ตอนที่แล้วตอนที่ 1170 คุณ..., รีบๆ ใส่ชุดนี้ แล้วออกไปกับฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1172 ยังไง.. วันนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสเดียวของพวกเขา

ตอนที่ 1171 ยังประเมินพวกเขา.. ต่ำเกินไป


ศูนย์เฝ้าระวังภายในโรงพยาบาล…

ตํารวจสองนายได้เดินไปที่ห้องศูนย์เฝ้าระวัง พวกเขาเองได้ทั้งพูด และก็หัวเราะด้วยกันไปพลางในระหว่างเดิน พวกเขาเองได้มาเปลี่ยนกะ ตามเวลา ..นับตั้งแต่ที่ เย่ เทียนอวี่ ได้เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนี้ ทั้งโรงพยาบาลก็ได้เตรียมพร้อม ทั้งในศูนย์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ก็ได้ถูกตํารวจเข้ามาดูแลเช่นกัน

ตามหลักแล้ว ภายใต้การป้องกันที่เข้มงวดเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าคิดสร้างเลย เพราะหากถ้ามีใครกล้าที่จะมาโรงพยาบาลเพื่อสร้างปัญหา นั่นก็เท่ากับโยนตัวเองเข้ามาติดกับดัก และไม่ทางให้สามารถเดินออกไปได้เลย

แม้ว่า หลัว หลี่ จะเตือนว่าคนที่ต้องการช่วย เย่ เทียนอวี่ ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ และเป็นคนที่อันตรายอย่างยิ่ง แต่คนเหล่านี้ที่ไม่เคยได้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญ ก็จะไม่มีความรู้สึกโดยสัญชาตญาณ หรือพวกเขาอาจจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่า ..นี่ มันเป็นเรื่องจริง

ตํารวจทั้งสองนายได้มาถึงห้องศูนย์เฝ้าระวัง เมื่อนั้นทั้งคู่ก็ต่างมีรอยยิ้มแข็งค้างไปในทันที ที่พวกเขาได้ผลักเปิดประตูเข้าไป..

ในตอนนี้ เห็นแต่บนพื้นในห้องศูนย์เฝ้าระวัง ได้มีเพื่อนร่วมงานของพวกเขาหลายคนล้มลงไปนอนกับพื้น และสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือ มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ในห้องศูนย์เฝ้าระวัง ที่กำลังตัวสั่น และมีเหงื่อออกเต็มใบหน้า ..และคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็น คณบดีเฉิน

ตำรวจทั้งสองนาย เกิดมีปฏิกิริยาตอบโต้ในทันที พวกเขาได้ชักปืนออกมาจากเอว แล้วชี้เล็งปากกระบอกไปที่ คณบดีเฉิน

“อย่าขยับ!” พวกเขาได้พูดตะโกนขึ้นพร้อมกัน

คณบดีเฉิน กลัวมาก และพูดว่า : “ไม่ใช่เรื่องของฉัน มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันไม่ได้ทํา!”

ตํารวจ ได้ตะโกนขึ้นว่า : “เกิดอะไรขึ้น มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ บอกมา!”

คณบดีเฉิน ได้กล่าวด้วยเสียงสั่นออกไปว่า : “มีคนลักพาตัวลูกชายของฉัน! และข่มขู่ให้ฉันทำเช่นนี้…”

ตํารวจ ถามว่า : “ใครทํา แล้วคุณกำลังพูดถึงใคร?”

คณบดีเฉิน กล่าวว่า : “เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอต้องการจะพา เย่ เทียนอวี่ ออกไป…”

ตํารวจทั้งสองนายตกใจจนหน้าซีดทันที : “มันเรื่องห่าอะไร ผู้หญิง? แล้วผู้หญิงคนนี้ที่คุณพูดถึงอยู่ไหนแล้ว!”

คณบดีเฉิน ได้ชี้นิ้วไปที่จอมอนิเตอร์หนึ่ง และได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา : “เธอดูเหมือนจะจากไปแล้ว…”

ในจอเห็นเพียงรถพยาบาลที่เพิ่งขับผ่านชุดทีมเฝ้าระวังที่หน้าประตูหลัก และขับออกไปจากโรงพยาบาล..

รถพยาบาลคันนี้ได้ขับออกไปแล้ว และรถตํารวจที่ได้มาถึงทีหลัง ก็เป็นชุดตำรวจที่ใช้ในการเตรียมเคลื่อนย้าย ก็มาถึงแล้ว แต่สถานที่ที่พวกเขามาถึงนั้นมันกลับเป็นประตูในทางทิศตะวันออกของโรงพยาบาล ในรถตํารวจคันหนึ่ง ตํารวจเองก็ได้ติดอาวุธที่มีอุปกรณ์ครบครัน กระโดดลงมาจากรถ และเตรียมพร้อมที่จะเปิดประตู

จากนั้นประตูทางทิศตะวันออกก็ได้ถูกเปิดออก

เนื่องจาก หลัว หลี่ ยังคงลาพักอยู่, ผู้ที่รับผิดชอบการเคลื่อนย้ายตัว เย่ เทียนอวี่ ในครั้งนี้ จึงตกเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของ หลัว หลี่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชายที่มีนามสกุล หลี่

เจ้าหน้าที่ตํารวจชายแซ่หลี่ ได้นำพาตํารวจติดอาวุธสองคนเดินเข้าไปในโรงพยาบาลจากประตูทิศตะวันออก และสั่งการทันทีว่า : “ทุกคนระวังหน่อย ศัตรูอาจจะลงมือปล้นคนที่นี่!”

เจ้าหน้าที่ตํารวจชายแซ่หลี่ คนนี้ยังค่อนข้างระมัดระวัง เพราะเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในคืนนั้น ไม่เพียงแต่ หลัว หลี่ ที่เป็นผู้นําทีมได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น แต่เพื่อนร่วมงานที่ได้ออกปฏิบัติภารกิจในคืนนั้น ต่างก็ได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามของพวกเขานั้น เก่งกาจเอามากจริงๆ

ในความเป็นจริง หลายวันมานี้ ทางตํารวจได้พยายามจับกุมเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่มาจากสำนักซ่อนเร้นทั้งสี่คน แต่ก็กลับไม่ได้อะไรเลย.. พวกเขา จู่ๆ ก็เหมือนกับหายตัวไป ..อย่างไร้ร่องรอย

ในเรื่องนี้ ตํารวจวิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้แค่สองประการ ประการหนึ่งคือ ศิษย์จากสำนักที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ ได้หลบหนีไปแล้ว พวกเขากลัวจะตกไปอยู่ในมือของตํารวจ ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ให้ห่างจากเมืองหยุนเฉิง ถ้าหากเป็นในกรณีเช่นนั้น.. ทางตํารวจที่ต้องการตามหาพวกเขา ความเป็นไปได้ที่มีมันก็เท่ากับศูนย์ เพราะโดยทั่วไปแล้วในโลกนี้ คงจะไม่มีใครสามารถหาพวกเขาได้พบ

ความเป็นไปได้ อย่างที่สอง ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้ซ่อนตัวอยู่ และรอโอกาสเตรียมที่จะลงมือบางอย่าง หากมันเป็นไปในกรณีเช่นนี้จริง ก็แสดงว่าผู้เชี่ยวชาญจากสำนักที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ มีความเก่งกาจมาก เพราะภายใต้การไล่ล่า และการเฝ้าจับตาที่แน่นหนาของทางตํารวจ พวกเขาก็กลับสามารถหลบเลี่ยงได้ ซึ่งนี่ถือว่า พวกเขา ..ไม่ธรรมดาจริงๆ

ในมุมมองของเจ้าหน้าที่ตํารวจชายแซ่หลี่ ความเป็นไปได้ที่สองนั้นมีอยู่สูงมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท

อีกอย่าง.. เขาคิดว่าสิ่งที่ทําอยู่ในตอนนี้มันก็เพียงพอแล้ว มีตํารวจติดอาวุธที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และมีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งกลุ่มนี้.. เขาเองก็มีความมั่นใจมากว่า แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้จากสำนักซ่องเร้น ก็คงจะไม่กล้าเข้ามาปะทะตรงๆ หรือจะบอกว่า การเข้ามาแย่งคนในมือของพวกเขาไปนั้น เรียกได้ว่าเป็นงานที่หนักเลยก็ว่าได้!

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชายแซ่ลี่ จึงได้นำตำรวจติดอาวุธสองนาย เข้าไปในโรงพยาบาล ตั้งใจจะพา เย่ เทียนอวี่ ออกจากโรงพยาบาล

สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตํารวจชายแซ่หลี่ ..คาดไม่ถึงก็คือ เขายังประเมินความกล้าหาญของเหล่าศิษย์สำนักที่ซ่อนเร้น ต่ำเกินไป

ในเวลานี้ ใกล้กับประตูทางทิศตะวันออก ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มีหญิงสาวสองคนกำลังนั่งกินอาหารอยู่ ..ภายในร้าน

พวกเธอก็คือ หญิงสาวสองคนที่เป็นศิษย์ของ ถังเหมิน ในคืนนั้น.. ในตอนนี้พวกเธอต่างแต่งตัวเหมือนเด็กนักเรียนหญิงมัธยมปลายที่เพิ่งเลิกเรียน บวกกับรูปลักษณ์หน้าตาที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และความบริสุทธิ์ของพวกเธอ จึงทำให้ไม่มีใครเกิดสงสัย และคิดเพียงว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ สองคนที่รักในการกิน ..ก็เท่านั้น

“ศิษย์พี่ ลูกชิ้นปลานี้อร่อยมากเลย.. ฉันอยากได้เพิ่มอีกจานหนึ่งจัง” หญิงสาวที่อายุน้อย ได้พูดไปพลาง ทั้งยังไม่ลืมยัดลูกชิ้นปลาเม็ดสุดท้ายในชามเข้าปากไป เมื่อนั้นเธอก็ได้เคี้ยวตุ่ยๆ ไปพลางอย่างพอใจ..

ไม่ว่าตัวตนสถานะของพวกเธอจะเป็นของจริง หรือของปลอม แต่เรื่องที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้ รักในการกินนั้น …เป็นเรื่องจริง

หลายวันมานี้ ทางฝั่งพวกเขาก็ได้ใช้ทักษะในการปลอมตัวที่ได้ฝึกฝนมาจากสำนัก เข้าอยู่ปะปนกับผู้คนในเมืองหยุนเฉิง โดยไม่ทําให้เกิดความสงสัยใดๆ แต่เนื่องจากต้องติดตามความเคลื่อนไหวของโรงพยาบาล ขอบเขตกิจกรรมของพวกเขาจึงต้องอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล

ส่งผลให้หญิงสาววัยรุ่นที่รักชอบในการกินทั้งสองคนนี้ ได้ออกตระเวนไปกินตามร้านขายอาหารใกล้ๆ กับโรงพยาบาลจนแทบจะใช้เวลาทั้งหมดแต่ละวันไป, ที่นอกเหนือจากเวลานอน..

เพราะพวกเธอกลัวว่า ..หลังจากกลับไปถึง ถังเหมิน แล้ว จะไม่มีโอกาสได้กินอาหารอร่อยๆ แบบนี้อีกแล้ว จริงๆ แล้ว ถังเหมิน เป็นเพียงสถานที่ฝึกฝน และมันก็ดูเรียบง่ายมากสําหรับอาหารการกิน แต่นี่มันก็เท่ากับเป็นการติดคุกสําหรับเหล่าหญิงสาวที่รักชอบในการกิน

หลายวันมานี้ สาวน้อยที่รักการกินทั้งสองคนนี้ ก็ได้ขยันกิน ต่อให้ตัวเองต้องอ้วนขึ้นไปอีกสองสามกิโล ก็ตาม…

หญิงสาวที่มีอายุมากกว่า ได้แต่ส่ายหัว เธอดูเหมือนจะหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก ได้เพียงแต่พูดว่า : “กินเยอะขนาดนี้ เราจะไปช่วยสนับสนุนศิษย์พี่ ยังไง?”

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า พูดว่า : “เรื่องสนับสนุนนั้น.. สบายมากอยู่แล้ว แต่ศิษย์พี่ไม่คิดบางหรือไง พอเรากลับไปก็จะไม่ได้กินของพวกนี้แล้ว ฉันเองแทบรอไม่ไหวที่จะกินพวกมันปริมาณนี้ทั้งหมด เพื่อเผื่อเอาไว้ในปีหน้า..”

ขณะที่พูดกันอยู่ จู่ๆ หญิงสาวที่มีอายุมากกว่า ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป เธอได้หันไปส่งสัญญาณทางสายตาให้กับ หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า แล้วก็ได้หันมองไปในทิศทางหนึ่ง

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า ก็ได้หันมองออกไปตามสายตาของผู้เป็นศิษย์พี่หญิงของเธอ ก็เห็นเพียงว่า ที่ฝั่งตรงข้ามถนน นอกประตูทางด้านทิศตะวันออกของโรงพยาบาล ได้มีรถตํารวจหลายคันปรากฏขึ้น

ทั้งสองตระหนักได้ทันทีว่า เกิดอะไรขึ้น..

ปรากฎว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาทั้งสามคนได้เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของโรงพยาบาล ศิษย์พี่ของพวกเธอได้รับผิดชอบทางประตูหลัก และพวกเธอทั้งสองคนรับผิดชอบทางประตูทิศตะวันออก

ในตอนนี้ก็เห็นตํารวจติดอาวุธจํานวนมาก ทั้งยังดูมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ปรากฏตัวขึ้นทางประตูทิศตะวันออก แสดงว่าตํารวจได้เตรียมตั้งใจจะเคลื่อนย้าย เย่ เทียนอวี่ ออกทางประตูทิศตะวันออก…

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า ก็ได้ลุกขึ้น พร้อมกับพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อยว่า : “พี่สาว ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีธุระที่ต้องไปทำ งั้นฉันไปก่อนนะ พี่สาวเองก็ค่อยๆ กินไป”

หญิงสาวที่อายุมากกว่า พูดขึ้นว่า : “อืมม ไหนเราบอกว่าจะขอเพิ่มอีกจานไง แล้วนี่ธุระอะไรถึงได้ต้องรีบขนาดนี้?”

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า พูดว่า : “พอดีที่บ้านมีธุระ ฉันเองก็ดูเหมือนจะต้องรีบกลับ ขอไม่พูดแล้ว ไปก่อนนะ”

พูดจบ หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า ก็เดินออกจากร้านอาหารไป

เจ้าของร้านอาหารที่กําลังยุ่งอยู่ ก็ได้เงยหน้ามองหญิงสาววัยรุ่นทั้งสองคน ก่อนที่จะก้มหน้ายุ่งอยู่กับงานของตัวเองไปอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าออกจากร้านไปแล้ว เธอก็ได้รีบอ้อมไปที่ประตูหลัก เพื่อบอกเรื่องทางฝั่งนี้กับ ชายหนุ่ม ที่เป็นศิษย์พี่ของเธอ..

พอเมื่อมาถึงป้ายรถเมล์ใกล้กับประตูหลัก หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าก็ได้กวักมือเรียกแท็กซี่

ฉากนี้ ได้ถูก ชายหนุ่ม ที่หลบอยู่ในโรงแรมเห็น เป็นสัญญาณบางอย่างที่ได้ตกลงกันไว้

ดูเหมือนว่า ..ตำรวจกำลังจะไปรับตัว เย่ เทียนอวี่ จากทางประตูตะวันออก..

ดังนั้น ในนาทีต่อมา ในห้องของโรงแรมแห่งนี้ ก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของ ชายหนุ่ม อีกต่อไปแล้ว..

ตามแผนของ ชายหนุ่ม.. พวกเขาได้วางแผนที่จะปล้นชิงตัว เย่ เทียนอวี่ ออกมา ตราบใดที่เวลายังเอื้ออํานวย ตัวอย่างเช่น หลินฟาน ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็จะเข้าปล้นชิงตัว เย่ เทียนอวี่ โดยตรงจากตํารวจติดอาวุธเหล่านี้ แล้วใช้ความสามารถในการปลอมตัว เข้าหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองจนกว่าจะหาโอกาสออกจากเมืองหยุนเฉิงไปได้

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้.. ภายในโรงพยาบาลก็ได้มีเสียงไซเรนเป็นสัญญาณแจ้งเตือนเหตุดังขึ้นมา อย่างกะทันหัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด