ตอนที่ 309 การทดสอบที่บ้าระห่ำ
ตอนที่ 309 การทดสอบที่บ้าระห่ำ
ปัจจุบันเซี่ยเฟยสวมชุดสูทสีดำใหม่เอี่ยมพร้อมกับยืนอยู่กลางห้องอย่างหมดหนทาง โดยเขาต้องยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่และต้องหมุนตัวไปหมุนตัวมาตามความต้องการของแอวริลและช่างตัดเสื้อ
“ข้อมือขวายาวไปหน่อยตัดสั้นลงอีก 0.5 เซนติเมตร, ขากางเกงก็กว้างไปหน่อยต้องตัดให้มันแคบลงกว่านี้…” แอวริลร่ายรายละเอียดที่เธอต้องการจะให้ช่างตัดเสื้อทำการแก้ไข ซึ่งช่างตัดเสื้อที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบจดบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำการแก้ไขชุดตามที่หญิงสาวสั่ง
“ชุดนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว ต่อไปเรามาลองชุดตอนกลางวันกันต่อนะ” แอวริลกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ชุดสูทชุดเดียวก็น่าจะพอแล้วนี่ ทำไมต้องแยกเป็นชุดกลางวันกับชุดกลางคืนด้วย?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ชุดที่เอาไว้ออกงานจะแบ่งออกเป็นชุดสำหรับตอนกลางวันกับชุดสำหรับตอนกลางคืน และฉันก็ได้สั่งตัดชุดเผื่อเอาไว้ทั้งชุดกลางวันและชุดกลางคืนอย่างละ 3 ชุด” แอวริลกล่าวพร้อมกับเดินไปหาเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม
คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะโดยปกติเขาจะสวมเสื้อผ้าอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชุด แต่การมาร่วมงานวันเกิดปู่ของแอวริลเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้เขาต้องตัดชุดเพิ่มถึง 6 ชุด และขั้นตอนในการตัดชุดก็ค่อนข้างที่จะยุ่งยากสำหรับเขามากเหลือเกิน
แต่เมื่อเซี่ยเฟยได้เห็นแอวริลที่กำลังมีความสุขมันก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ ท้ายที่สุดเขาก็รู้สึกอึดอัดเพียงแค่เล็กน้อยแต่ถ้าหากว่ามันทำให้ผู้หญิงที่เขารักมีความสุขได้เขาก็ยินดี
แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่เขาได้ลองชุดตอนกลางวันเรียบร้อยแล้ว แอวริลยังให้เขาลองทั้งหูกระต่าย, รองเท้า, นาฬิกาและอื่น ๆ อีกมากมายจนทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตาลายไปหมด
“นี่เธอกำลังจะเปิดร้านขายชุดหรือยังไง?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ทุกอย่างคือเสื้อผ้าที่นายต้องใส่ ดังนั้นนายต้องลองพวกมันให้หมด” แอวริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คำอธิบายของแอวริลทำให้เซี่ยเฟยย่นหน้าผากลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะในตอนแรกเขาคิดว่าการใส่ชุดสูทเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าเขาได้สวมใส่ชุดทางการแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้เห็นแอวริลได้จัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ มันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าความรู้ในเรื่องนี้ของเขายังห่างจากเรื่องจริงไปอีกไกล
ทันใดนั้นเครื่องสื่อสารบนข้อมือของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เซี่ยเฟยจึงรีบวิ่งไปรับสายที่ระเบียงราวกับว่าเขากำลังหนีเอาชีวิตรอด
“แอวริลเตรียมชุดพวกนี้ให้นายเหรอ? แต่ผมนายมันขาวไปหน่อยนะ มันเลยทำให้นายดูแก่มากกว่าปกติ” ทูรามที่ปรากฏตัวขึ้นในหน้าจอสื่อสารกล่าวหลังจากที่เขาได้สำรวจเครื่องแต่งกายของเซี่ยเฟย
“ผมถามจริง ๆ เถอะการเข้าร่วมงานสังคมมันจำเป็นจะต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยเหรอครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างอ่อนใจ
“ไม่รู้สิ ปกติฉันก็แค่ใส่ชุดยูนิฟอร์มของสมาพันธ์ ฉันไม่เคยแต่งชุดอะไรแบบนั้นหรอก” ทูรามกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอยู่เล็กน้อย และชั่วครู่หนึ่งนั้นเขาก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาทูรามขึ้นมาไม่ได้
“ฉันมีข่าวมาแจ้งให้นายฟัง 2 เรื่อง นายอยากฟังข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อน?” ทูรามถาม
“ขอฟังข่าวดีก่อนแล้วกันครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ข่าวดีก็คือทางกองทัพได้ทดสอบอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จของนายแล้ว และ 3 จอมพลของกรมทหารก็มาชมการทดสอบในครั้งนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งแม้แต่จอมพลไทสันที่มีความเข้มงวดมากที่สุดก็ไม่ได้ตำหนิอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จจากบริษัทของนาย”
“แล้วข่าวร้ายล่ะครับ?”
“ข่าวร้ายก็คือไทสันคิดว่าบริษัทควอนตัมยังมีความแข็งแกร่งไม่มากพอที่จะจัดหาสินค้าให้กับทางกองทัพ พวกเขาเลยทดสอบอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จในสภาวะตึงเครียดระดับ 5” ทูรามกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
“ทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5? มันคืออะไรครับ?” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย
“ฉันรู้แค่เพียงว่าการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 เป็นการทดสอบระดับสูงสุดในกรมทหาร ซึ่งอุปกรณ์โดยทั่วไปไม่สามารถที่จะผ่านการทดสอบที่รุนแรงแบบนี้ได้เลย ฉันรู้แค่ว่าคนที่นั่นคิดว่าอุปกรณ์ของนายคงจะไม่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้ ดังนั้นนายก็ควรจะต้องเตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ”
“ขอบคุณครับที่มาแจ้งข่าว อันที่จริงมันก็มีคำสั่งซื้อถูกยื่นเข้ามาในบริษัทเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคุณไม่จำเป็นจะต้องกังวลว่าอุปกรณ์ของผมจะขายไม่ได้ ผมแค่เสียดายที่ไม่สามารถหาลูกค้าเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดในพันธมิตรอย่างกรมทหารได้เฉย ๆ ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง
“นายไม่จำเป็นจะต้องเสียใจไปหรอก ถ้าหากว่าแม้แต่จอมพลไทสันที่เป็นคนเข้มงวดในกฎของกองทัพมาโดยตลอดยังยอมให้สินค้าของนายได้รับการทดสอบแบบนี้ ก็ถือว่าเขาให้การยอมรับสินค้าของนายในระดับหนึ่งแล้ว แต่ท้ายที่สุดบริษัทควอนตัมของนายยังเล็กเกินไปและระยะเวลาทำการก็เพิ่งจะผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่กี่ปี ดังนั้นความน่าเชื่อถือของบริษัทนายจึงมีน้อยมากจนเกินไป”
“แต่ถ้าหากว่าบริษัทควอนตัมค่อย ๆ พัฒนาความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ในเวลานั้นมันก็ไม่สายที่บริษัทของนายจะเข้าไปเป็นซัพพลายเออร์ของทางกรมทหาร” ทูรามกล่าวปลอบใจ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้สร้างความเสียใจให้กับเขา
ความสุขระหว่างเขากับแอวริลมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ และมันก็เหลือเวลาอีกไม่นานก่อนที่เขาจะต้องออกเดินทางอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาจะต้องมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคดาวมฤตยูอันไกลโพ้น และในเขตทุ่งดาวแห่งความตายยังตกอยู่ในสภาพสงคราม มันจึงไม่มีใครรับประกันว่าหลังจากที่เขาเดินทางไปที่นั่นเขาจะได้พบเจอกับอะไร ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างที่เขาอยู่กับแอวริลเอาไว้ เพราะเมื่อเขาออกเดินทางเขาก็จะต้องเผชิญกับสภาวะตึงเครียดตลอดเวลา
นอกจากนี้ถึงแม้ว่าทางกองทัพจะไม่ได้ทำการสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมพลังชาร์จ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าองค์กรอื่น ๆ จะไม่ได้ทำการสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเสียหน่อย ดังนั้นอุปกรณ์ชนิดนี้ยังสามารถสร้างความร่ำรวยให้กับบริษัทควอนตัมได้ เพียงแต่มันไม่ได้มีป้ายประดับของการเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพในบริษัทของเขาเท่านั้น
“เซี่ยเฟยมาดูเสื้อตัวนี้หน่อยได้ไหม ฉันเปลี่ยนสีที่แขนเสื้อนิดหน่อย นายชอบสีของมันหรือเปล่า?” เสียงของแอวริลตะโกนดังขึ้นมาจากภายในห้อง
“ไอ้หนูฉันล่ะอิจฉานายจริง ๆ ที่มีแฟนคอยดูแลอย่างแอวริล เอาล่ะฉันไม่กวนนายแล้ว ถ้ามีข่าวอะไรฉันจะรีบติดต่อมาอีกครั้ง” ทูรามกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
เซี่ยเฟยเกาหนังศีรษะด้วยความลำบากใจ ก่อนที่เขาจะกล่าวลาทูรามและเดินกลับไปหาแอวริล
“เธอตัดสินใจได้เลย แบบไหนที่เธอชอบฉันก็ชอบแบบนั้นแหละ” เซี่ยเฟยกล่าวกับแอวริลด้วยรอยยิ้ม
—
ในห้องทดลองของกลุ่มทหาร
ปัจจุบันกำลังอยู่ในการทดสอบภายใต้สภาวะตึงเครียดระดับ 5 ซึ่งเป็นการตัดสินว่าบริษัทควอนตัมจะกลายเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของทางกองทัพหรือไม่
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะทำใจยอมรับได้ง่าย ๆ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ากองทัพคือผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดในพันธมิตร และตราบใดก็ตามที่บริษัทไหนสามารถกลายเป็นซัพพลายเออร์ของทางกองทัพได้ มันก็หมายความว่าบริษัทของพวกเขาจะสามารถทำเงินได้อย่างมากมายมหาศาล
นอกจากนี้ชื่อเสียงของการได้เป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะวัดมูลค่าเป็นเงินได้ เพราะการที่ใครสามารถกลายเป็นซัพพลายเออร์ของกองทัพได้สำเร็จ มันก็หมายความว่าทางกองทัพได้ให้การยอมรับบริษัทนั้น ๆ แล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจคืออะไร?
ความน่าเชื่อถือ!
ยกตัวอย่างผลประโยชน์จากการเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของทางกองทัพง่าย ๆ นั่นก็คือพวกเขาสามารถที่จะกู้ยืมเงินจากธนาคารได้อย่างไม่มีข้อจำกัด!
หากใครต้องการที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นองค์กรชั้นนำในพันธมิตร การผลิตสินค้าส่งให้ทางกองทัพก็ถือว่าเป็นทางลัดที่รวดเร็วที่สุด
แต่ทางลัดของบริษัทควอนตัมในครั้งนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่ามันคือการทดสอบที่ยากที่สุดของกรมทหาร!
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเลย์ตันจะเข้ามาในห้องทดลองทุกวันเพื่อสังเกตความคืบหน้าด้วยตาของตัวเอง และถึงแม้ว่าสัญชาตญาณของเขาจะบอกว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถช่วยปรับปรุงความแข็งแกร่งของกองทัพได้เป็นอย่างมาก แต่คำพูดของไทสันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงมาสังเกตการทดลองในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
“นายมาที่นี่อีกแล้วเหรอ?” วิลเลียมกล่าวถามด้วยรอยยิ้มขณะเดินเข้ามาจากทางด้านหลังอย่างเงียบ ๆ
“นายเองก็มาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” เลย์ตันกล่าวพร้อมกับเม้มริมฝีปาก
พวกเขาทั้งสองคนต่างก็มีความรู้สึกเหมือน ๆ กัน โดยพวกเขามีความเชื่อว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุคสมัย
“เครื่องที่เท่าไหร่แล้ว?” วิลเลียมกล่าวถามขึ้นมาเบา ๆ
“ตอนนี้ล้มเหลวไป 4 ตัวแล้ว เหลือแค่เพียงสองตัวสุดท้ายที่ต้องรอการทดสอบ” เลย์ตันกล่าว
***************