ตอนที่แล้วตอนที่ 20 ไม่พอใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 พลังตระหนกล่องลอย

ตอนที่ 21 พลังกระบี่ฟ้าคำราม


“ข้าค้นพบบางสิ่ง แต่สิ่งนี้เป็นปัญหาหรือไม่คงต้องให้คุณหนูใหญ่หาคนมาตรวจสอบ”

เฉินเฟยลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาไม่ได้สนใจเรื่องส่วนแบ่งเพราะหลังจากนี้เงินส่วนใหญ่ที่ได้รับจะมาจากตลาดมืด แต่โอสถจิตเบาของจางซือหนานกระตุ้นเฉินเฟยได้อย่างสมบูรณ์

โอสถจิตเบาเป็นโอสถฝึกฝนขั้นสูงกว่าโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยปกติแล้วผู้ที่ใช้จะเป็นนักยุทธ์หลอมกระดูกหรือแม้แต่ขัดเกลาไขกระดูก ดังนั้นผลของมันจึงดีกว่าโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพมาก แน่นอนว่ามีราคาสูงกว่าเช่นกัน

ถ้าเฉินเฟยได้รับสูตรโอสถจิตเบา เขาจะใช้มันแทนโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพและนำไปขายในตลาดมืด

“พูด!” จางซือหนานพูดเสียงเรียบ

“บนตัวผู้ดูแลซุนมีกลิ่นโอสถจิตเบาค่อนข้างแรง”

เฉินเฟยพูดเสียงทุ้ม นักหลอมโอสถมีจมูกเฉียบคมกว่านักยุทธ์โดยเฉพาะด้านสมุนไพร เฉินเฟยเคยเห็นและเคยกินโอสถจิตเบา ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับโอสถจิตเบา

ในฐานะผู้ดูแลของศูนย์การแพทย์ เป็นเรื่องปกติทีผู้ดูแลซุนจะมีกลิ่นโอสถติดตัว แต่การที่กลิ่นโอสถจิตเบากลบกลิ่นโอสถอื่นจนหมดเป็นเรื่องผิดปกติมาก และเขาไม่ใช่นักหลอมโอสถ

มีเพียงต้องสัมผัสทุกวันหรือกินเป็นเวลาหลายปีเท่านั้นถึงมีกลิ่นโอสถจิตเบาเข้มข้นแบบนี้

โอสถจิตเบามีราคาไม่น้อย หนึ่งเม็ดราคาสิบห้าตำลึงซึ่งแพงกว่าโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพครึ่งหนึ่ง แม้ว่าผู้แลซุนจะเป็นผู้ดูแลศูนย์การแพทย์ แต่ค่าจ้างของเขายังไม่มากพอที่จะกินโอสถจิตเบาหนึ่งเม็ดทุกวัน

ดวงตาจางซือหนานเป็นประกาย สิ่งที่เฉินเฟยคิดได้จางซือหนานย่อมคิดได้เช่นกัน หากเป็นจริงตามที่เฉินเฟยพูดถือได้ว่าผู้ดูแลซุนมีปัญหาใหญ่

“ให้เหล่าฉินไปยืนยัน”

จางซือหนานพูดด้วยรอยยิ้ม เหล่าฉินที่นางพูดถึงเป็นหมอ แต่เขาไวต่อกลิ่นโอสถและสมุนไพรอย่างมาก เรื่องที่เฉินเฟยพูดเป็นความจริงหรือไม่นั้น เพียงให้เขาดมดูก็จะรู้เอง

“หากเป็นตามที่เจ้าพูด สูตรโอสถจิตเบาจะเป็นของเจ้า” จางซือหนานมองเฉินเฟยขณะพูด

“ขอบคุณคุณหนูใหญ่!” เฉินเฟยกุมมือ

ตกกลางคืน เฉินเฟยเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา สวมหน้ากากและหมวกไม้ไผ่เข้าไปในตลาดมืด

เมื่อฉือเต๋อเฟิงเห็นเฉินเฟย เขาพาเฉินเฟยเข้าไปที่ห้องหนึ่งแล้วชี้สมุนไพรบนพื้น “หลังทำงานหนักมาหลายวัน ในที่สุดข้าก็ได้สมุนไพรมา เจ้าไม่รู้แน่ว่างานนี้หนักหนาเพียงไหน ราคาครั้งก่อนถือว่าต่ำมาก”

เฉินเฟยไม่พูดอะไรและเดินไปตรวจสอบสมุนไพร หลังจากนั้นไม่นาน เฉินเฟยยืนขึ้นมองฉือเต๋อเฟิงอย่างสงบ

“มีอะไร?”

ฉือเต๋อเฟิงรู้สึกขนลุกที่เฉินเฟยมองเขาแบบนั้น เขาพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าต้องการสมุนไพรทั้งหมดนี้ไม่ใช่หรือ และข้ากับเจ้าต่อรองราคากันเรียบร้อย เจ้าต้องรับสมุนไพรทั้งหมดนี้ไป”

“เจ้าทำสมุนไพรปลอมด้วยตัวเองหรือไม่?” เฉินเฟยพูดอย่างสงบ

“ว่าไงนะ? มีสมุนไพรปลอม เป็นไปได้ยังไง!”

ฉือเต๋อเฟิงตะโกนเสียงดังด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ จากนั้นเดินไปตรวจสอบกองสมุนไพรแบบละเอียด

เฉินเฟยกลอกตา คนที่ไม่รู้เรื่องการแสดงต้องโดนเขาหลอกแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเฟยเป็นนักหลอมโอสถ คนธรรมดาคงดูของปลอมเหล่านี้ไม่ออก

หากไม่มีความรู้ในระดับหนึ่ง การสร้างสมุนไพรปลอมขั้นนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้

“มีของปลอมจริงด้วย ผู้ลี้ภัยพวกนั้นน่าตายนัก!”

ฉือเต๋อเฟิงตะโกนด้วยความเสียใจแต่ตะโกนเพียงไม่กี่ครั้ง พอเห็นเฉินเฟยไม่ตอบสนองเขาจึงอดถอนหายใจไม่ได้

“ข้าควรพูดยังไงดี?” เฉินเฟยมองฉือเต๋อฟิงแล้วถาม

“ข้าลองดูแล้ว มันมีของปลอมไม่มากนัก เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ฉือเต๋อเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ข้าต้องการสิบ แต่มีของจริงเพียงหก มีเพียงเล็กน้อยจริงๆ” เฉินเฟยพยักหน้า

“มากขนาดนั้นเชียว ข้าไม่เห็นเลย ผู้ลี้ภัยพวกนั้นน่าตายนัก!” ฉือเต๋อเฟิงตะโกนอีกครั้ง

“นี่คือเงินสำหรับสมุนไพรหกชุด ครั้งต่อไปต้องมีสมุนไพรสิบชุด รับของในสามวัน”

เฉินเฟยหยิบตำลึงเงินออกมาส่งให้ฉือเต๋อเฟิง จากนั้นเก็บสมุนไพรหันหลังจากไป

ฉือเต๋อเฟิงเขย่าเงินในมือ เขามองด้านหลังเฉินเฟยแล้วอดยิ้มไม่ได้ นานแล้วที่เขาไม่ได้เจอชายหนุ่มฉลาดน่าสนใจเช่นนี้

เฉินเฟยออกจากตลาดมืดพร้อมกับห่อของที่สะพายอยู่ด้านหลัง

เฉินเฟยคำนวณสมุนไพรไว้สิบชุดเพื่อทำให้จำนวนสมุนไพรดูไม่เด่นนัก ไม่อย่างนั้นถ้าออกจาตลาดมืดโดยมีของขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังมันจะสร้างปัญหาได้ง่าย

อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ถือว่าทำถูก

หลังยืนยันว่าไม่มีคนตามมาเฉินเฟยจึงกลับไปที่ลานเช่าอย่างระมัดระวัง

นี่คือลานอีกแห่งหนึ่งที่เฉินเฟยตอนเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาเช่าไว้ ท้ายที่สุดเขาจะขายโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพในตลาดมืด ดังนั้นการระมัดระวังไม่ให้ค้นพบตัวตนแท้จริงเป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่า

ห้องหนึ่งถูกเปลี่ยนเป็นห้องหลอมโอสถ

เฉินเฟยคัดแยกสมุนไพรและเริ่มหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ ด้วยความชำนาญโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพที่ใกล้ถึงระดับรู้แจ้งเต็มที เวลาในการหลอมสมุนไพรทั้งหกจึงสั้นลงอย่างมาก

ตราบใดที่เชี่ยวชาญในวิชา ในบางครั้งหลายสิ่งที่ดูซับซ้อนสำหรับคนธรรมดากลับเป็นเรื่องง่ายๆ

หนึ่งชั่วยามต่อมา การหลอมโอสถสิ้นสุดลง เฉินเฟยมองโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพสิบห้าเม็ดในขวดแล้วยิ้ม

นี่เป็นเงินมากกว่าหนึ่งร้อยตำลึง ถ้าความชำนาญโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพไปถึงระดับรู้แจ้ง จำนวนโอสถที่หลอมได้ในแต่ละเตาจะเพิ่มขึ้นอีก

ใช้เวลาไม่นานเฉินเฟยก็สามารถเก็บเงินได้ครบห้าร้อยตำลึง

เฉินเฟยเก็บขวดโอสถไว้ในแขนแล้วดูระบบ

[ชื่อ: เฉินเฟย]

[อาชีพ: นักยุทธ์]

[วิชายุทธ์: กระบี่เขาเขียว(รู้แจ้ง), วิธีหายใจลมล่องลอย(รู้แจ้ง), ก้าวข้ามแม่น้ำเมฆา(รู้แจ้ง), ปลอมตัว(รู้แจ้ง), เซียนชี้นำ(ยังไม่เริ่ม)]

[ระดับ: ขัดเกลากล้ามเนื้อ(17/10000)]

[การหลอมโอสถ: โอสถเลือดลม(รู้แจ้ง), โอสถแก้พิษ(รู้แจ้ง), โอสถรักษา(รู้แจ้ง), โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ(เชี่ยวชาญ7931/10000)]

[สถานะ: เนื้อร้ายติดกระดูก (-)]

ทั้งหมดเกือบอยู่ในระดับรู้แจ้ง ส่วนวิชากระบี่เซียนชี้นำที่ยังไม่เริ่มต้นดูสะดุดตา ด้วยการทะลวงเข้าระดับขัดเกลากล้ามเนื้อ สถานะเนื้อร้ายติดกระดูกจึงเปลี่ยนไปเช่นกัน มันมีเครื่องหมายลบอยู่ด้านหลังและส่งผลต่อเฉินเฟยน้อยลง

ในขณะเดียวกันวิธีหายใจลมล่องลอยกับโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพลดความช่วยเหลือในการบ่มเพาะอย่างมาก แต่ผลที่ได้ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย สามารถเพิ่มคะแนนฝึกฝนได้ประมาณ20คะแนนต่อวัน

เมื่อคำนวณดูแล้วเฉินเฟยอาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีในการทะลวงเข้าระดับหลอมกระดูก

มันไม่ถือว่าช้าและยังเร็วกว่านักยุทธ์ส่วนใหญ่ แม้แต่นักยุทธ์หลายคนยังหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไปตลอดชีวิต

ถ้าเฉินเฟยต้องการเร่งการบ่มเพาะ เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้โอสถจิตเบาและเสริมความแข็งแกร่งให้วิธีหายใจลมล่องลอย หากทำสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่งความเร็วในการบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง

เมื่อคิดได้แบบนั้นเฉินเฟยจึงหยิบตำราวิชาออกมา

ตามที่ฉือเต๋อเฟิงพูด นี่เป็นวิชาของสำนักกระบี่เซียนเมฆา พลังกระบี่ฟ้าคำราม!