ตอนที่แล้วตอนที่ 322 วิชาลับที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 324 ธุลี

ตอนที่ 323 ชิพแปลภาษาอันใหม่


ตอนที่ 323 ชิพแปลภาษาอันใหม่

แต่ไหนแต่ไรเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพยายามอ่านเนื้อหาวิชาต่อไปเพื่อค้นหาสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ในข้อมูลเหล่านี้

เนื้อหาของเคล็ดวิชาค่อนข้างคลุมเครือและถูกเขียนขึ้นมาอย่างไม่ราบรื่น คล้ายกับว่าผู้เขียนไม่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอย่างลึกซึ้ง มันจึงมีรูปแบบประโยคที่ผิดพลาดอย่างมากมาย ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องคาดเดาเนื้อหาที่เขียนเอาไว้ด้วยความเข้าใจของตัวเอง

ท้ายที่สุดในจักรวาลก็มีภาษาอยู่มากมายเกินไป ซึ่งแต่ละภาษาก็มีหลักการในการใช้ภาษาที่ไม่เหมือนกัน ส่วนเหตุผลที่เซี่ยเฟยสามารถทำความเข้าใจข้อมูลพวกนี้ได้นั้น นั่นก็เพราะว่าเขาได้อาศัยชิพแปลภาษาที่ถูกฝังเอาไว้ในสมอง

เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่า 3 วันแล้วแต่เซี่ยเฟยก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ปริศนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเคล็ดวิชานี้ได้ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

หลังอาหารเย็นเซี่ยเฟยก็ชงชาเดินเข้าไปภายในห้องพร้อมกับโทรหาแอวริลตามกิจวัตรประจำวันปกติ เพราะท้ายที่สุดเขาก็กำลังจะเข้าสู่เขตแดนไร้มนุษย์ในอีกไม่กี่วัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาก็ไม่รู้ว่าระบบเรดาร์แบล็คแบทยังจะสามารถติดต่อกลับไปยังเขตพันธมิตรได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงให้เวลาแอวริลมากขึ้นกว่าเดิมในขณะที่ระบบสตาร์เน็ตเวิร์กยังสามารถใช้การได้อยู่

แอวริลนั่งรออยู่ในห้องนอนตามปกติและเมื่อเธอได้เห็นภาพของเซี่ยเฟยปรากฏขึ้นมา เธอก็เริ่มทักทายด้วยภาษาแปลกใหม่อย่างมีความสุข

“เธอพูดอะไร? ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจล่ะ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“เมื่อกี้ฉันพูดภาษาทารันแปลว่าสวัสดี ภาษานี้เป็นภาษาที่เก่าแก่มากแล้วมันอาจจะเป็นเพราะชิพแปลภาษาในสมองของนายเป็นชิพรุ่นเก่าเกินไป มันจึงไม่สามารถแปลภาษาที่ซับซ้อนแบบนี้ได้” แอวริลกล่าวขึ้นมาอย่างซุกซน

“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“ฉันบอกว่านี่คือภาษาทารันที่แปลว่าสวัสดี” แอวริลพยายามทวนสิ่งที่เธอพูดไปเมื่อสักครู่นี้

“ไม่ใช่อีกประโยคหนึ่งที่เธอพูดหลังจากนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ชิพแปลภาษาของนายเป็นชิพรุ่นเก่างั้นเหรอ?”

เพี้ยะ!

เซี่ยเฟยตบมือเข้าด้วยกันอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว! มันเป็นเพราะชิพแปลภาษานี่เอง!”

“ชิพแปลภาษาก็มีการแบ่งระดับเหมือนกันนะ ยิ่งชิพแปลภาษามีระดับสูงมากขึ้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งช่วยแปลภาษาได้ซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ชิพแปลภาษาระดับสูงยังสามารถประมวลผลภาษาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้นอีกด้วย”

“ความเป็นจริงชิพแปลภาษามาตรฐานก็สามารถแปลภาษาส่วนใหญ่ในจักรวาลได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่านายเจอภาษาหรือข้อความที่มีความซับซ้อนมากเป็นพิเศษ นายก็จำเป็นจะต้องใช้ชิพแปลภาษาระดับสูงในการทำความเข้าใจภาษาที่ซับซ้อนเหล่านั้น” แอวริลพยายามกล่าวอธิบายทั้ง ๆ ที่เธอก็ยังไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังตื่นเต้นในเรื่องอะไร

ยิ่งได้ฟังคำอธิบายของแอวริล เซี่ยเฟยก็ยิ่งมั่นใจว่าสาเหตุที่เขาไม่สามารถทำความเข้าใจเคล็ดวิชาเล่ห์มายาได้ นั่นก็เพราะว่าชิพแปลภาษาในสมองของเขามีคุณภาพต่ำมากเกินไป

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็รีบเขียนเนื้อหาบางส่วนของวิชาและโชว์ขึ้นมาให้หญิงสาวดู

“เธอแปลคำพวกนี้ออกไหม?”

แอวริลพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะพูดออกมาในภาษาของกลุ่มดาวนครหลวง

หลังจากที่ข้อความได้รับการแปลมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะความหมายของประโยคเหล่านี้มันเหมือนกับได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ!

“ชิพแปลภาษาในสมองของฉันก็เป็นชิพรุ่นธรรมดาเหมือนกัน ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมฉันถึงแปลข้อความพวกนั้นได้เหมือนกับนาย” อันธอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินคำอธิบายจากแอวริล

“ตอนนี้นายเป็นวิญญาณ แล้วในสมองของนายมันยังจะมีชิพอยู่อีกเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นวิญญาณแต่ความคิดของฉันยังคงเป็นเหมือนเดิม แม้แต่ชิพแปลภาษาก็ยังคงทำงานได้ปกติเหมือนกับว่าฉันยังมีชิพอยู่ในสมองเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่” อันธกล่าวทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกัน

“เดี๋ยวก่อนนะ! ร่างกายของฉันหายไปแล้ว หมายความว่าชิพก็ต้องหายไปพร้อมกับร่างกายของฉันด้วยสิ แล้วทำไมฉันถึงยังรู้สึกว่าชิพมันยังทำงานอยู่ในสมองของฉันล่ะ?”

“ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติพวกนี้มาก่อนเลย ไม่ว่ามองยังไงมันก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผล” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความสับสน หลังจากนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ร่างของเขาเป็นเพียงแค่วิญญาณ

เซี่ยเฟยไม่เคยคิดเลยว่าคำถามเล่น ๆ ของเขาจะทำให้อันธต้องคิดหนักขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็ปัดความคิดเรื่องอันธออกไปก่อน เพราะในเวลานี้เขาจำเป็นจะต้องแก้ปัญหาเรื่องชิพแปลภาษาให้เร็วที่สุด

แอวริลยังคงสงสัยมากว่าเซี่ยเฟยถามคำถามเหล่านี้ขึ้นมาทำไม ซึ่งชายหนุ่มก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดคุยเรื่องอื่นเป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะปิดท้ายด้วยการเล่าเรื่องตลกให้หญิงสาวฟัง

เซี่ยเฟยได้พบว่าเรื่องตลกถือว่าเป็นอาวุธร้ายที่เขาสามารถใช้จัดการแอวริลได้เป็นอย่างดี เพราะตราบใดก็ตามที่เขาได้ทำให้หญิงสาวคนนี้มีความสุข เธอก็จะลืมปัญหาทั้งหมดในก่อนหน้านี้ไปอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะกับแอวริลที่ชอบฟังเรื่องตลกแล้วนั้นมันก็ทำให้เธอลืมเรื่องที่เธอสงสัยในก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง

หลังจากวางสายเซี่ยเฟยก็รีบค้นหาข้อมูลของชิพแปลภาษาในอินเตอร์เน็ต

ณ ดาวเนนาร่า ก่อนเข้าสู่เขตแดนไร้มนุษย์

แม้ว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะไม่ได้มีความเจริญเท่ากับดาวเวเนอร์ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในบริเวณก่อนถึงเขตแดนไร้มนุษย์ แต่ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็ยังถือว่ามีความเจริญอยู่พอสมควร เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจลงจอดที่ดาวดวงนี้เพื่อเปลี่ยนชิพแปลภาษาภายในหัวของเขา

“สวัสดีครับคุณเซี่ยเฟย แพทย์ศัลยกรรมประสาทที่คุณนัดเอาไว้รออยู่ที่ห้องแล้ว คุณสามารถขึ้นลิฟต์ตรงนั้นไปยังห้องทำงานของคุณหมอฉินฟางบนชั้นที่ 16 ได้เลยครับ” พนักงานในแผนกต้อนรับของโรงพยาบาลกล่าวกับเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้น 16

“อันธนายรู้สึกว่ามีคนตามฉันมาไหม?” เซี่ยเฟยถามอันธหลังจากที่ประตูลิฟต์ได้ปิดลง

“ฉันไม่รู้สึกถึงอะไรเลยนะ บางทีนายอาจจะระแวงมากเกินไป มันมีคนที่รู้ว่าพวกเรากำลังจะออกเดินทางไม่มากนักและตอนนี้นายก็อยู่ใกล้กับชายแดนของพันธมิตรแล้ว ฉันไม่คิดว่าจะมีใครติดตามนายมาจนถึงที่นี่หรอก” อันธกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะเบโอเนทสามารถที่จะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากและระยะการวาร์ปแต่ละครั้งก็เป็นระยะเกือบ 70,000 ปีแสง ทำให้ยานรบธรรมดายากที่จะติดตามยานของเขามา เว้นแต่ว่ายานของอีกฝ่ายจะเป็นยานรุ่นที่ 2 เหมือน ๆ กัน

หลังจากขึ้นมาจนถึงชั้น 16 พยาบาลก็เดินนำเซี่ยเฟยไปยังห้องของคุณหมอฉินฟาง ซึ่งจากข้อมูลที่เขาได้หามาศัลยแพทย์ประสาทฉินคนนี้เป็นคุณหมอที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง และทักษะในการเปลี่ยนชิพแปลภาษาในสมองก็ยังเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้

การเปลี่ยนชิพแปลภาษาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะอย่าลืมว่ามันคือการเชื่อมต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับสมอง ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงเลือกจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้ผ่าตัดกับแพทย์ที่มีทักษะสูงที่สุด

“ผมขออนุญาตตรวจสอบชิพแปลภาษาของคุณก่อนนะครับ” ฉินฟางกล่าวอย่างสุภาพ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินเข้าไปในเครื่องสแกน

ชายหนุ่มรู้เพียงแค่ว่าเขาถูกติดตั้งชิพแปลภาษาเอาไว้ภายในหัว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เห็นชิพแปลภาษาที่ว่าด้วยตาของตัวเอง

ภาพจากเครื่องสแกนได้แสดงให้เห็นว่าชิพแปลภาษามีขนาดแค่ประมาณเมล็ดถั่วเหลือง โดยตัวชิพได้ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกโลหะผสมบาง ๆ เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนและกันการกัดกร่อนจากสารที่หลั่งออกมาจากสมอง

“ชิพนี่ยังทำงานได้เป็นอย่างดี คุณแน่ใจนะครับว่าต้องการที่จะเปลี่ยนชิพ?” ฉินฟางกล่าวถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ผมแน่ใจ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ไม่ต้องห่วงครับการเปลี่ยนชิพเป็นเพียงแค่การผ่าตัดง่าย ๆ และไม่มีอันตรายอะไรทั้งนั้น ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะเปลี่ยนชิพแปลภาษาเป็นชิพรุ่นไหนครับ?” ฉินฟางถาม

“ชิพ FXX5” เซี่ยเฟยกล่าวชื่อรุ่นชิพแปลภาษาที่เขาได้หาข้อมูลล่วงหน้าไว้ ซึ่งก่อนเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งนี้เขาก็ได้ทำการสั่งจองชิพเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

“คุณเซี่ยเฟยคุณแน่ใจใช่หรือเปล่าครับว่าคุณต้องการจะเปลี่ยนไปใช้ชิพ FXX5 ชิพรุ่นนี้มีราคาสูงถึง 60 ล้านสตาร์คอยน์ ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะดูชิพรุ่นอื่นหรือเปล่าครับ?” ฉินฟางกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“ไม่ล่ะครับ ผมตัดสินใจแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง

“ไม่มีปัญหาครับ คุณเซี่ยเฟยชิพแปลภาษา FXX5 ถือได้ว่าเป็นชิพแปลภาษาที่ดีที่สุดของพันธมิตร และตราบใดก็ตามที่คุณติดตั้งชิพนี้เข้าไปคุณก็จะสามารถทำความเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้ทั่วทั้งพันธมิตร” ฉินฟางกล่าวโดยพยายามระงับความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้

“ทำไมไอ้หมอคนนี้ถึงตื่นเต้นขนาดนั้น หรือว่าเขากำลังจะหลอกขายของปลอมให้กับเรา?” อันธถามขึ้นมาด้วยความสับสน

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก มันเป็นเพราะว่าชิพแปลภาษา FXX5 เป็นชิพรุ่นที่แพงมาก และฉันได้ตรวจสอบบันทึกของโรงพยาบาลแล้วว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่สามารถขายชิพรุ่นนี้ได้เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว เขาเลยมีความสุขที่ในที่สุดจะได้ขายชิพนี้ออกไปเสียที”

“อ๋อ ว่าแต่ปกตินายเป็นคนขี้เหนียวไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมครั้งนี้นายถึงเลือกชิพที่มีมูลค่ากว่า 60 ล้านล่ะ?” อันธถามอย่างสงสัย

“คงไม่มีใครอยากจะถูกเปิดหัวเพื่อเปลี่ยนชิพบ่อย ๆ หรอก ฉันก็แค่พยายามลงทุนเปลี่ยนชิพที่ดีที่สุดจะได้ไม่ต้องถูกผ่าเปิดหัวบ่อย ๆ เท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนมีใครกำลังแอบมองมาที่ฉันอยู่นะ?”

***************

เอาแล้ว หรือว่าจะมีคนแอบตามพี่เฟยมาจริง ๆ กันนะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด