ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 23 ชนชั้น
ตอนที่ 23 ชนชั้น
ตุ๊บ!!!
ร่างของเฉินเป่าตกลงพื้น ถ้าเป็นร่างของคนปกติคงตายไปแล้วแต่เฉินเป่าไม่ใช่คนปกติ เขาเลยยังมีชีวิตอยู่ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากนั้นก็ประสานมือไปทางหยางเฟย และพูดว่า
“ขอบคุณครับ”
พูดจบ เฉินเป่าก็เดินไปทางที่ออกของสุสาน ในตอนนี้ เฉินเป่าโกรธหยางเฟยมากแต่เขาต้องอดทนเอาไว้ เขาไม่ใช่พวกโง่ที่จะพุ่งเข้าหาศัตรูแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือชีวิตของเขา เขาต้องกลับไปที่ตระกูลเฉินและรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนในตระกูลรู้
เมื่อจัดการเฉินเป่าเรียบร้อยหยางเฟยก็ลอยลงไปที่จุดฝังศพแม่ของเขา จุดฝังศพแม่ของเขาได้รับความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น มีแค่ดินเล็กน้อยที่โดนขุดออกไป หยางเฟยหยิบพลั้วที่เคยเป็นของคนตระกูลหยางจากนั้นก็เริ่มซ่อมหลุมศพแม่ของเขา
“คุณหยางเรื่องซ่อมแซมหลุมศพให้พวกเราทำก็ได้”
หลินหวานพูดกับหยางเฟย
“ไม่ต้อง พวกคุณควรเอาเวลาไปคิดว่าจะทำยังไงไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกดีกว่า”
หยางเฟยตอบแบบไม่มอง เขายังคงซ่อมหลุมศพต่อไป
“คุณหยางไม่ต้องห่วงเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสุสานแห่งนี้จะถูกดูแลแบบพิเศษจะไม่มีเรื่องแบบวันนี้เกิดขึ้นอีก”
หลินหวานพูด
“อื้ม”
หยางเฟยตอบแบบไม่สนใจ
“คือว่า… คุณจะทำยังไงกับตระกูลเฉิน คุณทำลายเส้นลมปราณของเฉินเป่าไปแล้วทางตระกูลเฉินไม่มีทางอยู่เฉยแน่นอน ถ้าคุณเข้าร่วมกับรัฐบาลกะ-”
“ถ้าตระกูลเฉินไม่ยอมจบผมจะทำลายตระกูลเฉินซะ ฝากไปบอกตระกูลพันธมิตรของตระกูลเฉินด้วยว่า ‘ถ้าร่วมมือกับตระกูลเฉินสู้กับผม ผมจะคิดว่าพวกคุณเป็นศัตรู’”
หยางเฟยพูดขัด ตระกูลเฉินงั้นเหรอ? ในสายตาของเขาตระกูลเฉินก็เป็นเพียงตระกูลผู้บ่มเพาะตระกูลหนึ่งเท่านั้น เขาไม่ได้มองว่าพวกเขามีอำนาจเลย ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับว่าตัวของหยางเฟยเป็นจักรพรรดิผู้ปกครองจักรวรรดิ แต่ตระกูลเฉินเป็นเพียงตระกูลขุนนางยศบารอน ระดับของเขากับตระกูลเฉินมันต่างกันเกินไป
….
ณ บ้านของหยางเฟย
หลังจากซ่อมหลุมศพเสร็จเขาก็เดินทางกลับบ้าน ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องหลุมศพแม่ของเขาแล้ว เพราะหลินหวานให้สัญญาแล้วว่ารัฐบาลกลางจะปกป้องให้
ในตอนนี้ หยางเฟยกำลังคิดว่าจะไปจัดการกับพวกตระกูลหยางดีไหม ถ้าจัดการแล้วจะมีผลอะไรตามมาบ้าง หลังจากคิดได้สักพักเขาก็ตัดสินใจว่าจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างบาเรียรอบๆ บ้านก่อน เมื่อบาเรียพร้อมใช้งานแล้วเขาก็จะทำลายตระกูลหยางทันที จากนั้นก็จะเดินทางไปหา พ่อผู้ให้กำเนิด และ แม่ผู้ให้กำเนิด เขาอยากฟังจากปากทั้ง 2 คน ว่าทำไมพวกเขาทั้ง 2 คน ถึงทิ้งลูกของตัวเอง
“อลิส ติดต่อบริษัทรถยนต์ทุกบริษัทและบอกพวกเขาว่า หยางเฟยมีวิธีสร้าง ‘เครื่องยนต์พลังน้ำ’ หยางเฟยจะขายให้บริษัทที่ให้ราคาสูงสุด แล้วก็ติดต่อไปที่บริษัทยาทั่วโลกและบอกพวกนั้นว่า หยางเฟยมีวิธีสร้างยา ‘คืนสภาพร่างกาย’ หยางเฟยจะขายวิธีสร้างให้บริษัทที่ให้ราคาสูงที่สุด ส่งตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ให้พวกเขาด้วย ทำให้พวกเขามั่นใจว่าฉันไม่ได้โกหก”
หยางเฟยสั่งอลิส ก่อนหน้านี้หยางเฟยต้องการพัฒนาโลกไปทีละนิดทีละหน่อย เขาต้องการให้มนุษย์รู้ว่าเทคโนโลยีแต่ละอย่างมันต้องลงทุนลงแรงมหาศาลเพื่อได้มา ถ้าทำให้มนุษย์รู้ถึงความยากลำบากในการได้มา มนุษย์ก็จะไม่หยิ่งผยอง แต่ตอนนี้สถานการณ์มันต่างออกไป เขาไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ แล้ว เขาเปลี่ยนแผนใหม่แล้ว แผนใหม่ของเขาก็คือ เขาจะทำให้เทคโนโลยีในโลกเติบโตแบบก้าวกระโดดไม่ใช่โตแบบค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดแบบที่คิดเอาไว้
และเมื่อถึงเวลาหยางเฟยจะสร้างระบอบปกครองแบบชนชั้นขึ้นมา ต้องรู้ก่อนว่า อารยธรรม 90% ในจักรวาลเป็นอารยธรรมที่มีระบอบปกครองแบบชั้นชน และอารยธรรมที่มีระดับสูงกว่าระดับ 3 ก็เป็นอารยธรรมที่มีระบอบปกครองแบบชนชั้น หรือก็คือ อารยธรรมระดับสูงในจักรวาลมีระบอบปกครองแบบชนชั้นทั้งหมด
หยางเฟยคิดว่าการปกครองแบบระบอบชนชั้นเป็นการปกครองที่ดี เหตุผลที่หยางเฟยมองว่าการปกครองแบบระบอบชนชั้นเป็นการปกครองที่ดีก็เพราะว่า ชาติก่อนของเขา เขาตายเพราะการปกครองแบบประชาธิปไตย ชาติก่อนที่กำลังพูดถึงคือชาติที่หยางเฟยเป็นมนุษย์โลก ไม่ใช่ชาติที่หยางเฟยเป็นองค์ชายไร้อำนาจ
ในตอนนั้น หยางเฟยมีตำแหน่งสูงมากในกองทัพ แต่เนื่องจากอารยธรรมมนุษย์ปกครองด้วยประชาธิปไตยกองทัพเลยต้องฟังคำสั่งนักการเมือง ถ้ามีเรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้น กองทัพจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะต้องรอคำสั่งจากสภา ช่วงเวลาที่หยางเฟยตายเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์โดนอารยธรรมระดับ 4 บุกโจมตี ช่วงเวลานั้นมนุษย์ก็มีอารยธรรมอยู่ในระดับ 4 เหมือนกัน แต่ว่า การตัดสินใจของมนุษย์ช้ากว่าฝั่งของศัตรูมากเพราะจะเคลื่อนทัพทีก็ต้องรอคำสั่งจากสภาที
และในบางครั้ง สภาก็สั่งให้ทหารทำเรื่องที่มันแทบเป็นไปไม่ได้ เช่น ใช้ยานอวกาศ 1,000 ลำ เอาชนะยานอวกาศ 10,000 ลำ ต้องรู้ก่อนว่า สงครามยานอวกาศนั่นแตกต่างจากคนต่อยกัน ถ้าคนต่อยกันฝั่ง 1 คน เป็นนักมวย ฝั่ง 10 คน เป็นคนธรรมดา นักมวยยังพอมีโอกาสชนะได้อยู่
แต่สงครามยานอวกาศแตกต่างจากคนต่อยกัน ยาน 1,000 ลำ ไม่สามารถเอาชนะยาน 10,000 ลำ ได้ แต่เพราะคนสั่งไม่ใช่คนสู้จึงเกิดคำสั่งแปลกๆ แบบนี้ออกมา แล้วในตอนนี้หยางเฟยตายเขาก็ได้รับคำสั่งว่า ‘นำกองยาน 10 ล้านลำ บุกโจมตีกองยาน 1,000 ล้านลำ’
หยางเฟยพยายามบอกว่ามันเป็นไปได้ไม่ และเขาก็เสนอให้ป้องกันแทนโจมตี แต่คำตอบที่เขาได้รับก็คือ ‘ไม่ ถ้าคุณไม่ทำสภาจะปลดคุณออกจากตำแหน่ง และให้คนอื่นรับหน้าที่บุกแทนคุณ’ หยางเฟยไม่มีทางเลือก เขาก็เลยนำกองยาน 10 ล้านลำ บุกโจมตีกองยาน 1,000 ล้านลำ และผลที่ออกมามันก็แน่นอนอยู่แล้วกองยาน 10 ล้านลำ มันจะเอาชนะกองยาน 1,000 ล้านลำ ได้ยังไง
ถ้ายานของอารยธรรมระดับ 4 สู้กับกองยานอารยธรรมระดับ 1 ยังพอมีโอกาส แต่นี่คือกองยานอารยธรรมระดับ 4 สู้กับกองยานอารยธรรมระดับ 4 มองมุมไหนก็ไม่เห็นโอกาสชนะ
เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องตัวอย่างเท่านั้น มันยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่หยางเฟยเจอ บางครั้งอยู่ๆ สภาก็เรียกเขากลับดาวโลกเพื่อถามคำถามไร้สาระ เขาไม่อยากเจอเรื่องแบบชาติก่อนอีกแล้ว เขาเลยจะทำให้อารยธรรมของมนุษย์เป็นอารยธรรมที่มีระบอบปกครองแบบชนชั้น
[ติ้ง! รับทราบ]
อลิสรับคำสั่ง
หยางเฟยมองไปทางหุ่นยนต์ที่ทำงานอยู่ข้างๆ จากนั้นก็คิดในใจว่า
‘คงต้องเพิ่มพลังป้องกันให้พวกมัน ตอนนี้พวกมันอ่อนแอเกินไป’
เฉินเป่ามีพลังเทียบเท่าจอมเวทย์ระดับ 0.7 เท่านั้น แต่เขากลับสามารถทำลายหุ่นยนต์พวกนี้ได้ง่ายๆ หยางเฟยเลยคิดว่าควรจะเพิ่มพลังป้องกันให้พวกหุ่นยนต์
….
ณ ห้องประชุมแห่งหนึ่ง
ประธานของบริษัทยาระดับโลกกำลังนั่งรวมกันอยู่ในห้อง
“ยาคืนสภาพร่างกายคือยาที่จะปฏิวัติวงการยาทั้งหมด เมื่อยาคืนสภาพร่างกายเข้าสู่ตลาดยาทั้งหมดก็จะขายไม่ออกทันที และหมอก็จะตกงาน ยาคืนสภาพร่างกายไม่ควรมีอยู่บนโลก เราต้องทำลายวิธีสร้างมันซะ”
ประธานบริษัทยาคนหนึ่งพูด บริษัทของเขามีรายได้จากการขายยาปีละ 10,000 ล้านหยวน ถ้าเขายอมให้ยาคืนสภาพร่างกายเข้าสู่ตลาด รายได้ของเขาก็จะลดลงมาก จากรายได้ปีละ 10,000 ล้านหยวน คงเหลือประมาณปีละ 1,000 ล้านหยวน เพราะไม่ต้องการเสียผลประโยชน์เขาเลยเสนอให้ทำลายวิธีสร้างยาคืนสภาพร่างกาย
“ฉันเห็นด้วย”
“ฉันก็เห็นด้วย”
“เห็นด้วยเหมือนกัน”
ประธานบริษัทยาคนอื่นๆ เห็นด้วย
แต่ความคิดจริงๆ ของพวกเขาไม่ใช่ พวกเขาแต่ละคนไม่ใช่คนโง่ พวกเขาต่างก็คิดว่าตัวเองจะเสนอราคาสูงสุดเพื่อให้ตัวเองได้วิธีสร้างยาคืนสภาพร่างกาย ถ้าพวกเขามีวิธีสร้างยาคืนสภาพร่างกาย พวกเขาก็จะกลายเป็นอันดับ 1 ในอุตสหกรรมยา ใครๆ ก็อยากเป็นอันดับ 1 เมื่อโอกาสขึ้นเป็นอันดับ 1 อยู่ตรงหน้าของพวกเขา พวกเขาจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
ในห้องประชุมนี้ คนที่คิดว่าควรทำลายวิธีสร้างยาคืนสภาพร่างกายมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น คนคนนั้นก็คือ ประธานที่พูดออกมาคนแรก ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็อยากได้วิธีสร้างยาคืนสภาพร่างกาย
จากนักเขียน. เวลา 20.01 น. ตอนที่แล้วได้คอมเมนต์ 9 เอง ขาดอีก 1 เอง เพราะไม่ได้ตามเป้าตอนนี้เลยเป็นตอนสุดท้ายของวันนี้ ^_^