ตอนที่แล้วบทที่ 27: รังซอมบี้ จิ๊กสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29: เกราะกับกริช

บทที่ 28: ซากศพระดับลอร์ดที่โกรธเกรี้ยว


ถังเจิ้นแทบจะเค้นแรงกายทั้งหมดในการเผ่นออกจากห้องแบบลน ๆ

หากอยู่ในห้องโถงล่ะก็โอกาสในการหลบหนีของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะมีหลาย ๆ จุดให้เขาได้ใช้ในการหลบซ่อน

ก่อนจะลงมือจิ๊กของถังเจิ้นได้วางแผนมาอย่างดี  แต่โชคไม่ดีที่เขาประเมินความสำคัญของกล่องโลหะที่มีต่อเจ้าซากศพระดับลอร์ดนี่ต่ำเกินไป  อีกทั้งยังประเมินความแข็งแกร่งของมันต่ำอีกด้วย

ตอนนี้ไอ้เจ้าซากศพระดับลอร์ดมันมาโผล่ตรงหน้าเขาแทบจะในชั่วพริบตา

ความเร็วของเขาด้อยกว่ามอนสเตอร์ระดับลอร์ดมากดังนั้นเขายังไม่ทันไปถึงประตูก็ต้องเจอกับร่างขนาดใหญ่ของมันยืนบังช่องประตูจนมิดซะแล้ว

ถังเจิ้นซึ่งไม่มีที่ให้หลบหนีจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยกลับเข้าไปในห้องเล็กคืนอย่างระมัดระวัง  ภายใต้ม่านแสงควอนตัมเร้นกายเขาได้แอบมองมันอย่างไม่วางตาแต่ก็ไม่กล้าหายใจ

เจ้ามอนสเตอร์ดูจะโกรธจัดจริง ๆ มันไม่คิดเลยว่าจะมีใครกล้าเข้ามาที่นี่  ไม่เพียงแต่จะเล็ดลอดผ่านยามที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดมาได้เท่านั้น  แต่ยังประโยชน์จากความวุ่นวายภายนอกเข้ามาขโมยของที่สำคัญอย่างยิ่งไปอีก

เนื่องจากของดังกล่าวมีการเชื่อมต่อกับตัวมันเป็นพิเศษ  ดังนั้นมันจึงรับรู้ได้ในทันทีที่การเชื่อมต่อขาดหายไป

ของอย่างอื่นนั่นจะหายก็หายไปไม่ได้สำคัญอะไร  เพราะเป็นแค่ของที่เก็บ ๆ มาได้โดยไม่ได้คิดมากซึ่งหากหายไปก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร  แต่ของสิ่งนั้นห้ามหาย  หากมันหายไปล่ะก็แม้แต่ตัวมอนสเตอร์ซากศพระดับลอร์ดเองก็ไม่อาจรับผิดชอบไหว

‘บัดซบเอ๊ย!  รู้งี้ข้าควรเก็บมันไว้กับตัว!’

เจ้าซากศพกำลังใช้ความคิด  ทว่าความโกรธในใจของมันกลับปะทุรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนจะคุมสติไม่ให้ระเบิดอารมณ์ไม่อยู่

ถึงมันจะมองไม่เห็นไอ้หัวขโมยสารเลวก็ตาม  แต่ก็ยังรู้สึกถึงออร่าจาง ๆ ของไอ้ตัวกระจอกซึ่งถึงจะเหมือนมองไม่เห็นแต่อยู่ที่กลางห้องชัวร์ ๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นของไอ้หัวขโมยแน่นอน!

“ไสหัวออกมาไอ้โจรกระจอก!”

มันแหกปากใส่พร้อมลงมืออย่างไม่มีลังเล

ฝ่ามือขนาดเท่าอ่างล้างหน้ากระแทกอย่างรุนแรงทันทีที่เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าดังกล่าวโดยหมายที่จะบี้ไอ้หัวขโมยให้เละเป็นขี้!

“ตู้มมมมมมมม!”

พื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ เศษหินปลิวว่อน  ทั้งห้องถึงกับกระจุยจนจำหน้าเดิมไม่ได้  เครื่อเรือนทั้งหมดแหลกสลายกลายเป็นเศษฝุ่น

เพียงแค่ตบธรรมดา ๆ ทีเดียวกลับน่าสะพรึงได้ถึงขั้นนี้ก็สันนิษฐานได้ว่าต้องเป็นพลังพิเศษที่มอนสเตอร์เลเวล 6 ขึ้นไปเท่านั้นสามารถครอบครอง

ทว่าหลังจากที่ตบฝ่ามือลงไปมันกลับต้องโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม  เพราะออร่าของไอ้ตัวกระจอกกลับจู่ ๆ ก็หายไปในชั่วพริบตา  ไม่ใช่เพราะโดนตบตาย  แต่จู่ ๆ มันก็หายไปก่อนที่จะตาย!

‘บัดซบเอ๊ย!  มันหายตัวไปจริง ๆ กล้าหายตัวไปหน้าตาเฉยพร้อมกับไอเทมสำคัญในการสังเวย!’

‘แล้วแบบนี้ท่านราชาซากศพจะมาที่นี่ได้ยังไงวะ!  ทำแผนการใหญ่ของเผ่าชื่อ (ซากศพ) เสียหายขนาดนี้ข้าไม่โดนสับเป็นชิ้น ๆ เรอะ!’

“โฮกกกกกกกกกกกกกก…!”

มันทั้งหวาดกลัวและโกรธมากยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น  สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ต้องคำรามเพื่อระบายความแค้นออกมา!

ถ้าจับไอ้โจรกระจอกได้เมื่อไหร่ล่ะก็บิดาจะทรมานมันซักร้อยปีแล้วค่อยจับทำเป็นทาสซากศพให้มันทรมานต่อไปจนชั่วกัลปาวสาน!

หลังจากความโกรธของมันสงบลงได้หน่อยหนึ่งแล้วมันก็เริ่มครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบ

ยังมีพอจะช่องทางให้เปลี่ยนแปลงได้อยู่  แม้กุญแจสำคัญจะโดนไอ้โจรกระจอกมันขโมยไปแล้วก็ตาม  แต่แผนของท่านราชายังไงก็มิอาจล่าช้า  ดังนั้นวิธีเดียวคือรวบรวมสิ่งทดแทนให้ได้เพียงพอโดยเร็วที่สุด!

เดิมทีมันแค่วางแผนว่าจะกระทำงานอย่างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนไปจนเสร็จสิ้นโดยไม่ต้องไปปลุกพวกชนพื้นเมืองที่แข็งแกร่งของโลกนี้ให้ตื่นตัว  แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้วมันก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากใช้ไพ่ตาย!

พอคิดถึงแผนไพ่ตายแล้วมันก็แผ่รังสีอำมหิตสาดออกมาจากดวงตาสีแดงเลือด  ก่อนจะหันกลับไปยังรูปปั้นขนาดใหญ่และเข้าไปคุกเข่าค้อมหัวอย่างเคารพศรัทธาต่อหน้ารูปปั้นนั้น

ที่พื้นตรงหน้าของมันมีแท่นบูชาสีดำหน้าตาแปลก ๆ!

มีรูปปั้นแกะสลักรูปร่างแปลก ๆ แปดตัวตั้งตระหง่านอยู่รอบ ๆ แท่นบูชา  เมื่อมองให้ดี ๆ จะพบว่าแท้จริงแล้วเป็นรูปปั้นแกะสลักจากกระดูกสีดำขนาดยักษ์

หลังจากที่ซากศพระดับลอร์ดทำความเคารพเสร็จแล้วมันก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นและเหยียดนิ้วออก

เล็บแหลมที่ปลายนิ้วมันยาวประมาณสามนิ้วและคมราวกับปลายกระบี่

มันได้เอาเล็บดังกล่าวกระซวกหัวใจตัวเอง  จากนั้นเลือดสีดำได้พุ่งออกมาจากบาดแผล  ตัวมันเองได้ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

เลือดสีดำที่หยดลงบนแท่นบูชาเกิดการดิ้นเบา ๆ เหมือนสิ่งมีชีวิต

เสร็จมันก็ร่ายคาถาด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ หลังจากนั้นไม่นานเลือดก็หายไปทันที  และในเวลาเดียวกัน ควันดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็พวยพุ่งออกมาจากแท่นบูชาและบินเข้าไปในคิ้วของรูปปั้นในห้องโถง

“จงตื่น!  เหล่าสมุนของข้าที่กำลังหลับไหล!”

ซากศพระดับลอร์ดคำรามก้อง  จากนั้นก็เห็นว่าดวงตาของรูปปั้นเหล่านั้นได้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานพร้อม ๆ กันและค่อย ๆ ขยับกันทีละตัว

จากนั้นพวกมันได้เปล่งเสียงคำรามอันน่าขนลุกออกมาและก้าวเท้าด้วยย่างก้าวอันหนักหน่วงค่อย ๆ มารวมตัวกันและติดตามมอนสเตอร์ซากศพระดับลอร์ดอย่างใกล้ชิดไปที่ประตูของตัวอาคาร

ตัวมันที่ยืนอยู่ตรงประตูอาคารได้ชี้ไปยังทิศทางตรงหน้าและคำรามคำสั่งดังลั่น “ทำความสะอาดให้เกลี้ยง!  เอาทั้งมอสเตอร์ทั้งผู้พเนจรที่พวกเจ้าพบเห็นทั้งหมดมาที่นี่  เราจะสังหารสิ่งมีชีวิตนับพันเพื่อสร้างแท่นบูชาสระโลหิตในการต้อนรับการมาถึงของท่านราชาซากศพ!”

“โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก……!”

มอนสเตอร์ซากศพทั้งหมดคำรามพร้อมกัน  แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือด

เจ้าซากศพระดับลอร์ดเองก็คำรามพร้อมกันไปด้วยโดยได้แผ่หมอกสีดำแดงออกมาจากร่างตนให้กระจายไปทั่วตัวเย่โหยว

หลังจากที่หมอกดังกล่าวหยุดการแพร่กระจาย  ร่ายกายอันกำยำของมันก็สั่นสะท้านอีกสองสามรอบ  และในเวลาเดียวกันนั้นเองอากาศทั่วทั้งเย่โหลวก็เหมือนจะเกิดการบิดเบี้ยว  ช่องว่าสีดำซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นได้ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา

จากนั้นได้มีเงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาจนแน่นเอี้ยดเต็มพื้นที่ด้านหน้าอาคาร!

ต่อมาก็ได้มีแสงเวทมนตร์สว่างขึ้นวาบหนึ่งก่อนที่ช่องว่างสีดำดังกล่าวจะหายไป  ทว่าพื้นที่ตรงหน้าแต่เดิมที่โล่งโจ้งบัดนี้ได้อัดแน่นไปด้วยทหารผีดาบโล่รวมไปถึงทหารผีธนูที่มีตัวหัวหน้าเป็นผู้นำ  พวกมันทั้งลายที่มีใบหน้าดุร้ายได้มองมายังตัวซากศพระดับลอร์ด

กลิ่นเหม็นของซากศพคละคลุ้ง  กลิ่นอายของความอยากสังหารปะทุปกคลุมไปทั่วบริเวณ

ถัดจากพวกมอนสเตอร์ทหารราบได้มีพวกทหารม้าที่ขี่ม้าศึกซึ่งม้ามันยังสวมชุดเกราะอย่างโหดดูแล้วเหมือนกับป้อมปราการเดินได้  เพียงแต่สภาพของมันเป็นร่างศพเหวอะ ๆ เลือดเนื้อดูไม่สมประกอบ

“ปล่อยกูนะโว่ยปล่อยกู~~~~~!”

มีเสียงหนึ่งดังขึ้น  บรรดาทหารซากศพก็แหวกทาง  นักสืบเงาผีจำนวนหนึ่งกำลังเดินคุมผู้พเนจรจำนวนไม่น้อยเข้ามา  และเมื่อมาถึงก็เตะคนเหล่านั้นให้ลงไปคุกเขาต่อหน้าไอ้เจ้าซากศพระดับลอร์ด

เมื่อเห็นฝูงมอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่รอบตัวที่ต่างมองมาที่พวกตนด้วยสายตากระหายเลือดแล้วเหล่าผู้พเนจนทั้งหลายก็เป็นต้องหวาดกลัวและส่งเสียงร้องอ้อนวอน

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...”

ซากศพระดับลอร์ดมองลูกน้องของตนด้วยความพอใจและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  จากนั้นมันก็ชักดาบออกมาฟาดตามแนวขวางอย่างประณีต  ผลคือหัวของเหล่าผู้พเนจรมากมายที่กำลังทำสีหน้าหวาดกลัวอยู่นั้นได้ปลิดปลิวขึ้นฟ้า

มันยื่นมือไปคว้าหัวหนึ่งไว้ได้แล้วกำเบา ๆ หัวสด ๆ ในมือก็ระเบิดกลายเป็นเศษเนื้อ  จากนั้นก็ชี้ไปยังเมืองเฮยเหยียน!

“ไปกันเถอะนักรบทั้งหลาย!”

****************

“ตุ๊บ!”

ถังเจิ้นลงไปนอนแผ่กับพื้นที่บ้าน  มุมปากมีเลือดไหลออกมา  สีหน้าของเขาทั้งตกใจและสยอง

หลังจากกระเสือกกระสนขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากแล้วถังเจิ้นก็เช็ดเลือดมุมปากก่อนจะลากสังขารตนเองไปทรุดลงที่เตียงนอน

ประสบการณ์ตะลุยเย่โหลวในครั้งนี้สุดจะน่าตื่นเต้นไปเลย  นี่ถ้าเทเลพอร์ตกลับมาไม่ทันล่ะก็เขาคงโดนไอ้มอนสเตอร์นั่นตบเละเป็นขี้ไปแล้วจริง ๆ

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากพลังลึกลับจากฝ่ามือนั่นอยู่ดี  การที่เลือดทะลักย้อนออกมาจากมุมปากเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดที่สุดแล้ว

แต่ยิ่งไอ้เจ้าระดับลอร์ดตัวนั้นมันโกรธแค้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ถังเจิ้นจิ๊กมาได้ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น!

แต่ดูจากสติปัญญาที่ชัดเจน  คำพูด  และการกระทำของเจ้าระดับลอร์ดตัวนั้นรวมไปถึงเสียงตอนโกรธของมันที่ดังขึ้นทะลวงรูหูทันทีที่เขาเก็บกล่องมาก็ทำให้เขารู้สึกว่าไอ้มอนสเตอร์ตัวนั้นมันไม่ใช่ตัวธรรมดาทั่วไป

หากการคาดเดาของเขาถูกต้อง  อีกไม่นานอาจมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น!

ถังเจิ้นสลัดความคิดจรที่ไร้สาระทิ้งไปก่อนแล้วกลืนครีมไม้เลื้อยลงไปนิดหน่อย  เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจที่ปั่นป่วนสงบลงแล้วเขาก็ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นด้วยความยากลำบาก

เขาโบกมือหนึ่งทีกล่องโลหะหน้าตาประหลาดก็ได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า

เพราะกล่องนี่เล่นเอาเกือบตายแหละ  แถมเจ้าของมันยังดูให้ความสำคัญสุด ๆ ด้วย  ถังเจินแทบรอไม่ไหวอยากรู้เต็มแก่แล้วว่าตกลงมันมีอะไรอยู่ข้างใน

แม้ว่าสถานที่ที่ดีที่สุดในการเปิดกล่องควรอยู่ในโลกโหลวเฉิง  แต่ถังเจิ้นก็สามารถรับประกันได้เลยว่าหากตนเทเลพอร์ตกลับไปตอนนี้ล่ะก็ต้องถูกมันจับตัวได้ชัวร์ ๆ

เป็นเหตุให้เขาพอได้ของมาปุ๊บก็วิ่งหนีปั๊บ  จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ว่าเมื่อกลับไปแล้วจะออกจากไอ้ห้องเชี่ยนั่นได้ยังไง

ถังเจิ้นเดินไปหลบที่ด้านหลังกล่องก่อนจะกระแทกให้มันเปิดออก  ซึ่งกล่องมันก็ยอมเปิดให้อย่างง่ายดายเหลือเกิน

เปิดมาก็เงียบกริบไม่มีการเคลื่อนไหวหรือกับดักใด ๆ ขนาดล็อกยังไม่มีเลย “อะไรมันจะขัดกับสามัญสำนึกได้เบอร์นี้วะ!”

ถังเจิ้นพึมพำ “ก็ในเมื่อมันเป็นของสำคัญถึงขนาดที่เจ้าของมันโกรธจัดขนาดนั้นแต่มาตรการรักษาความปลอดภัยกลับไม่มีเลย?  หรือมันจะซ่อนได้อารี่ลับ ๆ หน้าอาย ๆ ไว้วะ?”

เมื่อชะโงกหัวเข้าไปดูในกล่องร่างกายของเขาก็ต้องแข็งทื่อไปในชั่วพริบตา

เพราะข้างในกล่องมันอัดแน่นไปด้วยสิ่งของ  มีกริช/กระบี่สั้น 1 เล่ม  เสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว  กระดาษสี ๆ พิเศษหลายม้วน  ขวดแก้วขนาดเท่านิ้วชี้และของจิปาถะอีกหลายอย่าง

ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของถังเจิ้นเลย  ดวงตาเขาดูดติดอยู่แต่กับคริสตัลอันแวววาวในกล่องนั้น

“ไอ้...  นี่มัน...?”

ถังเจิ้นตัวสั่น  เขาได้หยิบเอาคริสตัลเม็ดหนึ่งขึ้นมาส่องจ้องเขม็งก่อนจะหัวเราะประหลาด ๆ ราวกับคนบ้า  จากนั้นก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้งน้ำตาไหล

“แม่มึงเอ๊ย~!  ไอ้นี่มันลูกปัดสมองล้วน ๆ เลยนี่หว่า!  ลูกปัดสมองเลเวลสามบวกทั้งน้านนนนนนนน...!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด