ตอนที่ 110 ใครบางคนบอกว่า “นายคือแสงสว่าง”
"นายเป็นคนดีนะ เซนโจ ฮาราโนะ"
ในที่สุดชิกะ คางุระก็พูดประโยคแรกออกมาและติดป้าย "คนดี" ให้กับเซจิเป็นครั้งที่สองทันที
"ฉันเคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องนี้ที่ชมรมละครแล้ว" เซจิมองไปที่เธอ "ถึงแม้ว่าฉันไม่คิดว่าจะฉันเป็นคนดีขนาดนั้น… แต่ก็อาจจะนิดหน่อย"
"มีคนบอกฉันว่านายคือ'แสงสว่าง'"
เซจิพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ผู้หญิงคนหนึ่ง... ไม่สิ ภาพของผู้ชายในชุดผู้หญิงพุ่งผ่านเข้ามาที่ความทรงจำของเขา เขารู้สึกอยากจะปิดหน้าของเขาทันที!
แต่เขาก็ยังต้องถามเพื่อให้แน่ใจ
"เธอได้ยินจากใคร? โฮชิ อะมามิงั้นเหรอ? เธอรู้จักเขางั้นเหรอ?"
ชิกะพยักหน้าตอบ
เซจิกุมไปที่ใบหน้าของเขาเมื่อชิกะพยักหน้า
'โฮชิ มันจะไม่เป็นไรหรอกนะถ้านายจะคิดแค่ในใจนะ! ทำไมนายต้องบอกคนอื่นด้วย?! นี้มันน่าอายสุดๆ!'
หลังจากที่จิตใจของเขาได้สาปส่งรุ่นน้องไปแล้ว เซจิตัดสินใจที่จะให้โฮชิได้รับความรู้ที่เหมาะสมด้วยหมัดของเขาเมื่อพวกเขาได้เจอกันในครั้งต่อไป
"เซนโจ ฮาราโนะ?" เสียงที่ดูสับสนได้เรียกชื่อของเขาออกมา
"โอ้โทษที ฉันแค่ ... " เซจิแกล้งไอและเอามือลงไป "เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับโฮชิงั้นเหรอ?"
"ชมรมเดียวกัน" คำตอบของชิกะค่อนข้างกระชับ
"ชมรมอะไรงั้นเหรอ?"
"วรรณกรรม"
"อืม…"
โฮชิอยู่ในชมรมวรรณกรรม อืม มันดูเหมาะกับเขามาก
'ไม่ เดี๋ยวก่อน!'
"เขาบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?" ใบหน้าของเซจิเริ่มกระตุกอีกครั้ง
'เขาบอกคนที่ชมรมวรรณกรรมเกี่ยวกับเรื่องจินตนาการของเขาทั้งหมดหรือเปล่า?'
ชิกะนิ่งเงียบ
'นี้ อย่าเงียบไปเฉยๆสิ! ฉันกำลังกังวลในสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกมานะ!'
เซจินั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดในขณะที่เขากำลังเฝ้ารอคำตอบของชิกะ
ถ้าไอ้รุ่นน้องโง่นั้นบอกเรื่องพวกนี้ทั้งหมดกับชมรมวรรณกรรมล่ะก็มันคงเป็นอะไรที่น่าอายนิดหน่อย... แต่ แม่งเอ้ย! นี้ไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้รับรู้ด้วยการชกเพียงหนึ่งหมัดแล้ว!
ฮัดเช้ย... โฮชิจาม ในขณะที่ทำงานบ้านที่บ้านน้าของเขา
"ตอนนี้งานของรุ่นพี่ก็คงทำงานเสร็จแล้ว...เฮอ ฉันอยากไปด้วยจัง" เขาพึมพำกับตัวเองในขณะที่เขาเช็ดพื้น
แต่ก่อนอื่นเขาต้องทำความสะอาดบ้านน้าของเขาก่อน
เพราะพวกเขาก็จะได้อยู่ด้วยกัน เขารู้สึกดีที่ได้ทำความสะอาดทุกอย่าง
ถึงอย่างนั้นก็ตามน้าริกะดูเหมือนจะเข้มงวดมาก แต่บ้านของเธอ...
โฮชิอดไม่ได้ที่จะยิ้มแบบเบื่อหน่าย ในขณะที่เขาคิดย้อนกลับไปถึงข้าวของที่ดูไม่เป็นระเบียบในบ้านตอนที่เขามาถึงครั้งแรก
น้าริกะดูเหมือนจะรู้สึกอึดอัดใจเรื่องนี้เหมือนกัน
เธอยังคงยุ่งอยู่กับงานและใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เข้าใจได้ง่ายว่าบ้านของเธอคงต้องรกมากแน่ๆ
โฮชิรู้สึกว่าสิ่งแรกที่เขาควรจะทำหลังจากย้ายมา คือการทำความสะอาดทั้งหมดเพื่อน้าริกะและตัวเขาเอง
เขาตัดสินใจว่านี้สำคัญกว่าการไปทำงานที่ร้านขายขนมหวาน ถึงแม้ว่าเขาอยากจะอยู่ข้างๆรุ่นพี่ในที่ทำงาน แต่เขาก็ต้องควบคุมตัวเองไว้และไม่ไปที่ร้าน
เขาควรจะทำในสิ่งที่จำเป็นก่อน... นี้นับว่าเป็นโตขึ้นแล้วใช่ไหมนะ?
'เมื่อฉันเห็นรุ่นพี่ฮาราโนะอีกครั้ง ฉันจะบอกเขา... และเปิดเผยการใช้ชีวิตที่แท้จริงของน้าริกะที่บ้าน!' โฮชิหัวเราะให้กับตัวเองขณะที่เขานึกภาพการพูดคุยกัน
เขาคงคาดไม่ถึงว่าครั้งต่อไปที่เขาได้พบกับรุ่นพี่จะมีกำปั้นเหล็กของเขาจะรอเขาอยู่
ที่สวนสาธารณะ
ชิกะยังคงเงียบอยู่เป็นเวลานาน
ในที่สุดเธอก็หันไปมองเขาก่อนที่จะพูด
"นี้ ฉันถามหน่อยสิ ว่าทำไมเขาถึง... ยังไม่ตาย"
เซจิที่กำลังเฝ้ารอคำตอบก็พลันตะลึงเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิด
ทำไมโฮชิถึงยังไม่ตาย?
คำถามประเภทนี้... ฟังดูเหมือนกับว่า... เธอรู้อยู่แล้วว่าโฮชิ อะมามิควรจะตายไปแล้ว!
ท่าทางของเซจินั้นเปลี่ยนไปทันที
"ทำไมเธอถึงถามแบบนั้นล่ะ?" ความคิดของเขาคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆมากมาย แต่ในที่สุดเขาตัดสินใจที่จะขอคำอธิบายจากเธอเป็นอย่างแรก
ชิกะจ้องมองไปที่ท้องฟ้าในเวลากลางคืนด้วยท่าทางที่สงบ
"เขาก็ถามฉันเรื่องนี้ เหมือนกับคุณ"
"คำตอบของฉันคือ... ฉันเห็นมัน"
"เขามีท่าทาง... ที่บอกว่าเขาอยากตาย"
'ท่าทาง?' เซจิขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
"แล้วเขาดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูด ในตอนที่เขาขอบคุณฉัน ที่เป็นห่วงเกี่ยวกับเขา จริงๆแล้ว ฉันก็ไม่ได้เป็นห่วงเขาหรอก... ฉันบอกเขาแบบนี้เหมือนกัน ฉันแค่อยากจะรู้ว่าใคร... ที่เปลี่ยนความคิดของเขาเมื่อเขาอยากจะตาย... คนที่ทำให้เขาได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง"
ชิกะค่อยๆเคลื่อนตาของเธอกลับไปที่ใบหน้าของเซจิอีกครั้งขณะพูด
"แล้วเขาก็บอกฉันว่า... เขาได้พบกับแสงสว่าง แสงสว่างที่มีชื่อว่า... เซนโจ ฮาราโนะ"
เรื่องนี้ทำให้เซจิพูดไม่ออก
เรื่องของเธอนั้นค่อนข้างกระชับ แต่เขาก็เข้าใจความหมายของเธอ
เมื่อกี้เขาคิดว่าชิกะมีความสามารถลึกลับบางอย่าง แต่คงเป็นความเข้าใจผิดของเขาเอง
เธอไม่ได้เห็นโฮชินั้นตาย แต่เธอสังเกตเห็นท่าทางที่มืดมิดของโฮชิตอนที่จิตใจของเขาตกอยู่ก้นเหว และจากนั้นเธอก็คิดไปเองว่าเขากำลังจะ...
แต่ไม่ได้เกิดแบบนั้นขึ้นกับโฮชิ กลับกัน เขารู้ตัวและก้าวข้ามตัวตนเก่าของเขาได้ด้วยความกล้าหาญ
สิ่งนี้ทำให้ชิกะรู้สึกว่าบางอย่างแปลกๆเพราะฉะนั้นเธอจึงถามออกมา
และโฮชิก็ตอบเธอ... ไปในทางคำตอบแบบจูนิเบียว
เซจิถอนหายใจในใจด้วยความโล่งใจ หลังจากยืนยันว่าความกลัวของเขานั้นมันไม่ถูกและชิกะก็ไม่ได้เป็นคนที่มีพลังลึกลับ
และเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดอีกว่าโฮชิไม่ได้บอกทั้งชมรมเกี่ยวกับที่เขาคิดว่าเซจิเป็นแสงสว่างของเขา
"เขาคนนั้นอาจพูดเกินจริงไปสักหน่อยกับการเปรียบเทียบของเขา... เธอก็รู้" เซจิเกาไปที่หน้า "ทุกอย่างที่ฉันทำก็แค่ช่วยเขาไปนิดหน่อยเท่านั้น... เพราะเขามีปัญหาบางอย่างและฉันก็เลยช่วยเขาเท่านั้นเอง"
ชิกะจ้องมองมาที่เขา
"ในตอนที่เขากำลังเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง มันเหมือนกับว่าเขากำลังเปล่งประกายเหมือนแสงอยู่ เหมือนกำลังออร่า... นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นในสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน"
เอาแล้วไง! ผู้หญิงคนนี้และหมอนั้น... เป็นคนของชมรมวรรณกรรมนี้น่า!
สมาชิกวรรณกรรมทุกคนนี้ยอมรับความคิดแบบจูนิเบียวง่ายขนาดเลยงั้นเหรอ?
'ยอมแพ้เลย' เซจิถอนหายใจในใจ
"เธอ... อืม ถ้าเธออยากจะพูดแบบนั้น มันขึ้นอยู่กับเธอ ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นแสงสว่างหรอกนะ ฉันแค่ทำในฐานะที่รุ่นพี่และเพื่อนของเขา และทำในสิ่งที่ฉันทำได้ก็เท่านั้น"
ชิกะเอียงศีรษะเล็กน้อย "งั้นคุณก็ยอมรับมันสินะ?"
'นี้ สาวน้อย เธอเข้าใจแบบไหนว่าฉันยอมรับมันนะ!'
เซจิบังคับตัวเองไม่ให้พูดตอบกลับไป
เรื่องนี้จะยังไม่จบ ถ้าเขายังคงปฏิเสธมันอยู่
เซจิถอนหายใจข้างในใจ 'ฉันอาจจะต้องใช้เรื่องนี้ในการเข้าใกล้เธอสินะ'
"ก็ได้ ฉันคิดว่า... ฉันเป็นแสงสว่าง"
บ้าเอ๊ย หลังจากที่เขาพูดออกมาดังๆเขาก็รู้ในทันทีว่ามันฟังดูน่าอายสุดๆ!
เซจิแอบเอามือกุมไปที่ใบหน้าของเขา
"ฉันยอมรับแล้ว โอเค? ฉันเป็นคนที่ทำให้เขาเห็นแสงสว่าง ดังนั้นเขาจึงมองว่าฉันว่าเป็นแสงสว่าง! ฉันนี้แหล่ะคือแสงสว่างที่แท้จริง!! แล้วยังไงล่ะ? "
เขายอมแพ้ตัวเขาขณะที่เขาเอามือปิดหน้าไว้
คำพูดของเขาฟังดูคล้ายกับพวกจูนิเบียวแบบสุดๆ!
'ทำไมฉันถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ในที่มืดๆ กับเด็กม.ต้นที่ฉันเพิ่งจะรู้จักด้วยล่ะเนี่ย?'
เซจิปลอบโยนตัวเองด้วยการคิดว่าเขาเพิ่งทำอะไรที่มันน่าอับอายและอวดเก่งแบบสุดๆเมื่อสองวันก่อน เมื่อเทียบวิธีที่เขาทำกับฝาแฝดแล้ว นี่ไม่ใช่อะไรที่...
...แต่สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่างเปล่ามากยิ่งขึ้น!
ในเวลานั้นเขาได้อาศัยท่าทางที่ดูน่าประทับใจในการจัดการมัน! และหลังจากนั้นก็เป็นเวลาเรียน ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหยุดคิดเรื่องนี้ได้!!
เซจิถูกปกคลุมไปด้วยความทรงจำมืดของเขา ความจริงเขารู้ตัวว่าแสงนั้นกำลังล่มสลาย
"ฉัน... ต้องการแสงสว่างเหมือนกัน" ชิกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูนุ่มนวล และเสียงที่สงบ
เสียงของเธอนั้นดูราวกับไร้อารมณ์ มันเป็นความปรารถนาที่เรียบง่ายและบริสุทธิ์
"คุณสามารถ... ให้แสงสว่างแก่ฉันได้ไหม?"