999 - หญิงงามอันดับหนึ่ง 

999 - หญิงงามอันดับหนึ่ง

“ใช่” เย่ฟ่านตอบ

หญิงสาวคนนี้มีรูปร่างหน้าตางดงาม หุ่นเพรียวบาง ดวงตาใส แต่เห็นได้ชัดว่านางมีท่าทีเป็นศัตรู

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางไม่ได้กล่าวอะไรและถอยกลับไปที่ราชรถ

“น้องสาวเจ้าถามชื่อผู้อื่นแต่ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองเลยหรือ” ชายในชุดห้าสีมีสีหน้าชั่วร้าย

“เจ้าขยะ!” สาวใช้จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชัง

“สาวน้อย อย่ากล่าวไร้สาระ ระวังตัวไว้ สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้าร่ำร้องไม่หยุด” ชายในชุดหลากสีมีแสงประหลาดในดวงตา

“เจ้าถามชื่อข้าไปเพื่ออะไร” เย่ฟ่านกล่าว

“เหตุใดเจ้าจึงฆ่าน้องชายของเจ้าแห่งวังไป๋จิง” ในขณะนี้เสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานดังออกมาจากรถม้า

“อี้ชิงอู่กำลังจะโจมตีเจ้า เพราะอย่างไรซะนางก็คือคู่บำเพ็ญในอนาคตของหยินเทียนเต๋อ” ชายในชุดห้าสีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชื่อของเขาคือหลี่เทียน เขาเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้ เขาคือศิษย์น้องร่วมนิกายของของเอี๋ยนอี้ซี

“ที่จริงข้าไม่ต้องการเคลื่อนไหว หยินเทียนเต๋อจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ท้ายที่สุดข้าพบเจ้าที่นี่ ดังนั้นข้าจึงต้องขอคำอธิบาย”

เสียงของอี้ชิงอู่ราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ นุ่มนวลและน่ารื่นรมย์ แต่ก็มีเจตจำนงที่ไม่อาจสั่นคลอนอยู่ในนั้น

เย่ฟ่านยิ้มและพยักหน้าให้หลี่เทียน คนชั่วร้ายคนนี้พูดถูก สาวงามอันดับหนึ่งกำลังจะเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะโค่นข้าลงได้?”

“อย่าประมาทศัตรู อี้ชิงอู่ไม่เพียงแต่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของโลก การบ่มเพาะของนางยังน่าทึ่งอีกด้วย และนางยังเป็นอัจฉริยะลำดับหนึ่งในบรรดาความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์!” เอี๋ยนอี้ซีเตือน

“นั่นคือเหตุผลที่ข้าแนะนำให้พวกเราพี่น้องลงมือร่วมกัน” หลี่เทียนยกมุมปากขึ้น

“ข้าต่างจากเจ้า เจ้าบ่มเพาะรูป รส กลิ่น เสียง และความปรารถนา ในขณะที่ข้าบ่มเพาะอารมณ์ อย่ามาพูดกับข้า” เอี๋ยนอี้ซีปฏิเสธอีกครั้ง

หลี่เทียนหันกลับมาและกล่าวว่า “พี่เย่ มารวมพลังกัน ข้าแค่ต้องการให้นางเป็นเตาหลอมยาให้ข้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน จากนั้นเจ้าจะได้ครอบครองนางไปชั่วชีวิต คิดเห็นอย่างไร?”

เย่ฟ่านพบว่าศิษย์น้องของเอี๋ยนอี้ซีนั้นชั่วร้ายมาก มีสัญญาณของการกลายเป็นปีศาจในหมู่มนุษย์จริงๆ เขาไม่ได้ล้อเล่น แต่จริงจังมาก

“หลี่เทียน อย่าแม้แต่จะคิดที่จะจากไปในครั้งนี้ วันนี้เจ้าต้องตายอยู่ที่นี่” อี้ชิงอู่กล่าว แม้ว่าเสียงของนางจะดึงดูดใจมาก แต่ก็เย็นชาเช่นกัน

“เจ้าสามารถตรวจจับเสียงของข้าได้?!”

เอี๋ยนอี้ซีตกใจ พวกเขากำลังสนทนากันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์แต่กลับถูกหญิงสาวคนนี้ตรวจพบ

“น่าเหลือเชื่อจริงๆ” สีหน้าของหลี่เทียนแข็งทื่อเช่นกัน

“ทุกคนโปรดลงมือกำจัดคนเหล่านี้!”

ในขณะนี้เสียงของอี้ชิงอู่จริงจังมากขึ้น เสียงของนางสะท้อนภายใต้ท้องฟ้าที่สว่างไสว

ในขณะนั้นยอดฝีมือทั้งสิบสองคนได้ทะลวงผ่านความว่างเปล่าและปิดล้อมพวกเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา

“ในขณะนี้ข้าอัญเชิญผู้นำของทั้ง 12 มหาอำนาจมาร่วมพิทักษ์ธรรมและกำจัดพวกเจ้า”

“อี้ชิงอู่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะชั่วร้ายถึงขนาดนี้” หลี่เทียนดูเย็นชา

“เอี๋ยนอี้ซี เจ้าออกไปได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่สองคนนี้ปล่อยไม่ได้” เสียงที่นุ่มนวลของอี้ชิงอู่ดังขึ้น

“ข้าจะทิ้งสหายได้อย่างไร อี้เซียนจื่อเจ้าจงใจทำให้ข้าอับอายหรือ?” เอี๋ยนอี้ซีถอนหายใจ

“ศิษย์พี่ยังต้องพูดอะไรกับนางอีก จับนางมาเป็นเตาหลอมให้ข้าดีกว่า เมื่อถึงตอนนั้นเราจะกำหนดอย่างไรก็ได้” หลี่เทียนเย้ยหยัน

บางคนมีนิสัยชั่วร้ายมาตั้งแต่กำเนิดและพวกเขาก็ไม่คิดจะปิดบังความชั่วร้ายนี้ หลี่เทียนเป็นคนเช่นนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหื่นกระหายและไม่คิดจะปกปิดความชั่วของตัวเองแม้แต่น้อย

ในเวลานี้ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสองเล่มพุ่งเข้าใส่เย่ฟ่านด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

กระบี่แต่ละเล่มเพียงพอจะตัดโลกออกเป็น 2 ส่วนได้อย่างง่ายดาย!

สิบสองกระบี่สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ ความเร็วของมันไม่แตกต่างจากสายฟ้า

“นี่เอาจริงหรือ!” หลี่เทียนสาปแช่ง

เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็พ่นดอกบัวสีทองเก้าใบออกมาพร้อมกับสั่งให้มันระเบิดขึ้นกลางท้องฟ้าและปิดกั้นการโจมตีจากกระบี่เล่มหนึ่ง

“ข้าอยากจะฆ่าพวกมันทั้งหมดจริงๆ”

สีหน้าของเอี๋ยนอี้ซีก็เปลี่ยนไปเช่นกัน และในขณะนี้หญิงงามผู้สั่นสะเทือนสวรรค์พิภพได้พุ่งตัวออกมาจากรถมาพร้อมกับลงมือโจมตีร่วมกันกับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดทั้ง 12 คน

เย่ฟ่านยังดูสง่างาม เขาไม่ได้รับความกดดันจากการโจมตีโดยใช้ทักษะซิงจื่อหลีกเลี่ยงกระบี่เหล่านั้นอย่างง่ายดาย

เก้าญาณวิเศษลึกลับเป็นศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่มีระดับสูงสุด หลังจากได้รับการปรับปรุงอีกครั้งความเร็วของเขาก็ไม่ต่างอะไรจากภูตพราย

ในขณะนี้ร่างของเย่ฟ่านเข้าประชิดตัวอี้ชิงอู่อย่างรวดเร็ว จากนั้นฝ่ามือของเขาก็กดเข้าหาหว่างคิ้วของหญิงสาว

อย่างไรก็ตามในขณะนั้นมีหลุมดำขนาดสิบวาปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า มันดึงดูดเย่ฟ่านเข้าไปข้างในโดยไม่อาจต่อต้านได้

“อาวุธศักดิ์สิทธิ์!”

เย่ฟ่านตกตะลึง ตอนนี้เขาถูกดูดเข้าไปในรถม้าซึ่งน่าจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับผู้อมตะ แผนการนี้ถูกวางไว้อย่างแยบยล

แม้ว่าความเร็วของเขาจะเร็ว แต่ทักษะซิงจื่อไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาหลบหนีออกจากรถม้าได้

เย่ฟ่านคำรามด้วยความโกรธ กำปั้นที่แข็งแกร่งของเขาทุบตีรถม้าจากทุกทิศทาง

“ปัด”

ในท้ายที่สุด รถม้าก็หายไปอย่างเงียบๆ โดยมีเพียงอี้ชิงอู่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า

“บูม…”

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบสองเล่มปลดปล่อยคลื่นพลังสังหารอันน่าสะพรึงกลัวกวาดเข้าหาหลี่เทียนราวกับสายฟ้า

หลี่เทียนกระตุ้นให้ดอกบัวสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกันเอี๋ยนอี้ซีก็กางภาพวาดโบราณผืนหนึ่งออกต่อต้านการโจมตีครั้งนี้ด้วย

บูม!

แรงระเบิดอำนาจสะพรึงกลัวกวาดออกไปรอบทิศทางและทำให้ชายหนุ่มทั้งสองปลิวตกลงมาจากท้องฟ้า

ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้นในอากาศพร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนแรงเพิ่มมากขึ้น มันคือเตาหลอมขนาดใหญ่ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าคืออาวุธระดับผู้อมตะอย่างแน่นอน

“อี้ชิงอู่ เจ้าเก่งจริงๆ เจ้าคิดจะหลอมพวกเราที่นี่หรือ!” สีหน้าของหลี่เทียนแข็งทื่อ

ในความว่างเปล่าทุกทิศทุกทาง มีแท่นบูชาโบราณที่ห้อยต่อกัน ล้วนสลักลวดลายที่ไม่อาจระบุได้ มันเปล่งแสงแวววาวและล้อมรอบเข้าหาชายหนุ่มทั้งสองอย่างรวดเร็ว

“ค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์!”

ใบหน้าของเอี๋ยนอี้ซีเปลี่ยนสี นี่เป็นค่ายกลอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถหลอมร่างกายของมนุษย์ให้กลายเป็นเม็ดยาได้อย่างง่ายดาย

แผนการล่าสังหารเย่ฟ่านและศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองถูกวางมาอย่างเป็นระบบ มันผ่านการร่วมมือกันของยอดฝีมือมากมายนับไม่ถ้วน นั่นแสดงให้เห็นว่าแผนการนี้ถูกวางไว้นานแล้ว

“สาวงามอันดับหนึ่งของโลกวันนี้เจ้าคิดจะฆ่าเราจริงๆ” หลี่เทียนสาปแช่ง

เย่ฟ่านถูกขังอยู่ในรถม้าซึ่งถูกย่อขนาดและลอยอยู่กลางฝ่ามืออันงดงามของอี้ชิงอู่ หญิงงามผู้นี้ไม่มีผู้ใดเทียบได้ความงามของนางไม่แตกต่างอะไรจากเอี๋ยนหรูอวี้(แต่ก่อนใช้เอี๋ยนหรูหยู แปลผิดครับ) แต่จิตใจของนางกับโหดเหี้ยมกว่ามาก

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเทียบเท่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางที่รถม้าคันนี้จะปิดกั้นตัวเขาได้

แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองระเบิดออกมาจากร่างของเย่ฟ่านกำปั้นที่แข็งแกร่งของเขาทุบผนังรถม้าให้แตกเป็นเสี่ยงๆในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

จากนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็กวาดออกไปรอบทิศทางเหมือนมังกรตัวใหญ่พร้อมกับทำลายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 12 เล่มให้พังพินาศทันที