั้นมันหนอนเรืองแสง”

เว่ยกังเหลือบไปมองเห็นเลยพูดขึ้น

“มันเป็นแมลงที่เปล่งแสงได้อยู่ตามป่า ถ้ามันโตอีกหน่อยมันจะบินได้ และชอบที่จะไปเกาะตามสัตว์อสูรเพื่อกินเหงื่อไคลตามผิวหนัง”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นอะไรแบบนี้เลย”

หยู่เฟ่ยหยานพูดด้วยความตื่นต้น

“หนอนเรืองแสงงั้นหรอ….”

มู่เหลียงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และคิดว่ามันเหมือนกับหิ่งห้อยที่บ้านเขา

และเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหากรับสิ่งนี้มาฝึกเลี้ยงมันจะแสดงพลังแบบไหนออกมา

“อ้าา มันจะบินหนีไปแล้ว”

หยู่เฟ่ยหยานพยายามที่จะจับหนอนเรืองแสงด้วยความตื่นเต้น และอยากเอามันกลับไปให้แม่ของเธอดู

และเธอยังคิดว่ามันอาจจะหลอกล่อมินโฮให้เด็กสาวคุ้นเคยกับเธอได้

ฟิ้ว!

ใยแมงมุมที่โปร่งแสงถูกยิงออกไป และพันเข้ากับร่างของหนอนเรืองแสง

ฟิ้วๆ

แล้วตอนนั้นเองหนอนเรืองแสงก็หายไปต่อหน้าต่อตาหยู่เฟ่ยหยาน ทำให้เธอตกใจ และมองไปรอบๆ ด้วยความเสียดาย

“มันหายไปไหนแล้ว!”

“ระบบ ฝึกฝนสิ่งนี้”

มู่เหลียงกำหนอนเรืองแสงในมือ อย่าระมัดระวัง

-ติ๊ง ตรวจสอบหนอนเรืองแสงระดับ 0 ทำการฝึกฝน…-”

-ใช้แต้มฝึกฝน 10 แต้มในการรับเลี้ยง ฝึกฝนหนอนเรืองแสงระดับ 1 สำเร็จ-

หนอนเรืองแสงได้เปล่งแสงสีเหลืองอ่อนออกมา และร่างของมันก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น

มู่เหลียงคลายใยออก และปล่อยให้ตัวของหนอนเรือนแสงเติบโตขึ้น จนขนาดของมันเท่ากับนิ้วโป้ง

-ติ๊ง! เจ้านายต้องการสืบทอดพลังของหนอนเรืองแสง และรับทักษะ ส่องแสง หรือไม่-

“รับ”

มู่เหลียงพยักหน้า

ถ่ายทอดทักษะพลังสู่ร่างเจ้านาย….ปรับปรุง….ถ่ายทอดสำเร็จ-

มู่เหลียงลองเปิดใช้งานส่องแสงดู และเห็นว่าที่ปลายนิ้วของเขาเกิดแสงขึ้น ไม่ต่างจากเทียนวันเกิด

“อะไร…แค่เนี้ย!”

มู่เหลียงถึงกับผิดหวังอย่างแรง ไม่คิดว่าความสามารถจะอ่อนแอขนาดนี้

หรือว่าระดับ 1 ยังอ่อนแออยู่ มู่เหลียงคิดเข้าข้างตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินใจวิวัฒนาการมันต่อ

“ระบบวิวัฒนาการหนอนเรืองแสงเป็นระดับ 4”

มู่เหลียงสั่งระบบอีกครั้ง

-ติ๊ง!! หากต้องการวิวัฒนาการจากระดับ 1 ไประดับ 4 จำเป็นต้องใช้แต้มฝึกฝน 1,110 แต้ม-

-หักแต้มฝึกฝน …..วิวัฒนาการหนอนเรืองแสงระดับ 4 สำเร็จ-”

-ติ๊ง!! ส่องแสงวิวัฒนาการเป็น ประกายแสงขั้นสูง-

-ทำการถ่ายโอนความสามารถสู่ร่างเจ้านาย….ปรับปรุง….การถ่ายทอดสำเร็จ-

หลังจากวิวัฒนาการสำเร็จ หนอนเรืองแสงก็ตัวโตขึ้นจนเท่ากับฝ่ามือของเขา

เขาสังเกตมันอย่างระมัดระวัง และพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ดูไปดูมา มันเหมือนกับหิ่งห้อยผสมกับเต่าทองเลย”

ที่ปีกกลางหลังของมันประกบกันเป็นรูปตัว T และมีสีแดงมีส่วนโค้งเว้าเหมือนผลน้ำเต้า

ปีกแข็งด้านหลังของมันดูโปร่งแสง และดูเหมือนกับผลึก

“ไหนแสดงพลังใหม่ของแกให้ฉันดูหน่อย”

มู่เหลียงสั่งให้หนอนเรืองแสงแสดงพลังของมัน

หึ้งๆๆๆ

มันบินขึ้นจากฝ่ามือของมู่เหลียง ก่อนที่ส่วนก้นของมันจะเปล่งแสงออกมา เหมือนกับหลอดไฟขนาด 20 วัตต์

“เอาจริงดิ!”

มู่เหลียงถึงกับหน้าเคร่งเครียด

มันจะน่าผิดหวังไปแล้วที่หนอนเรืองแสงตัวนนี้มีพลังแค่หลอดไฟ 20 วัตต์

สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่หลอดไฟเท่านั้น

มันทำให้มู่เหลียงผิดหวัง

“นั้นอะไร….ว้าว เป็นหนอนเรืองแสงที่ตัวใหญ่จริงๆ”

หยู่เฟ่ยหยานเห็นแสงไฟขึ้นจึงตามแสงนั้นมา

เธอเอามือบังตาไว้เล็กน้อย เพื่อจะมองไปยังหนอนเรืองแสงที่ขนาดตัวเท่ากำปั้น

“มีหนอนเรืองแสงเยอะขนาดนี้เลยงั้นหรอ”

เว่ยกังที่เห็นแสงก็เข้าใจผิดคิดว่าแสงนี้เกิดจากฝูงหนอนเรืองแสง ก่อนที่เขาจะเห็นว่ามันมาจากหนอนเรืองแสงตัวใหญ่

แว๊บแรกสิ่งที่เว่ยกังนึกออก เมื่อเห็นหนอนเรืองแสงตัวใหญ่ คือแถวนี้จะต้องมีสัตว์อสูรขนาดใหญ่อยู่ด้วย ไม่งั้นเหงื่อไคลของสัตว์อสูรตัวเล็กๆ คงไม่พอสำหรับมันแน่

หึ้งๆๆ

ภายใต้แสงสว่างมีเพียงมู่เหลียงที่แสดงสีหน้าผิดหวัง แล้วอยู่ๆ หนอนเรืองแสงก็กระพือปีกเร็วขึ้นจนเกิดเสียงหึ้งๆ

ที่ก้นของมันเปล่งแสงมากขึ้นจนส่องเป็นลำแสงเหมือนไฟฉาย

ก่อนที่ลำแสงนั้นจะหดเล็กลง

ฟิ้ว!

แสงที่รวมอยู่ที่ก้นของมันพุ่งออกไปเป็นเส้นลำแสงเท่าไม้จิ้มฟัน

ตูม!!

เมื่อลำแสงนั้นกระทบกับต้นไม้ มันได้สร้างรูเท่ากำปั้นขึ้น พร้อมกับควันดำของการเผาไหม้

ครืน!!  ตูม!!

แล้วต้นไม้ก็หักล้มลงทันที

“ปล่อยลำแสงได้งั้นหรอ!?”

มู่เหลียงร้องเสียงหลง

เขากระพริบตาหลายครั้ง และมองไปที่ต้นไม้ที่ล้มลง  และมองไปยังหนอนเรืองแสงหลายครั้ง

“เป็น…..หนอนเรืองแสงที่น่ากลัวจริงๆ”

หยู่เฟ่ยหยานเองก็ตกใจไม่น้อย นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมองไปยังหนอนเรืองแสงราวกับไม่เชื่อว่าสิ่งนี้เกิดจากมัน

ความคิดที่จะจับหนอนเรืองแสงนั้นหายไปทันที  ตอนแรกเธอคิดจะจับมันไปเป็นแหล่งผลิตแสงให้บ้านของเธอ

“เจ้าตัวนี้อันตราย!!”

เว่ยกังตั้งท่าทันที และเข้าไปขวางหยู่เฟ่ยหยานเอาไว้

เขากระชับดาบในมือ และพร้อมที่จะจัดการแมลงตัวนี้ ด้วยการโจมตีเดียว

“หิ่งห้อยน้อยมาหลบในแขนเสื้อของฉันก่อน”

เมื่อมู่เหลียงได้ยินสิ่งต่างๆ เขาก็ตอบสนองทันที

ขณะที่เห็นว่าเว่ยกังกำลังจะลงมือ เขาก็ยกแขนเสื้อและให้หนอนเรืองแสงมุดเข้าไป

จากแสงที่ส่องสว่างเจิดจ้าก็มอดดับเหลือแค่แสงจากปลายเทียน

ในที่สุดทุกสายตาก็จ้องมองไปยังมู่เหลียง

“อะไรน่ะ”

หยู่เฟ่ยหยานถึงกับประหลาดใจ

เกิดคำถามมากมายขึ้นในหัวของเธอ

“มู่เหลียง….อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ก็คือสัตว์เลี้ยงของนายด้วย?”

“ก็ประมาณนั้นแหละ”

มู่เหลียงผงกหัวตอบเบาๆ

“มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว นายไปหาหนอนเรืองแสงตัวขนาดนั้นมาจากไหน”

แววตาของหยู่เฟ่ยหยานนั้นเต็มไปด้วยความอิจฉา และมองไปยังแสงวูบวาบในแขนเสื้อของมู่เหลียง

“มันไม่ใช่หนอนเรืองแสง แต่เป็นหิ้งห้อยน้อยต่างหาก”

มู่เหลียงยิ้มและหงายมือให้เห็นร่างของหนอนเรืองแสง

เวลานี้เขาพอใจกับพลังของหนอนเรืองแสงแล้ว และอยากจะเห็นการเติบโตของมัน

ลองคิดภาพวันที่มันวิวัฒนาการมากขึ้น มันจะกลายเป็นปืนใหญ่ลำแสงบินได้ และด้วยคำสั่งเดียวของมู่เหลียง มันสามารถปล่อยลำแสงทำลายล้างลงมาจากมุมสูงที่ยากต่อการรับมือ

“หือ…หิ่งห้อยน้อยงั้นหรอ ชื่อนี้เหมาะกับมันดีนะ”

หยู่เฟ่ยหยานพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

เธอมองหนอนเรืองแสงอย่างเสียดายอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปตัดไม้ต่อ

สำหรับหนอนเรืองแสงตัวเล็กที่เธอเห็นก่อนหน้าเมื่อครู่ เธอก็ไม่คิดจะตามหามันอีกเลย

มู่เหลียงไม่ได้บอกว่าหิ่งห้อนน้อย คือหนอนเรืองแสงตัวนั้น เขาหันหน้ากลับมาและเปิดค่าสถานะใหม่ขึ้นมาดู

ผู้ฝึก : มู่เหลียง

ถึกทน 125.7

ปราณ 152

อายุขัย 24 / 3260 ปี

แต้มฝึกฝน 60 (คืนค่าทุกวัน และสะสมได้)

แต้มวิวัฒนาการ 9,058

ความสามารถ ศิลาโลก: ควบคุมใยพันสายระดับ 5 ประกายแสงขั้นสูงระดับ 4 (ซ่อน…)

…..

สิ่งที่ฝึกฝน เซียวหง แมงมุมผีแดง (ระดับ 5) ทักษะ ควบคุมใยพันสายระดับ 5

หิ่งห้อยน้อย หนอนเรืองแสง (ระดับ 4) ทักษะ ประกายแสงขั้นสูง ระดับ 4

(ซ่อน….)

…..

“เหลือแต้มแค่ 9,000 แบบนี้คงใช้มั่วๆ ไม่ได้อีกแล้ว”

หลังดูทุกอย่าง มู่เหลียงก็ปิดหน้าต่างสถานะลงไป

แล้วหลังจากนั้นไม่นาน

เว่ยกังที่แบกฟืนไว้เต็มหลัง ก็พูดขึ้นด้วยความนอบน้อม

“ท่านเจ้าเมือง พวกเราเก็บไม้เรียบร้อยแล้ว”

เวลานี้ทีมนักล่าทุกคนแบกท่อนซุง และท่อนไม้หลายท่อนไว้บนหลัง

“ฉันก็ได้มาเหมือนกัน”

หยู่เฟ่ยหยานเดินถือท่อนไม้เข้ามา

“งั้นเราก็กลับกันเถอะ”

มู่เหลียงพูดเบาๆ

ก่อนที่จะปล่อยให้หิ่งห้อยน้อยส่องแสงนำทางพวกเขากลับ

“ขอรับ”

ทีมนักล่าทุกคนขานรับอย่างแข็งขันและเดิมตามมู่เหลียงไป ในคืนที่มืดมิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด