ตอนที่แล้วบทที่ 40
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42

บทที่ 41


บทที่ 41

“ข้าเสนอ70,000! 70,000 หินดวงดาวขั้นต้น!”

เสียงผู้หญิงดังขึ้น เธอเสนอราคากระโดดเป็น 70,000 โดยตรง และเจ้าของเสียงนี้ เกรงว่าสวี่ล่ายจะไม่มีทางลืมมันไปชั่วชีวิต

“หลิวเฟยเยี่ยน! เจ้า…” ในเวลานี้ นายน้อยแห่งตระกูลหลินทนไม่ไหวเช่นกัน

“ข้าทำไม? หรือตระกูลหลินเจ้าเป็นเจ้าของโรงประมูลแห่งนี้? มีแค่เจ้าที่ได้รับอนุญาตให้เสนอราคา? ต้องเป็นเจ้าเท่านั้นที่ชนะประมูลหรือไร? ทักษะฝึกระดับธรณี หากเจ้าอยากได้ นั่นต้องขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีอำนาจเพียงพอด้วยหรือไม่”

หลิวเฟยเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา แม้จะสวมหน้ากาก แต่ด้วยบุคลิก นิสัยที่ชอบก่อกวน และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ ทุกคนก็สามารถระบุได้ในแวบเดียว

“ดี ดีมาก!  เช่นนั้นข้าจะจ่าย 75,000” นายน้อยแห่งตระกูลหลินขึ้นราคาอีกครั้ง

“80,000!”

“เจ้า......”

ไม่มีใครคาดคิด หลิวเฟยเยี่ยนคนนี้ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เพิ่มราคากระโดดขึ้นหลัก 80,000 โดยตรง

นายน้อยแห่งตระกูลหลินกัดฟัน คิดอยู่ครึ่งวันไม่กล้าเปิดปาก

“โฮ่ โฮ่ องค์หญิงหลิวใจกว้างนัก 80,000! หินดวงดาวครั้งที่หนึ่ง”  เวลานี้ปรมาจารย์ฟางเริ่มนับถอยหลัง

“คิก คิก ว่าอย่างไร? ตระกูลหลินของเจ้าเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในรัฐต้าหยานมิใช่หรือ? เหตุใดยามนี้ถึงขลาดเขลา?” หลิวเฟยเยี่ยนหัวเราะเยาะ ไม่ปิดบังท่าทีดูถูกของตัวเอง

“ประเสริฐ! เช่นนั้นเรานายน้อยจะสู้กับเจ้า! ข้าจะจ่าย 85,000...”

ยังไม่ทันรอให้นายน้อยแห่งตระกูลหลินพูดจบ หลิวเฟยเยี่ยนยื่นข้อเสนอทันที

“90,000!”

ฮือฮา...

สถานที่ประมูลเดือดอีกครั้ง แต่ละคนแสดงสีหน้าตื่นตะลึง

“เท่านี้ทักษะฝึกระดับธรณีคงตกอยู่ในมือตระกูลหลิวแล้ว”

“นับแต่ตระกูลหลิวได้เกาะขาประมุขนักสู้ อำนาจของพวกเขานับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น”

“ถูกตัอง คล้ายตอนนี้จะกลายเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในรัฐต้าหยานแล้ว”

“ใช่ ใช่”

“หินดวงดาว 90,000! ครั้งที่หนึ่ง”

“หินดวงดาว 90,000! ครั้งที่สอง”

“หินดวงดาว 90,000! ครั้งที่ ...”

“ข้าจะจ่าย 100,000! หนึ่งแสนหินดาราขั้นต้น!”

“นายน้อย! ท่าน ...”

คราวนี้นายน้อยของตระกูลหลินดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่สนใจคำห้ามปรามขอผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกาย กระโดดขึ้นยกมือขวาทันใด

อย่างไรก็ตาม……

“คิก คิก ทำได้ดีมาก” หลิวเฟยเยี่ยนหัวเราะเยาะ ชูนิ้วโป้งและชมเชย “ตระกูลหลินของเจ้ามีน้ำใจจริงๆ เราสตรีขอชื่นชม ข้าสละสิทธิ์! ส่วนหนึ่งของทักษะฝึกระดับธรณีนี้นี้ มันเป็นของเจ้า!”

“เหอะ...! ที่แท้เจ้าก็มีดีเท่านี้”  นายน้อยแห่งตระกูลหลินตะคอกเย็นชา ความสุขแห่งชัยชนะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ไม่รอให้นายน้อยของตระกูลหลินนั่งลง หลิวเฟยเยี่ยนพูดอีกครั้ง

“คิก คิก ขอบคุณตระกูลหลินที่ให้การสนับสนุน ยินดีมอบหินดวงดาว 100,000 ก้อน แลกกับขยะทักษะฝึกที่พวกเราตระกูลหลิวตัดสินใจโล๊ะทิ้ง”

“พัฟ~!”

นายน้อยแห่งตระกูลหลินรู้สึกแน่นหน้าอก โกรธจนเกือบอาเจียนเป็นเลือด

“ฮ่าๆๆ...”

ทันใดนั้นทั้งสถานที่ประมูลก็ระเบิดเสียงหัวเราะ

จิตใจสตรีนางนี้ทำด้วยอะไร? ทุกคนไม่เคยคาดหวังเลยว่าผลลัพธ์สุดท้าย จะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ ในครั้งนี้ ใบหน้าของนายน้อยแห่งตระกูลหลิน เกรงว่าคงถูกตบเข้าฉาดใหญ่

“หลิว เฟยหยาน---! ตระกูลหลินของข้าไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า!”

หลินจื่อเฟิงตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้จะมองไม่เห็นสีหน้าชัดเจน แต่ทุกคนสามารถรู้สึกถึงอารมณ์ของหลินจื่อเฟิงในเวลานี้ได้

สวี่ล่ายแอบหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและถอนหายใจ “เฮ้อ! เจ้าสร้างศัตรูไปทั่ว ข้าเกรงว่าในอนาคตเมื่อเจ้าพลาด คงถึงคราวเจ้าร้องไห้บ้างแล้ว”

“ส่วนที่เหลือของทักษะฝึกระดับธรณี: ประสานหนึ่งไร้ขอบเขต ปิดราคา 100,000 หินดวงดาว!”

ป้าง!

ในที่สุดการประมูลในครั้งนี้ ก็จบลงอย่างสมบูรณ์

ความเสียใจเพียงอย่างเดียวของสวี่ล่าย คือเขาไม่อาจคว้ามันมาครอง ด้วยความไม่พร้อมของตัวเอง เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เงินคือทุกสิ่งในโลกจริงๆ

หลังออกจากสถานที่จัดประมูล สวี่ล่ายรีบไปที่พื้นที่สมาชิกบนชั้นสาม รับหินดวงดาวที่ขายได้ของตัวเองหลังจากประมูลสมบัติกลับมา

“คุณชายสวี่ นี่คือหินดวงดาวที่ท่านได้รับจากการประมูลสมบัติ หักค่านายหน้าที่ทางพันธมิตรช่วยขายทอดตลาด และหักเงินจากสมบัติที่ท่านซื้อ เบ็ดเสร็จเหลือหินดวงดาว 12,000 ก้อน เชิญตรวจสอบดู”

สาวใช้เสี่ยวชุ่ยผลักแหวนมิติให้สวี่ล่าย

“ขอบคุณมาก” สวี่ล่ายแสดงสีหน้าเจ็บปวด  ข้าเพิ่งซื้อวัสดุจำนวนมากมา แล้วแปรรูปขายได้เงินจำนวนมาก แต่หลังจากหักค่าของทุกอย่าง มันกลับเหลือกำไรแค่เท่านี้

สวี่ล่ายรับแหวนมิติและตรวจสอบมันอย่างคร่าวๆ ด้วยพลังจิต หลังจากยืนยันจำนวนหินดวงดาว ก็หันหลังกลับและรีบจากไป

ตอนนี้หินประสานค่ายกลที่ไม่ได้ใช้ในมือถูกขายไปหมดแล้ว นอกจากนี้เขายังซื้อวัสดุจำนวนมากเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน เรียกได้ว่าทุกอย่างพร้อมเหลือแค่ทักษะฝึกเท่านั้น

เมื่อนึกถึงทักษะฝึก สมองของสวี่ล่ายรู้สึกเจ็บปวด ส่วนที่เหลือของประสานหนึ่งไร้ขอบเขต ในที่สุดราคาสูงถึง 100,000 ศิลาดวงดาวก็ถูกขายไป อีกทั้งมันยังเป็นขั้น 3 และ 4 ซึ่งต่อจากที่เขามี

“น้องสาวเจ้า! หากข้ารู้ว่ามันมีค่ามากขนาดนี้ ข้าคงเอาทักษะฝึกสองขั้นแรกนี้ออกมาขายแล้ว ใครจะรู้ อาจได้ราคาสูงถึงสองแสนหินดวงดาวเลยก็ได้”

สวี่ล่ายแอบกัดฟัน สาบานว่าจะหาทางเอาทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขตสองขั้นต่อไปมาให้จงได้

“หืม? นี่คือ......?” สวี่ล่ายเดินเล่นไปตามทาง แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองตึกตรงหน้า

“พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล?”

ตำหนักที่ทรุดโทรมแปลกตาปรากฏขึ้นต่อหน้าสวี่ล่าย

ตำหนักนี้มีลักษณะบางส่วนแบบยุโรป ด้านบนของพตำหนักเป็นโดมสีเทา และมีสายล่อฟ้าเสียบอยู่บนนั้น ทั้งยังมีการสร้างหอปืนเล็กทั้งสี่ด้าน...

“เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน...” สวี่ล่ายปรับความคิดเล็กน้อย แล้วก็นึกอุบายบางอย่างออก แม้ปัจจุบัน เขาจะไม่มีคุณสมบัติได้รับทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขตทั้งหมดในคราวเดียว แต่อย่างน้อยถ้าใช้ทางอ้อมก็ยังพอมีโอกาส

“เฮ่ะ เฮ่ ผลลัพธ์ยังไม่ตัดสิน ผู้ชนะในตอนท้ายต้องเป็นข้า!” มุมปากของสวี่ล่ายโค้งงอเล็กน้อย ความเศร้าโศกในใจจางหายไป หันหลังและรีบเดินกลับโรงเตี๊ยมของตน

...

เที่ยงของวันต่อมา ชายคนหนึ่งในชุดผ้ากระสอบปรากฏตัวที่ประตูของพันธมิตรประสานค่ายกล เขาสวมหมวกฟางคลุมศีรษะ มือข้างหนึ่งจูงลา

“อืม ที่นี่แหละ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลที่ทรุดโทรมนี้ พยักหน้าด้วยความพอใจ

เขาผูกลา และกำลังจะก้าวเข้าไปข้างใน แต่ทันใดนั้นข้าก็รู้สึกว่ามีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลัง

“หลีกให้พ้นทาง เจ้าขอทานตัวเหม็น ที่นี่เจ้าสามารถมาได้หรือ?”

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย หันกลับมามอง เห็นเพียงกลุ่มชายแต่งตัวหรูหรานับสิบคน นอกจากนี้ยังกำลังจะเข้าสู่พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลเช่นกัน

“ถุย ชุดซอมซ่อยังไม่พอ หน้าตาเจ้ายังขี้เหร่อีก ออกมาสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนในช่วงกลางวันแสกๆเช่นนี้  ระวังข้าจะใช้แส้เฆี่ยนตีเจ้า!”

ผู้พูดเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทั้งตัวแผ่กลิ่นอายสง่างามและใส่แต่ของแพง ให้ความรู้สึกเหนือกว่าผู้คน

ชายหนุ่มถึงกับผงะ ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัว

อันที่จริงใบหน้าของชายหนุ่มใช่ว่าจะเลวร้าย แต่ติดเพียงอย่างเดียวคือมีปานแดงขนาดใหญ่ตรงแก้มขวา มันลากยาวจากหน้าผากไปจนถึงคาง เมื่อมองแวบแรก มันเหมือนกับ ‘หยางจื่อ สัตว์ร้ายหน้าน้ำเงิน’ ในหนังจีนจริงๆ

“ศิษย์พี่หลิน โปรดอย่าทำให้ชายหนุ่มคนนี้ลำบากใจเลย”

ทันใดนั้น เสียงนุ่มนวลของผู้หญิงดังมาจากฝูงชน น้ำเสียงนี้ประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ให้ความรู้สึกเหมือนเสียงสวรรค์ น่าฟังมาก

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นดวงตาพลันสว่างไสว

เห็นเพียงผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ในกลุ่ม นางมีผิวขาว รูปร่างสูงใหญ่และงดงาม มีดวงตาสีฟ้าน้ำคู่หนึ่ง ดูพิเศษยิ่งกว่าใคร

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ถูกปิดด้วยผ้าคลุม ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน

ชายหนุ่มแอบรำพึงในใจว่า ‘ตัวข้าเอาจริงเปรียบได้ดั่งบุรุษสูงเก้าฉื่อสามชุ่น แต่ไม่นึกว่าสตรีผู้นี้กลับมีความสูงทัดเทียมกัน”

เมื่อเห็นดังนั้น ชายหนุ่มจึงรีบหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว หลีกให้พ้นทาง

“ศิษย์น้องหญิง ที่นี่ก็คือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลของรัฐต้าหยานที่พวกเราจะมากันในวันนี้ เข้าไปกันเถอะ” สหายปากเสียคนนั้นหันกลับมา อธิบายให้หญิงสาวตาสีฟ้าฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ตกลง ศิษย์พี่หลิน เชิญ” หญิงตาฟ้าพยักหน้าเล็กน้อย แสดงท่าทีให้เขาไปก่อน

ศิษย์พี่หลินพยักหน้า เดินผ่านชายหนุ่มในชุดกระสอบไป ระหว่างผ่านไม่วายขู่ว่า “ฮึ่ม! หากเจอกันอีกครั้งหน้า ข้าจะใช้กระสอบทรายนั่นคลุมหัวเจ้า!”

“เหอะ!” ชายหนุ่มเม้มปาก แต่ไม่ได้ตอบโต้ใดๆ

ณ ขณะนี้ จู่ๆ ชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นและสบตากับหญิงสาวตาฟ้าโดยไม่ตั้งใจ ผู้หญิงคนนี้พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ในแววตาเจือประกายขอโทษ แล้วเดินตามทุกคนไป

“หือ?” ชายหนุ่มผงะ ไม่คาดหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะแตกต่างจากคนอื่นๆ มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ได้ถูกปลูกฝังนิสัยแย่ๆจากพวกตระกูลใหญ่ จึงเกิดความประทับใจเล็กน้อย

ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ คนที่ไม่ดูแคลนผู้อื่นที่ต่ำต้อยกว่า นับว่ามีน้อยมาก

“ช้าก่อน สตรีนางนั้นเพิ่งเอ่ยคำ ‘ศิษย์พี่หลิน’ หรือว่าพวกเขามาจากตระกูลหลิน?” จู่ๆ ชายหนุ่มก็นึกได้ถึงบางสิ่ง จากนั้นมุมปากก็กระตุกเล็กน้อย

ใช่แล้ว การประมูลเมื่อไม่นานมานี้ ‘นายน้อย’ ของตระกูลหลินทุ่มจ่ายหินดวงดาว 100,000 ก้อน เพื่อซื้อทักษะฝึกประสานหนึ่งไร้ขอบเขตไป

แน่นอน แม้ว่าบุคคลผู้นี้จะมีนามสกุลหลิน แต่จากรูปร่างแล้วไม่น่าจะใช่คนเดียวกันกับนายน้อย

“เดิมคิดว่าอาจต้องเสียเวลาอยู่บ้าง แต่ได้เจอกันไวแบบนี้ ถือว่าโชคดีจริงๆ”

ถูกตัอง! ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้ คือสวี่ล่ายที่ปลอมตัวมา!

สวี่ล่ายทำเช่นนี้ จริงๆ แล้วมีแผนเตรียมการในระยะยาว ถึงมันอาจไม่ช่วยให้ได้ในสิ่งที่หวังในช่วงสั้นๆ แต่ก็เป็นการวางรากฐานที่ดีในอนาคต

สวี่ล่ายยิ้มเล็กน้อย ตบหลังลาของตัวเอง “เจ้าจงพักผ่อนที่นี่อย่างเชื่อฟัง ไม่ต้องวิ่งไปมา หลังจบงานข้ายังต้องขี่เจ้ากลับบ้าน”

สวี่ล่ายพูดจบ ก็หันหลังและเข้าสู่ส่วนพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล

เพียงเข้ามายังกลุ่มพันธมิตร สวี่ล่ายก็ต้องตกตะลึงกับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา

“ว้าว~!”

เห็นเพียงตลอดทั่วทั้งพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลสว่างไสว โคมไฟระย้าเคลือบเจ็ดสี เสาหินห้าสี พื้นมรกต ผนังหยกอ่อนสีขาว แตกต่างจากสภาพทรุดโทรมภายนอกอย่างสิ้นเชิง และมีคนอย่างน้อยสองพันกว่าคนเดินไปมาที่นี่

“ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกลเป็นบุคคลหายากหรอกหรือ? ไฉนที่นี่ถึงมีคนเยอะจัง?” ดวงตาของสวี่ล่ายเบิกกว้าง มองไปรอบๆ อย่างโง่เขลา

ทันใดนั้นเอง สวี่ล่ายก็พบกลุ่มคนในชุดคลุมสีดำปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชน คนเหล่านี้มีรูปดาวหกแฉกเล็กๆ สลักอยู่บนหน้าอกคนละ 1 - 3 ดวง

“โอ้...” ในที่สุดสวี่ล่ายก็เข้าใจ ปรากฏว่าภายในห้องโถงทั้งหมด เฉพาะผู้ที่มีรูปดาวหกแฉกตรงหน้าอกเท่านั้นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการประสานค่ายกล ส่วนคนอื่นสมควรเป็นคนจากตระกูลใหญ่

สวี่ล่ายยังสังเกตเห็นกลุ่มคนจากตระกูลหลินกำลังเดินไปที่ด้านหลังของห้องโถง จึงเดินตามไปติดๆ

อย่างไรก็ตาม  เขาเพิ่งมาถึงห้องโถงด้านหลัง ก็ถูกหยุดไว้

“สหายน้อยผู้นี้ โปรดหยุดก่อน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด