ย้อนเวลาเขย่าจักรวาล 2005 ตอนที่ 19 ไม่มีมณฑลนี้
ตอนที่ 19 ไม่มีมณฑลนี้
“รัฐบาลกลางต้องการอะไร?”
หยางเฟยถามตรงๆ หลังจากที่เห็นหลินหวาน
“รัฐบาลกลางต้องการร่วมมือกับคุณ”
หลินหวานตอบตรงๆ เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังเป้าหมายของตัวเอง
หลังจากที่หลินหวานรายงานเรื่องหุ่นยนต์ของหยางเฟย หัวหน้าของเธอก็สั่งเธอว่า ‘เธอได้รับหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างหยางเฟย และรัฐบาลกลาง ถ้าทำได้ดีเธอจะได้ตำแหน่งคืน’ เมื่อได้รับคำสั่งหลินหวานก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเล เรื่องที่เกิดขึ้นคือเหตุผลที่เธอกลับมายืนต่อหน้าหยางเฟยอีกครั้ง
“ร่วมมือ ร่วมมือยังไง”
หยางเฟยถาม
“รัฐบาลกลางจะจัดพื้นที่ให้คุณ คุณสามารถเลือกเกาะที่อยู่ในอำนาจของประเทศจีนได้ 1 เกาะ หลังจากเลือกแล้วเกาะนั่นจะกลายเป็นของคุณ คุณจะทำอะไรที่นั่นก็ได้ และทางรัฐบาลกลางจะให้ทหารเรือปกป้องเกาะเอาไว้ จะไม่มีใครเข้าไปในอาณาเขตของคุณ”
หลินหวานพูด
“เป็นข้อเสนอที่ดี แต่! ดีสำหรับรัฐบาลกลางไม่ใช่ผม ให้เกาะงั้นเหรอ!? พูดซะพวกตัวเองเป็นพวกใจดีเลย เหตุผลที่ให้เกาะผมก็คงเพราะต้องการแยกผมออกจากคนจำนวนมาก วันไหนรัฐบาลกลางอยากกำจัดผมก็แค่ส่งนิวเคลียร์ไปบึม ส่วนเรื่องกองทัพเรือปากบอกว่าปกป้องแต่จริงๆ แล้วมันคงไม่ใช่ หน้าที่จริงๆ ของกองทัพเรือคงเป็นเฝ้าระวัง ไม่ใช่ปกป้อง เหอ! ไม่มีข้อเสนอที่จริงใจเลยสักข้อ”
หยางเฟยพูด ท่าทางของเขายังเป็นปกติ ไม่ได้แสดงความโกรธหรืออาการไม่พอใจออกมา
“คุณเข้าใจผิดแล้วคุณหยาง รัฐบาลกลางไม่ได้วางแผนฆ่าคุณ อีกอย่าง เรื่องกองทัพเรือคุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้พวกเขาอยู่ หรือให้พวกเขาไป พวกเขามีหน้าที่ปกป้องคุณไม่ใช่เฝ้าระวังคุณ”
หลินหวานอธิบาย ต้องรู้ก่อนว่า หลินหวานคนนี้คือคนที่เจรจาเก่งที่สุดในหน่วยลับของประเทศจีน เหตุผลที่เธอโดนส่งมาที่นี่ครั้งที่แล้วก็เพื่อเจรจากับหยางเฟย แต่เธอยังไม่ทันได้เริ่มเพื่อนของเธอก็ทำเสียเรื่องหมด เธอเลยไม่ได้แสดงความสามารถของเธอ
“เกาะไหนก็ได้ใช่ไหม?”
หยางเฟยถาม
“ใช่ค่ะ”
หลินหวานเริ่มมีความหวัง
“ผมต้องการเกาะฮ่องกง”
หยางเฟยพูดความต้องการของตัวเอง
“คือ…”
หลินหวานพูดไม่ออก เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ชายด้านหน้าของเธอจะข้อเกาะฮ่องกง ต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้คือปี 2005 เกาะฮ่องกงยังเป็นสถานที่ที่ถูกเรียกว่า ‘ศูนย์กลางทางการเงินฝั่งตะวันออก’ บนเกาะมีบริษัทมากมายตั้งอยู่ ถ้ารัฐบาลกลางประกาศยกเกาะฮ่องกงให้หยางเฟย มันคงมีเรื่องปวดหัวจำนวนมากตามมาแน่
หลินหวานส่ายหน้าของเธอ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“พวกระดับสูงของรัฐบาลกลางไม่ยอมรับข้อเรียกร้องนี้แน่ เปลี่ยนเป็นที่อื่นได้ไหมค่ะ”
“ไม่ยอมก็แปลว่าพวกเขากลับคำพูดของตัวเอง ผมไม่ร่วมมือกับพวกที่กลับคำพูดของตัวเอง ประตูอยู่ที่ด้านหลังของคุณ เชิญ! ผมไม่ส่ง!”
หยางเฟยพูดแบบไม่พอใจ ระหว่างพูดเขาก็ชี้ไปที่ประตูทางเข้าออก
“คุณหยางคุณสามารถขะ-”
“ประตูอยู่ทางนั้น”
ก่อนที่หลินหวานจะพูดจบ หยางเฟยก็พูดขัดขึ้นก่อน การพูดครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อครู่การพูดครั้งนี้คือน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
“…ค่ะ”
หลินหวานจำใจตอบ หลังจากได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของหยางเฟยเธอก็รู้ได้ทันทีว่าพูดอะไรต่อไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะในตอนนี้หยางเฟยไม่ต้องการเจรจากับเธอแล้ว
….
“ถอยไป ถ้าพวกแกไม่ถอยฉันจะชนพวกแก”
เมื่อหลินหวานออกมาจากบ้านของหยางเฟย เธอก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังตะโกนใส่พวกหุ่นยนต์อยู่ ทันทีที่เห็นหลินหวานก็รีบวิ่งไปทางชายที่กำลังตะโกนอยู่ทันที เธอรู้ดีว่าพวกหุ่นยนต์น่ากลัวขนาดไหน ถ้าชายคนนั้นทำให้พวกมันโกรธชายคนนั้นคงตายอย่างอนาถ
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
หลินหวานพูด
“เธอเป็นใคร?”
ชายที่ตะโกนอยู่ถาม ชายที่ตะโกนอยู่ตอนนี้ก็คือคนขับรถของ ซูหลิงหลิง และในตอนนี้ซูหลิงหลิงก็กำลังนั่งอยู่ในรถที่อยู่ด้านหลังของเขา
“ฉันเป็นตำรวจ”
หลินหวานแสดงบัตรตำรวจของเธอให้คนขับรถดู ในตอนนี้ หลินหวานรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีบัตรตำรวจหน่วยปราบปรามความไม่สงบ ถ้าเธอไม่มีบัตรตำรวจอยู่ในมือเรื่องคงวุ่นวายมาก
“พวกคุณทั้งหมดเป็นตำรวจเหรอ”
คนขับรถถาม
“จะคิดแบบนั้นก็ได้”
หลินหวานขี้เกียจอธิบาย
“ถึงพวกคุณจะเป็นตำรวจพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ บอกให้คนของคุณเปิดทางด้วย คนที่อยู่ในรถคือดาราดัง ซูหลิงหลิง ถ้าพวกคุณไม่เปิดทางให้พวกคุณงานเข้าแน่”
คนขับรถพูด
“เจ้าหน้าที่หลินหวานผมจะปล่อยให้คุณจัดการ ถ้าเขาพยายามเข้ามาอีกครั้งพวกเราคงต้องใช้วิธีรุนแรงเพื่อหยุดเขาเอาไว้ นายท่านของพวกเราไม่ชอบคนที่อยู่ในรถ ถ้าเธอเขามาในพื้นที่ของนายท่านโอกาสตายของเธอคือ 90.71%”
หุ่นยนต์ตัวที่อยู่ใกล้หลินหวานที่สุดพูด
หลังจากหุ่นยนต์พูดจบมันก็เดินออกไป หุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ก็เดินออกไปเช่นกัน หน้าที่ของพวกมันคือปกป้องทางเข้าออกบ้านเอาไว้ ถ้าหลินหวานไม่สามารถจัดการได้พวกมันก็จะใช้วิธีรุนแรงแบบที่พวกมันพูดจริงๆ พวกมันไม่ได้โกหก
“ฉันขอคุยกับซูหลิงหลิงได้ไหม ตอนนี้สถานการณ์มันซับซ้อนมาก ถ้าพวกเขาคุณไปในพื้นที่บ้านหลังนี้พวกคุณคงไม่ได้ออกมา”
หลินหวานพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
“ตาย?”
คนขับรถสงสัย พวกเขาแค่มาหาคนเองนะ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนี้พูดยังกับว่าพวกเขากำลังจะเข้าไปในสามเหลี่ยมทองคำ
“ใช่ ไปบอกให้ซูหลิงหลิงลงมา ฉันจะอธิบายให้เธอฟังว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง”
หลินหวานพูด
“อะ อ่า”
คนขับรถพยักหน้ารับ
ไม่นานนักซูหลิงหลิงก็ลงมาจากรถ เมื่อเดินมาถึงที่ด้านหน้าของหลินหวาน ซูหลิงหลิงก็พูดว่า
“ว่ามาสิ”
“ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกว่า คุณไม่ควรไปเจอหน้าหยางเฟย เขาไม่ใช่คนแบบที่คุณได้ยินมาเขาไม่ใช่แค่อัจฉริยะที่สามารถคิดค้นวิธีสร้างชิป 1 นาโนเมตร ได้ เขามีอะไรมากกว่าที่คุณรู้ ทางที่ดีคุณควรอยู่ให้ห่างๆ จากเขา ไม่สิ! ทางที่ดีคือตระกูลซูควรอยู่ให้ห่างๆ จากเขา ถ้าเขาโกรธขึ้นมาตระกูลซูของคุณคงเหลือแค่ชื่อ”
หลินหวานพูด
ซูหลิงหลิงแสยะยิ้ม จากนั้นเธอก็พูดว่า
“ขอบคุณ แต่ช่วยหลีกทางไปด้วย ฉันไปจะเจอลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“เฮ้อ~ คุณซูหลิงหลิงถ้าคุณเข้าไปคุณตายแน่”
หลินหวานหมดความอดทนแล้ว เธอจะเตือนอีกแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ถ้าครั้งนี้ไม่ฟังเธอก็จะปล่อยให้ซูหลิงหลิงเข้าไป เธอหมดความอดทนแล้ว
กริ่ง!!! กริ่ง!!! กริ่ง!!!
ในระหว่างที่ซูหลิงหลิงกำลังจะบอกให้หลินหวานหลีกทางอีกครั้ง มือถือของซูหลิงหลิงดังขึ้น
“ขอเวลาสักครู่”
ซูหลิงหลิงพูดกับหลินหวานขณะหยิบมือถือ
“ค่ะ”
หลินหวานพยักหน้า
ซูหลิงหลิงเดินออกห่างจากหลินหวานประมาณ 3 เมตร จากนั้นก็กดรับสาย
“หลานอยู่ไหน!?!?!?”
“ใจเย็นค่ะคุณปู่ ตอนนี้หนูหน้าบ้านของลูกชายป้าฮวา หนูกำลังจะเข้าไปหาลูกพี่ลูกน้องของหนู หนูได้ยินมาว่าคนที่คิดค้นวิธีสร้างชิป 1 นาโนเมตร คือลูกชายของป้าฮวา ถ้าเราเอาเขาเข้าตระกูลซูได้ตระกูลซูของพวกเราก็จะยะ-”
“เรื่องมันไม่ง่ายแบบที่หลานคิด เด็กที่ชื่อหยางเฟยนั่นคือเด็กที่โดนตระกูลของเราทอดทิ้ง ตระกูลซูของเราไม่เคยดูแลเด็กนั่นเลย ถ้าหลานไปบอกว่าเขาคือลูกหลานของตระกูลซู หลานคิดว่าเขาจะยอมเข้าร่วมกับพวกเราเหรอ อีกอย่าง มีคนรายงานว่าแก๊งฉลามที่มีเรื่องกับเด็กนั่นโดนฆ่าตายทั้งหมด และตระกูลถังที่มีเรื่องกับเด็กนั่นก็โดนเผาบ้าน เด็กนั่นมีกองกำลังที่น่ากลัวมากๆ อยู่เบื้องหลัง ตอนนี้หลานไม่ควรไปเจอเด็กคนนั้น กลับมาก่อน ถ้าเราจะเข้าหาเด็กคนนั้นเราต้องมีแผน”
“…ค่ะ”
ซูหลิงหลิงตอบรับ หลังจากนั้นเธอก็วางสาย
‘จะบ้าตาย!! ตระกูลซูร่ำรวยมหาศาลเลี้ยงเด็กคนเดียวมันลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมต้องทอดทิ้งเขาด้วย เฮ้อ~’
ซูหลิงหลิงรู้สึกหัวเสีย ตอนนี้สิ่งที่เธอคิดไว้พังไม่เป็นท่า แผนที่เธอคิดเอาไว้จำนวนมากไร้ประโยชน์หมดแล้วตอนนี้เธอรู้สึกหัวเสียโครตๆ
“กลับ!!”
ซูหลิงหลิงออกคำสั่ง
“ครับ”
คนขับรถตอบ ถึงเขาจะสงสัยก็เถอะว่าทำไมอยู่ๆ ก็กลับ แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง
….
ภายในบ้านของหยางเฟย
[ติ้ง! ซูหลิงหลิงกลับไปแล้วค่ะ]
อลิสรายงาน
“อื้ม”
หยางเฟยตอบ จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกพลังเวทย์อีกครั้ง ตอนนี้เขายังไม่สนใจตระกูลซูเท่าไหร่นักเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตามหาความจริง ตอนนี้เขาจะปล่อยพวกตระกูลซูไปก่อน
‘เราใกล้จะเป็นจอมเวทย์ระดับ 2 แล้ว ร่างกายนี้มันดีจริงๆ’
หยางเฟยคิดไปยิ้มไป
….
…..
……
10 ชั่วโมงต่อมา
[ติ้ง! หุ่นยนต์ที่เฝ้าสุสานโดนทำลาย]
ระหว่างที่หยางเฟยกำลังจะกลายเป็นจอมเวทย์ระดับ 2 อลิสก็แจ้งเตือน
“ห่ะ!?!?!?”
หยางเฟยอุทาน จากนั้นเขาก็ถามว่า
“โดนทำลายไปกี่ตัว”
[ติ้ง! ทั้งหมด หุ่นยนต์ 7 ตัว โดนคนคนเดียวจัดการ คนที่จัดการพวกหุ่นยนต์ชื่อว่า เฉินเป่า เขาคือผู้บ่มเพาะระดับปฐพี ถ้าเทียบเป็นจอมเวทย์เขาก็คือจอมเวทย์ระดับ 0.7 ให้ส่งหุ่นยนต์ไปที่นั่นเพิ่มไหม]
อลิสรายงาน
“ติดต่อหลินหวาน บอกให้เธอปกป้องสุสานแม่ของฉันเอาไว้จนกว่าฉันจะไปถึง แล้วก็บอกเธอด้วยว่า ไม่มีสุสานไม่มีมณฑลนี้!!”
หยางเฟยออกคำสั่ง