ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 43 พันธมิตรหรือศัตรู
ตอนที่ 43 พันธมิตรหรือศัตรู
“ค่ะ คุณหยาง”
หลินหวานรับสาย ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในเต็นท์บัญชาการรอบๆ ตัวเธอเต็มไปด้วยพวกทหารระดับสูงที่กำลังจ้องมองเธอ หลินหวานอยากพูดว่า ‘ขอตัวสักครู่’ เพื่อไปคุยกับหยางเฟยเงียบๆ แต่เธอก็รู้ว่าตอนนี้คงไม่เหมาะ ตอนนี้ทหารระดับสูงทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าหยางเฟยมองพวกเขาเป็นมิตร หรือว่าเป็นศัตรู ทหารระดับสูงเหล่านี่ไม่ให้เธอออกไปคุยแบบส่วนตัวแน่
“เจ้าหน้าที่หลินตอนนี้รัฐบาลกลางตัดสินใจได้หรือยังว่าจะอยู่ฝั่งใคร ฝั่งผม หรือ! ฝั่งตระกูลบ่มเพาะ 17 ตระกูล”
“พวกเราตัดสินใจว่าจะอยู่ฝั่งของคุณค่ะ”
“ดี ในเมื่อพวกเราเป็นพันธมิตรกันแล้วผมก็ไม่ควรทำงานคนเดียวจริงไหม พันธมิตรกันก็ต้องช่วยกันทำงานสิ”
“นั่น… นั่นมันก็จริงค่ะ คุณหยางต้องการให้ฉันทำอะไร”
“ไม่ๆ แค่คุณคงทำไม่ได้ ผมต้องการให้รัฐบาลกลางเคลื่อนไหว คุณเห็นพวกผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์ที่หนีไปไหม จัดการพวกมันให้หมด จัดการพวกที่ไม่อยู่ที่นี่ด้วย แล้วก็ช่วยจัดการคนของตระกูลบ่มเพาะทั้ง 17 ตระกูล ที่แฝงตัวอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ด้วย”
“…เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่า เรื่องนี้ฉันคงต้องปรึกษาหัวหน้าก่อน”
“แน่นอนๆ เรื่องใหญ่แบบนี้มันก็ต้องให้คนระดับสูงตัดสินใจสิ แต่… จำเอาไว้ด้วยว่าพวกคุณมีเวลาตัดสินใจแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าพวกคุณไม่เคลื่อนไหวภายใน 1 ชั่วโมง เราจะไม่ใช่พันธมิตรกัน สถานะของพวกเราจะเปลี่ยนจากมิตรเป็นศัตรู”
พูดจบ หยางเฟยก็วางสายทันที
หลินหวานค่อยๆ วางมือถือในมือของเธอ จากนั้นเธอก็หันหน้าไปทางนายพลจางที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ก่อนเริ่มคุยกับหยางเฟยหลินหวานเปิดลำโพงเอาไว้ ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในเต็นท์ได้ยินสิ่งที่เธอคุยกับหยางเฟยทั้งหมด หลินหวานมองนายพลจางเพราะเธอต้องการคำตอบจากเขา ก่อนที่เธอจะมาที่นี่หัวหน้าของเธอบอกกับเธอว่าคำสั่งของนายพลจางก็คือคำสั่งของเขา การตัดสินใจของนายพลจางก็คือการตัดสินใจของเขา
“17 ตระกูลเลยงั้นเหรอ…”
นายพลจางพึมพำคนเดียว ถ้าหยางเฟยบอกให้รัฐบาลกลางจัดการตระกูลบ่มเพาะ 7 ตระกูลที่เป็นตระกูลต่อสู้กับหยางเฟยในช่วงแรก นายพลจางจะตอบตกลงทันทีเพราะรัฐบาลกลางเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้หยางเฟยต้องการให้รัฐบาลกลางจัดการ 17 ตระกูล นี่มันยากเกินไป!
แต่ว่า ถ้าเขาปฏิเสธคำขอของหยางเฟย หยางเฟยก็จะมองว่ารัฐบาลกลางเป็นศัตรู เรื่องที่หยางเฟยขู่ว่าจะมองรัฐบาลกลางเป็นศัตรูนายพลจางไม่โกรธเลย เพราะคนที่ไม่จริงใจก่อนเป็นพวกเขา ตอนที่หยางเฟยกำลังเจอกับปัญหาพวกเขาเลือกดูอยู่เฉยๆ ถ้าเขาโดนแบบหยางเฟยเขาก็จะพูดแบบหยางเฟย
หลังจากประเมินผลได้ผลเสียอยู่ประมาณ 10 นาที นายพลจางก็ออกคำสั่งว่า
“ทำสิ่งที่หยางเฟยต้องการ เน้นจับเป็น ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็จับตายได้”
“ครับ!!”
“ค่ะ!!”
ทุกคนที่อยู่ในเต็นท์ตอบ
…
คำสั่งของนายพลจางส่งถึงหน่วยงานต่างๆ อย่างรวดเร็ว กองทัพทั่วประเทศเริ่มเคลื่อนไหวกันทันที และตำรวจที่ประจำการอยู่ใกล้ๆ ตระกูลผู้บ่มเพาะ 17 ตระกูล ก็เคลื่อนไหวเหมือนกัน ตระกูลผู้บ่มเพาะ 7 ตระกูลที่กำลังรบหลักอยู่ที่บ้านของหยางเฟย โดนทหารกับตำจรวจทำลายอย่างรวดเร็ว แต่ว่า ตระกูลบ่มเพาะ 10 ตระกูลแตกต่างออกไป
ตระกูลบ่มเพาะ 10 ตระกูลคือตระกูลบ่มเพาะกลุ่มตระกูลหลิว ตระกูลทั้ง 10 ไม่ได้เคลื่อนไหวกำลังรบหลักออกจากตระกูล พวกเขาไม่อ่อนแอเหมือนตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 แต่ตระกูลพวกนี้จะโดนทำลายเมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น เพราะทหารและตำรวจมีกำลังเสริมเรื่อยๆ แต่ตระกูลบ่มเพาะทั้ง 10 ไม่มี
….
บนยานอวกาศของหยางเฟย
[ติ้ง! กองทัพอเมริกาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว กองเรือของอเมริกากำลังมุ่งหน้ามาที่นี่]
[ติ้ง! ประธานาธิบดีของรัสเซียสั่งให้ฐานนิวเคลียร์เตรียมพร้อมยิงตลอดเวลา]
อลิสรายงาน
หยางเฟยไม่แปลกใจกับการเคลื่อนไหวของ 2 มหาอำนาจโลก ในระหว่างที่หยางเฟยสู้กับตระกูลผู้บ่มเพาะ 2 ประเทศนี้ใช้ดาวเทียมมองการต่อสู้ตลอดเวลา ที่ 2 ประเทศมหาอำนาจเคลื่อนไหวคงเป็นเพราะยานอวกาศของหยางเฟย พวกเขาคงประเมินว่ายานอวกาศของหยางเฟยอันตรายมาก สถานการณ์แบบนี้เลยเกิดขึ้น
เพราะว่าหยางเฟยคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเขาเปิดตัวยานอวกาศสถานการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้น เขาเลยไม่แปลกใจ และเขาก็เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้แล้ว
“ต่อพ่วงและบินไปดวงจันทร์”
หยางเฟยออกคำสั่ง
[ติ้ง! รับทราบ]
อลิสตอบ
หลังจากอลิสตอบยานอวกาศของหยางเฟยก็บินกลับไปที่ชั้นใต้ดิน จากนั้นตู้เหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ก็ต่อเข้ากับส่วนท้ายของยานอวกาศ ขนาดของมันใหญ่กว่ายานอวกาศประมาณ 10 เท่า ภายในตู้เหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ต่อเข้ากับยานอวกาศ มีของสำคัญมากๆ ใส่เอาไว้อยู่ ของที่อยู่ในตู้เหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมคือของที่จะทำให้โลกใบนี้รวมเป็น 1 เมื่อโลกรวมเป็น 1 คำว่า ‘ประเทศ’ จะหายไป
เมื่อตู้เหล็กต่อกับส่วนท้ายของยานเรียบร้อย ยานอวกาศของหยางเฟยก็ค่อยๆ ลอยขึ้นฟ้า ความสูงของยานอวกาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
10 กิโลเมตร!
20 กิโลเมตร!
50 กิโลเมตร!
ยานอวกาศของหยางเฟยยังคงลอยขึ้นเรื่อยๆ
70 กิโลเมตร!
90 กิโลเมตร!
100 กิโลเมตร!
ในที่สุดความสูงของยานอวกาศก็อยู่ในระดับ 100 กิโลเมตร จากพื้นโลก ความสูงระดับนี้ถูกเรียกว่า ‘เขตอวกาศ’ เมื่ออยู่ในเขตอวกาศ ก็หมายความว่าในตอนนี้ยานของหยางเฟยได้เข้าสู่อวกาศแล้ว
[ติ้ง! จะเริ่มการวาร์ปในอีก 5… 4… 3… 2… 1… 0!]
ฟุ๊บ!
ทันทีที่อลิสนับถึง 0 ยานอวกาศของหยางเฟยก็หายไปจากจุดที่มันอยู่ และหนึ่งวินาทีต่อมายานอวกาศของหยางเฟยก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆ กับดวงจันทร์ ถ้าเป็นยานอวกาศระดับบารอนทั้วๆ ไปจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะอารยธรรมที่สร้างยานอวกาศระดับบารอนได้คืออารยธรรมระดับ 2 อารยธรรมระดับ 2 คืออารยธรรมที่ยังไม่มีเทคโนโลยีวาร์ป
ระดับอารยธรรมถูกแบ่งเป็น 7 ระดับ
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกับอารยธรรมที่มีระดับไม่ถึงระดับ 1 ก่อน อารยธรรมที่มีระดับไม่ถึง 1 คืออารยธรรมที่ล้าหลัง ในจักรวาลจะเรียกอารยธรรมเหล่านี้ว่า อารยธรรมล้าหลัง! ไม่สำคัญว่าอารยธรรมนั้นจะมีระดับแค่ 0.1 หรือ 0.9 ถ้าระดับอารยธรรมยังไม่ถึง 1 ก็คืออารยธรรมล้าหลัง
อารยธรรมระดับ 1 คืออารยธรรมที่มีเทคโนโลยีระดับสูง แต่ไม่สามารถเดินทางในอวกาศได้
อารยธรรมระดับ 2 คืออารยธรรมที่สามารถเดินทางในอวกาศได้
อารยธรรมระดับ 3 คืออารยธรรมที่สามารถเดินทางด้วยความเร็วแสงได้
อารยธรรมระดับ 4 คืออารยธรรมที่สามารถเดินทางด้วยการวาร์ปได้
อารยธรรมระดับ 5 ยุ่งยากนิดหน่อย ถ้าอารยธรรมระดับ 4 ต้องการเป็นอารยธรรมระดับ 5 อารยธรรมระดับ 4 ที่ต้องการเป็นอารยธรรมระดับ 5 ต้องทำลายอารยธรรมระดับ 4 จำนวน 1 อารยธรรม
อารยธรรมระดับ เทพ ยุ่งยากกว่าเดิมอีก ถ้าอารยธรรมระดับ 5 ต้องการเป็นอารยธรรมระดับเทพ อารยธรรมระดับ 5 ต้องทำลายอารยธรรมระดับเทพ จำนวน 1 อารยธรรม
อารยธรรมระดับ พระเจ้า วิธีขึ้นเป็นอารยธรรมระดับพระเจ้า ก็คล้ายๆ กับการขึ้นเป็นอารยธรรมระดับเทพ ถ้าอารยธรรมระดับเทพต้องการเป็นอารยธรรมระดับพระเจ้า อารยธรรมระดับเทพต้องทำลายอารยธรรมระดับพระเจ้า จำนวน 1 อารยธรรม
เมื่อเห็นว่ายานอวกาศของตัวเองถึงดวงจันทร์แล้ว หยางเฟยก็ออกคำสั่งว่า
“บอกให้พวกหุ่นยนต์ลงไปปรับสภาพพื้นที่ หลังจากปรับสภาพพื้นที่เสร็จแล้วเราจะติ้ดตั้ง ‘ดวงตาสวรรค์’ ทันที”
หยางเฟยออกคำสั่ง
[ติ้ง! รับทราบ]
อลิสตอบ
จากนักเขียน. ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็จบ ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามครับ ไม่ๆ มันจะมาจบแค่นี้ได้ยังไง อันนี้ล้อเล่นนะครับ ^_^