1000 - ข้าก็มีข้อเสนอเช่นกัน
1000 - ข้าก็มีข้อเสนอเช่นกัน
“บูม”
ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของหนึ่งในกระบี่ทั้ง 12 เล่มร่างกายแหลกละเอียดจากกำปั้นของเย่ฟ่าน เลือดเนื้อของเขาสาดกระจายทุกทิศทางและย้อมให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงฉานทันที
“รีบหนีเร็วนี่เป็นค่ายกลระดับผู้อมตะ หากถูกขังอยู่ข้างในไม่มีทางหลบหนีได้” เอี๋ยนอี้ซีตะโกน
“นกน้อยตัวนี้เตรียมตัวมาดีเกินไป เราต้องหนีให้เร็วที่สุด”
ดวงตาของหลี่เทียนกะพริบด้วยแสงที่แปลกประหลาดและชั่วร้าย
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านยังคงไม่ถอยออกจากค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์ มือของเขาประสานอินอย่างต่อเนื่องก่อนจะกระตุ้นให้อักขระโบราณ 9 ตัวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
นี่คืออักขระที่เกิดขึ้นจากคัมภีร์เต๋าซึ่งเย่ฟ่านต้องการความรู้แจ้งแบบเร่งด่วนเพื่อที่เขาจะฝ่าทะลุอาณาจักรต่อไป
แม้ว่าเขาจะไม่กลัวหายนะ แต่ถ้าเขาข้ามภัยพิบัติในตอนนี้มันจะทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น และเป็นการยากที่จะทะลุผ่านอาณาจักรใหม่
เขาไม่อาจปล่อยให้ตัวเองถูกฟ้าผ่าอย่างเปล่าประโยชน์ได้ ดังนั้นเย่ฟ่านจึงเรียกอักขระเต๋าทั้งหมดที่เขาเรียนรู้ออกมาเพื่อศึกษามันอีกครั้ง
ด้วยความแข็งแกร่งที่ลึกล้ำของเขา ความเข้าใจในอักขระโบราณทั้งเก้าของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น และกลิ่นอายแห่งความลึกลับอันน่าสะพรึงกลัวกวาดออกไปทุกทิศทาง
“ตัง ตัง ตัง!”
ธงทองแปดสิบเอ็ดผืนซึ่งเขาคว้ามาจากลู่หย่าพุ่งเข้าหาค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างจงใจ
“อา…”
เสียงกรีดร้องดังออกมา และร่างของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล่วงลงมาจากท้องฟ้าทันที
พลังธงสมบัติของลู่หย่านั้นน่าอัศจรรย์ มันถูกสร้างขึ้นจากขนนกศักดิ์สิทธิ์ของอีกาทองระดับผู้อมตะ แน่นอนว่าพลังของมันไม่ใช่สิ่งที่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปจะทนได้
“ถึงเวลาเอาคืนแล้ว!” หลี่เทียนหัวเราะเสียงดัง
มุมหนึ่งของค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกฉีกออกจากกัน มันเกิดช่องว่างในความว่างเปล่า หลี่เทียนหัวเราะเสียงดังลั่นและควบคุมดอกบัวสีทองพาร่างของตัวเองหลบหนีทันที
ในขณะเดียวกัน ภาพวาดหญิงงามของเอี๋ยนอี้ซีก็กลายเป็นสะพานสายรุ้ง นำพาเขาออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วเช่นกัน
“อา…”
ในขณะนี้ เสียงกรีดร้องดังขึ้น เย่ฟ่านพุ่งเข้าไปในมุมค่ายกลและฉีกร่างของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งทำให้เลือดเนื้อของฝ่ายตรงข้ามสาดกระจายทั่วท้องฟ้า
“บูม”
เมื่อสูญสิ้นผู้ควบคุม ค่ายกลโบราณทั้งหมดก็พังทลายลง ในขณะนี้ทั้ง 3 คนสามารถหลบหนีได้อย่างสะดวกสบาย
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านและหลี่เทียนไม่ได้หลบหนีไปไหน พวกเขาพุ่งเข้าหารถม้าโบราณที่พังเสียหายและจับตัวอี้ชิงอู่ได้อย่างรวดเร็ว
หญิงงามแบบนี้ไม่ควรปรากฏในโลก มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่านามปราศจากข้อบกพร่องมากเกินไป นางมีใบหน้างดงาม ลำคองามระหง มีรูปร่างสมส่วน โดยเฉพาะไฝสีแดงที่อยู่กึ่งกลางหน้าผากของนางที่ปลดปล่อยเสน่ห์อย่างไม่สิ้นสุดออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งสองหญิงสาวเพียงยิ้มอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไร
“จิตมารเกิดขึ้นกับข้าแล้ว หากไม่ได้ครอบครองหญิงสาวคนนี้ข้าจะไม่สามารถพิสูจน์เต๋าได้ชั่วชีวิต ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องเอานางไปทำเป็นเตาหลอมยาให้ได้” หลี่เทียนมีสีหน้าชั่วร้าย
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าออกจากเขตลู่โจวแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
อี้ชิงอู่กระซิบ แม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในโลกแต่นางก็มีเจตจำนงอันแข็งแกร่งไม่อาจสั่นคลอนได้
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเช่นกัน มาทุบหลังและนวดขาให้ค่าเป็นเวลา หนึ่งเดือน แล้วข้าจะรับรองว่าเมื่อกลับไปเจ้าจะยังคงรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้” เย่ฟ่านหัวเราะ
อี้ชิงอู่ไม่ได้โกรธ รอยยิ้มที่มีเสน่ห์บนใบหน้าของนางยังคงไม่ลดลง นิ้วของนางสดใสเหมือนผลึกในขณะที่นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“เจ้ามั่นใจจริงๆ”
“ไม่มีความมั่นใจข้าจะมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้อย่างไร จะพนันกันหรือไม่ หากเจ้าแพ้เจ้าต้องยอมทุบหลังและมาเป็นสาวใช้ของข้า” เย่ฟ่านกล่าว
“ชีวิตไม่ใช่การเดิมพัน ทางรอดของข้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทำไมข้าต้องเดิมพันด้วย” ดวงตาของอี้ชิงอู่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
เอี๋ยนอี้ซีเข้ามาและกล่าวเสียงต่ำ “นางต้องมีที่พึ่งพา”
หลี่เทียนเป็นคนชั่วร้าย แต่เขาไม่ใช่คนปัญญาอ่อน ดังนั้นเขาจึงหัวเราะและกล่าวว่า
“ข้าไม่เชื่อว่าเราสามคนจะจัดการนางไม่ได้”
“ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ที่ไหน”
เย่ฟ่านกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อค้นหาปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ภายหลังเขาพบว่ามีปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นหุ่นเชิดมากกว่าครึ่ง
ในขณะนั้นอี้ชิงอู่ยิ้มอย่างลึกลับ เสียงหัวเราะของนางเหมือนระฆังเงินพร้อมกับการปะทุขึ้นด้วยแสงสีขาวเจิดจ้า
ในเวลาต่อมากงล้อสีขาวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันสลักด้วยอักขระโบราณ 8 ตัว คลื่นพลังที่เกิดจากการระเบิดของมันผลักเย่ฟ่านและคนอื่นๆให้กระเด็นออกจากรถมาที่ผุพังทันที
“ตะขาบร้อยขาแม้ตายตัวก็ไม่แข็งทื่อ(มีพิษสงไม่เสื่อมคลาย)!” เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ
“นี่คือกงล้อสมบัติแปดประการอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง!” เอี๋ยนอี้ซีรู้สึกประหลาดใจ
หลี่เทียนตรงไปตรงมามากขึ้น ทันทีที่กงล้อสีขาวปรากฏขึ้นร่างของเขาก็กลายเป็นกระแสแสงและพุ่งออกจากสนามรบอย่างรวดเร็ว
“เจ้ายังคิดว่าจะหนีไปได้?!” อี้ชิงอู่ตะโกน
บนท้องฟ้า กงล้อสมบัติ 8 ประการไล่ตามกระแสแสงนั้นราวกับเครื่องบดเนื้อ มันพุ่งขึ้นไปตัดเส้นทางการหลบหนีของหลี่เทียนและผลักดันเขากลับมาอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายเถอะ นี่คือสมบัติลับสุดยอดของตำหนักกวงหาน มันไม่มีทางที่เราจะหลบหนีได้!” หลี่เทียนสาปแช่ง
ภายในกงล้อสมบัติแปดประการมีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด 8 คนถูกขังอยู่ด้านใน ด้วยพลังของมันเพียงอย่างเดียวเกือบเทียบเท่ากับการโจมตีของสิ่งมีชีวิตอมตะได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นสมบัติชิ้นนี้ยังไม่สามารถถูกทำลายได้ ทุกครั้งที่มันฆ่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงยิ่งกว่าวิญญาณของปรมาจารย์เหล่านั้นก็จะเข้ามาแทนที่วิญญาณของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอที่สุดในกงล้อ
“อย่าบอกนะว่า ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 คนที่ถูกขังอยู่ในนั้นคือครึ่งเซียนระดับสูงสุด!” เย่ฟ่านกล่าว
“แม้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ไม่ต้องกังวลด้วยการร่วมมือกันของพวกเรา 3 คนข้าเชื่อว่าเราจะสามารถยึดกงล้อสมบัตินั้นมาได้” หลี่เทียนกล่าว
“ด้วยสมบัติระดับนี้แม้จะเอาตัวรอดยังเป็นเรื่องยากนับประสาอะไรกับการยึดมันมาเป็นของตัวเอง”
เย่ฟ่านตำหนิ เจ้าสาระเลวคนนี้หลบหนีทันทีที่กงล้อปรากฏขึ้น แต่เขาก็ยังกล้ากล่าวด้วยความองอาจกล้าหาญ
เย่ฟ่านคิดถึงน้ำเต้าสีดำเป็นอย่างมาก หากมันยังอยู่ตอนนี้เขาสามารถปลดปล่อยเปลวไฟ 9 สีออกมาสังหารหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย
“แยกกันหนี อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่สามารถไล่ฆ่าพวกเราทุกคนได้”
เย่ฟ่านไม่ได้หวาดกลัวต่อกงล้อสมบัติแปดประการมากนัก อย่างไรก็ตามหากการต่อสู้ยังดำเนินไปอย่างไม่สิ้นสุด มันจะต้องมีปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายคนเข้ามาช่วยเหลือหญิงงามที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่นอน
“ไปกันเถอะ!”
ทั้งสามพุ่งออกไปคนละทิศคนละทาง ในเวลาเดียวกันกงล้อศักดิ์สิทธิ์ก็ไล่ตามเย่ฟ่านไปด้วยความเจิดจรัส กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ 8 เล่มไล่ล่าเอี๋ยนอี้ซี และสุดท้ายคือรถม้าโบราณได้ไล่ตามหลี่เทียนไปอย่างโหดร้าย
รถม้าคันนี้ก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน มันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของอี้ชิงอู่ แน่นอนว่าความปรารถนาของนางคือการประหารหลี่เทียนซึ่งเป็นคนที่มีความชั่วร้ายมากที่สุดในทั้ง 3 คน
“ปัง”
ดอกบัวทองเก้าใบที่อยู่ข้างกายของหลี่เทียนสั่นสะท้านและแตกเป็นเสี่ยงๆทันทีที่เกิดการปะทะ
“นี่คือสมบัติที่อาจารย์มอบให้ข้าก่อนเสียชีวิต ทำไมมันจึงถูกทำลายได้?”
ในเวลาเดียวกันเอี๋ยนอี้ซีซึ่งอยู่ห่างไกลกันไม่มากนักก็กวาดภาพหญิงงามออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีของกระบี่ทั้ง 8 เล่ม
“พลังแห่งความโกลาหล นี่คือสมบัติที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคโบราณทิ้งไว้!”
เอี๋ยนอี้ซีบินคำรามเสียงดังลั่น ม้วนภาพวาดในมือของเขากางออกและกลายเป็นสะพานสายรุ้งขนาดใหญ่ที่พาร่างของเขาข้ามผ่านท้องฟ้า
“ปัง!”
แต่แล้วมือสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า มันตบภาพวาดของเอี๋ยนอี้ซีจนปลิวกระเด็นและทำให้เขาตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว!
…….