ตอนที่ 8 เด็กคนนี้สอนได้

“เจ้าลองหลอมโอสถเลือดลมอีกทีสิ”

เจิงเต๋อฟางสั่งให้คนรับใช้ไปเอาสมุนไพรโอสถเลือดลมอีกชุดมา

เฉินเฟยไม่ปฏิเสธ เริ่มทำความสะอาดเตาหลอม จัดการสมุนไพรและโยนลงเตา เมื่อเทียบกับความไม่คุ้นเคยเมื่อครู่ การเคลื่อนไหวของเฉินเฟยชำนาญขึ้นเล็กน้อย

ในขณะเดียวกันเฉินเฟยแก้ไขข้อผิดพลาดในการหลอมที่จงใจแสดงให้เห็นหนึ่งถึงสองข้อ การแก้ไขข้อผิดพลาดหนึ่งถึงสองข้อนี้ทำให้เจิงเต๋อฟางด้านข้างดวงตาเป็นประกาย

เมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นหอมโอสถโชยมาจากเตาหลอม หนึ่งเค่อผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฉินเฟยเปิดฝาแล้วหยิบโอสถเลือดลมออกมา

เมื่อเทียบกับโอสถเลือดลมเม็ดแรก ครั้งนี้เม็ดโอสถกลมกว่าและมีสมุนไพรที่ไม่ผสมในเม็ดโอสถน้อยลง

ในสายตาของคนธรรมดา โอสถเม็ดนี้อาจไม่ได้แตกต่างอะไรกับโอสถเม็ดก่อน แต่ในสายตาของเจิงเต๋อฟาง โอสถสองเม็ดนี้แตกต่างกันอย่างยิ่ง

เจิงเต๋อฟางมองโอสถในมือแล้วมองเฉินเฟย ดวงตาเขาไม่อาจซ่อนความชื่นชมได้

ผู้คนเต็มใจเชื่อในสิ่งที่เห็นเสมอ เฉินเฟยหลอมโอสถเลือดลมสองเตาและแสดงความก้าวหน้าอย่างมากต่อหน้าเจิงเต๋อฟาง

ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพรสวรรค์ในการหลอมโอสถของเฉินเฟยหาได้ยาก อย่างน้อยเจิงเต๋อฟางที่อยู่ในศูนย์การแพทย์มาหลายปีก็เห็นแค่ไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์เทียบได้กับเฉินเฟย

แน่นอนว่าตอนนี้ไม่อาจพูดได้ว่าเฉินเฟยเป็นนักหลอมโอสถ ท้ายที่สุดมันเป็นเพียงโอสถเลือดลมธรรมดา แต่นั่นมากพอแล้วที่ศูนย์การแพทย์จะฟูมฟักเฉินเฟย

หากในอนาคตเฉินเฟยสามารถหลอมโอสถเลือดลมได้สมบูรณ์ ศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งคงเจอสมบัติแล้วจริงๆ

“เจ้าเก่งมาก ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะหลอมโอสถเลือดลมได้สำเร็จหลังเห็นสูตรโอสถแค่สองวัน”

เจิงเต๋อฟางพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “แต่อย่าได้ภูมิใจไป โอสถเลือดลมสองเม็ดนี้ยังมีข้อบกพร่องอยู่มาก เจ้ายังต้องฝึกฝนอีกมากเพื่อหลอมโอสถเลือดลมให้ดีขึ้น”

“ขอบคุณผู้อาวุโสเจิง” เฉินเฟยยืนขึ้นกุมมือ

“การเป็นผู้คุ้มกันจะเป็นการฝังพรสวรรค์ของเจ้า ข้าจะอธิบายให้ชุยซานเจียอธิบายฟังเอง จากนี้ไปเจ้ามาหลอมโอสถกับข้า ช่วงแรกให้หลอมโอสถเลือดลมไปก่อน จากนั้นค่อยหลอมโอสถชนิดอื่น”

“ขอบคุณผู้อาวุโสเจิงที่เลื่อนตำแหน่ง!”

เฉินเฟยอดยิ้มไม่ได้ เขาบรรลุเป้าหมายแล้ว ในที่สุดก็ลู่ทางหาเงิน

หนึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยหลอมโอสถเลือดลมต่อหน้าชุยซานเจียซึ่งทำให้ชุยซานเจียดีใจเล็กน้อย

แม้จะเป็นคำพูดของเจิงเต๋อฟาง แต่ชุยซานเจียยังไม่อยากเชื่อว่าผู้คุ้มกันคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นคนรับใช้จะหลอมโอสถได้

แต่เมื่อได้เห็นกับตาตัวเอง ต่อให้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ต้องยอมรับเลยว่าเฉินเฟยมีพรสวรรค์ในการหลอมโอสถยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เมื่อเป็นแบบนี้ชุนซานเจียจึงไม่มีเหตุผลปฏิเสธข้อเสนอของเจิงเต๋อฟาง

ในเวลาไม่ถึงครึ่งวันข่าวที่เฉินเฟยกลายเป็นนักหลอมโอสถกระจายไปทั่วศูนย์การแพทย์ ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง

นักหลอมโอสถ นี่เป็นทักษะที่ต้องใช้พรสวรรค์อย่างยิ่ง

ถ้าบอกว่ามีเพียงหนึ่งในสิบคนประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะ การหลอมโอสถก็มีเพียงหนึ่งในร้อย

ดังนั้นสถานะของนักหลอมโอสถในศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้งจึงเหนือกว่าผู้คุ้มกันอย่างเทียบไม่ติด

สถานะของเฉินเฟยในศูนย์การแพทย์ก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง จากคนรับใช้สู่นักหลอมโอสถ เขากระโดดข้ามสองตำแหน่งในเวลาไม่กี่วัน เรื่องนี้ทำให้หลายคนอิจฉายิ่งนัก

พวกเขายังได้ยินว่าพรสวรรค์ในการหลอมโอสถของเฉินเฟยโดดเด่นจนเจิงเต๋อเฟยกับชุยซานเจียตื่นตระหนก พอลองคิดดูแล้ว หลังเห็นสูตรโอสถได้สองวันก็หลอมโอสถได้ด้วยตัวเอง

ถ้าความสามารถนี้ไม่โดดเด่นแล้วจะเรียกว่าอะไร?

ก่อนหน้านี้หลายคนรอดูเรื่องตลกของเฉินเฟย พวกเขาต่างใช้เรื่องเฉินเฟยเป็นหัวข้อพูดคุยหลังอาหารเย็น แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าพูดแบบนั้นอีกเพราะกลัวเฉินเฟยจะได้ยิน

เฉินเฟยในตอนนี้ยังไม่มีสิทธิ์ใด แต่ใครจะรู้ว่าเฉินเฟยจะเติบโตได้ไกลแค่ไหน มันไม่คุ้มกันที่จะทำให้คนแบบนี้ขุ่นเคืองเพราะปากไว

ตอนนี้นอกจากรุกรานไม่ได้แล้วยังต้องคิดหาวิธีประจบอีก จะเกิดอะไรขึ้นหากเฉินเฟยมีชื่อเสียงในอนาคต?

“โคตรแม่ง เจ้าขาโคลนโชคดีจริง!”

บนโต๊ะเหล้า ผูเหลียวกระแทกถ้วยในมือลงบนโต๊ะพูดด้วยเสียงงัวเงีย

“ได้ยินมาว่าผู้อาวุโสเจิงให้ความสำคัญกับเขามาก”

ผู้คุ้มกกันคนคนอื่นพูดเสียงเบา เขาไม่กล้าพูดถึงเฉินเฟยให้ผูเหลียวฟังเหมือนก่อนหน้า

“ฮึ!”

ผูเหลียวส่งเสียงเย็นชา หันมองคนรอบตัว พอเห็นว่าพวกเขาไม่ตอบสนองต่อคำพูดจึงลุกขึ้นจากไปทันที ไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าอีกต่อไป ยิ่งดื่มก็ยิ่งร้อน

ผู้คุ้มกันคนอื่นมองหน้ากันไม่รู้จะพูดอะไร นักหลอมโอสถของศูนย์การแพทย์มีสถานะสูงกว่าพวกเขาที่เป็นผู้คุ้มกัน

ผูเหลียวอาจเพิกเฉยเฉินเฟยได้เพราะเขามีคุณสมบัตินักยุทธ์ขัดเกลากล้ามเนื้อ แต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะทำแบบนั้น

ในวันที่สอง เฉินเฟยไม่ได้ยืนเฝ้าอยู่ในศูนย์การแพทย์แต่มาหลอมโอสถในห้องหลอมโอสถ เจิงเต๋อฟางยืนอยู่ด้านข้างและคอยชี้แนะเฉินเฟยเป็นการส่วนตัวเมื่อเห็นเขาทำผิดพลาด

เฉินเฟยประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าเจิงเต๋อฟางจะให้คุณค่าเขาขนาดนี้ นี่อาจเป็นเพราะความสามารถที่เขาแสดงออกมาทำให้เจิงเต๋อฟางประหลาดใจ

แม้การแสดงบางอย่างมากเกินไป แต่โชคดีที่ผลลัพธ์น่าพอใจ เฉินเฟยไม่สามารถต้านทานความใจดีของเจิงเต๋อฟางได้จึงตั้งใจฟังคำอธิบายของเจิงเต๋อฟางและแก้ไขข้อผิดพลาดหนึ่งหรือสองข้อในการหลอมครั้งต่อไป

เจิงเต๋อฟางเห็นว่าการสอนของเขามีประสิทธิภาพมาก พอยิ่งสอนจึงยิ่งตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ

นี่เป็นสิ่งที่เวลาอาจารย์เจอลูกศิษย์อัจฉริยะที่เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องพูดซ้ำสอง ความรู้สึกแบบนี้เป็นความรู้สึกของการประสบความสำเร็จ

เจิงเต๋อฟางอยู่ที่นี่มาหลายปีแต่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ขณะที่เฝ้าดูเฉินเฟยหลอมโอสถได้ดีขึ้น เขาก็มีความสุขและภูมิใจยิ่งกว่าตอนที่ตัวเองหลอมโอสถหลอมยากเสียอีก

“ดีมาก สมุนไพรทั้งหมดหลอมรวมกันในโอสถเลือดลมเม็ดนี้ แม้ว่าการหลอมรวมยังเหมาะสมไม่มากพอ แต่มันดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน”

เจิงเต๋อฟางมองโอสถในมือด้วยรอยยิ้ม เขามองเฉินเฟยด้วยความพอใจ ในใจของเขาถือว่าเฉินเฟยเป็นศิษย์ครึ่งหนึ่งแล้ว

“นั่นเป็นเพราะผู้อาวุโสเจิงสอนดี”

เฉินเฟยพูดประจบในเวลาอันเหมาะสม รอยยิ้มของเจิงเต๋อฟางจึงกว้างกว่าเดิม

เด็กสอนได้ เด็กคนนี้สอนได้!

เฉินเฟยยิ้ม แม้ว่าคำพูดนี้จะดูประจบสอพลอ แต่ระดับของเจิงเต๋อฟางนั้นสูงมาก บนระบบยังแสดงให้เห็นว่าความชำนาญโอสถเลือดลมเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบคะแนน นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนแล้ว