ตอนที่ 306 ไข่มีขน
ตอนที่ 306 ไข่มีขน
เซี่ยเฟยเล็งมุมพุ่งเข้ากระทบเอาไว้เป็นอย่างดี จนทำให้ส่วนท้ายของยานหลี่โม่ถูกฉีกกระชากและมีเปลวไฟลุกท่วมขึ้นมาบริเวณท้ายยาน
เหตุการณ์นี้ทำให้หลี่กวนที่กำลังนั่งชมการแข่งขันอยู่บนอัฒจันทร์กระโดดขึ้นมาจากที่นั่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะท้ายที่สุดหลี่โม่ก็ยังคงเป็นลูกชายของเขา และถ้าหากว่าหลี่โม่เป็นอะไรไปมันก็จะส่งผลกระทบต่อตัวเขาและตระกูลอย่างรุนแรง
เหล่าบรรดาผู้ชมต่างก็ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันไม่มีใครคาดคิดว่าเซี่ยเฟยจะกล้าฝ่าฝืนกฎการแข่งขันท่ามกลางสายตาของผู้ชมเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งถ้าหากว่าหลี่โม่เสียชีวิตเพราะการปะทะในครั้งนี้ เซี่ยเฟยก็ไม่เพียงแต่จะถูกแบนจากการแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์เท่านั้น แต่เขายังจะถูกลงโทษตามกฏหมายอีกด้วย
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย และถึงแม้ว่าเขาจะทำลายยานของหลี่โม่ลงไปแต่เขาก็ไม่คิดที่จะสังหารอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย
สาเหตุที่ผู้ชมเห็นเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา นั่นก็เพราะว่าเซี่ยเฟยเล็งพุ่งเข้าชนระบบเชื้อเพลิงของยานรบโดยตรง ทำให้ยานของหลี่โม่ไม่สามารถที่จะปล่อยเชื้อเพลิงไอพ่นออกมาเพื่อขับเคลื่อนยานในอวกาศได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้มันก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการขับเคลื่อนของยานรบอย่างรุนแรง และทำให้ยานรบของหลี่โม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วเพียงแค่ประมาณ 1 ใน 10 ของความเร็วดั้งเดิมเท่านั้น
เมื่อหน้าจอได้ฉายรายละเอียดว่ายานรบของหลี่โม่ได้สูญเสียไปเพียงแค่ระบบเชื้อเพลิง หลี่กวนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะท้ายที่สุดลูกชายของเขาก็ยังคงปลอดภัย
เซี่ยเฟยจุดบุหรี่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างพอใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดกับการตัดสินใจของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
“ดีมาก! ฉันไม่ชอบไอ้เด็กนี่มาตั้งนานแล้ว แต่นายรู้ใช่ไหมว่าการทำแบบนี้จะทำให้นายโดนแบนจากสมาคมช่างกลไปตลอดชีวิต” อันธกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“นายคิดว่าฉันจะสนใจไหม? ถึงฉันไม่ได้เข้าแข่งในอนาคตแล้วจะยังไง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวันนี้ฉันทำให้หลี่โม่ได้รู้ว่าการมายุ่งกับฉันจะทำให้เขาได้มาเจอกับอะไร” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาจาง ๆ
“นั่นก็จริง อยู่ ๆ ถ้วยแชมป์ได้หลุดออกไปจากมือแบบนี้ มันคงจะทำให้เจ้าเด็กนั่นโกรธจนหน้ามืดไปเลยแน่ ๆ การแก้แค้นของนายในครั้งนี้สะใจฉันจริง ๆ” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“จริง ๆ ฉันอยากจะทำมากกว่านี้แต่ฉันยังไม่ค่อยมีเวลา เอาเป็นว่าพวกเรามานั่งดูหลี่โม่คร่ำครวญเพลิน ๆ ไปก่อนแล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยแววตาที่เย็นชา
“หะ!” จู่ ๆ อันธก็ส่งเสียงอุทานพร้อมกับจับจ้องมองไปยังหน้าอกของเซี่ยเฟยด้วยแววตาแปลก ๆ
“นายมองอะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อึดอัดเมื่อได้เห็นสายตาแปลก ๆ ของอันธ
“ไข่ในหน้าอกนายกำลังดูด…” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ดูดอะไร?” เซี่ยเฟยถามด้วยความประหลาดใจ
เขาได้เก็บไข่ที่เขาได้รับมาจากสังเวียนเลือดเอาไว้อยู่ตรงบริเวณหน้าอกตลอดเวลา และถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหาข้อมูลของไข่ใบนี้แล้ว แต่มันก็ไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลกับเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว
“เมื่อกี้ตอนนายพูดถึงหลี่โม่นายได้ปล่อยจิตสังหารออกมาใช่ไหม? แล้วเจ้าไข่นั่นมันก็ดูดซับจิตสังหารของนายเข้าไป” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ
“นายรู้ได้ยังไง?” เซี่ยเฟยหยิบไข่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนในหน้าอกออกมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับจ้องมองอย่างระมัดระวัง แต่เขาก็มองไม่เห็นอะไรแปลก ๆ จากไข่ใบนี้เลย
ไข่ตรงหน้าเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมากพอสมควร โดยในตอนแรกมันเป็นเพียงแค่ไข่ที่มีลวดลายสีทองแปลก ๆ แต่หลังจากที่มันได้อยู่กับเขามาสักพักทั่วทั้งเปลือกไข่กลับเต็มไปด้วยขนอ่อนที่หนานุ่ม
“ฉันเป็นผีนะ! ฉันย่อมมองเห็นอะไรที่มนุษย์มองไม่เห็น ในตอนที่นายแอบเข้าไปในบ้านของหลี่โม่ฉันก็เห็นเหมือนกับไข่ใบนี้มีปฏิกิริยาที่แปลกประหลาดเหมือนกัน แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แล้ววันนี้ฉันก็ได้เห็นมันดูดซับจิตสังหารของนายกับตา ฉันเดาว่าไข่มันกำลังดูดซับสารอาหารเพื่อเติบโต” อันธกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ใช้จิตสังหารเป็นสารอาหารในการเติบโตเนี่ยนะ!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และถึงแม้ว่าเขาจะเคยอ่านข้อมูลของสัตว์อสูรจากจารึกมนตราอสูรมาอย่างมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยได้พบกับข้อมูลของสัตว์อสูรที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลย
ทันใดนั้นเองไข่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อย
“แย่แล้ว! ไข่กำลังจะฟัก! ทันทีที่มันฟักนายต้องรีบใช้มนตราอสูรควบคุมมันเอาไว้นะ ถ้าหากว่านายควบคุมมันไม่ได้นายก็ต้องรีบฆ่ามันซะ!” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะนำเดือยกระดูกออกมาจากแหวนมิติ ท้ายที่สุดมีดชนิดพิเศษของสำนักเงาสังหารเล่มนี้ก็มีความคมมาก และมันก็มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารสัตว์อสูรที่เพิ่งถือกำเนิดได้
ไข่ตรงหน้าสั่นอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตด้านในกำลังพยายามจะดิ้นหลุดออกมาเพื่อใช้ชีวิตในโลกภายนอก
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงกลับแตกต่างไปจากสิ่งที่เซี่ยเฟยกับอันธคิด เพราะตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันคงจะมีสิ่งมีชีวิตกระเทาะเปลือกไข่ออกมา แต่ในความเป็นจริงมันกลับมีดวงตาสีแดงดวงเล็ก ๆ และปากอันน้อย ๆ ปรากฏขึ้นมาจากไข่ที่เต็มไปด้วยขนอ่อน
สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนี้จ้องมองเซี่ยเฟยด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสา พร้อมกับพยายามกระโดดเข้าไปหาชายหนุ่ม แต่น่าเสียดายที่ช่วงแรกเกิดมันยังอ่อนแอมากจนเกินไป ดังนั้นหลังจากที่มันกระโดดไปข้างหน้าได้เพียงไม่กี่ครั้งมันก็หอบหายใจออกมา
ภาพเหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยกับอันธพูดไม่ออก เพราะอันธได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้าไข่ใบนี้ใช้จิตสังหารเป็นสารอาหารเพื่อเติบโต แต่ในความเป็นจริงมันกลับกลายเป็นก้อนขนตัวเล็ก ๆ ที่ดูน่ารัก และมันก็ดูไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตชนิดใดเลยแม้แต่นิดเดียว
เซี่ยเฟยลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะยื่นนิ้วออกไปหาสิ่งมีชีวิตตรงหน้าอย่างช้า ๆ ซึ่งในเวลานี้อันธก็รู้สึกประหม่ามาก เพราะถ้าหากว่าชายหนุ่มถูกสิ่งมีชีวิตชนิดนี้กัดเข้าไป มันก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายที่เขาคาดไม่ถึง
ก้อนขนตัวน้อยอ้าปากอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเลียนิ้วมือของเซี่ยเฟยด้วยลิ้นสีชมพูอย่างแผ่วเบา จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกจั๊กจี้ปลายนิ้วมืออยู่เล็กน้อย และทำให้เขาอดที่จะคิดถึงสุนัขจรจัดที่เขาเคยแอบเลี้ยงตั้งแต่สมัยเขายังเด็กขึ้นมา
หลังจากเลียนิ้วมือของเซี่ยเฟยอยู่สักพัก เจ้าตัวเล็กก็ถูขนปุกปุยบนตัวของมันเข้ากับนิ้วของเซี่ยเฟยราวกับว่ามันต้องการให้ชายหนุ่มคนนี้อุ้มมันขึ้นไปกอด
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยกับอันธหันมาจ้องหน้ากันโดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะเหตุการณ์ตรงหน้ามันเกินกว่าความคาดหมายของพวกเขาไปไกลจริง ๆ
“ว่าไงเจ้าตัวน้อย แกเป็นตัวอะไรกันแน่?” เซี่ยเฟยหยิบสิ่งมีชีวิตตรงหน้าขึ้นมาบนฝ่ามือพร้อมกับพูดออกไปอย่างแผ่วเบา
“ตั้งชื่อให้มันสิ” อันธกล่าว
“ฉันควรจะตั้งชื่อให้เจ้าปุกปุยนี่ว่าอะไรดี?” เซี่ยเฟยถามพลางใช้ความคิด
ในระหว่างนั้นเจ้าก้อนขนก็เลียฝ่ามือของเซี่ยเฟยอีกครั้ง คล้ายกับว่ามันกำลังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รับการตั้งชื่อ
“ในเมื่อตัวของมันเต็มไปด้วยขนอ่อนเต็มไปหมด ถ้าอย่างนั้นฉันจะขอตั้งชื่อมันว่า”
‘ขนอุย’
***************
ขนอุย หมายถึง ขนอ่อนหรือขนเพิ่งแรกขึ้น เป็นคำนามที่บ่งบอกถึงขนนุ่มๆ นะจ้ะ