ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 25 ตระกูลเฉินเคลื่อนไหวแล้ว
ตอนที่ 25 ตระกูลเฉินเคลื่อนไหวแล้ว
ณ คฤหาสน์ตระกูลเฉิน
“บัดซบ!!!”
ผู้นำตระกูลเฉินตะโกนเสียงดังในห้องโถง เหตุผลที่เขาตะโกนเสียงดังก็เป็นเพราะว่าเฉินเป่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่สุสานให้ฟัง ผู้นำตระกูลเฉินเป็นชายอายุ 150 ปี เขาคือคนที่เคยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าร่วมสงครามเย็น และเข้าร่วมสงครามรวมประเทศจีน เพราะว่าเขาเคยเข้าร่วมสงครามมากมายบรรยากาศที่ออกมาจากตัวเขาเลยน่ากลัวมาก และในตอนนี้ เขาก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสวรรค์สูง หากเปรียบเทียบเป็นก็ประมาณจอมเวทย์ระดับ 2 เขามีพลังเวทย์พอๆ กับหยางเฟย
ส่วนเรื่องอายุ 150 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้บ่มเพาะ สำหรับผู้บ่มเพาะมีอายุ 200 ปี ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าอายุยืนก็คือ 300 ปี
“คนจากรัฐบาลกลางไม่ปกป้องนายเหรอ”
ผู้นำตระกูลเฉินถามเฉินเป่า
“พูดว่าไม่ปกป้องคงไม่ถูกครับ ทางนั้นพยายามพูดแล้วแต่คนที่ชื่อว่าหยางเฟยไม่สนใจคำพูดของคนจากรัฐบาลกลางเลย”
เฉินเป่าตอบ
“แล้วหยางเฟยที่นายพูดถึงมันเป็นใครมาจากไหน มันมาจากตระกูลบ่มเพาะในประเทศ หรือว่าตระกูลบ่มเพาะต่างประเทศ?”
ผู้นำตระกูลเฉินถามอีกครั้ง ในหัวของเขาไม่มีความคิดที่ว่าหยางเฟยเป็นคนจากตระกูลธรรมดาอยู่เลย ในหัวของเขากำลังคิดว่าหยางเฟยเป็นคนที่มาจากตระกูลบ่มเพาะ ไม่ในประเทศ ก็มาจากต่างประเทศ
“ท่านผู้นำตระกูล หยางเฟยที่เฉินเป่ากำลังพูดถึงคือคนธรรมดาครับ”
ผู้อาวุโส 1 แห่งตระกูลเฉินพูด
ในห้องไม่ได้มีเพียงเฉินเป่าและผู้นำตระกูลเฉินเท่านั้น แต่ยังมีผู้อาวุโสตระกูลเฉินอีก 10 คน พวกเขามีตำแหน่งตามหมายเลขของตัวเอง ผู้อาวุโส 1 คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดในหมู่ผู้อาวุโส
ผู้นำตระกูลเฉินขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเรื่องนี้มันไม่น่าเป็นไปได้คนจากตระกูลธรรมดาจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูงได้ยังไง กว่าเขาจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูงเขาต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลาไปจำนวนมาก กว่าเขาจะมาถึงผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูงมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย มันโครตลำบาก แล้ว? คนธรรมดาที่อายุประมาณ 20 ปี จะมีพลังบ่มเพาะระดับสวรรค์สูงได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้!
แต่ว่า ผู้นำตระกูลเฉินรู้ดีว่าผู้อาวุโส 1 ไม่ใช่คนพูดเล่น ถ้าเขาพูดออกมาก็หมายความว่าเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องจริง แต่เขาทำใจเชื่อไม่ได้จริงๆ
“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าข้อมูลไม่ผิดพลาด”
ผู้นำตระกูลเฉินถาม
“ครับ ข้อมูลนี้คือข้อมูลที่สายลับส่งมาให้ แล้วยังมีเรื่องน่าตกใจอีกเรื่อง สายลับส่งข้อมูลมาว่ารัฐบาลกลางจัดให้หยางเฟยเป็นบุคคลระดับ VVIP เรื่องนี้มันแปลกมาก อยู่ๆ หยางเฟยก็โดนจัดให้เป็นบุคคลระดับ VVIP เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ผู้อาวุโส 1 พูด
“VVIP…”
ผู้นำตระกูลเฉินพูดเบาๆ เขาทำใบหน้าราวกับว่ากำลังนึกถึงเรื่องบางอย่าง
“ท่านผู้นำตระกูล พวกเราต้องแก้แค้นนะครับ ถ้าพวกเราไม่แก้แค้นตระกูลเฉินของเราคงถูกมองว่าเป็นพวกไม่สู้คน ตระกูลบ่มเพาะอื่นๆ คงหัวเราะพวกเราสนุกปากแน่”
ผู้อาวุโส 5 ที่นั่งอยู่พูด ผู้อาวุโส 5 คือปู่ของเฉินเป่า หลานชายของเขาโดนขนาดนี้จะให้เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง เขาไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! หยางเฟยต้องตาย!
“ผู้อาวุโส 5 คุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดเหรอ หยางเฟยคนนั้นถูกรัฐบาลกลางจัดว่าเป็นบุคคลระดับ VVIP ถ้าเราฆ่าเขา รัฐบาลกลางไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่… ไม่สิ! อย่าพึ่งคิดถึงเรื่องรัฐบาลกลางเลย เรามาคิดถึงเรื่องของหยางเฟยก่อนดีกว่า คุณคิดว่าพวกเราจะฆ่าหยางเฟยได้งั้นเหรอ หยางเฟยคือเด็กอายุประมาณ 20 ปี ที่มีระดับบ่มเพาะอยู่ในระดับสวรรค์สูง คุณคิดว่าคนระดับนี้ไม่มีเบื้องหลังงั้นเหรอ คนแบบนี้ต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังแน่นอน ถ้าเราเคลื่อนไหวพวกที่อยู่เบื้องหลังของหยางเฟยก็คงเคลื่อนไหวเหมือนกัน ถ้าพลังมันพอๆ กับเรา พวกเราก็จะเสียหายมาก และหลังจากชนะกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังหยางเฟยตระกูลเฉินของเราก็จะอ่อนแอลง แล้วคุณลองคิดดูว่าเรามีศัตรูเยอะขนาดไหน ในตอนที่พวกเราอ่อนแอคุณคิดว่าศัตรูของพวกเราจะอยู่เฉยๆ งั้นเหรอ เรื่องที่ฉันต้องการพูดมีเท่านี้!”
ผู้อาวุโส 1 อธิบาย
ผู้อาวุโส 5 ไม่ใช่คนโง่ เขารู้เรื่องที่ผู้อาวุโส 1 พูดออกมาอยู่ก่อนแล้ว แต่เขาไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้จริงๆ เฉินเป่าของเขาคืออัจฉริยะที่จะกลายเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป แต่ดูตอนนี้สิ ตอนนี้เฉินเป่าของเขากลายเป็นคนธรรมดาไปแล้ว
“ติดต่อไปที่ตระกูลบ่มเพาะที่เป็นพันธมิตรของพวกเรา บอกพวกเขาว่าตระกูลเฉินต้องการให้พวกเขาช่วย และเรียกร่วมตัวผู้บ่มเพาะในตระกูลเฉินด้วย เราจะล้างแค้น!!”
ผู้นำตระกูลเฉินพูด สิ่งที่ผู้อาวุโส 1 พูดออกมามันถูกต้อง แต่ว่าสิ่งที่ผู้อาวุโส 5 ผู้ออกมามันก็ถูกต้องเช่นกัน ถ้าตระกูลเฉินปล่อยผ่านเรื่องนี้ตระกูลบ่มเพาะอื่นๆ ก็จะมองว่าตระกูลเฉินอ่อนแอ เมื่อถูกมองว่าอ่อนแอมันจะมีปัญหาจำนวนมากตามมา
หลังจากคิดสักพักผู้นำตระกูลเฉินก็คิดว่า แก้แค้น! คือทางเลือกที่ดีกว่า ไม่แก้แค้น!
“ครับ”
ผู้อาวุโส 1 ตอบ เขารู้ดีว่าผู้นำตระกูลเฉินไม่ยอมเปลี่ยนใจแน่นอน เขาก็เลยไม่พูดห้ามไม่เสียเวลา
หลังจากการประชุมของตระกูลเฉินจบลง ตระกูลเฉินก็ติดต่อไปหาตระกูลพันธมิตรของพวกเขาทันที ตระกูลซิน ตระกูลโจว ตระกูลเจียง ตระกูลหมิง ตระกูลหยุน และตระกูลหลี่ ต่างก็ยอมตกลงช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ตระกูลบ่มเพาะทั้ง 6 ตระกูล คือตระกูลบ่มเพาะที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลเฉิน
หลังจากรู้ว่าตระกูลทั้ง 6 ยอมตกลงช่วย ผู้นำตระกูลเฉินก็ประกาศว่า ‘อีก 3 วัน ตระกูลเฉินจะล้างแค้นให้เฉินเป่า’
และผู้นำตระกูลเฉินยังติดต่อไปที่รัฐบาลกลางด้วย เขาบอกกับรัฐบาลกลางว่า ‘ตระกูลเฉิน ตระกูลซิน ตระกูลโว ตระกูลเจียง ตระกูลหมิง ตระกูลหยุน ตระกูลหลี่ หรือว่า หยางเฟย’
คำพูดของผู้นำตระกูลเฉินคือการยื่นคำขาด ถ้ารัฐบาลกลางเลือกอยู่ฝั่งตระกูลผู้บ่มเพาะทั้ง 7 ก็แปลว่าต้องเป็นศัตรูกับหยางเฟย กลับกัน ถ้ารัฐบาลกลางเลือกอยู่ฝั่งหยางเฟยรัฐบาลกลางก็ต้องเป็นศัตรูกับตระกูลผู้บ่มเพาะทั้ง 7
….
ณ บ้านของหยางเฟย
[ติ้ง! โฮสต์ เจ้าหน้าที่หลินหวานบอกว่าต้องการพบคุณ]
ในระหว่างที่หยางเฟยกำลังไหลเวียนพลังเวทย์ เสียงของอลิสก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“ถามเธอว่ามีเรื่องอะไร?”
หยางเฟยตอบด้วยเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
[ติ้ง! เจ้าหน้าที่หลินหวานบอกว่าต้องการคุยกับโฮสต์แบบตัวต่อตัว มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก]
อลิสตอบ
“ให้เธอเข้ามา”
หยางเฟยอนุญาต
[ติ้ง! รับทราบ]
อลิสรับคำสั่ง
เมื่อหลินหวานเห็นหยางเฟยอยู่ด้านหน้าของเธอ เธอก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 ให้หยางเฟยฟัง รวมถึงเรื่องที่ตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 บังคับให้รัฐบาลกลางเลือกฝั่งด้วย
“แล้ว! รัฐบาลกลางเลือกฝั่งไหนล่ะ”
หลังจากฟังเรื่องทั้งหมดหยางเฟยก็ถาม ใบหน้าของเขาคือใบหน้าไร้ความรู้สึก เขาทำราวกับว่าเรื่องของตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 เป็นเรื่องเล็กๆ
“ตอนนี้คนรัฐบาลกลางแยกออกเป็น 2 กลุ่มค่ะ กลุ่มแรกคืออยู่ข้างคุณ อีกกลุ่มคืออยู่ข้างตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 เพราะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมกับฝั่งไหน รัฐบาลกลางเลยจะส่งทหารมาที่บ้านของคุณแต่ทหารจะไม่โจมตีคุณ”
หลินหวานพูดแบบกระอักกระอ่วน เธอเข้าใจดีว่าวิธีนี้มันน่าขายหน้ามาก แต่เธอคือเจ้าหน้าที่ตัวน้อยๆ เท่านั้น โดนสั่งมายังไงเธอก็ต้องทำอย่างงั้น
“เหอ! ถ้าผมน่าจะแพ้รัฐบาลกลางก็คงจะสั่งให้พวกทหารโจมตีผมสินะ กลับกัน ถ้าตระกูลบ่มเพาะทั้ง 7 จะแพ้ รัฐบาลกลางก็คงสั่งให้ทหารโจมตีพวกมัน ผมควรเรียกพวกคุณว่าอะไรดี? หน้าด้าน! หน้าไม่อาย! หน้าหนา!”
หยางเฟยเยาะเย้ย
“…”
หลินหวานไม่ตอบอะไร เธอไม่รู้จะตอบอะไร
“เฮ้อ~ กลับไปซะ”
หยางเฟยพูด
“ขอบคุณที่เข้าใจ…”
หลินหวานพูดเบาๆ จากนั้นก็เดินออกจากบ้าน การที่หยางเฟยไม่พูดว่า บอกให้รัฐบาลกลางเลือกฝั่งซะว่าจะอยู่ฝั่งไหน! มันก็แปลว่าเขายอมให้รัฐบาลกลางส่งกองทัพมาล้อมบ้านของเขาเอาไว้
เมื่อหลินหวานออกจากห้องไปแล้ว เสียงของอลิสก็ดังขึ้นว่า
[ติ่ง! โฮสต์ คุณจากตระกูลหลิวบอกว่าต้องการพบกับคุณ ตอนนี้พวกเขารออยู่นอกบ้าน ตระกูลหลิวคือ 1 ในตระกูลบ่มเพาะของประเทศจีน พวกเขาคือศัตรูคู่แค้นของตระกูลเฉิน ให้พวกเขาเข้ามาไหม]