ตอนที่ 332 การเผชิญหน้ากับยานรบที่มีระดับเหนือกว่า!
ตอนที่ 332 การเผชิญหน้ากับยานรบที่มีระดับเหนือกว่า!
ดาวเคราะห์ที่วินด์ไชม์อาศัยอยู่กลับตกอยู่ภายใต้วิกฤตอย่างสมบูรณ์ เพราะทั่วทั้งตัวดาวมีฝุ่นควันปกคลุมอยู่อย่างหนาทึบ
เมื่อเบโอเนทเคลื่อนที่ออกมาจากรูหนอนระบบเตือนภัยก็ดังขึ้นในทันที!
“คำเตือน! มียานรบปริศนากำลังเข้ามาใกล้”
เซี่ยเฟยรีบสังเกตระบบเรดาร์และได้พบยานรบ 2 ลำกำลังเคลื่อนที่เข้ามาหาเขาจากทางด้านหลัง
“เปิดใช้ระบบเกราะพลังงาน เปิดใช้ระบบต่อสู้เต็มกำลัง”
ฟู่!
เปลวไฟพุ่งออกจากเครื่องยนต์ของเบโอเนทอย่างรุนแรง พร้อมกับตัวยานที่หมุนหน้ากลับตัวอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจากระบบเรดาร์แสดงให้เห็นว่ายานฟริเกตทั้งสองลำที่กำลังใกล้เข้ามาคือยานรุ่นโคลัคซัสของบริษัทเอ็มม่า และถึงแม้ว่ายานรุ่นนี้จะมีการจู่โจมและการป้องกันที่ดี แต่มันก็ยังเป็นยานรุ่นที่มีจุดด้อยในเรื่องความคล่องตัว
“ขยี้พวกมันซะ!” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง
เมื่ออีกฝ่ายได้เห็นว่ายานปริศนาไม่เพียงแต่จะไม่หลบหนีแต่ยังพุ่งเข้ามาเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะบังคับให้ยานเคลื่อนตัวแยกออกไปทางซ้ายและทางขวาเพื่อล้อมยานปริศนาเอาไว้จากสองทาง
ท้ายที่สุดเบโอเนทก็ไม่ใช่ยานรบที่สามารถพบเห็นได้โดยทั่วไป พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องประเมินสถานการณ์ของยานปริศนาลำนี้ก่อน
“เปิดใช้งานเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์กับเครื่องแทรคชั่นคอนโทรลเลอร์ดักจับพวกมันเอาไว้!”
จิ้ว!
ลำแสงจากเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์กับเครื่องแทรคชั่นคอนโทรลเลอร์ถูกยิงออกไปใส่ยานทั้งสองในเวลาเดียวกัน พร้อมกับทำให้ความเร็วของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานยานฟริเกตทั้งสองลำก็เคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าราวกับเต่าคลานทำให้พวกมันดูไม่ต่างไปจากเป้านิ่งสำหรับเซี่ยเฟย
การเคลื่อนไหวนี้ถือได้ว่าเป็นลักษณะเด่นของเบโอเนท เพราะมันสามารถที่จะดักจับเป้าหมายทั้งหมดในระยะเอาไว้ได้พร้อมกับใช้ปืนใหญ่จู่โจมทำลายยานของศัตรูไปทีละลำ
สำหรับการต่อสู้ระหว่างยานรบในจักรวาลการมีอำนาจการจู่โจมที่รุนแรงถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แต่ความสามารถในการดักจับศัตรูให้หยุดนิ่งก็เป็นหนึ่งในความสามารถที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายานรบจะทรงพลังแค่ไหนแต่ถ้าหากว่ามันไม่สามารถจู่โจมเข้าใส่เป้าหมายได้ มันก็ไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ขณะเดียวกันในฐานะที่เบโอเนทเป็นยานรบรุ่นที่ 2 ที่มีเอาไว้สำหรับการจู่โจมระยะประชิด มันจึงไม่เพียงแต่จะมีพลังทำลายอันบ้าคลั่งเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการดักจับศัตรูที่แข็งแกร่งอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่ายานลำใดที่เข้ามาใกล้ยานลำนี้มันก็ยากที่จะหลบหนีหากไม่ทำลายเบโอเนทลงไปเสียก่อน
มันอาจจะสามารถกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิด มันก็ไม่มีทางที่ยานลำไหนจะสามารถหลบหนีเบโอเนทไปได้!
น่าเสียดายที่ยานฟริเกตทั้งสองลำไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายของเบโอเนทเลย ดังนั้นพวกมันจึงได้ เคลื่อนที่เข้ามาในระยะประชิดโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร
ปุ้ง! ปุ้ง!
เมื่อยานโคลัคซัสทั้งสองลำรับรู้ได้ถึงอันตราย พวกมันก็เริ่มจู่โจมออกมาในเวลาเดียวกัน
ลำแสงสีขาวจากปืนใหญ่พุ่งกระทบเบโอเนท แต่มันก็เป็นเพียงแค่การโจมตีที่ไม่ต่างไปจากมดกัด มันจึงทำให้การโจมตีพวกนี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเกราะพลังงานของเบโอเนทได้ด้วยซ้ำ
เบโอเนทคือยานรบหนักซึ่งเป็นยานรบรุ่นที่ 2 ของพันธมิตร ดังนั้นหากอีกฝ่ายไม่ได้มีพลังทำลายเทียบเท่ากับยานประจัญบาน มันก็แทบที่จะไม่สามารถทะลุผ่านการป้องกันของเบโอเนทเข้ามาได้เลย
“ขยับเข้าไปใกล้กว่านี้และเริ่มโจมตีทันทีเมื่อศัตรูอยู่ในระยะ” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่ง
“คำเตือน! มียานรบปริศนากำลังเข้ามาใกล้”
เซี่ยเฟยก้มหน้ามองลงไปที่ระบบเรดาร์และมันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ยานประจัญบาน!
ศัตรูของเขาในคราวนี้คือยานประจัญบานที่มีขนาดและอำนาจจู่โจมเหนือกว่าเบโอเนทถึงสองระดับ!
การวัดอำนาจการสู้รบทางทฤษฎีและทางปฏิบัติเป็นสองเรื่องที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และถึงแม้ว่าในทางทฤษฎีเบโอเนทจะมีอำนาจในการเผชิญหน้ากับยานประจัญบานได้ แต่เซี่ยเฟยก็ยังไม่เคยยืนยันข้อมูลเรื่องนี้ในทางปฏิบัติเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คำเตือน! มียานรบปริศนากำลังเข้ามาใกล้”
“ยังมีอีกเหรอ?!” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
พริบตาต่อมามันก็มียานครุยเซอร์รุ่นคริฟปรากฏขึ้นมา 3 ลำ พร้อมกับยานแบทเทิลครุยเซอร์รุ่นกลาสฮอปเปอร์ปรากฏขึ้นมาอีกสองลำ และเห็นได้ชัดเลยว่ายานทั้งห้าลำนี้คือพวกเดียวกันกับยานประจัญบานและยานฟริเกตอีกสองลำที่เซี่ยเฟยได้พบในตอนแรก
โดยสรุปคือเซี่ยเฟยต้องเผชิญหน้ากับยานรบของศัตรู 8 ลำพร้อมกันและหนึ่งในนั้นก็มียานประจัญบานอยู่หนึ่งลำด้วย!
เพียงแค่การเผชิญหน้ากับยานประจัญบานก็ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเบโอเนทมากแล้ว แต่เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ กลับกลายเป็นเซี่ยเฟยต้องเผชิญหน้ากับยานประจัญบานพร้อมกับยานรบลำอื่นอีก 7 ลำ
“โจมตี!!” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เบโอเนทใช้เวลาเคลื่อนที่เข้าหาโคลัคซัสในเวลาเพียงแค่ไม่นาน ก่อนที่ปืนใหญ่นิวตรอนทั้งเจ็ดกระบอกจะถูกยิงออกไปพร้อม ๆ กัน
ตูม! ตูม! ตูม!
ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะโคลัคซัสโดนทำลายไปด้วยกระสุนปืนใหญ่เพียงแค่ 3 นัด!!
ถึงแม้ปืนใหญ่นิวตรอนจะมีระยะทำการที่ค่อนข้างสั้นแต่มันก็มีอัตราการยิงที่รวดเร็วมาก ซึ่งมันสามารถที่จะยิงกระสุนออกไปได้ 1 นัดในทุก ๆ 1.5 วินาที และถึงแม้ว่าเขาจะเหลือปืนใหญ่เพียงแค่กระบอกเดียว แต่เขาก็สามารถทำลายโคลัคซัสได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ
“พลังทำลายของปืนใหญ่นิวตรอนน่ากลัวมากเลย” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจและด้วยพลังทำลายที่แสดงออกมา มันจึงทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก
“ล็อกเป้าไปที่ยานประจัญบานลำนั้น เปิดใช้งานเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์และเปิดใช้งานเครื่องแทรคชั่นคอนโทรลเลอร์ควบคุมความเร็วของมันเอาไว้” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
“นี่นายคงไม่คิดที่จะใช้ยานประจัญบานลำนั้นทดสอบปืนใหญ่นิวตรอนใช่ไหม? นั่นมันคือยานประจัญบานเชียวนะ ลองดูดี ๆ สิขนาดของตัวยานประจัญบานใหญ่กว่าเราหลาย 10 เท่าเลยนะ!” อันธพยายามห้ามปรามความบ้าคลั่งของชายหนุ่ม
“เงียบ! ระหว่างที่กัปตันกำลังสั่งการรบ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แสดงความคิดเห็นออกมาทั้งนั้น!!” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาอย่างเย่อหยิ่ง
อันธเงียบเสียงอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยพูดขึ้นมานั้นคือเรื่องจริง
มันเป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าในสนามรบห้ามขัดคำสั่งผู้บัญชาการอย่างเด็ดขาด และถึงแม้ว่าผู้บัญชาการจะออกคำสั่งให้ใครออกไปเสี่ยงชีวิต เขาคนนั้นก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่ลังเล
“เคลื่อนที่เข้าไปหาโคลัคซัสลำที่ 2 และเริ่มระดมยิงทันทีเมื่อเป้าหมายอยู่ในระยะ”
ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงปืนใหญ่คำราม 3 ครั้งติดต่อกัน ก่อนที่อวกาศอันมืดมิดจะถูกประดับไปด้วยแสงสว่างอันเจิดจ้าจากการที่ยานอวกาศถูกทำลาย
การที่ยานฟริเกตทั้งสองลำถูกทำลายไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับเซี่ยเฟยมากนัก เพราะในสนามรบยานฟริเกตทำหน้าที่เป็นเพียงแค่ตัวเบี้ยที่มักจะถูกใช้แล้วทิ้งเป็นประจำอยู่แล้ว
ความท้าทายที่แท้จริงของเขาคือยานประจัญบานลำนั้นต่างหาก!
ในเวลาเดียวกันกับที่เบโอเนทกำลังทำลายโคลัคซัสทั้งสองลำ ยานประจัญบานที่มีเกราะหนาและมีพลังทำลายอันรุนแรงก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้ามาด้วยความรวดเร็ว
ระยะทำการของปืนใหญ่เลเซอร์ที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนยานประจัญบานไกลกว่าระยะทำการของปืนใหญ่นิวตรอนที่ติดตั้งบนเบโอเนทมาก ดังนั้นก่อนที่เบโอเนทจะเข้าสู่ระยะโจมตีมันก็จำเป็นจะต้องตั้งรับการจู่โจมของอีกฝ่ายให้ได้เสียก่อน!
ปัง!
ปืนใหญ่เลเซอร์จากยานประจัญบานถูกยิงออกมาด้วยความรุนแรง และความเร็วของมันก็ให้ความรู้สึกราวกับสายฟ้าฟาด
ลูกกระสุนพุ่งปะทะเข้าบริเวณด้านข้างของเบโอเนทอย่างรุนแรง จนทำให้แม้แต่ห้องโดยสารที่อยู่ภายในยานก็เกิดการสั่นสะเทือนจากการรับการจู่โจม
“ทรงพลังมาก! รีบรายงานความเสียหายมาเดี๋ยวนี้” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
“เกราะพลังงานได้รับความเสียหาย 31%, เกราะภายนอกของตัวยานยังไม่ได้รับความเสียหาย”
“เยี่ยม!!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจหลังจากที่เขาได้เห็นกับตาของตัวเองว่ายานรบหนักไม่เพียงแต่จะมีพลังทำลายที่น่าอัศจรรย์เท่านั้น แต่มันยังมีพลังป้องกันที่น่าหวาดกลัวอีกด้วย
อย่าลืมว่าขนาดของยานรบหนักเทียบเท่ากับยานครุยเซอร์ได้เท่านั้น และการที่มันสามารถรับการโจมตีจากยานประจัญบานเข้าไปโดยตรงโดยสูญเสียเกราะพลังงานไปเพียงแค่ 31% ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ
“ศัตรูกำลังรวบรวมพลังงานอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ว่าเราจะถูกจู่โจมอีกครั้งใน 8.7 วินาที”
“ถึงแม้พลังทำลายของปืนใหญ่เลเซอร์จะรุนแรงแต่อัตราการยิงของมันก็ช้ามาก ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสของเราแล้ว!!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“เดินหน้าเต็มกำลัง เปิดใช้งานอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จ 100% ทำยังไงก็ได้เข้าประชิดศัตรูให้ได้โดยเร็วที่สุด”
ตูม!
ในระหว่างที่เบโอเนทกำลังเคลื่อนที่เข้าหาศัตรู ยานประจัญบานก็เริ่มจู่โจมอีกครั้งจนทำให้ยานของเซี่ยเฟยสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งการจู่โจมในครั้งนี้ก็ทำให้แม้แต่กาต้มน้ำชาก็ยังกระเด็นลอยขึ้นไปจากโต๊ะ
“เตรียมใช้ชิพโอเวอร์โหลด!”
เนื่องมาจากรูปร่างของเบโอเนทค่อนข้างเล็กมันจึงสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายส่วนใหญ่ของปืนใหญ่เลเซอร์ที่ระดมยิงเข้ามาได้ เพราะท้ายที่สุดยิ่งปืนใหญ่มีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีอัตราความแม่นยำที่ลดลงไปด้วยเท่านั้น นอกจากนี้ปืนใหญ่เลเซอร์ยังเป็นอาวุธที่มีเอาไว้สำหรับการเผชิญหน้ากับยานประจัญบานด้วยกันโดยเฉพาะ มันจึงไม่ค่อยเหมาะที่จะนำมาจู่โจมเข้าใส่ยานรบที่มีขนาดเล็กกว่า
หลังจากถูกระดมยิงเข้าใส่ 2 ครั้ง ในที่สุดเบโอเนทก็สามารถเคลื่อนที่เข้าสู่ระยะทำการของปืนใหญ่นิวตรอนได้
“ถึงเวลาเอาคืนแล้ว! เปิดใช้งานชิพโอเวอร์โหลด 100%”
หลังจากเปิดใช้งานชิพโอเวอร์โหลดอัตราการรวบรวมพลังงานของปืนใหญ่นิวตรอนก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 0.9 วินาทีเท่านั้น
ปุง! ปุง! ปุง! …
ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมันกลับมีภาพของยานรบหนักกำลังระดมจู่โจมเข้าใส่ยานประจัญบานอย่างดุเดือด
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต่างไปจากทารกที่กำลังต่อยเข้าใส่ผู้ใหญ่อย่างรุนแรง ซึ่งมันเป็นภาพที่เหนือเกินกว่าจินตนาการของทุกคนอย่างแท้จริง
ปืนใหญ่นิวตรอนทั้งเจ็ดระดมยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความรุนแรงของการยิงแต่ละครั้งก็สามารถสร้างความเสียหายขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยในทุก ๆ วินาทีจะมีกระสุนพุ่งเข้าปะทะเกราะพลังงานของยานประจัญบาน และตั้งแต่ที่เบโอเนทเริ่มจู่โจมมันก็ไม่หยุดการโจมตีเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ในทางกลับกันยานประจัญบานต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลังงานสำหรับการยิงมากกว่า 10 วินาที และถึงแม้ว่าอำนาจการยิงทุกครั้งจะหนักหน่วง แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะทำลายยานรบลำเล็ก ๆ ตรงหน้าของมันได้
“ยานรบของฉันคือราชาในระยะประชิด! โจมตีมันต่อไป!! พวกเราจะไม่หยุดจนกว่ามันจะถูกทำลาย” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการอย่างบ้าคลั่ง
“คำเตือนเหลือเวลาอีก 3 นาที ก่อนที่เราจะเข้าสู่ระยะการโจมตีของกองยานข้าศึก”
“เหลือเฟือ!” เซี่ยเฟยตะโกนออกมาอย่างเย็นชา
แม้ว่าปืนใหญ่นิวตรอนจะมีจุดอ่อนที่ร้ายแรงคือระยะการโจมตี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เบโอเนทสามารถเข้าสู่ระยะทำการได้มันก็ถือได้ว่าเป็นหายนะสำหรับยานทุกลำ!
เบโอเนทเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ยานประจัญบานอย่างรวดเร็ว โดยพยายามใช้ความเร็วในการหลบเลี่ยงการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม
แม้ว่าปืนใหญ่เลเซอร์จะมีพลังทำลายที่น่าอัศจรรย์ แต่อัตราการหมุนลำกล้องของตัวปืนก็เชื่องช้ามากเกินไป ดังนั้นเมื่อมันถูกศัตรูเข้าต่อสู้ในระยะประชิด ปืนใหญ่พวกนี้ก็แทบที่จะไม่สามารถทำลายศัตรูได้เลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากยานประจัญบานได้ระดมจู่โจมออกไปอีก 3 รอบ มันก็ยังไม่สามารถที่จะทำลายเกราะพลังงานของเบโอเนทลงไปได้ แน่นอนว่าสาเหตุที่ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้นั่นก็เพราะว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จมีบทบาทสำคัญในการเสริมพลังให้กับเกราะพลังงานที่คอยป้องกันตัวยานอยู่เหมือนกัน
ยานประจัญบานไม่สามารถทนรับการระดมยิงได้อีกต่อไปจนเริ่มมีเปลวไฟลุกท่วมไปทั่วทั้งตัวยาน
“สำเร็จ! เบโอเนทสามารถเผชิญหน้ากับยานประจัญบานได้จริง ๆ นี่ถ้าหากว่าฉันไม่เห็นกับตาฉันก็คงจะไม่เชื่อว่ายานครุยเซอร์จะสามารถทำลายยานประจัญบานลงไปได้!” อันธตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“เปลี่ยนเป้าหมายและกำจัดมันซะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
***************