ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 5 จอมเวทย์ระดับ 1
ตอนที่ 5 จอมเวทย์ระดับ 1
กริ่ง!
ในระหว่างที่หยางเฟยกำลังเพิ่มพลังเวทย์ เสียงกริ่งประตูบ้านของเขาก็ดังขึ้น หยางเฟยค่อยๆ เปิดเปลือกตาทั้ง 2 ของเขา จากนั้นก็พูดเบาๆ ว่า
“มากันแล้วสินะ อลิส มีคนอยู่รอบๆ บ้านกี่คน”
ก่อนหน้านี้ อลิสได้รายงานหยางเฟยว่ามีรถจำนวน 10 คัน กำลังล้อมรอบเขาอยู่ เขาเลยไม่แปลกใจที่กริ่งประตูบ้านของเขาดังขึ้น มันไม่แปลกที่จะมีกลุ่มคนไม่ทราบที่มาที่ไปเดินทางมาหาเขา เขามีเงินอยู่ในบัญชี 1,000 ล้านหยวน แถมยังมีวิธีสร้างชิป 1 นาโนเมตร ไม่มีใครมาหาเขาสิแปลก
หยางเฟยรู้ดีว่าในสายตาขององค์กรต่างๆ ตัวเขาก็เหมือนแกะอ้วน ไม่สิ! ต้องเรียกว่าลูกแกะอ้วนถึงจะถูก หยางเฟยเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 18 ปี บอดี้การ์ดไม่มี อำนาจไม่มี เส้นสายไม่มี แต่ดันมีเงิน 1,000 ล้านหยวน ดันมีวิธีสร้างชิป 1 นาโนเมตร ทุกคนรู้ดีว่าถ้าจับตัวหยางเฟยได้ก็จะได้ทุกอย่างที่หยางเฟยครอบครอง ทุกคนเลยมองว่าหยางเฟยเป็นลูกแกะอ้วน
[ติ้ง! มีผู้ชาย 40 คน ล้อมบ้านของโฮสต์เอาไว้]
อลิสตอบคำถาม
“40 คนงั้นเหรอ อื้ม! คงไม่เป็นปัญหา”
หยางเฟยพูดคนเดียว จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตูบ้าน
แกะ!
ทันทีที่หยางเฟยเปิดประตูบ้าน ผู้ชายตัวใหญ่ก็วิ่งเข้าบ้าน และคนที่วิ่งเข้าบ้านไม่ได้มีคนเดียว คนประมาณ 10 คน วิ่งเข้าบ้านของหยางเฟยด้วยความรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที คน 10 คน ก็ยืนอยู่ต่อหน้าของหยางเฟย
‘ทหาร’
หยางเฟยหลี่ตาของเขาเล็กน้อย เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่ากลุ่มคนด้านหน้าของเขาเป็นทหาร เหตุผลที่เขารู้ก็เป็นเพราะว่า คนพวกนี้เคลื่อนไหวเป็นระเบียบและมีแบบแผน แต่ว่า ตอนนี้หยางเฟยได้กลายเป็นจอมเวทย์ระดับ 1 แล้ว ทหาร 10 คน ไม่คณามือของเขาหรอก
“เด็กน้อย นายควรไปกับพวกเราดีๆ”
ชายตัวใหญ่คนหนึ่งพูด
“ไปไหน”
หยางเฟยถามด้วยน้ำเสียงปกติ
“นายมีหน้าที่แค่ตามพวกเรา”
ชายตัวใหญ่อีกคนพูด
“ฉันชอบคำพูดของนาย อะไรจำเป็นก็ทำ อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำ มีหน้าที่ทำอะไรก็แค่ทำ อื้ม อื้ม เป็นคำพูดที่ดี”
หยางเฟยพูดไปพยักหน้าไป
หลังจากพูดจบ หยางเฟยก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาตรงเขาหาชายที่พูดว่า ‘นายมีหน้าที่แค่ตามพวกเรา’ เป็นคนแรก เขายกหมัดของเขาขึ้นจากนั้นก็ต่อยไปตรงๆ
ชายที่กำลังจะโดนต่อยยิ้มเยาะในใจ เขาเป็นทหารมาแล้ว 10 ปี ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าคนปกติมาก หมัดของเด็กอายุ 18 ปี มันจะทำอะไรเขาได้ ชายที่กำลังจะโดนต่อยไม่ขยับตัวหลบหรือป้องกัน เขาเลือกยืนรับหมัดของหยางเฟยตรงๆ เขาต้องการให้หยางเฟยรู้ถึงความต่างชั้นซะแต่ตั้งตอนนี้ ถ้าหยางเฟยรู้ถึงความต่างชั้นตั้งแต่ตอนนี้ อะไรๆ มันก็จะง่ายขึ้น
ตุ๊บ!!!
อุก!!!
เมื่อหมัดของหยางเฟยถึงบริเวณท้อง หมัดของขาก็จมลึกลงไปประมาณ 10 เซนติเมตร ชายที่ยืนรับการโจมตีแทบอวกออกมาหลังโดนต่อย หลังจากโดนต่อยชายที่ยืนรับการโจมตีก็คุกเข่าทั้ง 2 ลงกับพื้น และใช้มือทั้ง 2 ข้าง ปิดท้องของตัวเองเอาไว้
เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตัวเองโดนเล่นแล้ว อีก 9 คน ก็ตื่นตัวทันที พวกเขาตั้งท่าพร้อมสู้ทันที
หลังจากหยางเฟยจัดการคนที่ 1 ไปแล้ว เขาก็พุ่งเข้าหาอีกคน จากนั้นก็ใช้หมัดทั้ง 2 ของเขารัวใส่ร่างด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ร่างขนาดใหญ่อีกร่างก็นอนลงกับพื้น
“หยุด!!”
เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
เมื่อหยางเฟยหันไปมองเขาก็เห็นว่า คนที่พูดกำลังถือปืนอยู่ในมือ และปืนในมือของเขาก็กำลังเล็งเข้าหาตัวเองอยู่ หยางเฟยแสยะยิ้มดูถูกไปทางชายที่ถือปืน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“ยิงสิ”
“นายคิดว่าฉันไม่กล้างั้นเหรอ ภารกิจของพวกเราคือเอาตัวนายไปให้นายจ้างแบบเป็นๆ นายจ้างไม่ได้บอกว่าห้ามบาดเจ็บ หรือก็คือ ฉันสามารถยิงนายได้ถ้าจำเป็น”
ชายถือปืนพูด
“ยิงสิ”
หยางเฟยยังคงยั่วยุอีกฝ่าย ตอนนี้เขาคือจอมเวทย์ระดับ 1 ต่อหน้าของเขาปืนพกมันก็ไม่ต่างจากแท่งเหล็กโง่ๆ แท่งหนึ่ง
“นายบังคับฉันเอง”
ปัง!!!
พูดจบ ชายถือปืนก็ยิงปืนใส่หยางเฟย ตำแหน่งที่เขาเลือกก็คือไหล่ด้านซ้ายของหยางเฟย เหตุผลที่เขายิงไหล่ของหยางเฟยก็เป็นเพราะว่า ตรงไหล่คือจุดที่ไม่มีอวัยวะสำคัญอยู่ ถ้าถูกยิงตรงไหล่โอกาสรอดชีวิตมันจะสูงกว่าตรงอื่นๆ เขาเลยเลือกยิงตรงไหล่
ตุบ!
กระสุนปะทะเข้ากับไหล่ของหยางเฟย แต่หลังจากปะทะมันก็มีแค่เสียงเท่านั้น ไม่มีเลือดไหลออกมาจากร่างกายหยางเฟย
ชายที่ยิงปืนขมวดคิ้ว เขามั่นใจว่าเขายิงโดนแน่ๆ แต่ทำไม่กระสุนถึงไม่ฝังเข้าไปในร่างล่ะ??? กระสุนที่เขายิงออกไปเมื่อครู่มันหายไปไหน???
“กระสุนทำอะไรมันไม่ได้!!!”
ชายคนหนึ่งตะโกนคน คนที่ตะโกนขึ้นคือคนที่อยู่ใกล้กับหยางเฟยมากที่สุด ตอนนี้เขากำลังยืนมองกระสุนที่ติดอยู่ตรงไหล่ของหยางเฟย
“ห่ะ!?!?!?”
“ห่ะ!?!?!?”
“ห่ะ!?!?!?”
คนที่ล้อมหยางเฟยอยู่อุทานพร้อมกัน พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ถ้าหากหยางเฟยสวมเสื้อเกราะกันกระสุนอยู่พวกยังพอเข้าใจ แต่นี่หยางเฟยใส่แค่เสื้อนักเรียนเท่านั้น พวกเขาสงสัยมากว่าทำไมกระสุนถึงทำอะไรหยางเฟยไม่ได้
“มันเป็นผู้บ่มเพาะ”
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง
ชายอีกคนเสริมว่า
“ถ้าร่างกายมันรับกระสุนได้ก็แปลว่ามันต้องอยู่ระดับสวรรค์ หรือไม่ก็สูงกว่า พวกเราไม่มีทางเอาชนะผู้บ่มเพาะระดับนี้ได้แน่ ถอยก่อนไหม”
“ถอย!? ใครบอกว่าพวกนายสามารถถอยได้”
หยางเฟยพูด เขาไม่แปลกใจกับเรื่องที่ได้ยินเท่าไหร่นัก เพราะเขารู้ก่อนแล้วว่าในโลกใบนี้ก็มีจอม.. ไม่สิ! โลกใบนี้เรียกจอมเวทย์ว่าผู้บ่มเพาะ เขารู้อยู่แล้วว่าโลกนี้ก็มีจอมเวทย์เหมือนกันเขาเลยไม่แปลก แต่พวกผู้บ่มเพาะบนโลกใบนี้มีจำนวนเพียงหยิบมือเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่พวกเขามีเพียบหยิบมือก็เพราะว่า พวกเขากลัวเสียอำนาจปกครอง พวกเขาเลยสอนวิธีบ่มเพาะให้กับคนในตระกูลตัวเองเท่านั้น
แต่ว่า ผู้บ่มเพาะบนโลกใบนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย คนที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้บ่มเพาะบนโลกก็คือคนที่สามารถป้องกันลูกกระสุนปืน 100 มม. ได้ หากเทียบเป็นจอมเวทย์ คนที่สามารถรับลูกกระสุนปืน 100 มม. ได้ ก็คือจอมเวทย์ระดับ 2 เท่านั้น
“ท่านปรมจารย์ พวกเรามีตาหามีแวว ท่านช่วยปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ไหม”
ชายรูปร่างใหญ่คนหนึ่งขอโทษด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันไม่ใช่ปรมจารย์”
หยางเฟยพูด จากนั้นเขาก็พูดต่ออีกว่า
“พวกนายบุกเข้ามาในบ้านของฉันเพื่อจับตัวฉัน แต่พอรู้ว่าสู้ไม่ได้เลยบอกให้จบเรื่อง ตลกแล้ว!”
“ท่านปรมจารย์เรื่องนี้พวกเราผิดเอง ผมจะมอบเงินให้ท่าน 100 ล้านหยวน หวังว่าท่านจะรับเงินจากผมและยอมจบเรื่องนี้”
ชายรูปร่างใหญ่คนเดิมพูด
“คิดว่าคนแบบฉันขาดเงินงั้นเหรอ”
หยางเฟยเยาะเย้ย
“นั่น…”
ชายรูปร่างใหญ่ที่เจรจากับหยางเฟยพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะมาที่นี่เขารู้เรื่องเงิน 1,000 ล้านหยวน มาก่อนแล้ว คนที่มีเงินอยู่ในบัญชี 1,000 ล้านหยวน ไม่ใช่คนที่ขาดเงินแน่นอน
หลังจากชายร่างใหญ่เงียบไป หยางเฟยก็ไม่รอช้า เขาเริ่มโจมตีคนที่อยู่รอบๆ ตัวของเขาอีกครั้ง และภายในเวลาไม่นาน คน 10 คน ก็นอนลงกับพื้นแบบพวกที่ปะทะกับหยางเฟยตอนที่อยู่สุสาน แต่ว่า พวกที่นอนกับพื้นตอนนี้มันแตกต่างจากพวกที่อยู่ตรงสุสานนิดหน่อย จุดแตกต่างก็คือ คนที่นอนอยู่ในบ้านของหยางเฟยตายทุกคน
คนพวกนี้กล้ายิงปืนใส่เขา เขาเลยไม่ปรานีพวกมัน
หลังจากจัดการคนในบ้านเรียบร้อย หยางเฟยก็เดินออกไปนอกบ้านจากนั้นก็เริ่มไล่ฆ่าทีละคน อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ คนพวกนี้กล้ายิงปืนใส่เขา เขาเลยไม่ปรานีพวกมัน