ตอนที่แล้วตอนที่ 1159 คนดี? กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ คุณเข้ามาทําอะไรที่ภูเขาลึกนี้?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1161 วางใจได้ มันจะจบลง ในไม่ช้า…

ตอนที่ 1160 พูดไร้สาระให้มันน้อยๆ ลงหน่อย!


ในเวลากลางคืน, ในป่าเขาอันเงียบสงบ..

มีตำรวจนายหนึ่งที่ได้นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น มองไปแล้วก็ไม่รู้ว่าเขา ..เป็น หรือตาย แต่ทันใดนั้น ศีรษะของเขาก็ได้ขยับอยู่ครู่หนึ่ง และจู่ๆ เขาก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา..

เขาเองมีสีหน้าเจ็บปวด และรู้สึกปวดแปล๊บๆ ที่ท้ายทอย เมื่อเขาเอื้อมมือไปสัมผัส ก็ได้เห็นว่ามีเลือดติดอยู่ที่มือของเขา

เขาเองนึกจําได้ว่า.. พวกเขา ได้เข้ามาในภูเขาแห่งนี้ก็เพื่อค้นหาผู้หลบหนี และก็ได้จับผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้ได้ระหว่างทาง หลัว หลี่ เองได้ทิ้งเขา และตํารวจอีกนายหนึ่งเอาไว้ ..เฝ้าดู ผู้ชายคนนั้น

แต่ฝ่ายผู้ชายคนนั้นกลับได้ใช้กลอุบายเข้าควบคุมตัวเพื่อนร่วมงานของเขาไว้ ระหว่างนั้นที่เขากำลังได้ใช้ปืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย จู่ๆ ก็ถูกอะไรบ้างอย่างกระแทกเข้าที่ท้ายทอย เมื่อนั้นดวงตาของเขาก็ได้มืดดับไปทั้งสองข้าง และก็ได้หมดสติลงไป

เมื่อเรียบเรียงทุกสิ่งอย่างได้ เขาก็ได้รีบเงยหน้าขึ้น และก็เห็นเพื่อนร่วมงานของเขาที่ได้นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เห็นเช่นนี้เขาจึงได้รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปตรวจดูสภาพของเพื่อนร่วมงาน.. ของเขา

เห็นแต่เพื่อนร่วมงานของเขาที่หัวแตกเช่นเดียวกัน ข้างๆ นั้นก็ได้มีก้อนหินก้อนหนึ่งตกอยู่ ส่วนด้านบนของก้อนหินก็ได้มีคราบเลือดติดอยู่ ที่นี่ก็แน่ชัดแล้วว่าพวกเขาได้ถูกใครก็ไม่รู้ปาก้อนหินเข้ามากระแทกศีรษะจนสลบ..

โชคดีที่เพื่อนร่วมงานของเขายังมีลมหายใจอยู่ และไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต เขาได้เขย่าตัวอีกฝ่ายอย่างแรงอยู่หลายครั้ง เพื่อปลุกเพื่อนร่วมงานของเขาให้ตื่นขึ้นมา

ตํารวจนายนั้นก็ได้ตื่นขึ้นมาในที่สุด และก็ได้เห็นเพื่อนร่วมงานของเขา แล้วเขาก็ได้พูดว่า : “หัวฉันปวดมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

ตํารวจอีกนาย กล่าวว่า : “เราถูกลอบโจมตี อีกฝ่ายได้เขวี้ยงปาก้อนหินใส่เราจนพวกเราสลบไป แล้วมีอย่างที่ไหนกัน หินก้อนเดียวก็ทำให้เราสลบได้ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทํา แต่ที่แน่ๆ มันแรงถึงขั้นนั้น ทั้งเราเองก็ยังไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครมาจากไหน!”

ตํารวจนายที่เพิ่งตื่นขึ้นมา ก็ได้พูดว่า : “..เป็นผู้หญิง”

ตำรวจอีกนาย กล่าวทันทีว่า : “อะไรนะ?”

ตํารวจนายที่เพิ่งตื่นขึ้นมา พูดว่า : “ตอนที่อยู่ดีๆ นายก็สลบไป ฉันเองได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมา แล้วจู่ๆ ฉันเองก็หมดสติลงไปด้วย นี่เห็นได้ชัดว่าคนที่ทําร้ายเราเป็นผู้หญิง..”

ตำรวจนายนั้นมีสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนที่จะมีสีหน้าตกใจขึ้นมา แล้วพูดว่า : “ผู้หญิง... หรือว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ทําร้าย เจ๊หลัว นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันเองก็คิดว่า เจ๊หลัว ก็เก่งมากแล้ว แล้วนี่ผู้หญิงคนนี้มาจากที่ไหนกัน ทั้งยังดูเก่งกว่าเจ๊แกอีก?”

ตำรวจนายที่เพิ่งตื่นมา ก็ได้พูดว่า : “ไม่มีอะไรให้น่าประหลาดใจหรอก นายเองไม่ได้ฟังที่ เจ๊หลัว แกพูดเหรอไงว่าพวกเค้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ดีที่รอดมา.. ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่าจะถูกฆ่าตายไปในคืนนี้แล้ว…”

“ผู้ฝึกยุทธ์…” ตํารวจอีกนายก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ก่อนที่เหมือนจะคิดอะไรได้ เมื่อนั้นเขาก็ได้โพล่งเสียงออกมาว่า : “จบแล้ว ผู้ชายคนนั้น!”

ทันใดนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขามีหน้าที่ต้องเฝ้าดูผู้ชายคนนั้น และตอนนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่าหมดสติกันไปนานแค่ไหน ส่วนผู้ชายคนนั้น ..ก็น่าจะหลบหนีไปนานแล้ว?

พวกเขาทั้งสองรีบลุกขึ้นทันที และเตรียมออกตามหา

อย่างไรก็ตาม.. ทันทีที่พวกเขาหันกลับไป ทั้งคู่ก็ต่างต้องตกใจในทันที

บนพื้นดินเบื้องหน้าของพวกเขา.. มีผู้ชายคนหนึ่งได้ล้มนอนจมกองเลือดอยู่ เป็นที่แน่ใจแล้วว่า.. เขาได้ตายไปแล้ว เพราะบริเวณตรงคอของเขาได้ถูกแทงจนเห็นเป็นรูเลือด ตาทั้งสองข้างก็ได้เบิกกว้าง เขาได้ตายตาไม่หลับ..

เมื่อพอเข้าไปสังเกตก็ได้เห็นว่ามีรูตามลำตัว และขาของเขา ลักษณะก่อนเสียชีวิตดูเหมือนจะถูกทรมานมาอย่างโหดเหี้ยม

มือของเขาก็ยังถูกใส่กุญแจมืออยู่ ..และนี่ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายที่พวกเขารับผิดชอบในการเฝ้าดู ..ไม่ใช่เหรอไง?

ผู้ชายคนนี้ ได้ใช้กลอุบายหลอกพวกเขา ทั้งยังจับหนึ่งในพวกเขาไว้ และพยายามคิดที่จะหลบหนี แต่ผลก็คือ...

ไม่ต้องถาม.. ต้องเป็นคนที่ใช้ก้อนหินขว้างปามาโดนพวกเขาจนสลบ ที่เป็นคนฆ่าผู้ชายคนนี้แน่ๆ ส่วนเหตุใดนั้น ..พวกเขาก็ไม่รู้แน่ชัด

ตำรวจทั้งสองนายได้อึ้งไปอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกขึ้นได้ว่า ต้องรีบแจ้งให้ เจ๊หลัว ได้ทราบโดยไว : “รีบแจ้งให้เจ๊หลัว ทราบเร็ว!”

พวกเขาจึงได้รีบโทรออกไปหา หลัว หลี่ : “พี่สาวหลัว ไม่ดีแล้ว ผู้ต้องสงสัยตอนนี้ได้ตายไปแล้ว!”

หลัว หลี่ รู้สึกประหลาดใจมาก : “หมายความว่าไง เกิดอะไรขึ้น?”

ตํารวจทั้งสองนายได้มองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะเล่าไปว่า : “เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…..”

พวกเขาทราบเพียงว่าเป็นผู้หญิงที่ได้ใช้ก้อนหินขว้างมาโดนพวกเขาจนสลบ และพวกเขาก็ไม่เห็นแม้แต่ร่างของผู้หญิงคนที่ว่านี้

ในขณะนี้ ผู้หญิงสาวทั้งสองคนที่ได้แต่งตัวแปลกประหลาด ก็ได้วิ่งไปอย่างรวดเร็วในค่ำคืนที่มืดมิดนี้

“ผู้ชายคนนั้นบอกว่าศิษย์พี่ได้วิ่งมาทางนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะจริงหรือเปล่า?” ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า ได้เอ่ยออกมา

ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า กล่าวว่า : “เขาในตอนนั้นก็กําลังจะตายอยู่แล้ว คงไม่กล้าที่จะโกหกเราหรอก”

ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า พูดว่า : “ศิษย์พี่หญิง แต่เราก็ไม่ควรฆ่าเขา น่าจะพาเขามาด้วย พอเจอศิษย์พี่ ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สายที่จะฆ่าเขา”

ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า พูดว่า : “พาเขาไปด้วย เราเองไม่เหนื่อยหรือยังไง มันจะเป็นการถ่วงเวลาของเรามากกว่า เลิกพูดได้แล้ว ยังไงก็ฆ่าไปแล้ว รีบไล่ตามศิษย์พี่ไปเถอะ ทั้งนี้ก็ดูเหมือนศิษย์พี่จะได้รับบาดเจ็บ ทั้งเขายังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนั้นก็ได้”

ปรากฎว่าพวกเธอได้ติดตามตํารวจไปตลอดทาง และเห็นตํารวจเข้าควบคุมผู้ชายคนนั้นได้ ก่อนที่กองกําลังตํารวจจะจากไป พวกเธอจึงได้เข้ามาลอบโจมตีตํารวจทั้งสองนายด้วยก้อนหิน และเข้าจับผู้ชายคนนั้นไว้…

ตำรวจทั้งสองนายพวกเธอไม่คิดที่จะทรมานอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่กับผู้ชายคนนั้น เพราะดูๆ ไปแล้วอีกฝ่ายก็น่าจะเป็นคนจากอีกกลุ่มหนึ่ง พวกเธอจึงได้เข้าทรมานผู้ชายคนนั้น และสุดท้ายก็ได้ถามจากผู้ชายคนนั้น จึงได้รู้ว่าก่อนที่ตำรวจจะมาถึง ศิษย์พี่ของพวกเธอได้กำลังต่อสู้กับผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า แล้ว ศิษย์พี่ของพวกเธอก็ได้วิ่งหลบหนีออกไป และตามมาด้วยผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ที่ได้วิ่งไล่ตามเขาไป..

พวกเธอในตอนนี้กลัวว่า ศิษย์พี่ จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนั้น จึงได้รีบวิ่งไล่ตามมา ก่อนจากไป หญิงสาวที่มีอายุมากกว่า ก็ได้ช่วยแทงเข้าไปที่คอของผู้ชายคนนั้น จนเสียชีวิต…

สําหรับพวกเธอแล้ว การจบชีวิตคนอื่นดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลนัก ยิ่งผู้ชายคนนั้นได้เห็นรูปร่างหน้าตาของพวกเธอแล้ว เช่นนั้นก็ยิ่งจําเป็นที่จะต้องฆ่าอีกฝ่าย

กลับเป็นตํารวจทั้งสองนายนั้น ที่พวกเธอไม่ได้คิดที่จะฆ่า เพราะตํารวจทั้งสองนายนั้นได้หมดสติลงไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ทันได้เห็นพวกเธอ..

หญิงสาวทั้งสองที่กําลังรีบไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระทบกัน ชิ้งงๆ มาจากเนินเขาด้านหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงของอาวุธที่ได้เข้าปะทะกัน

หญิงสาวทั้งสองคนได้แสดงสีหน้าดีใจออกมา : “ทางนั้น!”

พวกเธอจึงได้รีบไปดูทันที และก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่กําลังต่อสู้กับผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ทั้งคู่ได้ถือกริชอยู่ในมือ และกำลังเข้าต่อสู้กันไปมา

“ศิษย์พี่!”

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า ได้ร้องเรียกด้วยความประหลาดใจ

ในเวลานี้ ชายหนุ่ม ได้มีสีหน้าซีด และมีบาดแผลสดใหม่หลายแห่งอยู่บนร่างกายของเขา ทั้งไหล่ของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บจาก ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้ากากคนนี้ และเขาก็กําลังเสียเปรียบ

ทันใดที่ได้เห็นหญิงสาวทั้งสองคน ชายหนุ่ม ก็ได้ประหลาดใจมาก แต่ในเวลานี้มันก็ไม่ใช่เวลามาดีใจ เขาได้ตะโกนขึ้นทันทีว่า : “รีบมาช่วยฉันฆ่าผู้หญิงสารเลวนี้เร็ว!”

โดยไม่พูดอะไรออกมา หญิงสาวทั้งสองคน ก็ได้พากันหยิบกริชออกจากเอว แล้วกระโจนเข้าใส่ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าอย่างรวดเร็ว

ชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาทั้งสามคนก็ได้เข้าล้อม ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้

เดิมที ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ได้เปรียบ ชายหนุ่ม และสามารถจัดการกับชายหนุ่มคนนี้ได้ตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองคนนี้ได้เข้ามาร่วมวงด้วย สถานการณ์ในตอนนี้มันก็ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแล้ว และผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็กำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

หญิงสาวทั้งสองคนนี้เองก็ไม่ควรมองข้าม ทั้งสองดูเป็นหญิงสาวที่ดูออกจะน่ารัก แต่กลับลงมือได้อย่างรวดเร็ว รุนแรง การโจมตีแต่ละครั้งก็รวดเร็วจนเกือบทําให้ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ต้องยกอาวุธขึ้นมาป้องกันการโจมตีอย่างตื่นตกใจ..

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็ได้ขมวดคิ้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าคนที่จะหนีไปในครั้งนี้ก็คงจะเป็นเธอแล้ว

“ยัยผู้หญิงโสโครกนี่ ก่อนหน้านี้เธอคงภูมิใจมากสินะ แต่รออีกสักพัก.. ฉันจะเป็นคนฆ่าเธอเอง!” ชายหนุ่ม ได้ยกยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมา

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็ได้พูดอย่างเย็นชาไปว่า : “นายเองก็แค่ให้ผู้หญิงสองคนนี้เข้าช่วย อย่างว่า.. นายมันจะถือว่ามีความสามารถอะไร?”

ชายหนุ่ม ราวกับถูกเหยียบหาง เขาจึงได้โกรธปนอับอาย แล้วพูดไปว่า : “อีนังผู้หญิงโสโครกนี่ งั้นก็ตายไปซะ!”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็ได้พูดว่า : “ด้วยพวกคุณ? ยังจะฆ่าฉันในตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ พวกคุณบอกที่อยู่ของ เย่ เทียนอวี่ มาให้กับฉันดีกว่า แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกคุณ โดยไม่ให้ตาย!”

ชายหนุ่ม ได้ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า : “ขอไม่ปิดบัง ฉันเองก็ไม่รู้ว่า เย่ เทียนอวี่ อยู่ที่ไหน..”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าก็ได้พูดตะคอกกลับไปทันทีว่า : “พูดไร้สาระให้มันน้อยๆ ลงหน่อย!”

ชายหนุ่ม กล่าวว่า : “ฉันไม่ได้โกหกคุณ ตอนนี้ เย่ เทียนอวี่ น่าจะอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้นแล้ว!”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า พูดว่า : “นี่หมายความว่าไง ผู้ชายคนนั้น?”

ชายหนุ่ม กล่าวว่า : “เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาเก่งมาก ทั้งนี้ฉันเองยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทั้งคุณ ..ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเช่นกัน!”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า จะไปเชื่อเขาที่ไหน ..ที่นี่จะยังไปมีคนที่เก่งมากขนาดนี้ขึ้นมาอีกคนได้อย่างไร และต้องเป็น ชายหนุ่มคนนี้ ที่ต้องการหลอกเธอแน่ๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด