ตอนที่แล้วย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 8 ลูกค้าคือพระเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 10 จุดจบ

ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 9 เวลา 1 วัน


ตอนที่ 9 เวลา 1 วัน

“เงิน เงินของผมอยู่ไหน?”

หยางเฟยเตือนสติผู้จัดการธนาคาร

“คือ…”

ผู้จัดการธนาคารไม่สามารถทำตัวสงบได้อีกต่อไป สถานการณ์ตอนนี้มันเกินควบคุมไปแล้วถ้าเขาให้เงินหยางเฟย เขาก็ต้องให้เงินคน 20 กว่าคนด้วย ถ้าเขาไม่ให้ได้มีปัญหาใหญ่ตามมาแน่ แต่… เขาจะเอาเงินจากไหนให้ล่ะ ตอนนี้เงินแทบทั้งหมดมันอยู่ในพล็อตหุ้นถ้าขายหุ้นก็ต้องรอ 2 – 3 วัน เงินถึงจะเข้าบัญชี และเงินที่เขาเหลืออยู่มันก็ไม่พอด้วยเพราะเขาขาดทุนไป 30 ล้านหยวน

“คืออะไร? เงินผมอยู่ไหน?”

หยางเฟยเร่งเร้า ก่อนจะมาที่นี่เขาให้อลิสตรวจสอบแล้วว่าเงินประกันชีวิตมันถูกเอาไปทำอะไร เขารู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ผู้จัดการธนาคารไม่มีเงิน ตอนนี้เขาแค่แสดงละครเท่านั้น

ส่วนคนจำนวน 20 กว่าคนที่กำลังทวงเงินประกันชีวิตอยู่ตอนนี้ก็เป็นฝีมือของหยางเฟย หยางเฟยให้อลิสโทรไปบอกพวกเขาว่า ถ้ามาธนาคารวันนี้พวกคุณจะได้เงินประกันชีวิต! ทุกอย่างถูกจัดฉากโดยหยางเฟยทั้งหมด

“ใช่ เงินของพวกเราอยู่ไหน”

“เอาเงินของพวกเราออกมา”

“เอาเงินออกมา ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เงินฉันจะไม่กลับฉันจะยืนทวงอยู่แบบนี้แหละ”

“ใช่ๆ ถ้าฉันไม่ได้เงินวันนี้ฉันก็ไม่กลับเหมือนกัน ธนาคารปิดฉันก็ไม่กลับ”

“ฉันด้วย ถ้าวันนี้ไม่ได้เงินก็ไม่กลับ”

“ใช่ๆ ฉันก็เหมือนกัน”

กลุ่มคนเริ่มทวงเงินประกันของพวกเขา

“คือ…”

ผู้จัดการธนาคารพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไร สถานการณ์ตอนนี้มันคือสถานการณ์มืดแปดด้าน เขาพูดอะไรไม่ได้เลย เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์มืดแปดด้านประสบการณ์หลายสิบปีก็ล้วนไร้ประโยชน์

เมื่อเห็นว่าผู้จัดการธนาคารทำอะไรไม่ถูกแล้ว หยางเฟยก็มองไปทางกลุ่มคนที่นั้งอยู่บนเก้าอี้ เขามองไปทางชายรูปร่างอ้วน สวมกางเกง 3 ส่วน สวมเสื้อสีขาวรัดตัวหน่อยๆ และมีทองเส้นใหญ่เกินชาวบ้านชาวช่องคล้องคออยู่ จากนั้นก็พูดว่า

“จะนั่งเป็นรูปปั้นอีกนานไหม”

ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างมองตามสายตาของหยางเฟย เมื่อมองตามสายตาของหยางเฟยเขาก็เห็นชายอ้วนแต่งตัวแปลกๆ นั่งอยู่

‘เขารู้ได้ยังไงว่าเราเป็นใคร ไม่สิ! เขาคือคนที่สามารถแฮกดาวเทียมของประเทศได้ เรื่องสืบหาตัวตนของเรามันคงไม่ใช่เรื่องยากหรอก หน้าที่ของเราคือสังเกตการณ์เท่านั้น แต่… ถ้าเราไม่เข้าไปจัดการเรื่องเงินประกันชีวิตก็เท่ากับว่าเราไม่ไว้หน้าหยางเฟย เฮ้อ~ เราไม่มีทางเลือกเราต้องจัดการเรื่องนี้’

ชายอ้วนคิดในใจ ชายอ้วนคนนี้คือหนึ่งในหน่วยลับของรัฐบาลกลาง หลังจากพวกหลินหวานถอยกลับชายอ้วนก็โดนสั่งให้ติดตามหยางเฟย หน้าที่ของเขาคือสังเกตหยางเฟยเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร แต่ตอนนี้เขาอยู่เฉยๆ ไม่ได้ สถานการณ์มันบังคับให้เขาเคลื่อนไหว

ชายอ้วนลุกขึ้น จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า

“ทุกคนเงียบ!!!”

ทุกสายตาในธนาคารหันมองไปทางชายอ้วน

เมื่อชายอ้วนเห็นว่าทุกคนเงียบแล้วเขาก็เดินไปที่ด้านหน้าธนาคารด้วยท่าทางมั่นใจ คนที่ขวางทางชายอ้วนอยู่หลีกทางให้เขาแบบไม่รู้ตัว หลังจากเดินถึงด้านหน้าธนาคารชายอ้วนก็พูดขึ้นว่า

“ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”

“นายเป็นใคร???”

“คุณเป็นใคร???”

“คุณมีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เงินฉันจะไม่ไปไหนจริงๆ ด้วย ถ้าฉันไม่ได้เงินฉันจะกินนอนที่นี่แหละ”

“ใช่ๆ”

“คุณอย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่นดีกว่า”

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ เงินของเราอยู่กับธนาคารทางธนาคารต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่คุณ”

กลุ่มคนที่กำลังทวงเงินประกันชีวิตพูดกับชายอ้วน บางคนก็ไม่พอใจ บางคนก็พูดเตือน

“ผมคือคนของรัฐบาลกลาง หน้าที่ของผมคือตรวจสอบธนาคาร ตอนนี้ผมกำลังปลอมตัวเป็นลูกค้าอยู่ผมเลยอยู่ในสภาพนี้ ทุกคนไม่ต้องกังวล วันนี้ทุกคนได้เงินแน่นอน”

ชายอ้วนแถ หน้าที่ของเขาคือจับตาดูหยางเฟยเท่านั้น ตรวจสอบธนาคารอะไรนั่นคือเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาล้วนๆ

“เรียกตำรวจดีกว่า”

หยางเฟยเสนอความคิด เขาอยากจัดการให้จบในครั้งเดียวเขาเลยเสนอให้เรียกตำรวจ คนที่หยางเฟยต้องการจัดการไม่ใช่แค่ผู้จัดการธนาคารเท่านั้น แต่เพื่อนของผู้จัดการที่เป็นผู้กำกับของเขตนี้ก็เป็นเป้าหมายของเขาด้วยเช่นกัน

ไหนๆ ก็เสียเวลามาแล้วหยางเฟยเลยอยากทำให้จบในครั้งเดียว เขาจะทำลายทุกคนที่เกี่ยวข้องกับผู้จัดการธนาคาร ใครที่มีความสัมพันธ์กับผู้จัดการธนาคารเขาจะจัดการให้หมด เพื่อน เมีย ลูก พ่อ แม่ พี่ หรือน้อง ใครที่มีความสัมพันธ์กับผู้จัดการธนาคารต้องโดนลงโทษ

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมหยางเฟยถึงต้องจัดการคนที่ไม่เกี่ยวด้วย คนที่เอาเงินเขาไปมีแค่ผู้จัดการธนาคารคนเดียวไม่ใช่เหรอ จัดการผู้จัดการธนาคารเดียวก็พอแล้ว คนที่กำลังคิดแบบนี้ต้องคิดใหม่ คุณต้องรู้ก่อนว่า มันไม่มีคนที่ไม่เกี่ยวหรอก!

เริ่มจากเพื่อน ตอนที่ผู้จัดการไปเจอเพื่อนของก็จะเลี้ยงอาหารเพื่อน เลี้ยงเหล้าเพื่อน หรือบางครั้งอาจให้เงินเพื่อนเพื่อให้เพื่อนช่วยเหลือตัวเอง รู้แบบนี้แล้วยังจะบอกว่าเพื่อนไม่เกี่ยวอีกเหรอ

พ่อแม่ของผู้จัดการธนาคารก็มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน ถึงพวกเขาจะไม่รู้เรื่อง แต่พวกเขาก็รับเงินจากผู้จัดการธนาคาร รู้แบบนี้แล้วยังจะบอกว่าพ่อแม่ไม่เกี่ยวอีกเหรอ

ในส่วนของเมียและลูกคงไม่ต้องพูดอะไรมาก คนพวกนี้ใช้เงินของผู้จัดการธนาคาร รู้แบบนี้แล้วยังจะบอกว่าลูกเมียไม่เกี่ยวอีกเหรอ

สรุปง่ายๆ ก็คือ คนที่รับเงินจากผู้จัดการไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ล้วนมีความผิด

“เรื่องนี้ผมสามารถจะ-”

“เอาสิ! เรียกตำรวจมาเลย!!”

ก่อนที่ชายอ้วนจะพูดจบ ผู้จัดการธนาคารก็พูดขึ้นก่อน

ผู้จัดการธนาคารรู้ดีว่าเพื่อนที่เป็นผู้กำกับของเขาคงช่วยปิดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ว่า ช่วยปิดไม่ได้ใช่ว่าจะช่วยอย่างอื่นไม่ได้ เขาต้องการให้เพื่อนของเขาทำให้คนพวกนี้สงบลง หลังจากคนพวกนี้สงบลงเขาก็จะค่อยๆ เป่าหูคนพวกนี้ให้กลับบ้าน ผู้จัดการธนาคารมั่นใจมากว่าถ้าเขาคุยทีละคนเขาจะสามารถเป่าหูคนพวกนี้ให้กลับบ้านได้

“นักเรียนคนนี้พูดถูก”

“ใช่ๆ นักเรียนพูดถูก เราให้ตำรวจจัดการดีกว่า”

“ถูกต้อง ฉันโทรเรียกตำรวจเอง”

คนที่ทวงเงินประกันชีวิตอยู่เห็นด้วยกับคำพูดของหยางเฟย คนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ก็คือหยางเฟย ถ้าไม่มีหยางเฟยพวกเขาคงไม่มีโอกาสแบบนี้ พวกเขาคงต้องมาทวงค่าประกันชีวิตเรื่อยๆ และการเดินทางมาธนาคารแต่ละครั้งก็ต้องลางาน 1 วัน ลางาน 1 วัน ก็เท่ากับว่ารายได้หายไป 1 วัน สำหรับคนฐานะปานกลางและคนรวยรายได้หายไป 1 วัน มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับคนฐานะยากจนมันไม่ใช่ คนที่มีฐานะยากจนไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่มีเงินซื้ออาหารกิน เวลา 1 วันของคนเรามันต่างกัน

แต่ว่า หยางเฟยไม่เคยคิดเรื่องช่วยคนพวกนี้ทวงเงินประกันชีวิตเลย ในหัวของเขามีแค่คำว่า ‘แก้แค้นแบบทบต้นทบดอก’

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด