ตอนที่ 9 ตุ๊กตาแม่ลูกดก
ไม่กี่วันต่อมา เจิงเต๋อฟางชี้แนะการหลอมโอสถให้เฉินเฟยตลอด เฉินเฟยที่ซ่อนความสามารถไว้ได้เปิดเผยการหลอมโอสถเลือดลมระดับเชี่ยวชาญ
เจิงเต๋อฟางหัวเราะเสียงดังอย่างสบายใจ เขาตบไหล่เฉินเฟยอย่างแรงสองสามครั้ง
“ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรจะสอนเจ้าเรื่องโอสถเลือดลมแล้ว ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในการหลอมโอสถของเจ้าเอง”
ทักษะหลอมโอสถเลือดลมของเจิงเต๋อฟางเกินระดับเชี่ยวชาญแน่นอน โดยปกติแล้วเมื่อถึงระดับเชี่ยวชาญแล้วจะไม่มีปัญหาในการหลอม สิ่งที่ขาดหายไปคือการปรับความร้อนอย่างละเอียด
การปรับเปลี่ยนแบบนี้ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด นักหลอมโอสถจำเป็นต้องเข้าใจและฝึกฝนด้วยตัวเอง โอสถเลือดลมระดับเชี่ยวชาญสามารถขายบนชั้นวางได้ตามปกติ กล่าวคือเฉินเฟยเริ่มทำเงินได้แล้ว
ตามข้อตกลงกับศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้ง เฉินเฟยจะได้รับสามส่วนของกำไรที่เหลือหลังหักค่าสมุนไพรโอสถเลือดลมที่เขาใช้หลอมทุกเดือน
ได้น้อย?
มันไม่น้อยเลย เฉินเฟยพอใจกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเฉินเฟยทำแค่เพียงหลอมโอสถ เรื่องสมุนไพร,ร้านค้า,เตาหลอม,การขายทั้งหมดนี้เจาไม่ต้องทำสักอย่าง
เฉินเฟยเพียงต้องหลอมโอสถอย่างระมัดระวังเท่านั้น
อาจกล่าวได้ว่าเจิงเต๋อฟางทำงานอย่างหนักเพื่อส่วนแบ่งนี้ ศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งจึงต้องยอมจ่าย
แน่นอนว่าส่วนแบ่งของนักหลอมโอสถคนอื่นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ท้ายที่สุดแล้วนักหลอมโอสถเป็นสิ่งล้ำค่า หากไม่รักษาพวกเขาไว้ให้ดีพวกเขาก็จะหนีไป
ซึ่งมันแตกต่างจากผู้คุ้มกัน แม้ว่าผู้คุ้มกันจะรับสมัครไม่ง่ายแต่ที่นี่มีฐานนักยุทธ์และสามารถจ้างได้ด้วยเงินเสมอ นักหลอมโอสถมีฐานอยู่ที่นี่เช่นกัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าสามารถเชิญพวกเขามาได้ด้วยการถามเท่านั้น
เจิงเต๋อฟางไม่ได้ตามเฉินเฟยต่อ เฉินเฟยออกไปข้างนอกสองสามครั้งและเพิ่มความชำนาญโอสถเลือดลมให้ถึงระดับสมบูรณ์
เฉินเฟยไม่รีบทำให้โอสถเลือดลมไประดับรู้แจ้งทันทีเพราะโอสถเลือดลมระดับสมบูรณ์เพียงพอต่อการหลอมโอสถในตอนนี้แล้ว
ไม่เพียงแต่โอสถจะกลมเต็มเม็ด แต่ในทุกเตายังมีโอสถจำนวนมาก พูดได้ว่าคุณสมบัติสมุนไพรทั้งหมดของสมุนไพรถูกบีบออกมาใช้โดยไม่สูญเปล่า
สำหรับโอสถเลือดลมระดับรู้แจ้งคาดว่าจะมีความเข้าใจสิ่งใหม่ทำให้ผลของโอสถลือดลมดียิ่งขึ้น
นั่นมันเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน แต่มันต้องการความเชี่ยวชาญหนึ่งหมื่นคะแนนซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะสำเร็จในเวลาอันสั้น ดังนั้นเฉินเฟยจึงไม่รีบร้อนและใช้เวลาของเขาไปเรื่อยๆ
ในห้องหลอมโอสถซึ่งไม่มีใครอยู่ เฉินเฟยทุ่มสุดตัวในการหลอมโอสถเลือดลมทุกเตา ความแตกต่างของโอสถเลือดลมระดับเชี่ยวชาญคือจำนวนเม็ดโอสถ ในส่วนอื่นมีความแตกต่างกันไม่มากนัก
สำหรับโลกภายนอก เฉินเฟยไม่คิดแสดงการหลอมโอสถขั้นสูงให้เห็นแน่นอน ดังนั้นเฉินเฟยจึงเก็บโอสถนี้ไว้กินเอง
โอสถเลือดลมนั้นคู่ควรกับการเป็นโอสถสำหรับนักยุทธ์ทั่วไป โอสถเลือดลมหนึ่งเม็ดสามารถเพิ่มการบ่มเพาะของเฉินเฟยได้หนึ่งคะแนน เฉินเฟยกินโอสถเลือดลมได้ห้าเม็ดต่อวัน เมื่อรวมกับการฝึกด้วยตัวเองแล้วความคืบหน้าของการบ่มเพาะจะเป็นหกคะแนนต่อวัน
“ถึงไม่ทำให้วิธีหายใจลมล่องลอยเป็นแบบง่าย ข้าก็ยังใช้เวลาน้อยกว่าห้าเดือนในการทะลวงสู่ขัดเกลากล้ามเนื้อ”
เขาพูดกับตัวเอง เฉินเฟยรู้สึกถึงพลังของโอสถและเงินเป็นครั้งแรก
หนึ่งตำลึงเงินสามารถซื้อโอสถเลือดลมได้ห้าเม็ด ค่าจ้างหนึ่งเดือนสำหรับผู้คุ้มกันทั่วไปของศูนย์การแพทย์สามารถซื้อโอสถเลือดลมได้ยี่สิบห้าเม็ด ดังนั้นผู้คุ้มกันจึงไม่ค่อยซื้อโอสถเลือดลมเพื่อการบ่มเพาะเพราะมันแพงเกินไป
นอกจากว่าจะเป็นคนที่มีศักยภาพถึงจะยอมลงทุนด้วยวิธีนี้ และการลงทุนนี้ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเห็นผล
ในอำเภอผิงหยิน มีเพียงศิษย์จากตระกูลหรือศิษย์สายตรงของสำนักหมัดจีซานเท่านั้นที่สามารถรับโอสถเลือดลมในปริมาณมากทุกวันเหมือนที่เฉินเฟยกินอยู่ตอนนี้เพื่อเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะ
“นักหลอมโอสถเก่งๆทำเงินได้เยอะจริง แต่ข้าหลอมได้แค่โอสถเลือดลมนี่สิ”
เฉินเฟยส่ายหัวหน้าน้อยแล้วโยนโอสถเลือดลมเข้าปาก บนใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้ม
เฉินเฟยตั้งใจจะไปถอนเงินบางส่วนจากศูนย์การแพทย์ในอีกไม่กี่วันเพื่อทำให้วิชาผสานทั้งสองเป็นแบบง่าย
แม้ว่าตอนนี้จะพึ่งโอสถเลือดลมและความก้าวหน้าในการบ่มเพาะของเฉินเฟยไม่ได้แย่ แต่เมื่อมีสิ่งที่ทำให้เขาแข็งแกร่งได้เร็วขึ้นแล้วเฉินเฟยจะปฏิเสธได้ยังไง
นอกจากนี้เฉินเฟยยังเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่แน่นอนและไม่สบายใจต่อโลกนี้เสมอ เพราะชีวิตก่อนหน้านี้เป็นโลกสงบสุขเจริญรุ่งเรือง แต่ในโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดและภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น มันเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะรู้สึกสบายใจ
สิบวันผ่านไปในพริบตา นอกจากหลอมโอสถเลือดลมและการบ่มเพาะ เฉินเฟยมักจะใช้เวลาที่เหลือตรวจสอบความคืบหน้าของตับหมูทอด
ในลานบ้านทรุดโทรม ขณะที่กำลังทอดตับหมูเฉินเฟยพบว่าตัวเองถูกคนตามมา แต่เฉินเฟยไม่ได้สนใจมากนัก ใครให้เขาเป็นคนร้อนแรงที่สุดในศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งล่ะ
ความโปรดปรานของเจิงเต๋อฟางที่มีต่อเฉินเฟยเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนในศูนย์การแพทย์ เขาเกือบจะประกาศว่าเฉินเฟยเป็นศิษย์สืบทอดของเขาด้วยซ้ำ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้หลายคนจึงสงสัยว่าเฉินเฟยทำได้ยังไง
มีวิธีพิเศษอะไรหรือไม่?
แต่เมื่อคนเหล่านั้นเห็นเขาทอดตับหมูที่ลานร้าง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำสีหน้าแบบไหนดี
ตับหมูทอดไม่เกี่ยวข้องกับโอสถ ไม่อย่างนั้นพ่อครัวในร้านอาหารคงกลายเป็นนักหลอมโอสถไปแล้ว
คนเหล่านี้จึงตัดสินว่าการทอดตับหมูเป็นงานอดิเรกพิเศษของเฉินเฟยเท่านั้น เพราะพวกเขาคิดเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่ออกจริงๆ
บางคนไม่ยอมท้อถอย พวกเขาติดตามเฉินเฟยสองสามวันและในทุกครั้งจะเห็นเฉินเฟยทอดตับหมูขนาดเท่าเล็บมือ ทุกคนที่เห็นถึงกับเกิดความสับสน
ช่างเป็นงานอดิเรกที่แปลกประหลาดเสียกระไร!
“ไม่ง่ายเลยที่จะถอนเงินล่วงหน้า แต่ข้ารู้สถานการณ์ของเจ้าเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงไปขอคำแนะนำจากชุยซานเจียและชุยซานเจียก็ตอบตกลง นี่คือเงินสามสิบตำลึง รับไป”
พนักงานยื่นเงินให้เฉินเฟย เฉินเฟยดูเงินด้วยรอยยิ้ม
ตามปริมาณการหลอมโอสถที่เฉินเฟยจงใจควบคุมไว้ ตอนนี้รายได้ต่อเดือนของเฉินเฟยอยู่ที่ประมาณห้าสิบตำลึงซึ่งมากกว่าผู้คุ้มกันทั่วไปถึงสิบเท่า สิ่งนี้จะไม่ทำให้คนอื่นอิจฉาได้ยังไง
ตอนนี้เบิกเงินล่วงหน้าได้สามสิบตำลึง เห็นได้ชัดว่าศูนย์การแพทย์เห็นศักยภาพของเฉินเฟยและเข้าใจว่าเฉินเฟยมีความสามารถในการชำระคืน ดังนั้นจึงให้เงินก่อนอย่างง่ายดาย
กลับมาที่ห้อง เฉินเฟยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
“วิธีหายใจลมล่องลอยเป็นแบบง่าย”
“วิธีหายใจลมล่องลอยแบบง่าย...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...วิธีหายใจลมล่องลอย → วิธีหายใจจีซาน!”
“หืม?”
เฉินเฟยตกตะลึงไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นข้อมูลที่แสดงบนระบบ เขาสงสัยว่าการทำให้เป็นแบบง่ายกลายเป็นวิธีหายใจจีซานได้ยังไง
เฉินเฟยนึกถึงอะไรบางอย่างได้และพยายามใช้วิธีหายใจจีซานระดับรู้แจ้ง จากนั้นเขาเห็นความชำนาญวิธีหายใจลมล่องลอย+1
เยี่ยมมาก!
ดวงตาเฉินเฟยเบิกกว้าง ระบบนี้เกินความคาดหมายของเฉินเฟยครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกับเป็นตุ๊กตาแม่ลูกดก