ตอนที่แล้วย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 38 พวกมันมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 40 ยานอวกาศระดับบารอน

ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 39 ข้อตกลง


ตอนที่ 39 ข้อตกลง

“นั่น…”

เมื่อเห็นกลุ่มผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง 10 คน นายพลจางก็เบิกตากว้าง ผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์ 10 คน คือคนที่นายพลจางคุ้นเคยเป็นอย่างดี พวกเขาก็คือกลุ่มผู้บ่มเพาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถ้าเรียกให้เขากับสถานการณ์ตอนนี้ก็คือ พวกเขาคือกลุ่มตระกูลหลิว!

ตระกูลหลิวกับตระกูลเฉินมีเรื่องขัดแย้งกันมากมาย พวกเขาไม่มีทางร่วมมือกันแน่ นี่คือสิ่งที่นายพลจางคิดก่อนที่จะเห็นกลุ่มผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง 10 คน และทันทีที่เขาเห็นผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง 10 คน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาคิดมันผิด

ไม่นานนักกลุ่มตระกูลหลิวที่มีผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง 10 คน ก็ลอยอยู่ด้านหน้าของนายพลจาง นายพลจางมองกลุ่มผู้บ่มเพาะด้านหน้าด้วยความรู้สึกกดดัน ถ้าต้องรับมือกับกลุ่มของตระกูลเฉินกลุ่มเดียวเขาคิดว่าเขาสามารถรับมือไหว แต่ว่า ถ้าต้องรับมือทั้ง 2 กลุ่มพร้อมๆ กัน เขารับมือไม่ไหวแน่นอน… ไม่สิ! ที่ไม่ไหวไม่ใช่ตัวเขาแต่เป็นรัฐบาลกลางต่างหาก

ต้องรู้ก่อนว่า ตระกูลบ่มเพาะตั้งอยู่ในประเทศจีนนับพันปี คนของตระกูลบ่มเพาะแทรกตัวไปแทบทุกที่ ตำรวจ ทหาร นักธุรกิจ นักการเมือง และอาชีพอื่นๆ โดนแทรกแซงหมดแล้ว ถ้าตระกูลบ่มเพาะต้องการต่อสู้กับรัฐบาลกลาง ประเทศจีนเกิดสงครามกลางเมืองแน่

ก่อนเริ่มการต่อสู้ระหว่างกลุ่มตระกูลเฉินและหยางเฟย รัฐบาลกลางจับตาดูคนของกลุ่มตระกูลเฉินเอาไว้แล้ว ทันทีที่กลุ่มตระกูลเฉินแพ้คนของกลุ่มตระกูลเฉินที่แฝงตัวอยู่ในหน่วยงานต่างๆ จะโดนจับทันที เพราะว่ารัฐบาลกลางเตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นายพลจางเลยกล้าเป็นศัตรูกับกลุ่มตระกูลเฉิน

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ด้านหน้าของเขาคือกลุ่มตระกูลหลิว รัฐบาลกลางยังไม่ได้สืบว่ากลุ่มตระกูลหลิวส่งคนไปแฝงตัวที่ไหนบ้าง ถ้ากลุ่มตระกูลหลิวต่อต้านรัฐบาลกลาง ประเทศจีนก็จะเข้าสู่สงครามกลางเมืองทันที

‘วุ่นวายฉิบหาย!’

นายพลจางสบถในใจ

“นายพลจาง การต่อสู้ครั้งนี้คือการต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะ กองทัพไม่ควรเสือกการต่อสู้นี้”

ผู้นำตระกูลหลิวพูดกับนายพลจาง น้ำเสียงของเขาไม่ใช่น้ำเสียงขอร้อง น้ำเสียงของเขาคือน้ำเสียงออกคำสั่ง

“…”

นายพลจางไม่ตอบ ถึงเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะโมโหไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าผู้นำตระกูลเฉินพูดกับเขาแบบนี้เขาคงสวนกลับทันที แต่นี่คือผู้นำตระกูลหลิวไม่ใช่ผู้นำตระกูลเฉิน ถ้าเขาปะทะกับผู้นำตระกูลหลิวที่นี่ประชาชนของประเทศจีนทุกคนจะเดือดร้อน

เมื่อเห็นว่านายพลจางไม่ตอบ ผู้นำตระกูลหลิวก็พูดต่ออีกว่า

“ถ้านายยังไม่หยุดเสือกการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลจางต้องรับผิดชอบ”

“…”

นายพลจางขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ตอนนี้เขาโมโหมากๆ แต่เขาอดกลั้นเอาไว้ เพื่อประเทศ! เพื่อประชาชน! เพื่อตระกูล! เขากัดฟันของเขาแน่น

หลังจากเงียบสักพักนายพลจางก็กดวิทยุที่อยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า

“ถอยออกจากสนามรบ”

“ทิศเหนือรับทราบ”

“ทิศตะวันออกรับท่ราบ”

“ทิศใต้รับทราบ”

“ทิศตะวันตกรับทราบ”

ผู้บัญชาการทิศต่างๆ ตอบรับอย่างรวดเร็ว พวกเขาตอบทั้งๆ ที่ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมนายพลจางถึงสั่งให้พวกเขาถอยออกจากสนามรบ แต่ทหารก็คือทหาร ทหารถูกฝึกให้ทำตามคำสั่งของทหารที่มียศสูงกว่าตัวเอง และหลังจากได้รับคำสั่งแล้วพวกเขาต้องทำตามทันที ห้ามถาม ห้ามสงสัย ห้ามปฏิเสธ

“พอใจแล้วใช่ไหม”

นายพลจางถามผู้นำตระกูลหลิว

ผู้นำตระกูลหลิวพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปหาผู้นำตระกูลเฉิน แล้วพูดว่า

“ให้พวกเราช่วยเรื่องหยางเฟยไหม?”

“…พวกนายต้องการอะไร”

ผู้นำตระกูลเฉินคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็ถามเป้าหมายของอีกฝ่าย ผู้นำตระกูลเฉินไม่ใช่คนโง่เขารู้ดีว่าของฟรีมันไม่มีในโลก

“พวกเราต้องการซากหุ่นยนต์และหุ่นยนต์ทั้งหมด และต้องการเครื่องสร้างบาเรียด้วย และถ้าในบ้านของหยางเฟยมีข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ข้อมูลทั้งหมดจะต้องเป็นของเราพวก ถ้าฝั่งของนายตกลงพวกเราจะช่วยพวกนายฆ่าหยางเฟย”

ผู้นำตระกูลหลิวพูด พูดนำตระกูลหลิวได้เห็นพลังของพวกหุ่นยนต์มาแล้ว ทันทีที่เขาเห็นพลังของพวกหุ่นยนต์เขาก็คิดถึงกองทัพหุ่นยนต์นับล้านที่เขาสามารถควบคุมได้ ถ้าเขาสามารถควบคุมหุ่นยนต์ที่เหมือนหุ่นยนต์ของหยางเฟยนับล้านตัวได้ โลกทั้งโลกจะต้องก้มหัวให้ตระกูลหลิว โลกทั้งโลกจะต้องก้มหัวให้เขา

“ไม่!!”

ผู้นำตระกูลเจียงปฏิเสธทันที เหตุผลที่เขาเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ก็เพราะต้องการวิธีสร้างหุ่นยนต์ ถ้าตระกูลหลิวเอาหุ่นยนต์ไปหมดเขาจะศึกษาวิธีสร้างพวกมันได้ยังไง

“ผู้นำตระกูลเจียงนายเองก็ไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้หยางเฟยอยู่ในบาเรีย ถ้าพวกเราไม่ช่วยพวกนายจะจัดการหยางเฟยยังไง อีกอย่าง อย่าลืมว่าตอนนี้พวกนายเสียกำลังรบไปเยอะมาก ตอนนี้ตระกูลบ่มเพาะที่เป็นศัตรูกับตระกูลเจียงเรียกรวมตัวสมาชิกตระกูลแล้ว นายคิดว่าพวกนั้นเรียกรวมตัวคนในตระกูลเพื่ออะไร แต่ไม่ต้องห่วง! ถ้าพวกนายยอมรับคำขอของพวกเรา พวกเราจะปกป้องตระกูลเจียงเอง”

ผู้นำตระกูลหลิวพูด สิ่งที่เขาพูดออกมามันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น ผู้นำตระกูลหลิวไม่มีความคิดปกป้องตระกูลเจียงเลย ถ้าเกิดว่าศัตรูของตระกูลเจียงเริ่มโจมตีตระกูลเจียง เขาจะส่งคนในตระกูลของเขาไปช่วยโจมตีทันที สิ่งที่เขาพูดออกมาตอนนี้มันก็แค่ ‘คำโกหก’

“…”

ผู้นำตระกูลเจียงไม่พูดอะไร ตอนนี้เขากำลังใช้ความคิดเขารู้ดีว่าคำพูดของผู้นำตระกูลหลิวมันเชื่อถือไม่ได้ แต่ว่า เรื่องที่ตระกูลเจียงอ่อนแอลงมันเป็นเรื่องจริง ตระกูลเจียงมีศัตรูอยู่มากมาย ถ้าศัตรูของตระกูลเจียงรู้ว่าตระกูลเจียงกำลังอ่อนแอ พวกมันต้องบุกทำลายตระกูลเจียงแน่

และในตอนนี้พันธมิตรตระกูลบ่มเพาะที่ตระกูลเจียงสังกัดอยู่ก็อ่อนแอลงมาก ถ้าตระกูลเจียงโดนโจมตีตระกูลพันธมิตรคงช่วยเหลือนิดๆ หน่อยๆ หรือไม่ก็ไม่ช่วยเหลือเลย

ผู้นำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ที่อยู่ฝั่งของตระกูลเฉินก็มีความคิดคล้ายๆ กับผู้นำตระกูลเจียง แต่พวกเขายังไม่พูด พวกเขากำลังรอให้ผู้นำตระกูลเฉินเป็นคนเริ่ม

ผู้นำตระกูลเฉินเข้าใจดีว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ เขามองไปทางผู้นำตระกูลหลิว จากนั้นก็พูดว่า

“ตกลง”

“ตัดสินใจได้ดี”

ผู้นำตระกูลหลิวชม

หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง จำนวน 17 คน ก็ลอยไปยังจุดที่บ้านของหยางเฟยตั้งอยู่

จากนักเขียน. ถ้าตอนมีถึง 10 คอมเมนต์ วันนี้ผมลงให้อีก 1 ตอน ^_^

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด