ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 20 ผมทำอะไรผิด???
ตอนที่ 20 ผมทำอะไรผิด???
ณ สุสานแม่ของหยางเฟย
“นี่มันตัวอะไร???”
เฉินเป่ามองซากหุ่นยนต์ด้านหน้าด้วยแววตาสงสัย เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านหน้าของเขาคือซากของหุ่นยนต์ แต่ว่า ในความทรงจำของเฉินเป่าหุ่นยนต์มันเป็นเพียงแค่เศษเหล็กโง่ๆ เท่านั้น มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสละแบบหุ่นยนต์พวกนี้ มันไม่สามารถพูดได้แบบหุ่นยนต์พวกนี้ แต่เฉินเป่าก็ไม่คิดอะไรมากเพราะว่าเขาสามารถจัดการพวกมันได้ง่ายๆ เขาเลยประเมินว่าพวกมันไม่น่ากลัว
“ขุดสิ”
เฉินเป่ามองไปทางกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเขา คนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็คือคนของตระกูลหยาง
“ครับ!!”
คนของตระกูลหยางตอบพร้อมกัน จากนั้นก็วิ่งไปที่หลุมฝังศพที่มีคำว่า ‘หยางหลิง’ เขียนเอาไว้อยู่ เมื่อถึงหลุมศพพวกเขาก็เริ่มขุดกันทันที
เฉินเป่ามองภาพด้านหน้าด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ก่อนจะมาที่นี่คนตระกูลหยางบอกเขาว่าที่สุสานมียอดฝีมือ 5 คน เฝ้าอยู่ แต่ยอดฝีมือที่ว่าดันเป็นแค่หุ่นยนต์ที่อ่อนแอ ก่อนจะมาที่นี้เฉินเป่าหวังเอาไว้ว่าเขาน่าจะได้สู้แบบจริงๆจังๆ แต่ความจริงมันแตกต่างจากสิ่งที่เขาหวังเอาไว้ หุ่นยนต์ 5 ตัวโดนเขาทำลายง่ายๆ การต่อสู้ครั้งนี้มันง่ายเกินไป ง่ายจนน่าเบื่อ
“หยุด!!”
เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลังของเฉินเป่า หลังจากได้ยินเสียงเฉินเป่าก็หันมองไปทางด้านหลังทันที เมื่อหันมองไปที่ด้านหลังของตัวเองเขาก็พบว่ามีคนสวมชุดสีดำจำนวน 20 คน กำลังเล็งปืนตรงมาที่เขา เฉินเป่าไม่แสดงท่าทางหวาดกลัวอะไร เขาคือผู้บ่มเพาะระดับปฐพี ปืนพกพวกนี้ไม่สามารถทำอะไรเขาไม่ได้
คนของตระกูลหยางที่กำลังขุดหลุมศพอยู่ต่างก็หยุดมือ พวกเขาต่างก็มองไปที่ปืนในมือของคน 20 คน ด้วยท่าทางเกร็งๆ พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาพวกเข้าไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ ถ้าพวกเขาโดนยิงพวกเขามีโอกาสตายสูงมาก พวกเขาเลยหยุดขุดและมองดูสถานการณ์
-----
จากนักเขียน!
มาทำความเข้าใจเรื่อง จอมเวทย์ กับ ผู้บ่มเพาะ กันสักหน่อย คือทั้ง 2 คำมันก็คือสิ่งเดียวกัน ในดาวดวงอื่นๆ จะเรียกคนที่มีพลังเวทย์ว่าจอมเวทย์ แต่ในดาวโลกจะเรียกผู้มีพลังเวทย์ว่า ผู้บ่มเพาะ
ผู้บ่มเพราะบนดาวโลกจะถูกแบ่งออกเป็นระดับ ระดับก่อเกิด จะมีพลังเวทย์ไม่เกินจอมเวทย์ระดับ 0.5 , ระดับปฐพี จะมีพลังเวทย์ไม่เกินจอมเวทย์ระดับ 1 , ระดับสวรรค์ จะไม่มีพลังเวทย์ไม่เกินจอมเวทย์ระดับ 2 , ระดับสวรรค์สูง จะมีพลังเวทย์ไม่เกินจอมเวทย์ระดับ 3
ตามข้อมูลที่ผมเขียนเอาไว้คือ ในตอนนี้ ระดับสวรรค์สูงคือระดับสูงสุดของผู้บ่มเพาะบนโลก และระดับสวรรค์สูงก็เป็นแค่จอมเวทย์ระดับ 2 เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่จอมเวทย์ระดับ 3 ที่ผมเขียนด้านบนผมใช้คำว่า ‘ไม่เกิน’ ไม่ใช่เท่ากัน
จริงๆ ก็นั่งสงสัยอยู่ว่าตัวผมจะแยก จอมเวทย์ กับ ผู้บ่มเพาะ เพื่อ??? แต่ก็เอาเถอะ มันมาขนาดนี้แล้วก็เอาให้มันสุดเลยแล้วกัน พอพ้นโลกไปแล้วผู้บ่มเพาะมันก็จะหายไปเอง
----
“พวกคุณคือหน่วยลับที่ทำงานให้รัฐบาลกลางไหม ถ้าใช่ก็เอาปืนลงเถอะ ผมคือผู้บ่มเพาะของตระกูลเฉิน ตระกูลเฉินของผมกับรัฐบาลกลางมีข้อตกลงกันอยู่ ข้อตกลงที่ว่าก็คือ รัฐบาลกลางจะไม่โจมตีคนตระกูลเฉิน คนตระกูลเฉินจะไม่โจมตีคนของรัฐบาลกลาง พวกเราไม่ใช่ศัตรูกัน”
เฉินเป่าอธิบาย
คนที่เป็นผู้นำหน่วยลับครั้งนี้ก็คือหลินหวาน หลังจากรู้ว่าอีกฝ่ายมาจากตระกูลเฉิน หลินหวานก็โบกมือของเธอลงและเก็บปืนของเธอ เมื่อเห็นหลินหวานเก็บปืน คนจากหน่วยลับก็พากันเก็บปืนตามหลินหวาน
“คุณเฉินคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณจะทำสงครามกับหยางเฟยงั้นเหรอ”
หลินหวานถาม
“สงคราม? หยางเฟย? คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่คุณเจ้าหน้าที่???”
เฉินเป่าสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่หญิงด้านหน้าของเขากำลังพูดเรื่องอะไร สงคราม! สงครามบ้าบออะไร เขาแค่รับงานกำจัดคนเฝ้าสุสานเองนะ ทำไมเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้ถึงกำลังพูดว่าเขาจะทำสงคราม แค่ขุดศพขึ้นมามันถึงขั้นเกิดสงครามเลยเหรอ อีกอย่าง หยางเฟยนี่มันเป็นใครหว่า?
“คุณเฉิน… ฉันคิดว่าตอนนี้คุณเจอปัญหาแล้ว”
หลินหวานแสดงสีหน้าจริงจัง
“ปัญหางั้นเหรอ ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะ… ไม่สิ! ผมทำผิดอยู่ ความผิดของผมคือพังหุ่นยนต์ของใครก็ไม่รู้ แต่นอกจากพังหุ่นยนต์ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วนะ หลุมศพที่พวกเรากำลังขุดอยู่คือหลุมศพของคนตระกูลหยาง คนที่จ้างให้ขุดขึ้นมาคือคนของตระกูลหยาง ผมทำอะไรผิด???”
เฉินเป่าถาม
“เฮ้อ~”
หลินหวานถอนหายใจ เธอเรียบเรียงคำพูดอยู่หลายวินาที จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องต่างๆ ให้เฉินเป่าฟัง และเนื่องจากเฉินเป่าไม่ใช่คนธรรมดา เธอเลยไม่ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น หลินหวานเริ่มเล่าตั้งแต่ความสัมพันธ์ของหยางเฟยและศพที่พวกเฉินเป่ากำลังขุด จนถึงเรื่องความสามารถต่างๆ ของหยางเฟย
“คุณพูดจริงงั้นเหรอ”
เฉินเป่าถาม ใบหน้าของเขายังคงเป็นใบหน้าปกติไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ค่ะ”
หลินหวานพยักหน้า
“ขอตัวสักครู่ ผมจะโทรถามคนในตระกะ-”
ก่อนที่เฉินเป่าจะพูดจบเขาก็สัมผัสได้ว่าอันตรายกำลังเข้าใกล้ร่างกายของเขา เขาหยุดพูดทันที จากนั้นก็กระโดดหลบไปทางขวา
ตูม!!!
จุดที่เฉินเป่ายืนอยู่โดนพลังไร้รูปร่างตกใจ
เมื่อหลบพ้นแล้วเฉินเป่าก็มองขึ้นไปบนฟ้า และทันทีที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่บนฟ้าใบหน้าของเขาก็ซีดขาวเหมือนไก่ต้ม
‘ระ ระดับสวรรค์สูง!!’
เฉินเป่าสามารถบอกระดับของคนที่ลอยอยู่บนฟ้าได้ทันทีที่เห็น เหตุผลที่เขาบอกได้ทันทีก็เพราะว่า คนที่สามารถลอยอยู่บนฟ้าได้นั้นต้องเป็นผู้บ่มเพาะระดับสวรรค์สูง หรือไม่ก็สูงกว่า
คนที่ลอยอยู่บนฟ้าตอนนี้ก็คือหยางเฟย หลังจากที่เขารู้ว่าสุสานโดนโจมตีเขาก็เร่งการฝึกเวทย์ให้เร็วขึ้น และในที่สุดเขาก็กลายเป็นจอมเวทย์ระดับ 2