ตอนที่ 50 วิ่งอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่เฉินเฟยกำลังจะพูดปลุกคนรอบข้าง ทันใดนั้นเห็นแสงสีแดงออกมาจากหน้าอกเฉียนจี้เจียง จากนั้นคควันดำได้ปะทุออกมาและเฉียนจี้เจียงตัวสั่นเหมือนเจ็บปวด
“หืม? ไม่สิ เมื่อครู่พวกเราผ่านตรงนี้ไปแล้ว!”
ดวงตาเฉียนจี้เจียงกลับมาชัดเจน เมื่อมองสภาพรอบข้างโดยเฉพาะหมู่บ้านบนภูเขาที่อยู่ห่างออกไป ใบหน้าเขาถึงกับซีดเซียว
“จะปลุกพวกเขาอย่างไร?”
เฉินเฟยถามขึ้น เฉียนจี้เจียงมีของจริงๆ หากเฉินเฟยไม่มีเคล็ดชำระใจ เขาคงโดนภาพลวงตาของสิ่งแปลกประหลาดครอบงำและยังไม่ตื่น
“เจ้าไม่เป็นไรหรือ?”
เฉียนจี้เจียงมองเฉินเฟยอย่างประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ถามต่อและหยิบธูปดอกหนึ่งจากห่อออกมาจุด ควันสีเขียวปกคลุมบริเวณโดยรอบ เหยียนชิงทั้งสี่ตกตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อมองหมู่บ้านบนภูเขาที่อยู่ห่างไกลสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป
“หมู่บ้านบนภูเขานั่นเป็นสิ่งแปลกประหลาด ไปกันเถอะ!”
เฉียนจี้เจียงเห็นว่าทุกคนฟื้นแล้วจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่อธิบายอะไร คนอื่นไม่กล้ารอช้าและตามเฉียนจี้เจียงไปอย่างใกล้ชิด
เฉินเฟยวิ่งตามหลังโดยใช้เคล็ดชำระใจตลอดเวลา ความเย็นเยือกทำให้เฉินเฟยค่อยๆสงบลง เมื่อเห็นหมอกควันใกล้เข้ามา เฉินเฟยจึงพยายามเพ่งมองออกไปไกล ความเย็นเยือกค่อยๆไหลเข้าสู่ดวงตา
“มันได้ผล!”
เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะดีใจ แต่ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป แม้ว่าจะมองเห็นได้ไกลกว่าเดิม แต่สิ่งที่ปรากฏในระยะไกลนั้นไม่ใช่ถนนสายอื่นแต่เป็นหมู่บ้านบนภูเขา
เมื่อเทียบกับครั้งแรก ในเวลานี้ทุกคนเข้าใกล้หมู่บ้านบนภูเขามากขึ้น และพวกเขายังเห็นบ้านในหมู่บ้านได้ชัดเจนกว่าเดิม
พื้นดินเป็นที่ราบ บ้านช่องเรียงเป็นระเบียบ ไร่น่าอุดมสมบูรณ์ด้วยหม่อนไผ่ เส้นทางสัญจรในท้องนาล้วนสะดวก ที่นี่เหมือนเป็นแดนสุขาวดี และเห็นได้ว่าผู้คนมากมายตรงนั้นล้วนหันหน้ามองมาทางนี้ราวกับกำลังรอการมาถึงของพวกเขา
เฉินเฟยสั่นสะท้ายและตะโกนเสียงดัง “หยุด เรากำลังเข้าใกล้หมู่บ้านมากกว่าเดิม!”
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฉียนจี้เจียงจำได้ว่าเฉินเฟยเป็นคนแรกที่ตื่นเมื่อครู่ เขาจึงเชื่อใจเฉินเฟยและหยุดฝีเท้า
“เจ้าเห็นอะไร?” เฉียนจี้เจียงถามอย่างกังวลใจ
“บ้าน ทุ่งนา ผู้คนมากมายกำลังยืนมองพวกเรา!”
ในเวลานี้สีหน้าเฉินเฟยน่าเกลียดยิ่ง เนื้อตายเน่าติดกระดูกเย็นมากจนเหมือจะแช่แข็งแขนเฉินเฟย แต่ความหนาวเย็นในใจเฉินเฟยเลวร้ายยิ่งกว่า หากผ่านทางนี้ไปไม่ได้ เกรงว่าอาจไปไม่ถึงเมืองซิ่งเฝิน
“เหล่าเฉียน หาทางเร็ว!”
ฉือเต๋อเฟิงหันมองเฉียนจี้เจียง หากให้บอกว่าใครสามารถพาทุกคนออกไปได้ คนเดียวที่จะพาทุกคนออกไปได้ย่อมเป็นเฉียนจี้เจียงที่มีประสบการณ์
“ทุกคนอยู่ให้ใกล้ข้าไว้ ข้าจะวิ่งสุดแรง!”
เฉียนจี้เจียงหยิบเทียนสีแดงผ่าครึ่งออกมาจากห่อด้วยความเจ็บปวด เทียนสีแดงนี้ไม่แตกต่างจากที่คนธรรมดาใช้ เฉียนจี้เจียงจุดเทียนอย่างระมัดระวัง
วงแสงสีแดงกระจายออกไปห่อหุ้มหลายคนไว้ด้านใน
ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่ภายใต้แสงสีแดงนี้ความเย็นทั่วร่างกายเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ และความรู้สึกสงบเข้ามาเติมเต็มในใจ
ในเวลาเดียวกัน หมอกโดยรอบภายใต้แสงสีแดงสลายไปราวกับกลัวแสงเทียน
“วิ่ง!”
เฉียนจี้เจียงส่งเสียงแล้วพุ่งออกไป คนอื่นไม่กล้ารอช้าวิ่งตามหลังเฉียนจี้เจียงไปติดๆ
ในกลุ่มมีหกคน ท่าร่างของพวกเขาล้วนไม่เลว ดังนั้นแม้ว่าเฉียนจี้เจียงจะพุ่งออกไปแต่ทุกคนยังติดตามเขาได้อย่างใกล้ชิด
หมอกตรงหน้าพวกเขาค่อยๆจางหาย ในที่สุดหมู่บ้านบนภูเขาไม่ได้ปรากฏอีก ทุกคนรู้สึกโล่งใจขึ้น ถ้าได้เห็นหมู่บ้านนั้นอีกครั้งทุกคนต้องเป็นบ้าแน่นอน
“ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง หยุด หยุดก่อน!”
ทันใดนั้นเฉียนจี้เจียงตะโกนเสียงดัง ใบหน้าของเขาซีดขาวมาก ทุกคนมองเฉียนจี้เจียงด้วยความสับสน แต่ เฉินเฟยสังเกตเห็นว่าเทียนสีแดงในมือเฉียนจี้เจียงเผาไหม้ไปมากกว่าครึ่งในเวลาเพียงครู่เดียว
ขณะที่เฉินเฟยกำลังดู เทียนสีแดงยังคงหดลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตามความเร็วนี้เทียนจะมอดในอีกหนึ่งเค่อ
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉือเต๋อเฟิงถามอย่างสับสน
“เทียนเผาไหม้เร็วเกินไป เราอยู่ไม่ไกลจากสิ่งแปลกประหลาดแต่เข้าใกล้มากกว่าเดิม!”
เฉียนจี้เจียงถือเทียนหันไปมาทั้งสี่ทิศ มีเพียงทิศตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่การเผาไหม้ชะลอตัวลง
“ทางนี้!”
ขณะที่เฉียนจี้เจียงพูดเขาก็รีบวิ่งไปทันที
เฉินเฟยมองไปรอบด้านแล้วเกิดหวาดกลัว เคล็ดชำระใจนั้นดีมาก มันทำให้เฉินเฟยตื่นตัว แต่การตื่นตัวนี้ยังคงไม่พอ
หากไม่ออกไปจากที่นี่ได้ ในเวลานั้นคงโดนกลืนกินสติจนหมด
โดยเฉพาะในตอนนี้ สายตาคลุมเครือเย็นชาจากด้านหลังทำให้หลังเฉินเฟยขนลุกซู่ ราวกับว่าสิ่งแปลกประหลาดนั้นกำลังจะจู่โจมในเวลาต่อไป
“หมู่บ้านบนภูเขา หมู่บ้านบนภูเขาปรากฏขึ้นอีกแล้ว”
หลังวิ่งไปสักพัก เฝิงอวี่ชี้ไปไกลและตะโกนทันที เมื่อทุกคนหันไปมองก็เห็นหมู่บ้านที่พวกเขาเห็นเมื่อครู่
ไม่ว่าไปทางไหนก็เหมือนกลับมาอยู่จุดเดิม สำหรับเทียนสีแดงในมือเฉียนจี้เจียง เมื่อเทียบกับตอนแรกมันเหลือไม่ถึงสามส่วน
“สูญเสียครั้งใหญ่ สูญเสียครั้งใหญ่!”
เฉียนจี้เจียงมองเทียนสีแดงจากนั้นมองหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างออกไป เขากัดฟันหยิบเทียนอีกเล่มออกมาจากห่อซึ่งแตกต่างจากเทียนสีแดงอันเดิม มันเป็นเทียนสีขาวบริสุทธิ์
“สิ่งแปลกประหลาดนี้แข็งแกร่งมาก ตอนนี้คงทำได้เพียงเดิมพันเท่านั้น ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่มีใครได้ออกจากที่นี่ได้” เฉียนจี้เจียงพูดเสียงทุ้ม
“เราจะทำอย่างไร?”
“ข้าจะจุดเทียนสีขาวเล่มนี้แล้วโยนมันออกไป เทียนสีขาวตรงกันข้ามกับเทียนสีแดง มันจะดึงดูดสิ่งแปลกประหลาด ในเวลานั้นด้านหลังของเราจะอันตรายอย่างยิ่ง ทุกคนจงวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เฉียนจี้เจียงพูดด้วยเสียงต่ำ นี่เท่ากับการต่อสู้เพื่อชีวิต แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้เกรงว่าทุกคนต้องวนเวียนอยู่ที่นี่ และเมื่อเทียนสีแดงมอดดับทุกคนจะตาย
เหยียนชิงกับคนอื่นมองหน้ากันและไม่ได้หยุดเฉียนจี้เจียงเพราะพวกเขาไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ ในเวลานี้ทำได้เพียงใช้วิธีของเฉียนจี้เจียง
เฉียนจี้เจียงก้มจุดเทียนสีขาว
กลิ่นที่อธิบายไม่ได้โชยออกมาจากเทียนสีขาว เฉียนจี้เจียงโยนเทียนสีขาวไปข้างหลังด้วยแรงทั้งหมด เปลวไฟของเทียนสีขาวยังคงริบหรี่แต่ไม่ได้ดับลง
วินาทีต่อมา เฉียนจี้เจียงวิ่งไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวายพร้อมกับเทียนสีแดงในมือ
เมื่อเทียบกับตอนนี้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเฉียนจี้เจียงเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่ง
คนอื่นต้องตกใจกับความเร็วของเฉียนจี้เจียง มีเพียงเฉินเฟยเท่านั้นที่ตามเฉียนจี้เจียงไปติดๆ และฉือเต๋อเฟิงตามหลังเฉินเฟย
เหยียนชิงกับเหยียนติงส่งเสียงร้องอู้อี้และแทงร่างกายของกันและกันด้วยกระบี่ เลือดสดกระจายในอากาศ ทันใดนั้นร่างทั้งสองหายไปและติดตามด้านหลังฉือเต๋อเฟิงอย่างใกล้ชิด
หญิงชราเฝิงอวี่โยนโอสถเข้าปาก ใบหน้านางเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที ขณะที่นางวิ่งก็ได้แซงเหยียนชิงทั้งสองและไล่ตามหลังฉือเต๋อเฟิง
“ฮ่าฮ่าฮ่า...”
มีเสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังก้อนไปทั่วป่า หมอกโดยรอบหนาขึ้น แต่โชคดีที่ทิศทางของคลื่นหมอกนี้คือด้านหลัง และหมอกที่อยู่ด้านหน้าทุกคนก็ค่อยๆลดลง
สีหน้าทุกคนดีขึ้นเล็กน้อย เทียนสีขาวใช้งานได้จริง ความรู้สึกถูกจับตามองตลอดเวลาได้หายไป