ตอนที่ 304 อะไรก็เป็นไปได้
ตอนที่ 304 อะไรก็เป็นไปได้
กองยานขนส่งเริ่มออกเดินทางจากนครหลวงมุ่งหน้าตรงไปยังภูมิภาคดาวมฤตยู โดยมีพวกบุชเชอร์ทำหน้าที่เป็นคนคอยคุ้มกัน
เซี่ยเฟยไม่รู้มาก่อนเลยว่าซาร่าเป็นผู้อาสารับผิดชอบภารกิจขนส่งในครั้งนี้เป็นการส่วนตัว และเนื่องมาจากว่าเธอไม่อยากให้ลูกน้องต้องเสี่ยงพบกับอันตราย เธอจึงได้ออกเดินทางมาด้วยตัวเอง
ก่อนออกเดินทางเซี่ยเฟยได้สั่งให้ทำการติดตั้งระบบเรดาร์แบล็คแบทเอาไว้บนยานของเธอด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกการสื่อสารในช่วงเวลาที่สตาร์เน็ตเวิร์กมีปัญหา
ความจริงแล้วสภาพความทนทานของระบบเรดาร์แบล็คแบทยังไม่ค่อยดีนัก และมันก็ยังไม่สามารถนำมาใช้แทนระบบสื่อสารแบบปกติได้ แต่อย่างน้อยในช่วงที่สตาร์เน็ตเวิร์กมีปัญหาการใช้ระบบเรดาร์แบล็คแบทคอยติดต่อสื่อสารก็ยังดีกว่าการไม่มีระบบสื่อสารในช่วงที่พวกเขากำลังออกเดินทางเลย
สำหรับตัวของเซี่ยเฟยก็จำเป็นจะต้องอยู่ในนครหลวงไปก่อน เพราะตอนนี้ทางกรมทหารกำลังทดสอบอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จอย่างเร่งด่วน และเมื่อเขตทุ่งดาวแห่งความตายได้เข้าสู่สภาวะสงคราม มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ทางกรมทหารจะเริ่มทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อปรับปรุงความแข็งแรงกองยานของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องอยู่ในกลุ่มดาวนครหลวงไปก่อนเพื่อคอยติดตามสถานการณ์
นอกจากนี้วันเกิดปู่ของแอวริลก็ยังใกล้เข้ามาแล้ว และเซี่ยเฟยก็ยังให้สัญญากับหญิงสาวว่าเขาจะไปร่วมงานวันเกิดด้วย แน่นอนว่าเขาย่อมต้องรักษาสัญญาที่เขาเคยให้ไว้
เซี่ยเฟยรู้ดีว่าเหตุผลที่แอวริลต้องการให้เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิด นั่นก็เพราะว่าเธอต้องการที่จะเปิดตัวเขาว่าเป็นคู่รักของเธอในที่สาธารณะ ซึ่งมันเป็นการกระทำที่หญิงสาวกำลังพยายามจะบอกกับทุกคนว่าเธอต้องการจะฝากชีวิตเอาไว้กับชายคนนี้
ความคิดของแอวริลถือว่าไร้เดียงสามาก เพราะการแต่งงานของชนชั้นสูงมักจะมีความเกี่ยวพันกับเรื่องธุรกิจอยู่เสมอ ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะมีหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างที่แอวริลสามารถตัดสินใจเองได้ แต่มันก็มีเรื่องอีกหลาย ๆ เรื่องที่การตัดสินใจของเธอไม่มีผลเช่นเดียวกัน
แม้เซี่ยเฟยจะรู้ว่าเส้นทางที่แอวริลกำลังเลือกเดินเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เขาก็มีนิสัยไม่ยอมแพ้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ในเมื่อผู้หญิงของเขากำลังพยายามอย่างเต็มที่ เขาย่อมต้องคอยสนับสนุนเธอเท่าที่ตัวเขาจะทำได้
—
การแข่งขันดัดแปลงยานรบยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเซี่ยเฟยไม่มีโอกาสได้แข่งขันในรอบสุดท้ายเนื่องมาจากว่ายานรบของเขาถูกทำลายในระหว่างการเผชิญหน้ากับศัตรู โดยการแข่งขันในรอบนี้ได้จบลงด้วยชัยชนะของหลี่โม่ ส่วนคอนสแตนตินก็ได้รับคะแนนเป็นอันดับที่ 3
แต่ถึงแม้ว่าหลี่โม่จะได้รับคะแนนอันดับ 1 ในการแข่งขันรอบนี้ แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงเป็นคนที่โดดเด่นมากที่สุดในการแข่งขันรอบนี้อยู่เช่นเดิม
หลังจบการแข่งขันดัดแปลงยานรบทางคณะกรรมการก็ได้ทำการประกาศรายละเอียดชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้ติดตั้งบนยานรบของตัวเอง ซึ่งผู้ชมก็ได้พบกับอุปกรณ์แปลก ๆ บนยานรบของเซี่ยเฟย โดยอุปกรณ์นี้ก็มีชื่อว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จจากบริษัทควอนตัม
จากข้อมูลรายละเอียดที่แสดงขึ้นมาได้บอกว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเครื่องนี้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการป้องกันของยานรบได้เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทุกคนก็ได้คาดการณ์ว่านอกเหนือจากการที่เซี่ยเฟยได้ใช้ระเบิดโปรตอนแล้ว อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ชายหนุ่มสามารถเอาชนะยานรบทั้ง 9 ลำในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ได้
ในที่สุดอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จก็ถูกเปิดเผยต่อสายตาของสาธารณชน และมันก็มีนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์เซี่ยเฟยอย่างมากมาย เขาจึงได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถเอาชนะยานรบทั้งเก้าลำในก่อนหน้านี้ได้ และเขาก็ได้ยกผลประโยชน์ของชัยชนะครั้งนี้ให้กับอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จถึง 90%
การพยายามยกย่องระเบิดโปรตอนไม่ได้มีผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ทุกครั้งที่อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จได้ถูกขายออกไปมันก็จะมีกำไรถูกแบ่งปันเข้ามาในกระเป๋าของเขา แน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมต้องตีเหล็กในขณะที่มันกำลังร้อนโดยการพยายามโฆษณาประสิทธิภาพของอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จอย่างเต็มที่
ด้วยผลลัพธ์ที่เหนือเกินกว่าความคาดหมายของสาธารณชน และการตีข่าวอย่างเกินจริงของนักข่าวแต่ละสำนัก มันจึงทำให้อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จได้กลายเป็นอุปกรณ์วิเศษในสายตาของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งหลังจากที่ข่าวเรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป มันก็มีคนโทรเข้ามาสอบถามการสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมพลังชาร์จกับบริษัทควอนตัมเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
เมื่อกระแสตอบรับดีเกินกว่าที่คาดคิดเซี่ยเฟยจึงตัดสินใจจัดการประมูล โดยจะวางขายอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเพียงแค่วันละ 50 เครื่องบนเว็บไซต์ประมูลที่ใหญ่ที่สุดในพันธมิตรเท่านั้น ซึ่งมันก็จะทำให้ไม่มีคู่ค้ารายไหนสามารถซื้ออุปกรณ์เสริมพลังชาร์จไปกักตุนได้เป็นจำนวนมาก
ชาร์ลีไม่เข้าใจว่าเซี่ยเฟยกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะด้วยกำลังการผลิตของบริษัทควอนตัมในปัจจุบัน พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเข้าเว็บประมูลเลย นอกจากนี้สภาพคล่องของบริษัทก็ค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่ติดขัด ซึ่งในช่วงเวลานี้พวกเขาควรจะรีบขายสินค้าเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในบริษัทมากกว่าที่จะปล่อยสินค้าออกไปในปริมาณน้อย ๆ
—
ก่อนการแข่งขันรอบสุดท้ายของรายการโกลเดนฟิงเกอร์ เซี่ยเฟยมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 7 นับจากด้านล่าง ขณะที่คอนสแตนตินมีคะแนนตามอันดับ 1 อย่างหลี่โม่อยู่ 106 คะแนน ทำให้โอกาสที่คอนสแตนตินจะคว้าแชมป์ได้มีเพียงแค่ทางทฤษฎีเท่านั้น เพราะมันแทบที่จะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำคะแนนแซงหลี่โม่มากกว่า 106 คะแนนในการแข่งขันเพียงแค่รอบเดียว
การแข่งขันรอบสุดท้ายคือการแข่งขันค้นหาวัตถุ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เพิ่งถูกนำเข้ามาในการแข่งขันปีนี้เป็นครั้งแรก
ในรอบที่ผ่านมาส่วนใหญ่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำการดัดแปลงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในสถานการณ์จำลองเท่านั้น แต่ในคราวนี้นอกจากพวกเขาจะต้องทำการดัดแปลงระบบเรดาร์แล้ว พวกเขายังจำเป็นจะต้องขับยานอวกาศออกไปค้นหาวัตถุต่าง ๆ ในอวกาศอันกว้างใหญ่อีกด้วย
เห็นได้ชัดว่ารายการโกลเดนฟิงเกอร์กำลังพยายามพัฒนาจากการแข่งขันทักษะช่างกลเพียงอย่างเดียว ไปสู่การแข่งขันที่ช่างกลจะต้องมีความรู้รอบด้านมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากผู้เข้าแข่งขันคนใดปราศจากความรู้หลาย ๆ ด้าน พวกเขาก็จะไม่สามารถคว้าแชมป์รายการแข่งขันรายการนี้ไปได้
การแข่งขันในวันนี้มีผู้ชมไม่มากนัก นั่นก็เพราะว่าหลี่โม่ทำคะแนนนำคอนสแตนตินมากเกินไปทำให้ผู้ชมได้คาดการณ์แชมป์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้การแข่งขันยังเกิดขึ้นในอวกาศอันกว้างใหญ่ ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะเดินเข้ามาในสถานที่จัดการแข่งขัน แต่พวกเขาก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางหน้าจอเท่านั้น ผู้ชมส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะรับชมการแข่งขันผ่านทีวีในห้องของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากกว่า
สิ่งที่เหล่าบรรดาผู้ชมกำลังให้ความสนใจอยู่จริง ๆ ไม่ใช่การแข่งขันรอบสุดท้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มันคือพิธีการมอบรางวัลหลังจบการแข่งขันในครั้งนี้มากกว่า เพราะท้ายที่สุดบริษัทไฟร์สตาร์ไฟแนนซ์ก็ได้จัดทีมผู้ชมมากกว่า 30,000 คนมาคอยปรบมือให้กับแชมป์ในการแข่งขันปีนี้ และแม้แต่หลี่กวนผู้ซึ่งเป็นผู้บริหารใหญ่ของบริษัทก็ยังอยู่ท่ามกลางผู้ชมเหล่านี้ด้วย
ทุกคนรู้ดีว่าการกระทำเหล่านี้ของตระกูลหลี่คือการพยายามเปิดตัวทายาทคนสำคัญต่อสาธารณชน และมันยังเป็นการประกาศศักดาว่าหลี่โม่มีความสามารถมากพอที่จะเป็นแชมป์ของการแข่งขันช่างกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพันธมิตรด้วย
“ผมมาแล้วครับพ่อ” หลี่โม่ที่แต่งตัวเต็มยศกล่าวทักพร้อมกับเดินเข้าไปหาบิดา
หลี่กวนกำลังพูดคุยกับเพื่อนเก่าอย่างสนุกสนาน และเมื่อเขาได้เห็นลูกชายเดินเข้ามาเขาก็รีบแนะนำตัวลูกชายให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก
“ยินดีด้วยที่ลูกจะได้เป็นแชมป์ของการแข่งขันในครั้งนี้ แต่ลูกก็ไม่ควรประมาทนะ เพราะมันยังมีคนอีกหลาย ๆ คนที่กำลังจับตาดูตระกูลของเราอยู่” หลี่กวนกล่าว
หลี่โม่พยักหน้ารับอย่างไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของบิดาได้ ยิ่งไปกว่านั้นความทรงจำอันโหดร้ายที่โถงบรรพบุรุษยังคงติดอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างไม่รู้ลืม และกลิ่นเลือดบนร่างกายของเขาก็ยังคงน้อยกว่ากลิ่นเลือดบนร่างกายของบิดา
เมื่อนึกถึงภาพที่พ่อของเขากำลังถือมีดเปื้อนเลือดอยู่ในห้องโถงบรรพบุรุษ หลี่โม่ก็เริ่มรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงพยายามหาข้ออ้างตีตัวออกไปโดยอ้างว่ามันใกล้จะถึงเวลาการแข่งขันในรอบสุดท้ายแล้ว
เพื่อน ๆ ของหลี่กวนต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีกับหลี่โม่ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้คำพูดที่ดูดีมากแค่ไหน แต่ภายในใจของทุกคนก็ล้วนต้องการเห็นตระกูลหลี่เสียหน้า เพียงแต่ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกมาตรง ๆ
คำอวยพรเป็นสิ่งที่มิตรสหายที่ดีได้มอบให้แก่กัน แต่ในวงการธุรกิจไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่แน่นอนเหล่าบรรดานักธุรกิจจึงพูดคุยด้วยการสวมหน้ากากเข้าหากันแทน
ขณะเดียวกันเมื่อหลี่โม่เดินเข้าไปในสนามแข่งขัน เขาก็ได้เห็นร่างของเซี่ยเฟยในระยะไกลเขาจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะกล้ามาเข้าร่วมการแข่งขันในรอบนี้ด้วย ถ้าฉันมีคะแนนอยู่อันดับ 7 จากท้ายตารางฉันก็คงจะไม่กล้ามาเข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้แน่ ๆ แต่ในสายตาของนายการอยู่ตรงนั้นคงจะน่าภูมิใจมากแล้วใช่ไหม ขอให้นายพยายามอย่างดีที่สุดในการแข่งขันรอบสุดท้ายก็แล้วกัน” หลี่โม่กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้รู้สึกสนใจคำเยาะเย้ยพวกนั้นเลย เขายังคงมองมาทางหลี่โม่ด้วยรอยยิ้ม
เหตุการณ์นี้ทำให้หลี่โม่รู้สึกสับสนมากว่าทำไมในเวลานี้เซี่ยเฟยยังคงเผยรอยยิ้มออกมาได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร หรือว่าชายคนนี้จะภูมิใจในอันดับปัจจุบันของตัวเองจริง ๆ
“นายน้อยหลี่พวกเรารู้จักกันมาสักพักแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะขอแนะนำอะไรบางอย่างให้กับนายก็แล้วกัน”
“แนะนำอะไร?”
“อะไรก็เป็นไปได้” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่จะเดินจากไปด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาคือผู้ชนะคนสุดท้ายของการแข่งขันครั้งนี้
คำพูดของเซี่ยเฟยทำให้หลี่โม่รู้สึกโกรธมาก เพราะมันไม่มีใครเคยทำตัวหยิ่งผยองต่อหน้าเขาแบบนี้มาก่อน เขาจึงตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่าเขาจะจบการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ
“นายน้อยเขาแค่อิจฉานายน้อยที่ได้เป็นแชมป์ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนแต่เขาก็ทำได้เพียงแค่แสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไร นายน้อยไม่จำเป็นจะต้องไปสนใจคนแบบนั้นหรอกครับ” พ่อบ้านของหลี่โม่กล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“ไม่ว่ามันจะวางแผนการอะไรเอาไว้ ฉันคนนี้จะเป็นคนเอาแชมป์ไปตบหน้าของมันเอง!” หลี่โม่กัดฟันพูดอย่างหนักแน่น
—
“เซี่ยเฟยฉันว่านายไม่ควรแข่งขันในรอบนี้หรอก ดูยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่นายจะทำคะแนนได้มากกว่า 1,000 คะแนนในคราวเดียว ถึงยังไงแอวริลก็กำลังนั่งเชียร์อยู่บนอัฒจันทร์นายคิดว่าเธอจะดีใจไหมที่นายจะจบการแข่งขันอันดับ 7 จากท้ายตารางขณะที่หลี่โม่จะได้เป็นแชมป์” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
“นายอยากฟังคำแนะนำอะไรจากฉันไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวกับอันธด้วยรอยยิ้ม
“คำแนะนำอะไร?”
“อะไรก็เป็นไปได้”
***************
พี่เฟยมีแผนอีกแล้วป่ะเนี่ย!? ใครเดาได้บ้างว่าแผนอะไร เราเดาไม่ออกเลย