ตอนที่ 1175 ไร้ประโยชน์จริง!

เอี๊ยด!

ในซอยนี้ดูมืดมาก แม้จะเป็นในตอนกลางวันแสกๆ ก็ตาม หลินฟาน เองได้เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านเก่าๆ หลังหนึ่งที่ดูทรุดโทรม เขาเองได้เอื้อมมือไปผลักเปิดประตูของบ้านที่ดูทรุดโทรมหลังนี้

เมื่อนั้น หลินฟาน ก็ได้เดินเข้าไปข้างในทันที และในลานบ้านก็เต็มไปด้วยวัชพืช เขาเองได้พบเห็นเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เป็นเสื้อกาวน์สีขาวที่หมอใส่ พร้อมกับชุดเครื่องแบบที่คนขับรถพยาบาลสวมใส่ กับถุงเสื้อผ้าอีกสองใบ

หลินฟาน ได้เอนตัวก้มลงไปหยิบชุดเครื่องแบบของคนขับรถพยาบาล ในตําแหน่งบริเวณหน้าท้องของชุดพบเห็นคราบน้ำสีแดงเข้มซึ่งเป็นเลือด ทั้งมันยังเป็นตําแหน่งบาดแผลที่ เย่ เทียนอวี่ ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน

เสื้อกาวน์สีขาวที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า สวมใส่ ..แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เสื้อกาวน์นี้ก็ยังคงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวติดอยู่

หลินฟาน ไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และก็ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ กลิ่นหอมนี้ เขาเองยากที่จะลืมเลือนมันจริงๆ

แค่เพียงกลิ่นกายนี้.. ก็ทําให้ผู้ชายเกิดความรู้สึกที่ดีต่อเธอขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้กระทั่งเกิดมีจินตนาการบางอย่าง แต่พอคิดว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญที่โหดเหี้ยมจากสำนักนิกายลับ มันก็จะเหมือนกับมีคนมาเทราดน้ำเย็นลงบนหัวของคุณ(1) และมันก็เพียงพอที่จะทําให้ผู้ชายทุกคนหวาดกลัว จนสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความเพ้อฝัน และจินตนาการนั้นแล้ว

ยกเว้นเพียง.. หลินฟาน

มันเนื่องมาจาก ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ที่เกือบจะบีบคอผู้หญิงของเขาตายไปในคืนนั้น พอเป็นเช่นนั้นเขาเองก็ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกที่ดีอะไรกับเธอเลย ในตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการรวบรวมเบาะแสทั้งหมดที่อาจเป็นประโยชน์ โดยหวังว่าจะสามารถไล่ติดตามตัว ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ให้ได้ ..โดยเร็วที่สุด

กริ๊ง กริ้งๆ กริ๊ง...

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของ หลินฟาน ก็ได้ดังขึ้น หลินฟาน ได้หยิบมันออกมาดู แล้วก็เห็นว่าเป็น อู๋ ต๋า เขาจึงได้กดรับสาย…

“ลุงต๋า ว่าไงครับ?” หลินฟาน ได้ถาม

อู๋ ต๋า กล่าวว่า : “เจ้านาย.. คืนนี้ทีมหยุนเฉิงของเราจะลงแข่งขันกับทีมเย่เฉิง แล้ว ฉันเองเพียงอยากจะถาม เจ้านาย ว่าจะมาดูเกมการแข่งขันไหม?”

หลินฟาน ได้ร้องโอ้ ออกมา.. เขาลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ ช่วงนี้ดันมีเรื่องค่อนข้างเยอะ บริษัทเองก็กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เขามีงานยุ่งเกือบทุกวัน บวกกับช่วงนี้ยังต้องมาช่วยทางตํารวจจับกุมตัว เย่ เทียนอวี่ ในส่วนเรื่องของเกมการแข่งขันฟุตบอล เขาจึงไม่มีเวลาไปสนใจมากนัก

ปรากฏว่าเวลามันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว, ทั้งในคืนนี้ก็เป็นเกมอุ่นเครื่อง

นี่ถือเป็นเกมนัดแรกที่ทีมหยุนเฉิงจะต้องเผชิญ หลังจากที่ถูก หลินฟาน เข้าซื้อ และนี่ก็ยังถือเป็นช่วงเวลาที่จะทดสอบผลลัพธ์ เพราะหลังจาก หลินฟาน เข้าซื้อทีมหยุนเฉิง เขาเองก็ได้เข้าปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบทีมใหม่ และได้เชิญ อู๋ ต๋า ให้มารับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชของทีม

หลินฟาน ไม่เคยจงใจที่จะปกปิดข้อมูลนี้ แต่โลกภายนอกกลับไม่ค่อยรู้เรื่องการปรับโครงสร้างของทีมหยุนเฉิง เหตุผลก็คือ ..ไม่มีใครคิดที่จะสนใจ

เพราะทีมหยุนเฉิง คือขยะในสายตาของใครหลายๆ คน และก็ไม่มีใครเต็มใจอยากที่จะมองดูทีมขยะไปมากกว่านี้อีกแล้ว

“อืมม.. ผมจะไป” หลินฟาน ได้กล่าว

อู๋ ต๋า รู้สึกมีความสุขมาก ช่วงนี้เขาได้เข้าฝึกซ้อมทีมอย่างหนักทั้งกลางวันกลางคืน เขาเองหวังว่าจะส่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจให้กับ หลินฟาน ได้ ยิ่งหากเจ้านายของเขาสามารถมาดูได้ด้วยตัวเอง เขาเองก็เชื่อว่าคนในทีมจะมีแรงจูงใจมากขึ้น

หลังจากวางสายของ อู๋ ต๋า หลินฟาน ก็ได้ติดตามเบาะแสต่อไป

ไม่นานสายตาของ หลินฟาน ก็ได้จับจ้องไปที่ประตูหลังบ้าน

หลินฟาน ได้เดินไป และผลักเปิดประตูหลังออก กลิ่นเหม็นโชยมาที่หน้าของเขาทันที สถานที่ที่ประตูหลังนี้เชื่อมต่อกัน ..เป็นคูน้ำแคบๆ ซึ่งมีกลิ่นเหม็นมาก ถัดไปก็เป็นกำแพงซีเมนต์ไม่มีเส้นทางให้เดิน นอกจากเส้นทางคูน้ำ โดยการใช้เท้าเดินเหยียบตรงขอบคูน้ำ แต่พอมองแล้วก็เห็นได้ชัดว่าเส้นทางด้านหลังนี้ มีผู้คนใช้เดินน้อยมาก …

หลินฟาน เองก็ได้เดินไปตามขอบคูน้ำแคบๆ นี้

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง

ข้างหน้าก็เห็นว่ามีแสงสว่างมากขึ้น แสงแดดได้ส่องเข้ามา มีเสียงคึกคักดังมาจากข้างหน้านี้

วินาทีที่เขาได้เดินออกจากตรอกมา หลินฟาน ก็ได้อึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง.. ก่อนเขาจะพบเพียงถนนที่มีชีวิตชีวาสายหนึ่ง ที่มันปรากฏอยู่ตรงหน้า ถนนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน พร้อมเสียงอึกทึกครึกโครม กับโหวกเหวกไปมาของผู้คน

ผู้คนได้เดินผ่านไปมาอย่างเร่งรีบ และไม่มีใครสนใจ หลินฟาน อย่างมากก็มีคนถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของ หลินฟาน เมื่อหันมามองเขาอีกครั้ง ตัวเขาเองก็ได้หายไปในฝูงชนแล้ว…

เมื่อมาถึงที่นี่ ร่องรอยที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และเย่ เทียนอวี่ ทิ้งเอาไว้ ก็ได้จมหายไปในฝูงชน…

หลินฟาน ได้เงยหน้ามองไปรอบๆ และก็เห็นซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ซึ่งข้างๆ ประตูของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ก็ได้มีกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งอยู่ และนี่ก็อาจจะเป็นกล้องตัวเดียวที่สามารถจับภาพจากในถนนเส้นนี้ได้

อย่างไรก็ตาม หลินฟาน ก็ได้พบว่ากล้องตัวนี้ ได้เพิ่งเสียไปเมื่อเร็วๆ นี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทําของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า

ดูเหมือนว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ได้วางแผนเส้นทางการหลบหนีมาอย่างรอบคอบ เพราะนับตั้งแต่การแอบเข้าไปในโรงพยาบาล และเข้าชิงตัว เย่ เทียนอวี่ ไปจนถึงหลังจากออกมาจากโรงพยาบาล แล้วพา เย่ เทียนอวี่ ปลอมตัวหลบหนี ก็ล้วนอยู่ในแผนการที่ได้คิดมาอย่างรอบคอบของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนั้น

ทั้งถนนที่มีชีวิตชีวา และพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเช่นนี้ ก็สามารถลบร่องรอยทั้งหมดไปได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเส้นทางที่ ผู้หญิงคนนั้น ได้เลือกมาเป็นอย่างดี เพราะว่าหากผ่านจากจุดนี้ไป มันก็ยากมากที่จะมีใครติดตามมาได้

แม้ว่า หลินฟาน จะมีข้อมูลเชิงลึกระดับบนสุด แต่ในเวลานี้ ..นี่มันก็เท่ากับการงมเข็มในมหาสมุทร

เท่าที่ หลินฟาน สามารถช่วยทางตํารวจได้ ก็คงจะมาได้จนถึงจุดตรงนี่ ที่นี่ ..เสียแล้ว

หลินฟาน จึงได้โทรไปหา หลัว หลี่ และบอกกับ หลัว หลี่ ถึงสถานการณ์

ต่อไป ถ้าหากตํารวจยังคงติดตามหา ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และเย่ เทียนอวี่ พวกเขาก็จะต้องเริ่มทํางานโดยการค้นหาบริเวณรอบๆ นี้ อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และเย่ เทียนอวี่ ได้ทำการปลอมตัวใหม่แล้ว ส่วนพวกเขาจะแต่งตัวเป็นอะไรนั้น ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความสามารถของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า เชื่อว่าเธอเองก็สามารถหลอกสายตาของทุกคนได้อย่างสมบูรณ์

สําหรับตํารวจ สิ่งที่ต้องทําต่อไปจะเป็นงานที่ยุ่งยากมาก สุดท้ายจะหาได้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่รู้…

แต่ หลินฟาน กลับทําตัวใจเย็นมากในเวลานี้

เขาเองพยายามค้นหาเบาะแสของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า แต่เนื่องจากขณะนี้ถนนเป็นคอขวด เขาเองก็คงเลือกใช้ทางเลือกที่สองได้เท่านั้น

นั่นก็คือ.. ให้ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า มาหาเขาเอง

ต้องรู้ว่า ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับศิษย์ทั้งสามคนของถังเหมิน และตลอดเวลาที่ผ่านมาในสายตาของ เย่ เทียนอวี่ เธอก็คือคนที่ตามมาไล่ล่าเขา แต่ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ฆ่า เย่ เทียนอวี่ แต่กลับยังใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วย เย่ เทียนอวี่ ออกมา

แล้วเหตุผลของเธอ คืออะไรล่ะ?

ความเป็นไปได้ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ เย่ เทียนอวี่ มีสิ่งที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ..ต้องการ และเพื่อให้ได้สิ่งนี้ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า จึงไม่ได้ฆ่า เย่ เทียนอวี่ ในทันที แต่กลับเลือกที่จะช่วยเขา

แล้ว เย่ เทียนอวี่ มีอะไรที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ต้องการล่ะ?

หลินฟาน ได้เดาว่า.. มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นเงินหนึ่งพันล้านหยวนนั่น

ส่วน ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า เขาเองก็ไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีใด ถึงได้รู้ว่า เย่ เทียนอวี่ มีบัญชีลับ ที่มีเงินภายในอยู่หนึ่งพันล้านหยวน และเธอเองก็คงจะต้องการเงินหนึ่งพันล้านหยวนนี้!

แต่เธอคงไม่เคยฝันเลยว่าเงินหนึ่งพันล้านหยวนนี้ ตอนนี้.. มันได้กลายมาเป็นของ หลินฟาน แล้ว

คืนนั้น เย่ เทียนอวี่ ได้บอกบัญชี และรหัสผ่านให้กับ หลินฟาน และหลังจากกลับมา หลินฟาน ก็ได้เข้าควบคุมเงินก้อนนี้แล้ว

ดังนั้น ถ้าหากผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าต้องการอยากได้เงินก้อนนี้จริงๆ.. ในท้ายที่สุด เธอเองก็ต้องเลือกที่จะมาหา หลินฟาน เว้นแต่ หลินฟานจะคาดเดาผิดว่าสิ่งที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ต้องการ ไม่ใช่เงินก้อนนี้

หลังจาก หลินฟาน โทรหา หลัว หลี่ แล้ว เขาก็พร้อมที่หยุดการค้นหาเอาไว้แค่นี้

แต่จู่ๆ ทันใดนั้น หลินฟาน ก็ได้เหลือบไปมองในทิศทางหนึ่งโดยเจตนา หรือไม่นั้น ..ไม่มีใครรู้ จากนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะสนใจ และได้หันหลังเดินจากไปทันที

และในจุดที่ หลินฟาน เพิ่งมองไป ก็กลับมีคนหลบซ่อนตัวอยู่ข้างๆ สามคน ทั้งสามนี้เป็นศิษย์ของถังเหมิน ซึ่งเมื่อกี้ที่ หลินฟาน มองมา พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ตั้งใจหรือไม่ แต่มันก็กลับทำให้พวกเขาตกใจ และคิดว่า หลินฟาน พบเจอพวกเขาแล้ว แต่ก็ยังดีที่ หลินฟาน ได้เดินจากไปแล้วในตอนนี้

“ศิษย์พี่.. เขาดูเหมือน ไม่ได้วางแผนที่จะติดตามต่อแล้ว” หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า ได้พูดขึ้น

ชายหนุ่ม ได้ฮึ่มเสียงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย : “ไร้ประโยชน์จริง!”

“ศิษย์พี่ แล้ว.. พวกเราจะทําอย่างไรต่อไป?” หญิงสาวที่มีอายุมากกว่า ได้ถาม

ชายหนุ่ม กล่าวว่า : “ผู้หญิงคนนั้นจับ เย่ เทียนอวี่ ไป ต้องถามถึงเรื่องเงินอย่างแน่นอน อีกอย่างก็กลัวว่าเงินก้อนนี้จะตกไปอยู่ในมือของเธอแล้ว”

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า พูดว่า : “ถ้าอย่างนั้น.. นี่เราทําอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”

หญิงสาวที่มีอายุมากกว่า พูดว่า : “งั้นแสดงว่าเราควรจะกลับกันไปได้แล้ว ใช่ไหม?”

ชายหนุ่ม ได้ขมวดคิ้ว ถ้ากลับไปที่สำนักตอนนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“ไม่ พวกเราจะอยู่ในเมืองหยุนเฉิงต่อ จริงสิ.. อย่างไรก็ตาม ก็ถือโอกาสนี้ดูว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร!” ชายหนุ่ม ได้กล่าวขึ้นมา

(1)[ราดน้ำเย็น / สาดน้ำเย็นใส่หัว (兜头一盆冷水)] - เป็นคำพูดทั่วไปหมายความว่า เมื่อคุณกำลังมีความสุข คุณก็จะถูกตีในทันที 

    ตัวอย่างเช่น คุณกำลังหัวร้อนจากการเล่นเกม MOBA จู่ๆ แฟน หรือเพื่อนข้างๆ ที่รำคาญ ก็ได้หยิบกะละมังที่มีน้ำอยู่สาดใส่คุณ.. หรือราดเทใส่หัวคุณทันที เช่นนี้ หัวของคุณก็จะเย็นขึ้น พร้อมๆ กับอารมณ์คุกรุ่นในใจขึ้นมา …