ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 30 เจียมเนื้อเจียมตัว
ตอนที่ 30 เจียมเนื้อเจียมตัว
“ฉันขอลองคนเดียวก่อน”
ผู้นำตระกูลเฉินพูดกับผู้นำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ เมื่อพูดจบ เขาก็รวมพลังเอาไว้ที่มือขวาของเขา แรงที่เขาจะใช้ต่อยครั้งแรกคือแรง 10% ของเขา แรง 10% ของผมบ่มเพาะระดับสวรรค์สูงก็ประมาณแรง 100% ของผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์
ตุ๊บ!!
มัดของผู้นำตระกูลเฉินต่อยโดนบาเรีย หลังจากต่อยโดนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีสัญญาว่าบาเรียได้รับความเสียหาย
ผู้นำตระกูลเฉินไม่ได้ทำหน้าแปลกใจ เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้เขาเลยไม่แปลกใจ เมื่อแรงต่อย 10% ไม่สามารถทำอะไรได้เขาก็จะใช้แรงต่อย 50% ผู้นำตระกูลเฉินง้างมือของเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ต่อยไปที่บาเรียด้วยแรง 50%
ตุ๊บ!!
เหมือนเดิม! ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง! ผู้นำตระกูลเฉินขมวดคิ้ว นี่แรง 50% ของเขายังทำอะไรมันไม่ได้อีกเหรอ เอาจริงเหรอ
เมื่อแรง 50% ไม่สามารถทำอะไรบาเรียได้ ผู้นำตระกูลเฉินก็เอาขวดแก้วขนาดประมาณ 100 ML ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จากนั้นเขาก็กินน้ำที่อยู่ในขวดจนหมด เมื่อผู้นำตระกูลเฉินกินน้ำที่อยู่ในขวดหมดพลังปราณของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง น้ำที่ผู้นำตระกูลเฉินกินไปเมื่อครู่เรียกว่า ‘น้ำพลังปราณ’ คุณสมบัติของมันก็แบบที่เห็น หลังจากกินมันแล้วมันจะฟื้นพลังปราณให้ผู้กิน
ผู้นำตระกูลเฉินรวมพลังของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะใช้พลังเต็มที่โจมตี การต่อยของเขาครั้งนี้รุนแรงกว่ากระสุนรถถัง 10 เท่า
ตูม!!!
เสียงปะทะกันระหว่างมัดของผู้นำตระกูลเฉินและบาเรียดังสนั่น เสียงดังสนั่นไปไกลหลายกิโลเมตร ทว่า บาเรียที่ห่อหุ้มบ้านของหยางเฟยอยู่ก็ยังไม่เป็นอะไรอีกครั้ง มันไม่มีสัญญาว่ามันได้รับความเสียหายอะไรเลย
เมื่อต่อยไปแล้วผู้นำตระกูลเฉินก็เอาน้ำพลังปราณออกมาอีก 2 ขวด จากนั้นก็กินพวกมัน
“มันทนทานมาก”
ผู้นำตระกูลเฉินพูด
“ให้พวกเราช่วยไหม?”
ผู้นำตระกูลเจียงถาม
“ไม่ต้อง ฉันมีแผนอื่น”
ผู้น้ำตระกูลเฉินส่ายหน้า จากนั้นเขาก็หันไปทางคนตระกูลเฉินที่อยู่ไม่ไกลนักแล้วออกคำสั่งว่า
“โทรหานายพลจาง”
“ครับ”
คนตระกูลเฉินตอบรับ
นายพลจางคือนายพลที่ทำหน้าที่ควบคุมพื้นที่รอบๆ บ้านของหยางเฟยเอาไว้ หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ นายพลจางคือคนที่คุมทหารทั้งหมดที่ล้อมบ้านของหยางเฟยเอาไว้ ถ้าเขาสั่งให้กองทัพเข้าร่วมการต่อสู้กองทัพก็จะเข้าร่วมการต่อสู้ ถ้าเขาสั่งไม่ให้กองทัพเข้าร่วมการต่อสู้กองทัพก็จะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ นายพลจางคือคนที่มีอำนาจมาก
เมื่อรู้ว่านายพลจางอยู่ในสาย ผู้นำตระกูลเฉินก็พูดว่า
“นายพลจางตอนนี้พวกเราตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 กำลังมีปัญหา เราต้องการให้กองทัพช่วย”
“ให้ช่วยเรื่องอะไร”
“รอบๆ บ้านของหยางเฟยมีอะไรบางอย่างห่อหุ้มเอาไว้ พวกเราต้องการให้กองทัพทำลายมันให้พวกเรา”
“ผู้นำตระกูลเฉิน การต่อสู้ครั้งนี้คือการต่อสู้ระหว่างตระกูลเฉินกับหยางเฟย มันเป็นการต่อสู้ของพวกคุณพวกคุณก็ต้องจัดการกันเอง ผมช่วยคุณไม่ได้”
“นายพลจาง! อย่าลืมว่าตอนนี้คุณคือตัวแทนของรัฐบาลกลาง ตอนนี้คำพูดของคุณคือคำพูดของรัฐบาลกลาง ความตั้งใจของคุณคือความตั้งใจของรัฐบาล ถ้าคุณไม่ช่วยเราก็หมายความว่ารัฐบาลกลางไม่ช่วยเรา ถ้ารัฐบาลกลางไม่ช่วยพวกเราก็หมายความว่ารัฐบาลกลางไม่เห็นพวกเราเป็นพันธมิตร ถ้าคุณไม่ช่วยพวกเราตอนนี้ตอนที่รัฐบาลกลางมีปัญหาพวกเราตระกูลผู้บ่มเพาะทั้ง 7 ก็จะไม่ช่วยรัฐบาลกลาง ...คุณจะช่วยพวกเราไหม?”
“…เฮ้ยไอ้แก่ ฉันพยายามอดทนกับแกหลายครั้งแล้วนะ ตอนนี้ฉันหมดความอดทนแล้วว่ะ ก่อนหน้านี้ฉันนับถือนายเป็นรุ่นพี่ของฉันเพราะนายเคยเข้าร่วมสงครามมากมาย แกทำเพื่อประเทศมากมาย แต่คนเรามันต้องมีขอบเขตกันบ้าง รัฐบาลกลางยอมอยู่เฉยๆ ให้แกฆ่าอัจฉริยะของประเทศมันก็มากพอแล้วนะ ตอนนี้แกยังอยากให้รัฐบาลกลางช่วยฆ่าอัจฉริยะของประเทศเหรอ เฮ้อ~ ฉันหมดคำจะพูดกับคนแบบแกจริงๆ แกขอให้ฉันยืนดูหยางเฟยโดนฆ่าฉันอดทนได้ แกขอให้ฉันช่วยฆ่าหยางอันนี้ฉันก็อดทนได้ แต่ว่า เรื่องที่แกขู่รัฐบาลกลางฉันยอมไม่ได้จริงๆ …ท่านนายพลครับหยุดเถอะ ….ท่านนายพลครับวางสายเถอะ ….ท่านนายพลหยุดพูดเถอะครับ”
ตู๊ด!! ตู๊ด!! ตู๊ด!!
นายพลจางพูดยังไม่ทันจบสายก็โดนตัดไป และก่อนที่สายจะตัดไปก็มีเสียงของทหารหลายคนกำลังบอกให้นายพลจางหยุดพูด
แบะ!!!
มือถือในมือของผู้นำตระกูลเฉินโดนขยี้แหลกคามือ
“มีปัญหางั้นเหรอ?”
ผู้นำตระกูลเจียงถาม
“ใช่ ฉันโทรไปหากองทัพและบอกให้พวกนั้นช่วยเราทำลายสิ่งที่ห่อหุ้มบ้านของหยางเฟยเอาไว้ แต่พวกนั้นปฏิเสธ พวกนั้นบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเรากับหยางเฟย”
ผู้นำตระกูลเฉินตอบ เขาบิดเบือนคำพูดของนายพลจางนิดหน่อย
“งั้นพวกเราก็ต้องจัดการเอง ถ้านายคนเดียวทำลายไม่ได้เราก็ต้องร่วมพลังกัน ถ้าพวกเรา 7 คนที่เป็นถึงผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์โจมตีพร้อมกัน แสงสีเขียวนี่มันต้องพังแน่”
ผู้นำตระกูลเจียงเสนอแผน
ผู้นำตระกูลเฉินพยักหน้าทันที เขาคิดว่าสิ่งที่ผู้นำตระกูลเจียงพูดเป็นความคิดที่ดี ผู้น้ำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ก็เห็นด้วยเช่นกัน หลังจากแผนของผู้นำตระกูลเจียงได้รับความเห็นชอบ ผู้น้ำตระกูลผู้บ่มเพาะทั้ง 7 ก็ลอยไปตามมุมต่างๆ ของบาเรีย
“รวมพลังปราณ!!!”
ผู้นำตระกูลเฉินตะโกนออกคำสั่ง
เมื่อได้ยินเสียงของผู้นำตระกูลเฉิน ผู้น้ำตระกูลบ่มเพาะคนอื่นๆ ก็เริ่มรวบรวมพลังปราณเอาไว้ในมือที่พวกเขาถนัด
เมื่อผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง 7 คน เตรียมตัวโจมตี บรรยากาศรอบๆ บ้านของหยางเฟยก็เปลี่ยนไป ผู้บ่มเพาะที่มีระดับบ่มเพาะแค่ระดับก่อเกิดเริ่มรู้สึกอยากคุกเข่าของพวกเขาลง พวกเขาทนรับพลังปราณที่ลอยอยู่ในอากาศไม่ไหว