บทที่ 12 ลอตเตอรี่
บทที่ 12 ลอตเตอรี่
"เจ้าหนู ถ้าเจ้าเข้ามายุ่งเรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับเจ้า น่าเสียดายที่ทุกอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว เจ้าทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมซ่ะ" บอดี้การ์ดคนหนึ่งหักนิ้วและพูดอย่างชั่วร้าย
“หุบปากซะ เจ้าพวกขี้ข้า ดาหน้ากันเข้ามาข้าจะทุบตีพวกเจ้าเอง” โจวหยวนยิ้ม
“ไอ้เด็กสารเลวนี่!”
บอดี้การ์ดถูกยั่วยุด้วยคำพูดของโจวหยวน เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาย่น เขาเดินเร็วขึ้นและกำลังจะโจมตีโจวหยวน
“เฮ้ อย่าใจร้อนสิ ใจเย็นก่อน” เพื่อนของเขาที่อยู่ข้างหลังเตือนเขา
แต่เขาเลือดขึ้นหน้าจึงไม่ได้ยินคำพูดของเพื่อน
หมัดของเขาราวกับเหล็ก และการเคลื่อนไหวของเขาก็รวดเร็ว
บอดี้การ์ดชกหมัดเข้าที่หน้าของโจวหยวน
ตึบ!
สีหน้าของเขาตกใจเมื่อเห็นว่าหมัดของเขาถูกโจวหยวนจับไว้
วินาทีถัดมาสีหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวด เขารู้สึกเจ็บลึกที่มือ ปรากฎว่าโจวหยวนกำมันอย่างแรง
"อ่อนแอ" โจวหยวนพูดอย่างเหยียดหยามในขณะที่เขาจับมือบอดี้การ์ดแน่นขึ้น
"อร๊าก! ปล่อยฉันนะ!" บอดี้การ์ดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
แต่การแสดงออกของโจวหยวนไม่มีการให้อภัย
"อ้ากกก!"
แกรก!
มือของบอดี้การ์ดถูกบดขยี้จนได้ยินเสียงกระดูกแตก
บอดี้การ์ดคุกเข่าลงบนพื้นกุมมือขวาที่หักเป็นหลายท่อน แม้กระทั่งกระดูกนิ้วของเขายังแหลกละเอียด
เขาคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดบนพื้นและดูเหมือนจะไม่สามารถลุกขึ้นต่อสู้ได้
ปัง
โจวหยวนเตะเข้าที่ใบหน้าของเขา และเขาก็กระเด็นไปข้างหลังกระแทกกับกำแพงจนแตกออกราวกับใยแมงมุม
เขานอนอยู่บนพื้นและหมดสติไป
เพื่อนอีกคนของเขาตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อกับภาพตรงหน้า บอดี้การ์ดของเขาคือผู้แข็งแกร่งที่พ่อของเขาเลือกให้ และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไร้ข้อกังขา
“เฮ้ ไม่ต้องกลัว ไปจับมันแล้วปล่อยให้ฉันซ้อมมันซะ!” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่โจวหยวนด้วยนิ้วของเขา
"ได้เลยครับนายน้อย" บอดี้การ์ดอีกคนพยักหน้าอย่างจริงจัง
แต่เขายังไม่สามารถซ่อนความกลัวบนใบหน้าของเขาได้ เขากลืนน้ำลายอย่างแรงและแสดงสีหน้าจริงจัง เด็กวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา บางทีเขาอาจเป็นผู้ฝึกตน
จากนั้นเขาก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้
เขาหลับตาเพียงครั้งเดียว แล้วโจวหยวนก็หายไปจากสายตาของเขา
สีหน้าของเขาตกใจ เขามองไปรอบๆ และไม่เห็นโจวหยวน
และทันทีที่เขาหันกลับมา เขาก็เห็นกำปั้นพุ่งมาที่หน้าของเขา
ปัง
เขาเซไปข้างหลังและการมองเห็นของเขาก็พร่ามัว หมัดของโจวหยวนนั้นหนักหน่วงจนเขาเกือบจะล้มลงกับพื้น
และอีกครั้งเมื่อการมองเห็นของเขากลับมาเป็นปกติ เขาก็เห็นกำปั้นอีกอันพุ่งมาที่หน้าของเขา
ปัง
โจวหยวนตีเขาอย่างแรงและทำให้เขาล้มลงกับพื้น เขาทนไม่ได้อีกต่อไป และในที่สุดก็หลับตาลงและหมดสติไป
ตุบ!
ยังไม่หยุดแค่นั้น โจวหยวนกระทืบหน้าเขาอย่างแรงจนมีรอยรองเท้าบนหน้าของบอดี้การ์ดคนนั้น
สีหน้าของคนที่เหลืออีกสามคนตกตะลึง โดยเฉพาะชายหนุ่มคนนั้น เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า
เขากำลังจะบอกให้บอดี้การ์ดคนสุดท้ายไปโจมตีโจวหยวน แต่ทันทีที่เขาหันกลับมา เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดคนสุดท้ายของเขานอนอยู่บนพื้นพร้อมกับเลือดกำเดาไหล
ซู่หยานก็ตกใจเช่นกัน โจวหยวนปรากฏตัวอย่างรวดเร็วและโจมตีบอดี้การ์ดด้วยการโจมตีที่รุนแรงจนเขาล้มลงหมดสติกับพื้น
"ถึงตาแกแล้ว ขยะ ฉันควรทำยังไงกับแกดี ทุบตีหรือว่าหั่นออกเป็นชิ้นๆดีนะ" โจวหยวนหักนิ้วมือและพูดด้วยรอยยิ้มขณะเดินไปหาชายหนุ่ม
“ไอ้สารเลว ถ้าแกกล้าเข้ามาใกล้และแตะต้องฉัน แกจะต้องเสียใจ ฉันชื่อเผิงหู เป็นบุตรชายของผู้นำบริษัทเรียลสตีล!”
เผิงหูแสดงตัวตนทันทีเพื่อข่มขู่โจวหยวน
“แล้วไง? คิดว่าฉันกลัวตัวตนที่เล็กกระจ้อยร่อยอย่างแกหรอ?” โจวหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำพูดของเผิงหู
เขาเดินไปที่เผิงหูซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งเมตร
เผิงหูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ คอของเขาก็ถูกบีบคอโดยโจวหยวน และเขาก็ถูกยกขึ้นบนอากาศ
การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความเสียใจ ใบหน้าของเขาแดงจากความเจ็บปวดจากการบีบมือของโจวหยวน
เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาทำไม่ได้
ในที่สุดเขาก็หลับตาลงและหมดสติไป
โจวหยวนปล่อยมือออกจากคอของเผิงหู และปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้น
การแสดงออกของโจวหยวน ไม่มีความรู้สึกผิด มีแต่ความโหดร้ายและความไร้ความปรานี
[คุณสามารถช่วยนางเอกคนที่สองได้ ซู่หยาน คุณได้รับ 200 คะแนนวายร้าย]
[คุณสามารถตัดโอกาสของเสี่ยวเฉินได้ ลดโชคลง 30 และคุณได้รับ 300 แต้มวายร้าย]
[ขอแสดงความยินดี คุณมีโอกาสถูกลอตเตอรี่ 1 ครั้ง]
โจวหยวนเลิกคิ้วข้างหนึ่งเมื่อเขาได้ยินคำพูดของระบบ เขาดีใจกับแต้มวายร้ายที่ได้รับ แต่ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสจับสลากด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาจะเก็บไว้ใช้ในภายหลัง
“อืม ขอบใจที่ช่วยนะ ฉันขอบใจเธอจริงๆที่มาช่วยฉัน” ซู่หยานกล่าวอย่างจริงใจ
โจวหยวนหันกลับมาและมองไปที่ซู่หยาน
เขารู้สึกถึงมุมมองที่แตกต่างออกไปเมื่อเขาเห็นซู่หยานอย่างใกล้ชิด เธอสวยมากด้วยผิวขาวบริสุทธิ์และผมสั้น
ซู่หยานเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสา ใจดี และอ่อนโยน แถมรูปร่างที่เซ็กซี่ของเธอยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธออย่างมากอีกด้วย
“ไม่เป็นไร เป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำ”
“ขอบใจ แล้วเราก็ใส่ชุดนักเรียนเหมือนกัน เธอเรียนมัธยมเซี่ยงไฮ้ด้วยเหรอ?”
“ใช่ ฉันชื่อโจวหยวน”
โจวหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่ยื่นมือไปขอจับมือ
ซู่หยานจับมือโจวหยวนทันทีและพูดพร้อมกับยิ้มว่า "ฉันชื่อซู่หยาน"
"ซู่หยาน ชื่อเพราะดี"
"ขอบคุณ โจวหยวนก็เป็นชื่อที่ดีเช่นกัน"
“ผู้หญิงไม่ควรออกมาที่เปลี่ยวกลางค่ำกลางคืนคนเดียวนะ มันอันตราย รู้ไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวหยวน สีหน้าของซู่หยานก็ซีดเซียวและเศร้าหมอง
“ฉันรู้ค่ะ จริง ๆ แล้วฉันออกมาคนเดียวบ่อยมาก เพราะต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว”
“พ่อของฉันป่วยและทำงานไม่ได้ แม่ของฉันเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารต้องทำงานทั้งวัน ด้วยสภาพครอบครัวของฉัน ฉันไม่สามารถสนุกได้เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป ฉันยังทำงานพาร์ทไทม์ในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นแคชเชียร์อีกด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่หยาน โจวหยวนก็ถอนหายใจ เขารู้สภาพของครอบครัวของซู่หยานแล้ว แต่การได้ยินเรื่องราวจากปากของเธอทำให้เขารู้สึกแตกต่างออกไป
เขารู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้อย่างมาก เธอไม่โชคดีเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ
“ฉันมีความสามารถทางการแพทย์ที่ดี พาฉันพบพ่อของเธอ”