บทที่ 15 โอกาสอยู่แค่เอื้อม
บทที่ 15 โอกาสอยู่แค่เอื้อม
หู่เหมิงนั่งไขว่ห้างบนพื้นและถอดเสื้อผ้าออก ขณะที่โจวหยวนหยิบเข็มฝังเข็มในลิ้นชักรถออกมา
“ฉันพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย”
พวกเขาทั้งสามมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง พวกเขามีความหวังสูง และหวังว่าโจวหยวนจะสามารถรักษาหู่เหมิงได้
โจวหยวนนั่งข้างหลังหูเหมิงและถือเข็มฝังเข็ม 7 เล่ม
เขาเริ่มด้วยเข็มแรก สอดเข้าไปในจุดฝังเข็มที่ด้านหลัง
ไม่มีเลือดไหลออกมา ราวกับว่าเลือดถูกเข็มกักไว้
จากนั้นโจวหยวนก็เสียบเข็มอีก 4 เล่มเข้าไปที่หลังหูเหมิง
โจวหยวนก็รอให้มีบางอย่างเกิดขึ้น ตามความรู้ทางการแพทย์ชั้นสูงของเขา น่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น
หนึ่งนาทีผ่านไป รูขุมขนของหู่เหมิงขยายใหญ่ขึ้น และเลือดก็ค่อยๆ ไหลออกมาจากรูขุมขน
"แอ๊กๆ!"หู่เหมิงไอเป็นเลือด คราวนี้มากขึ้นและเลือดเป็นสีดำ
"โจวหยวน พ่อของฉันสบายดีไหม" ซู่หยานไม่สามารถซ่อนความกังวลของเธอได้
“ไม่ต้องห่วง เขาสบายดี”
โจวหยวนทำการรักษาต่อ คราวนี้เขาแทงเข็มที่เหลืออยู่ในมือไปที่คอของหู่เหมิงโดยตรง
"แอ๊กๆ!" หู่เหมิงไอเป็นเลือดสีดำอีกครั้ง
และสุดท้ายก็กระอักเลือดออกมา
....
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…
หู่เหมิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย!
“นะ-นี่ ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย!”
“ยินดีด้วย คุณลุง คุณฟื้นจากโรคแล้ว”
"อะไรนะ! ในที่สุดฉันก็ฟื้นแล้วหรือ!"
หู่เหมิงไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ เขาคุกเข่าและมองขึ้นไปบนหลังคา เขารู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ส่งโจวหยวนมารักษาเขา
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปหาโจวหยวน
“โจวหยวน ฉันรู้สึกขอบคุณคุณมาก บอกฉันถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ แล้วฉันจะช่วยคุณ”
เขารู้พูดไม่ออกโจวหยวนดีกับเขามาก เขามีความเชี่ยวชาญในความรู้ความสามารถบางอย่าง เขารู้สึกว่าเขาสามารถช่วยโจวหยวนในบางเรื่องได้
"ไม่มีปัญหาคุณลุง"
ด้านหน้าของ"โจวหยวน" ซู่หยานก็วิ่งไปกอดโจวหยวนอย่างแน่น
“โจวหยวนขอบคุณ ขอบคุณที่รักษาพ่อของฉัน” ซู่หยานน้ำตาไหลและพูดออกมาอย่างจริงใจ
“ข้าสัญญาแล้วมิใช่หรือว่าจะรักษาพ่อของเธอให้ได้?ลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูด”โจวหยวนกล่าวขณะที่เขาลูบศีรษะของซู่หยาน
ซู่หานซียืนอยู่ข้างๆ เช็ดน้ำตาที่หางตาของเธอ เธอรู้สึกตื้นตันใจและมีความสุขที่สามีของเธอหายดีแล้ว
เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายปีแล้ว และโจวหยวนก็ดูเหมือนวีรบุรุษสำหรับพวกเธอ
[ความรู้สึกของซู่หยานที่มีต่อคุณได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก คุณได้รับ 800 คะแนนวายร้าย]
โจวหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจในขณะที่เพลิดเพลินกับอ้อมกอดอันอบอุ่นของซู่หยาน
…
โจวหยวนรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัวของซู่หยาน พวกเขาคุยกันอย่างมีความสุข
"อาหารนี้อร่อยมาก ฉันรู้สึกทึ่งมากเมื่อได้ชิมมัน แม้ว่าจะเป็นอาหารดั้งเดิม แต่รสชาติดีกว่าอาหารในร้านอาหารเสียอีก" โจวหยวนเช็ดเศษอาหารที่เหลือที่มุมปาก ชื่นชมการทำอาหารของซู่หานซี
“ฉันดีใจที่เธอชอบมัน และถ้าเธออยากชิมมันอีก เชิญมาที่นี่ได้เลยตลอดเวลา เราจะได้รับประทานอาหารร่วมกันแบบนี้อีก”ซู่หานซีกล่าวอย่างสุภาพ
“อืม คราวหน้าผมอาจจะกลับมา ตอนนี้ผมต้องไปก่อน เพราะผมมีธุระต้องทำ”
“ฉันจะไปส่งนาย” ซู่หยานกล่าวว่า
“ก็ได้ แต่ก่อนอื่นนั้น....”
โจวหยวนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบการ์ดสีเงินออกมา
เขายื่นการ์ดให้หู่เหมิง
“นี่คือการ์ดอะไร?” หู่เหมิงถามด้วยความสับสน
“ลุงไปที่ที่อยู่นั้นถ้าคุณต้องการงาน แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถของคุณลุงด้วย บริษัทของเราไม่รับคนไร้ประโยชน์”
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวหยวน หู่เหมิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาอ่านข้อความบนการ์ด มันมีชื่อโจวกรุ๊ปอยู่บนนั้น
ดวงตาของเขาเบิกกว้างและมองไปที่โจวหยวนด้วยความตกใจ
"โจวกรุ๊ป... โจวหยวนคุณมาจากตระกูลโจวงั้นเหรอ!"
“ใช่ ผมเป็นลูกชายของโจวเทียน”
หู่เหมิงยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลูกชายของโจวเทียน? หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองแห่งนี้งั้นหรือ?
บุคคลที่มีสถานะสูงส่งเช่นนี้อยู่ในบ้านของเขาได้อย่างไร?
“คุณเป็นลูกชายของโจวเทียนเหรอ หึ คนใหญ่คนโตอย่างคุณมากินข้าวกลางวันกับครอบครัวฉันได้ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก”
“ผมยังเป็นนักเรียนอยู่ ยังเทียบไม่ได้กับพ่อของผมหรอก” โจวหยวนกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้หู่เหมิงรู้สึกทึ่งในตัวโจวหยวน ด้วยสถานะที่สูงส่ง เขาไม่หยิ่งแถมยังถ่อมตัวอย่างมา
บุคคลเช่นนี้หายากเสียยิ่งกว่ายาก
“ฉันมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์กับโจวกรุ๊ป ฉันรู้ว่าการเลือกของพวกเขานั้นค่อนข้างเข้มงวด แต่ฉันจะพยายาม” หู่เหมิงกล่าวอย่างจริงจัง
“ไม่ต้องรีบร้อน ทำให้แน่ใจว่าอาการของคุณดีขึ้นแล้ว”
"ตกลง"
หู่เหมิงสงบลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังรู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ
โจวกรุ๊ปนั้นมีชื่อเสียงและทรงอำนาจอย่างมาก สมัยยังทำงานอยู่เขาก็มักได้ยินชื่อนั้น
พวกเขาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขามากมาย และมีบริษัทในเครือจำนวนมากอีกด้วย และบริษัทโฮลดิ้งที่เขาเคยทำงานด้วยก็เป็นหนึ่งในเครือของโจวกรุ๊ป
เขายังจำตอนที่เจ้านายของเขาคุกเข่าต่อหน้าชายคนหนึ่งตอนที่เขาได้ทำผิดพลาด เขาแน่ใจว่าคนนั้นคือโจวเทียน
ในขณะเดียวกัน ซู่หยานและซู่หานซียังคงสับสนเล็กน้อย พวกเขาสองคนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตระกูลโจวหรือตัวตนที่แท้จริงของโจวหยวน
“พ่อ โจวหยวนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงงั้นหรือ?”
ซู่หยานไม่สามารถซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้ และถามพ่อของเธอ
“ก็พูดได้ว่ามีไม่กี่คนที่ทัดเทียมกับโจวหยวน เขาเป็นบุตรชายของผู้ทรงอำนาจที่สุดในเมืองนี้”หู่เหมิงได้ตอบกลับ
"ฉันพอจะเดาได้" ซู่หยานพยักหน้า
เธอเข้าใจแล้ว เธอไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรก โจวหยวนนั้นขับรถหรู เห็นได้ชัดว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวย
และชื่อโจวหยวนก็รู้สึกคุ้นเคยเช่นกัน เธอเคยได้ยินเพื่อนร่วมชั้นพูดชื่อนี้บ่อยๆ
“ครับๆ วันนี้ผมของตัวก่อนนะครับ ลาก่อนครับคุณลุง คุณป้า”
ก่อนจากไปโจวหยวนกล่าวลาพ่อแม่ของซู่หยานก่อน
“ได้ๆ ขับรถระวังด้วยนะ”
หลังจากนั้นโจวหยวนก็ออกจากที่นี่และไปที่บ้านพักของเขา
แม่ของเขาแจ้งว่าเธอกำลังไปเยี่ยมบ้านของเขา
.....
ขับมาได้ครึ่งทาง โจวหยวนก็โทรหาใครบางคน
ไม่กี่วินาทีต่อมา สายก็เชื่อมต่อได้
"ลุงหลง ฉันทิ้งขยะที่ถนนหนานจิงลู่ในตรอก ทำความสะอาดมันซะ"โจวหยวนกล่าวอย่างเฉยเมย
“ได้เลยครับนายน้อย” เสียงของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความเคารพดังมาจากโทรศัพท์
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ก็วางสายโทรศัพท์ไป
โจวหยวนไม่ต้องการตัวแปรที่ทำให้เขาไขว่เขว แน่นอนว่าเขาต้องการกำจัดศัตรูทุกคนให้สิ้นซาก