บทที่ 8 การตัดสินที่ไม่เป็นธรรม
บทที่ 8 การตัดสินที่ไม่เป็นธรรม
ปัง
จ้าวเหว่ยถูกกระแทกโซเซกลับไปและสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
เขาอยู่ที่ขอบเขตพลังปราณพื้นฐาน และเขาแพ้ให้กับเสี่ยวเฉินคนนี้ได้อย่างไร
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? นายจะเอาชนะฉันไม่ได้หรอก” เสี่ยวเฉินพูดอย่างเย็นชา
"ฮึ่ม แค่ทริคเล็กๆน้อยๆ!" จ้าวเหว่ยตะคอกและวิ่งไปหาเสี่ยวเฉินทันที
ความเร็วของเขาราวกับเสือโคร่ง และหมัดของเขาก็แข็งราวกับเหล็ก
ปัง
หมัดของจ้าวเหว่ยถูกบล็อกโดยเสี่ยวเฉินอย่างง่ายดาย จ้าวเหว่ยรู้สึกว่ามือของเขาชา
เขาถอยหลังไปสองสามก้าว และข้างหลังเขามี 11 คนนอนอยู่บนพื้น พวกเขาคือคนของเขาที่พ่ายแพ้โดยเสี่ยวเฉิน
เขาตกใจกับความแข็งแกร่งของเสี่ยวเฉิน คนๆ นี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดมาก
ไม่น่าแปลกใจที่โจวหยวนบอกให้เขาหาคนมาจัดการให้มากที่ เขาไม่รู้ว่าเสี่ยวเฉินจะแข็งแกร่งขนาดนี้
"ตอนนี้ก็ลองรับการโจมตีของฉันบ้าง!" เสี่ยวเฉินพูดอย่างเย็นชาในขณะที่เขาตั้งท่าและเตรียมที่จะโจมตีจ้าวเหว่ย
การแสดงออกของจ้าวเหว่ยเริ่มจริงจัง เขาหมดแรงแล้วในตอนนี้ และมันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะต้านทานการโจมตีของเสี่ยวเฉินได้
"หยุด!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนที่ได้ยินจากทางเข้าสวนแห่งนี้
เสี่ยวเฉินหยุดและหันกลับมา เขาเห็นคน 5 คนที่สวมเครื่องแบบหน่วยรักษาความปลอดภัยเดินมาหาเขา
หนึ่งในห้าคนเดินไปหาเสี่ยวเฉิน เขาเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย เฉินเผิง
“เจ้าสองคนกล้ามากใช่ไหม ถึงมาสู้กันใกล้ๆ ตึกสำนักงานของอาจารย์ใหญ่?” เฉินเผิงตะคอกและพูดอย่างเคร่งขรึม
"เจ้า เจ้าชื่ออะไร" เฉินเผิงมองไปที่เสี่ยวเฉินและถามอย่างโหดเหี้ยม
“เสี่ยวเฉิน”
“แล้วเจ้าล่ะ” เฉินเผิงพูดพร้อมกับชี้กระบองรักษาความปลอดภัยไปที่จ้าวเหว่ย
"จ้าวเหว่ย"
“ดีมาก ตอนนี้ให้ฉันถามพวกเจ้าว่าใครเป็นคนเริ่มการต่อสู้นี้” เฉินเผิงถามอย่างเคร่งขรึม
“ผู้ชายคนนี้เป็นคนเริ่มก่อน เขาบอกให้ฉันมาที่นี่และกำลังจะรุมฉัน” เสี่ยวเฉินพูดทันทีในขณะที่ชี้ไปที่จ้าวเหว่ย
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเฉิน เฉินเผิงมองไปรอบ ๆ เขารู้สึกประหลาดใจ มีคนนอนหมดสติอยู่ 11 คน
จากนั้นเขามองไปที่จ้าวเหว่ยแต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าเอาชนะคนเหล่านี้ทั้งหมดงั้นหรือ?”เฉินเผิงถาม และเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อว่าเสี่ยวเฉินจะสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งหมดได้
“หัวหน้าหน่วยครับ คุณต้องเชื่อฉันนะ คนเหล่านี้มาที่ชั้นเรียนของฉันและบังคับให้ฉันมาที่นี่”
เฉินเผิงหรี่ตาลงและยังคงไม่เชื่อคำพูดของเสี่ยวเฉิน จากนั้นเขาก็หันไปมองจ้าวเหว่ย
"จ้าวเหว่ยใช่ไหม สิ่งที่เสี่ยวเฉินพูดเป็นความจริงหรือไม่"
“ไม่ เขาโกหก”จ้าวเหว่ยพูดเพียงประโยคเดียว
“ฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจแล้ว ถูกต้องแล้ว คุณต้องเป็นคนสร้างปัญหาให้จ้าวเหว่ยและเพื่อนของเขา คุณไม่สามารถหลบได้อีกต่อไปเมื่อมีหลักฐานอยู่รอบตัวคุณขนาดนี้” เฉินเผิงมองไปที่เสี่ยวเฉิน และพูดอย่างมั่นคง
“อะไรนะ? คุณจะเชื่อคำพูดของคนๆ นี้ได้ยังไง เขาพูดแค่ประโยคเดียวแล้วคุณก็เชื่อแล้วหรือ? คุณไม่ตัดสินด้วยความยุติธรรมเลย”
เสี่ยวเฉินปกป้องตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนเสียเปรียบ เขาถูกบอกให้มาที่นี่และจะถูกรุมทำร้าย และตอนนี้เขากำลังถูกตำหนิว่าเป็นความผิดของเขางั้นหรือ?
“ไม่ต้องหนี ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” เฉินเผิงพูดและสั่งให้เสี่ยวเฉินติดตามเขาโดยตรง
“หัวหน้าหน่วย มันไม่ยุติธรรม ทำไมคุณไม่ตรวจสอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจที่หลังก็ได้” เสี่ยวเฉินยังคงไม่สามารถยอมรับได้ว่าเขาเป็นคนผิด
“ถ้าคุณปฏิเสธ เรื่องจะยากขึ้น หรือคุณอยากถูกไล่ออกจากโรงเรียนนี้?” เฉินเผิงพูดด้วยเสียงทุ้ม
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เสี่ยวเฉินก็พูดไม่ออก เขาไม่ต้องการถูกไล่ออกจากโรงเรียนนี้อย่างแน่นอน
หลินจื่อหยานจะคิดอย่างไรหากเป็นเช่นนั้น?
“โอเค ฉันจะตามไป” เสี่ยวเฉินกล่าว แต่คำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจอย่างชัดเจน
จากนั้น เขาก็หันกลับมาและมองไปที่จ้าวเหว่ย จ้าวเหว่ยยิ้มเยาะ และสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยชัยชนะ
เสี่ยวเฉินได้แต่กัดฟัน แต่เขาสัญญาว่าจะแก้แค้นแน่
..........
ในสำนักงานใหญ่บรรยากาศในห้องนี้ตึงเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้องมองของเฟินหยูต่อเสี่ยวเฉิน
“รู้ไหม โรงเรียนนี้ให้ความสำคัญต่อการทะเลาะวิวาทมาก แล้วคุณก็ทะเลาะกันใกล้ตึกสำนักงานจริง ๆ งั้นเหรอ”
เฟินหยูพูดด้วยเสียงทุ้มและมีความเป็นศัตรูที่ชัดเจนระหว่างเขากับเสี่ยวเฉิน
เขายังคงกลัวเมื่อนึกถึงคำพูดของโจวหยวน เขาจะไม่ทำพลาดเหมือนเดิมอย่างแน่นอน
และเขาต้องการระบายความโกรธนี้ต่อเสี่ยวเฉิน
“ฉันรู้ว่าฉันคิดผิด แต่ทำไมฉันถึงถูกเรียกตัวมาที่นี่คนเดียว? ควรจะต้องเป็นจ้าวเหว่ยด้วยไม่ใช่หรอ”
เสี่ยวเฉินกล่าวอย่างหนักแน่น เขายังไม่ยอมรับเพราะว่าเขาเป็นคนเดียวที่ถูกเรียกตัวมาที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่นี้
“เจ้ากำลังแก้ตัวงั้นหรือ เจ้าเป็นคนเริ่มการต่อสู้ ดังนั้นมันเป็นความผิดของเจ้า”เฟินหยูตะคอกและกล่าวว่า
“ฉันบอกแล้วว่าจ้าวเหว่ยเป็นคนเริ่มก่อน ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ!” เสี่ยวเฉินพูดด้วยเสียงที่ดังกว่า
“เจ้ากำลังหาข้อแก้ตัวหลังจากหลักฐานทั้งหมดนั้นหรือไม่ ฉันตัดสินใจแล้ว เจ้าจะยืนอยู่กลางสนามจนกว่าพิธีเปิดเรียนจะสิ้นสุดลง จงสำนึกในความผิดของตัวเองซ่ะ”เฟินหยูเคาะโต๊ะและพูดอย่างหนักแน่น
“อะไรกันครับ มันอุกอาจเกินไปแล้ว คุณจะตัดสินใจลงโทษเช่นนี้ได้อย่างไร” เสี่ยวเฉินกระแทกโต๊ะและพูดด้วยเสียงอันดัง
เสี่ยวเฉินไม่ยอมรับอย่างแน่นอน ภาพลักษณ์ของเขาจะถูกทำลายหากเป็นเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหากหลินจื่อหยานเห็น มันคงเป็นเรื่องน่าอายอย่างมาก
“ปฏิเสธงั้นเหรอ งั้นก็ดีฉันจะเพิ่มบทลงโทษ หลังจากเสร็จพิธีเปิดเรียน เจ้าต้องทำความสะอาดห้องน้ำทั้งหมดในโรงเรียนนี้” เฟินหยูกล่าวอย่างหนักแน่น
"อะไรนะ?!" เสี่ยวเฉินไม่อยากจะเชื่อเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฟินหยู
“ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเจ้าอีกต่อไป ถ้าเจ้าปฏิเสธ ก็ง่ายๆฉันจะเพิ่มโทษให้อีก”เฟินหยูกล่าว และคำพูดของเขาดูเหมือนจะไม่ให้เขาปฏิเสธ
เสี่ยวเฉินกัดฟันเมื่อได้ยินคำพูดของเฟินหยู เขาทำได้เพียงยอมรับทั้งหมดนี้ เขาไม่ต้องการให้โทษของเขาเพิ่มขึ้น