ตอนที่ 32 คนแปลกๆ
ทั้งสามไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างทาง จางเยว่เจินไม่ตั้งใจจะบอกเฉินเฟยมากกว่านี้ ส่วนเฉินเฟยไม่คิดถามเช่นกัน
“ออกจากศูนย์การแพทย์ดีไหม?”
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ แต่เฉินเฟยปัดมันทิ้งทันที ตอนนี้เฉินเฟยถูกประทับตราด้วยเครื่องหมายของตระกูลจาง คิดว่าหลังจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วจะได้ออกไปอย่างปลอดภัยหรือ?
เว้นแต่ว่าเฉินเฟยจะออกจากอำเภอผิงหยิน ไม่อย่างนั้นการฉีกหน้าตระกูลจางแบบนี้จะทำให้มีแต่ปัญหามากขึ้น ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนใบหน้าแล้วอยู่ในอำเภอผิงหยินต่อไป
เฉินเฟยสามารถพึ่งพาตัวเองได้อยู่แล้วเพราะมีการหลอมโอสถ แต่หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะได้รับตำราวิชา
ตำราวิชาไม่สมบูรณ์ที่ได้จากตลาดมืดเชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย
เฉินเฟยตั้งความหวังกับพลังกระบี่ฟ้าคำรามไว้สูง ก่อนหน้านี้คิดว่าตำราสิบกว่าเล่มนั้นน่าจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่หลังจากอ่านตำราสิบกว่าเล่ม ระบบกลับไม่ยอมรับแม้แต่เล่มเดียว มันไม่ตรงตามเงื่อนไขพื้นฐานในการทำเป็นแบบง่ายด้วยซ้ำ
อาจพูดได้ว่าก่อนหน้านี้เฉินเฟยโชคดีมากที่ได้รับเซียนชี้นำ
แต่โชคไม่ได้ติดตามเขาตลอดไป
สำหรับการออกจากอำเภอผิงหยิน ตอนนี้กองทัพกบฏกำลังอาละวาดอยู่ข้างนอก และไม่รู้ว่าเป็นเพราะสวรรค์พิโรธหรือความคับข้องใจของผู้คนที่ทำให้สิ่งแปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้น
ทุกวันนี้กลุ่มพ่อค้าที่เคยพบเห็นบ่อยครั้งในอดีตเดินทางมาอำเภอผิงหยินน้อยลงมาก
ด้วยความไม่คุ้นเคยกับโลกภายนอกและยังแข็งแกร่งไม่พอ เฉินเฟยจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรไปที่ไหน
“ลองดูไปก่อน”
เฉินเฟยชำเลืองมองจางเยว่เจิน วันนี้ตระกูลจางเรียกตัวนางอย่างกะทันหันและนางไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรเหมือนกัน นี่จึงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ดังนั้นเฉินเฟยจึงต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย
ในเวลาไม่ถึงก้านธูป ทั้งสามมาถึงคฤหาสน์ตระกูลจาง เดินเข้าทางประตูเล็กมาถึงห้องโถง
ในขณะนี้มีคนจำนวนมากยืนอยู่ในห้องโถง เฉินเฟยยืนอยู่ด้านหลังและจางเยว่เจินยืนอยู่ตรงกลาง สิ่งนี้ทำให้เห็นแล้วว่าเฉินเฟยอยู่ในตำแหน่งไหนในตระกูลจาง
“มากันเกือบครบทุกคนแล้ว”
จางถิงผู้อาวุโสตระกูลจางมองผู้คนที่อยู่ตรงนั้นและพูดด้วยเสียงทุ้ม “ข้าจะไม่พูดเรื่องเล็กน้อยไปมากกว่านี้ วันนี้ข้าเรียกรวมตัวด้วยเรื่องเดียวเท่านั้น จับหรือฆ่าซุนซู่!”
ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินประโยคนี้ วันนี้หลายคนถูกเรียกตัวมาแต่มันกลับเป็นเรื่องของซุนซู่ คนมากมายคิดว่าซุนซู่ออกจากอำเภอผิงหยินไปแล้ว
“อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ! ใครทำได้จะได้รับรางวัลจากตระกูลจาง!”
เสียงยืนยันของจางถิงดังก้องไปทั่วห้องโถง ถ้าใครจับตัวหรือฆ่าซุนซู่ได้ตระกูลจางจะมอบสิ่งดีๆให้ ไม่อย่างนั้นการโน้มน้าวผู้คนจะเป็นไปได้ยาก
ผ่านไปหนึ่งเค่อ ฝูงชนต่างแยกย้ายกันไป เฉินเฟยและคนอื่นมาที่ลานบ้านจางซือหนาน
“อย่างที่ท่านพ่อพูดไป หากพวกเจ้าฆ่าซูนซู่ได้ตระกูลจางจะไม่ทำให้ผิดหวัง” จางซือหนานยกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม
“ซุนซู่ออกจากอำเภอผิงหยินแล้วไม่ใช่หรือ ทำไม...” เจิงเต๋อฟางสงสัย
“มีบางเรื่องที่ข้าอธิบายรายละเอียดไม่ได้ หวังว่าท่านเจิงจะให้อภัย”
“ไม่กล้าไม่กล้า” เจิงเต๋อฟางโบกมือปัดอย่างรวดเร็ว
“ถ้าซูนซู่ปรากฎตัว ข้าจะฆ่ามันด้วยตัวเอง!”
จางเยว่เจินหรี่ตาลงเล็กน้อย นางตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ตอนนี้สถานะของนางในตระกูลจางยังค่อนข้างน่าอายอยู่เล็กน้อยเพราะนางมาที่นี่เพื่อลี้ภัย
หากฆ่าซุนซู่หรือจับเขาได้ ตำแหน่งของนางในตระกูลจางจะมั่นคงขึ้น
“ตอนนี้ซุนซู่กลายเป็นหนูข้างถนนแล้ว เขาจะกล้าปรากฏตัวได้ยังไง”
จางซือหนานส่ายหัว ซุนซู่อยู่ในระดับหลอมกระดูก แม้ว่าเขาจะไม่เลวแต่ตระกูลจางยังสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ จนถึงตอนนี้ยังไม่เจอคน อีกฝ่ายย่อมซ่อนตัวในที่มืด
เมื่อวานตระกูลจางสูญเสียทายาทสายตรงไปสองคน ไม่อย่างนั้นตระกูลจางคงไม่โกรธขนาดนี้
เฉินเฟยไม่พูดอะไรและยืนฟังอยู่เงียบๆ เรื่องนี้น่าดึงดูดมาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเฉินเฟยในตอนนี้ดูแล้วคงฆ่าซุนซู่ไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้วต่อให้เฉินเฟยมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเขาอาจทำชุดแต่งงานให้คนอื่นใส่
ครู่ต่อมาทุกคนออกจากลานบ้านจางซือหนาน ในระหว่างทางกลับเจิงเต๋อฟางตบไหล่ปลอบใจเฉินเฟย เขารู้ว่าตระกูลจางไม่ได้มอบสูตรโอสถจิตเบาให้เฉินเฟย
เรื่องนี้ค่อนข้างไม่ยุติธรรม แต่แม้ว่าเจิงเต๋อฟางจะเป็นนักหลอมโอสถเก่า แต่เขาไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนการตัดสินใจของตระกูลจาง ท้ายที่สุดแล้วตราบใดที่ไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลจาง พวกเขาล้วนเป็นเพียงคนรับใช้ในสายตาของตระกูลจาง
เฉินเฟยยิ้มและกล่าวลา
รางวัลที่ตระกูลจางมอบให้แพร่กระจายไปทั่วอำเภอผิงหยินอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ตระกูลจางเคยเสนอรางวัลซุนซู่เหมือนกันแต่มันไม่ได้ผล แต่ครั้งนี้ตระกูลจางเอาจริงโดยเสนอรางวัลที่สูงมากและยังให้ผลประโยชน์อื่นๆ
หากไม่ใช่คนของตระกูลจางที่พบซุนซู่ พวกเขาจะไม่ได้รับเงินอย่างเดียว แต่ยังได้เข้าร่วมตระกูลจางและได้รับประกันความปลอดภัยเป็นการส่วนตัว
สำหรับคนธรรมดา สิ่งล่อใจนี้มีผลอย่างไม่ต้องสงสัย
...
ค่ายผู้ลี้ภัยเป่ยเฉิง
เมื่อเทียบกับที่อื่น นอกจากจะดูไม่สะอาดแล้วระบบระเบียบที่นี่ยังดูวุ่นวาย
โจวฉือเหลือบมองร่างที่อยู่ใต้กำแพงลานเป็นครั้งคราว คนคนนี้เพิ่งมาเมื่อสองสามวันก่อน เขาไม่เห็นอีกฝ่ายออกไปทำงานหรือกินข้าวราวกับจะอยู่นิ่งๆเท่านั้น
โจวฉือไม่ใส่ใจนักเพราะในค่ายผู้ลี้ภัยมีคนแปลกๆแบบนี้อีกมาก แต่หลังจากตระกูลจางประกาศเรื่องรางวัล ความคิดของโจวฉือจึงเปลี่ยนไป
บางทีนี่อาจเป็นคนที่ตระกูลจางกำลังมองหา?
โจวฉืออดคิดแบบนี้ไม่ได้ แต่เขาไม่สามารถพิสูจน์ได้และไม่คิดว่าอีกฝ่ายคือซุนซู่เพราะเขาดูเป็นคนแปลกๆ
ตกค่ำ โจวฉือแทะซาลาเปาสีดำแข็งๆในมือ และด้วยเหตุผลบางอย่างคนที่เขาเห็นเมื่อตอนกลางวันก็ปรากฏขึ้นในความคิดเขา
โจวฉือคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเห็นโจวลี่ที่โตมาพร้อมกัน
“ไปรายงานเรื่องนี้ให้ตระกูลจาง?” โจวลี่มองโจวฉืออย่างแปลกใจ
“ข้าลองถามคนอื่นแล้ว คนคนนั้นแปลกจริง ปกติเขาไม่ค่อยออกไปทำงาน จะออกไปนานๆครั้ง ถ้าเขามีเงินแล้วจะมาอยู่กับเราทำไม” โจวฉือพูดเสียงเบา
โจวลี่ขมวดคิ้วและรู้สึกว่าสิ่งที่โจวฉือพูดมีเหตุผล แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือรางวัลที่ตระกูลจางมอบให้น่าดึงดูดใจเกินไป
ตราบเท่าที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็จะได้รับรางวัลมากมาย หรือแม้กระทั่งเข้าไปทำงานในร้านค้าของตระกูลจาง แม้ว่าตระกูลจางเพียงจะแสดงให้คนอื่นเห็น แต่พวกเขาน่าจะได้งานดีๆ
“ลองไปดูไหม?”
“แน่นอนว่าต้องลอง พวกเราไปด้วยกันเถอะ!”
โจวฉือยิ้มสดใส ตอนนี้พี่ชายของเขาทำงานเป็นคนรับใช้ในศูนย์การแพทย์ แม้จะมีอาหารและที่พักแต่เขายังลำบากในการเลี้ยงครอบครัว
ถ้าคนแปลกๆนั่นเป็นซุนซู่จริง ครอบครัวเขาจะได้ออกจากค่ายผู้ลี้ภัยและใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไป
“ไป!”
โจวลี่พยักหน้าและกำลังจะดึงโจวฉือไป แต่ทันใดนั้นพบว่าร่างโจวฉือแข็งทื่อ ดวงตาเขาจ้องมองอยู่ที่ด้านหลังตน
โจวลี่ตกใจมาก เมื่อหันกลับก็เห็นร่างหนึ่งยืนมองทั้งสองคนด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ได้ยินเจ้าพูดว่าจะไปตระกูลจาง ดูแล้วเรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับข้าสินะ”
ซุนซู่พูดด้วยรอยยิ้ม ฟันของเขาเป็นสีแดงสด ไม่รู้ว่าเขากินอะไรเข้าไป
“นี่...ตรงนี้มีคนอาศัยแล้ว หากเจ้าอยากอาศัยต้องไปที่อื่น” โจวลี่กลืนน้ำลายพูดเสียงดัง
“ไม่ต้องกลัว มันไม่เจ็บหรอก แค่ครั้งเดียวเท่านั้น!”
ซุนซู่ไม่ตอบคำพูดโจวลี่ ร่างเขาสั่นไหวมาอยู่ตรงหน้าโจวลี่จากนั้นใช้มือทั้งสองจับหัวโจวลี่ไว้