ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 682 ถอนรากถอนโคน (ฟรี)
ห่าฝนของอาวุธสะเทือนปฐพีมากมายได้กวาดล้างทุกอย่างให้จมลงสู่พื้นดิน
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อใด มันดังไปทั่วชั้นฟ้า ผืนดิน และใต้พิภพ
การรับการโจมตีจากพลังทำลายล้างของอาวุธสะเทือนปฐพีนั้นต้องใช้พลังภัยพิบัติอย่างมหาศาล และมีความแตกต่างกันในแต่ละอาวุธที่โจมตีเข้ามาอีกด้วย
ซู่เสี่ยวไป่นั้นใช้พลังสวรรค์ทั้งสามหมื่นเส้นทางที่มีบิดเบือนมิติและเวลาของจักรวรรดิสุขาวดีให้หายไปจากการโจมตีนี้ และยืนมองดูทุกอย่าง ด้วยสีหน้าที่ใจเย็น
อาวุธวิเศษมากมายกว่าแสนชิ้นถูกซัดออกไปด้วยพลังของเขา ซู่เสี่ยวไป่ต้องแบ่งพลังหลายส่วนเพื่อควบคุมมันทั้งหมด และเล็งไปที่จุดตายของจักรพรรดิหวู่ดา จากทุกทิศทาง
“ไม่ว่าแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน หรือมีพลังภัยพิบัติมากแค่ไหน หากไม่หลบการระเบิดจากอาวุธพวกนี้ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รอแกอยู่จักรพรรดิหวู่ดา!!”
แผนของซู่เสี่ยวไป่นั้นเรียบง่ายอย่างมาก นั่นคือทำยังไงก็ได้ให้พลังของอีกฝ่ายหมดลง ลดพลังของจักรพรรดิหวู่ดาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งจักรพรรดิหวู่ดาอ่อนแรงลงมากเท่าไรโอกาศชนะของเขาก็จะมากขึ้น
ในเมื่อเขานั้นไม่เคยเผชิญหน้ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ตรงๆ แบบนี้มาก่อน และเงาไม่อาจจะรับมือได้ ซู่เสี่ยวไป่จึงต้องลงมือเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก หากมองจากภายนอกราวกับพื้นที่ทั้งหมดกำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นนรกบนดิน
“นี้คือความแข็งแกร่งของนายท่านยังงั้นหรอ? …..นายท่านแข็งแกร่งขนาดที่สามารถต่อกรกับจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้ด้วยตัวคนเดียว!”
แววตาของเฉี่ยวเห้อนั้นมองดูซู่เสี่ยวไป่ด้วยตาที่เคารพและนับถือ หรือเรียกได้ว่าแทบจะบูชาเป็นเทพพระเจ้าของมัน และพูดกันตามตรงแม้แต่ตอนที่มันรับใช้จักรพรรดิปีศาจ มันยังไม่รู้สึกเคารพนับถือเท่านี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ในทางกลับกันซื่อหลิงนั้นกลับไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่านี้คือการต่อสู้ของเขตแดนภัยพิบัติจริงๆ งั้นหรอ เพราะมันแค่คอยสนับสนุนเงาของซู่เสี่ยวไป่มาตลอด ไม่เคยเห็นการต่อสู้จริงๆ ของพวกมัน
ซู่เสี่ยวไป่ทิ้งเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ไว้ในจักรวรรดิถึง 10 ตัว ตราบใดที่สนับสนุนเงายักษ์พวกนี้ ก็เป็นเรื่องยากที่จักรวรรดิระดับสูงจะบุกโจมตี
แม้ว่าจะเสียดินแดนบางส่วนไป แต่ไม่มีทางที่จักรวรรดิระดับสูงจะบุกยึดมาถึงชั้นในได้ และด้วยแผนการและกลศึกของซื่อหลิงทำให้เหล่าเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นแสดงพลังที่น่ากลัวออกมาได้ยิ่งขึ้น
“ถ้างั้นจนกว่านายท่านจะกลับมา พวกเราต้องปกป้องบ้านของท่านให้ดีที่สุด”
ซื่อหลิงนั้นสั่งการเงาอย่างช่ำชอง และรวบรวมข่าวสารข้อมูลต่างๆ จากพื้นที่ชายแดนอื่น เพื่อจะสนับสนุนเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรับมือกับการบุกของจักรวรรดิระดับสูงอื่น
หลังจากที่ได้รับข้อมูลมามากพอแล้ว ซื่อหลิงก็จะสรุปข้อมูลทั้งหมด และส่งให้เฉี่ยวเห้อเป็นคนรายงานต่อซู่เสี่ยวไป่
“นายท่าน เราไม่พบจุดอ่อนใดๆ ของจักรพรรดิหวู่ดาเลย แต่พวกเรายืนยันได้ว่าการโจมตีของนายท่านได้ผล”
“การทุ่มอาวุธวิเศษทั้งหมดของนายท่าน ได้ทำให้พลังงานต้นกำเนิดของจักรพรรดิหวู่ดาถูกทำลายไปเกือบหมด เขากำลังอ่อนกำลังลง”
“แล้วซื่อหลิงเอง ก็ค้นพบที่ตั้งของแหล่งต้นกำเนิดพลังภัยพิบัติของจักรพรรดิหวู่ดาแล้ว และกำลังส่งร่างแยกของนายท่านเข้าไปบุกทำลายมัน”
ด้วยข้อมูลพวกนี้ก็มากพอแล้วสำหรับซู่เสี่ยวไป่
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าเขาสามารถฆ่าจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขาต้องการที่จะถอนรากถอนโคนจักรพรรดิหวู่ดาไม่ให้มาเป็นสี้ยนหนามของเขาต่อไปในอนาคต
“เฉี่ยวเห้อ! ยกเลิกแผนทำลายแหล่งต้นกำเนิด และให้พวกมันกระจายตัวกันหาสมบัติ กวาดของล้ำค่าออกมาให้หมด แล้วค่อยโจมตี”
“นายท่าน จากข้อมูลที่หลิงซื่อส่งมา คลังสมบัติทั้งหมดมีถึงสิบสองแห่ง แต่ท่านมีร่างแยกแค่สิบร่าง”
ซู่เสี่ยวไป่กัดฟันแน่น
“งั้นเดียวข้าจะส่งร่างแยกไปเพิ่มให้อีกสองร่าง”
ซู่เสี่ยวไป่เตรียมตัวที่จะส่งเงายักษ์เทพ กับเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ไปสนับสนุน
ตอนนี้เขากำลังอยู่ในการต่อสู้ ซึ่งตัวเขาเองไม่สามารถที่จะวอกแวกได้ หรือสนใจเงาได้ ปกติระบบจะเป็นคนช่วยสนับสนุน และสั่งงานเงาแทน แต่มันก็ทำได้เพียงแค่คำสั่งที่ง่ายๆ มันไม่สามารถทะลวงคลังสมบัติได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีซู่เสี่ยวไป่คอยนำทาง
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากมังกรทั้งสอง ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ลดภาระในการควบคุมเงาลงไป และทำให้การบุกโจมตีจักรวรรดิและคลังสมบัติได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่จำเป็นต้องเพิ่มระดับระบบอีกครั้ง เพราะงั้นเขาถึงต้องการผลึกต้นกำเนิดจำนวนมากอย่างน้อยๆ ก็ห้าพันล้านก้อน แต่ถึงจะได้มาและรวมกับที่มีอยู่ในมือตอนนี้ก็ยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ
การโจมตีจากอาวุธวิเศษยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นสิบๆ รอบ
จักรพรรดิหวู่ดาเองเป็นผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียงเป็นหนึ่งในจ้าวภัยพิบัติสิบอันดับแรก มีประสบการณ์ต่อสู้ที่โชกโชน แม้ว่าสิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ใช้กับเขานั้นยากที่จะรับมือ แต่มันก็ยังทำให้เขาบาดเจ็บตรงๆ ไม่ได้
ถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายเพื่อรับการโจมตีจากอาวุธสะเทือนปฐพีมากถึง 9 ใน 10 ส่วน
อย่างที่รู้กันว่าเขาอยู่ในอาณาเขตของเขา และต้นกำเนิดพลังได้เชื่อมเข้ากับร่างของจักรพรรดิหวู่ดาโดยตรง เพราะงั้นเขาจะทรงพลังสุดๆ และมีพลังภัยพิบัติสำรองมากพอ
แต่เขาไม่คิดว่าการโจมตีจากอาวุธสะเทือนปฐพีเหล่านี้จะรุนแรง และทรงพลังจนเขาต้องใช้พลังเกือบทั้งหมดเพื่อรับการโจมตีเอาไว้
“พลังจากอาวุธที่มันยิงออกมามีการปรับเปลี่ยน และควบคุมจุดปะทะตลอด มันไม่รู้ตัวรึไงว่าการทำเช่นนี้ก็สิ้นเปลืองพลังภัยพิบัติเหมือนกัน!”
การที่จะควบคุมอาวุธแต่ละชิ้นนั้นจำเป็นต้องมีพลังมหาศาล แต่ไป่หยินผู้นี้ควบคุมอาวุธนับแสน และเสริมด้วยพลังสวรรค์ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องสิ้นเปลืองพลังขนาดไหน
แต่แล้วระลอกโจมตีของอาวุธวิเศษรอบที่สิบเอ็ดก็ตกลงมาอีกครั้ง และรอบที่สิบสองก็ตามมาอย่างต่อเนื่อง
“ก็ถ้า..สิ่งนี้มันฆ่าแกไม่ได้ งั้นก็เจอไอ้นี่!”
ซู่เสี่ยวไป่ยกมือขึ้นก่อนที่จะเรียกเงาออกมานับล้านร่าง ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปราวกับห่าฝน พร้อมกับระเบิดพลีชีพตัวเอง
ตูม!!ตูม!!ตูม!!ตูม!!ตูม!!
เมฆรูปเห็ดมากมายผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แรงระเบิดจากร่างเงาสองร่างนั้นสร้างความเสียหายให้จ้าวภัยพิบัติขั้นสิบได้แค่ 1 ในล้านส่วนเท่านั้น
แต่อย่าลืมว่าร่างเงาของซู่เสี่ยวไปเองก็มีเป็นล้านร่างเหมือนกัน ซึ่งมันมากพอที่จะให้จักรพรรดิหวู่ดานั้นหวาดกลัว
มันได้กลายเป็นอีกหนึ่งฉากการทำลายล้างที่น่ากลัวไม่แพ้กัน และจักรพรรดิหวู่ดาต้องใช้พลังภัยพิบัติที่เหลือรับการโจมตีนี้เอาไว้
และหากว่าเขาประมาทเพียงนิดเดียวหรือเกิดช่องว่างที่มากพอ ซู่เสี่ยวไป่พร้อมจะใช้จังหวะนั้นจัดการจักรพรรดิหวู่ดาทันที!