ตอนที่ 19 ผิดคำสัญญา
สุดท้ายเฉินเฟยและฉือเต๋อเฟิงต่อรองราคากันสองสามครั้งและจบลงที่มากกว่าราคาตลาดหนึ่งส่วน มารับสินค้าที่นี่ในหกวันให้หลัง
เฉินเฟยออกจากตลาดมืดกลับไปที่บ้านเช่าด้วยรอยยิ้ม
อันที่จริงต่อให้สมุนไพรแพงกว่าราคาตลาดสิบส่วนมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเฉินเฟย ท้ายที่สุดแล้วหลังจากสมุนไพรผ่านการหลอมเป็นโอสถ มันจะมีมูลค่ามากกว่าเดิมหลายสิบเท่า
แต่เมื่อทำธุรกิจกับผู้คน เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่คนอื่นจะพูดราคาไหนแล้วคุณจะยอมรับราคานั้น อีกฝ่ายจะไม่คิดว่าคุณเป็นคนใจกว้างแต่คิดว่าคุณเป็นคนหลอกง่าย ต่อจากนั้นจะมีปัญหาทุกอย่างตามมา
เฉินเฟยหยิบตำราวิชาออกมาจากใต้เตียงและเริ่มฝึก
ก้าวข้ามแม่น้ำเมฆาได้ผสานไปสิบสามวิชาแล้ว เวลาในการฝึกก้าวข้ามแม่น้ำเมฆาสั้นลงทุกทีซึ่งแสดงให้เห็นว่าการผสานวิชาใหม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
หลังอ่านวิชาใหม่ได้หนึ่งเค่อ นางแอ่นบินคู่หายไปจากระบบ เฉินเฟยผสานก้าวข้ามแม่น้ำเมฆากับนางแอ่นบินคู่เข้าด้วยกัน
[วิชายุทธ์: ก้าวข้ามแม่น้ำเมฆา(สมบูรณ์7325/10000)]
เมื่อผสานเข้าด้วยกันมันก็เข้าใกล้ระดับรู้แจ้งมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าเหลือพื้นที่สำหรับปรับปรุงน้อยลง เมื่อผสานวิชาใหม่เข้าไปอีกมันจะกลายเป็นระดับรู้แจ้งทันทีซึ่งหมายความว่าวิชานี้ไม่สามารถก้าวหน้าได้อีกต่อไป
เดิมทีเฉินเฟยคิดว่าการผสานวิชาพื้นฐานอย่างต่อเนื่องจนพัฒนาเป็นวิชาทรงพลังเป็นเรื่องแปลก
ท้ายที่สุดแล้วมันสร้างจากวิชาพื้นฐานที่เกิดจากความคิดง่ายๆ โชคดีที่ระบบทำให้วิชาไม่สมบูรณ์เหล่านั้นเป็นแบบง่ายได้ ไม่อย่างนั้นเฉินเฟยคงไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาวิชาใหม่มาจากไหน
ห่างออกไป
“ช่วยข้าฆ่าใครสักคน ถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ เรื่องที่เจ้าติดค้างในตอนนั้นจะถูกหักล้าง”
“ใคร?”
“ศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้ง เฉินเฟย!”
“ตระกูลจางไม่ปล่อยเอาไว้แน่หากฆ่าคนของศูนย์การแพทย์ชิงเจิ้ง”
“ตอนนี้โจรกำลังออกอาละวาดในอำเภอ เมื่อถึงเวลาเจ้าแค่ทิ้งร่องรอยไว้แล้วยัดเยียดให้พวกมัน! ตอนนี้เด็กนั่นมีเงินเยอะเหมือนกัน เงินนั้นให้เป็นของเจ้าด้วย!”
“ได้ ข้ารับงานนี้!”
บ้านตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง หนึ่งในนั้นออกไปส่วนอีกคนหนึ่งเดินกระเพกไปที่โต๊ะ ภายใต้แสงเทียนเผยให้เห็นใบหน้าน่าเกลียด
“ในวันนั้นไปด้วยกัน ข้าขาหักกลายเป็นคนไร้ประโยชน์! แต่เจ้ากลับได้เป็นรองผู้ดูแลอย่างสุขสบาย เจ้าจะได้รับสิ่งดีๆทั้งหมดได้อย่างไร!” เสียงแผ่วเบาน่ากลัวมาพร้อมกับแสงเทียนริบหรี่
ห้าวันผ่านไปในพริบตา อำเภอผิงหยินสงบลงชั่วขณะ โจรเหล่านั้นไม่ปรากฏตัวอีกและดูเหมือนว่าพวกเขาจะยอมแพ้กับอำเภอผิงหยินแล้ว
เฉินเฟยยังคงหลอมโอสถและเช็ดหน้าเหมือนเดิม ระดับของเขาใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว ในขณะเดียวกันท่าร่างถูกผสานกันถึงสิบหกวิชาและมาถึงขีดจำกัด
เฉินเฟยทำให้ท่าร่างขั้นสูงที่รวบรวมมาเป็นพิเศษเป็นแบบง่ายและได้รับทักษะที่มีชื่อว่าวิ่งทะยาน
มันไม่ใช่ตำราท่าร่างสมบูรณ์แต่เป็นเพียงทักษะส่วนหนึ่งจากข้อมูลที่ได้มา หลังจากเฉินเฟยใช้ทักษะนี้ความเร็วในการวิ่งจะเพิ่มขึ้นในเวลาสั้นๆ
อาจมีการเสียพละกำลังไปบ้าง แต่ไม่มีผลร้ายแรงตามมา
เฉินเฟยมีความสุขมากและผสานทักษะนี้เข้ากับก้าวข้ามแม่น้ำเมฆา
ในวันนี้หลังจากก้าวข้ามแม่น้ำเมฆาผสานกับท่าร่างมากกว่าสิบปรากฏว่ามันครอบคลุมมากขึ้น การผสานวิ่งทะยานไม่ได้ทำให้ก้าวข้ามแม่น้ำเมฆาแตกต่างจากเดิมแต่เพิ่มวิชาลับในการระเบิดแทน
ในขณะเดียวกันความชำนาญเพิ่มเป็น(8123/10000)
จากความเร็วในการฝึกท่าร่างในปัจจุบัน เขาอาจใช้เวลาเพียงหนึ่งถึงสองวันในการไปถึงระดับรู้แจ้ง
“เพราะก้าวข้ามแม่น้ำเมฆาผสานกับท่าร่างมากกว่าสิบมันจึงรองรับท่าร่างขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าอย่างนั้นหากต้องการผสานวิชากระบี่เข้ากับวิชาเซียนชี้นำได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากทำให้เป็นแบบง่ายครั้งที่สอง การผสานวิชากระบี่พื้นฐานก็เป็นทองออกเช่นกัน?”
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจเฉินเฟย แต่เฉินเฟยล้มเลิกมันทันที
วิชากระบี่แตกต่างจากท่าร่าง ตามจริงแล้วการวิ่งทะยานคล้ายกับสถานะระเบิดของการวิ่ง ดังนั้นมันจึงผสานกันได้อย่างลงตัว
“แต่การผสานวิชากระบี่พื้นฐานจนสมบูรณ์จะเป็นประโยชน์ต่อการผสานวิชากระบี่ขั้นสูงในอนาคต อย่างน้อยก็ครอบคลุมมากขึ้น”
เฉินเฟยครุ่นคิด ตอนนี้ท่าร่างได้รับการปรับปรุงไปอีกขั้น ขั้นต่อไปคือฝึกฝนวิชายุทธื ความชำนาญในการซ้อนทับจะไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีวันหยุดลง
ส่วนการบ่มเพาะ เฉินเฟยมองระบบซึ่งใกล้เปลี่ยนแปลง
เฉินเฟยนั่งขัดสมาธิอย่างช่วยไม่ได้และใช้วิธีหายใจลมล่องลอยต่อไป เลือดลมในร่างกายหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ผิวหนังเฉินเฟยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย คลื่นความร้อนไหลเวียนบนผิวหนังและค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ร่างกายเฉินเฟยสั่นเล็กน้อย พลังใหม่แผ่ออกมาจากภายในร่างกาย เฉินเฟยค่อยๆลืมตาขึ้น
มีเสียงกรอบแกรบดังจากรอบๆ ในความมืดมิด เฉินเฟยมองเห็นได้ไกลกว่าเดิมเล็กน้อย
ในคืนที่เงียบสงบ มีเสียงรบกวนมากมายปะปนกัน ความรู้สึกทั้งสองผสามผสานกันและเติมเต็มจิตใจเฉินเฟย
“มีคน!”
เฉินเฟยหันมองออกไปนอกประตู หลังทะลวงระดับเฉินเฟยรู้สึกแปลกว่าในลานบ้านมีคนซ่อนตัวอยู่
เฉินเฟยยกกระบี่ในมือขึ้น เปิดประตูออกแล้วเดินไปที่ลานบ้าน ทำเหมือนคนนอนไม่หลับตอนกลางคืนแล้วออกมาเดินแก้เบื่อ
“ฟุบ”
ร่างของเฉินเฟยหันไปทางด้านซ้าย แสงเย็นวาบขึ้น มีดบินครูดกับผนังลานบ้าน ในเวลาเดียวกันเงาดำก็กระโดดจากมุมหนึ่งขึ้นไปบนกำแพง จ้องมองลงมายังเฉินเฟยอย่างเย็นชา
คนชุดดำไม่พูด ร่างของเขาพร่ามัวหายไปจากจุดนั้น
ช่วงนี้เขามักรู้สึกว่าถูกแอบติดตามอยู่เสมอซึ่งเฉินเฟยคิดว่าผู้ดูแลซุนเป็นคนส่งมา แต่วันนี้คนคนนี้ซ่อนตัวอยู่ในลานบ้าน เมื่อพบว่ามีบางอย่างผิดปกติก็โจมตีโดยตรง เห็นได้ชัดว่าการติดตามนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
วูบ!
เลือดลมในร่างกายหมุนเวียนไปทั่วร่าง เฉินเฟยรู้สึกว่าร่างกายเบาลงอย่างกะทันหันและรอบข้างดูเหมือนจะช้าลง
สายลมกำลังพัดโชย ขณะที่กิ่งไม้สั่นไหวเฉินเฟยสามารถเห็นกิ่งไม้แกว่งไปมาได้อย่างชัดเจน
ช่วงเวลาต่อมาเฉินเฟยก้าวไปด้วยเท้าขวา ทันใดนั้นก็มาถึงด้านหลังของคนชุดดำพร้อมกับแทงกระบี่ยาวในมือออกไป
คนชุดดำรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ข้างหลังจึงหันไปมองทำให้เห็นกระบี่ยาวพุ่งเข้ามา ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองและไม่อยากเชื่อ เฉินเฟยเร็วขนาดนี้ได้ยังไง!
ตามข้อมูลที่ได้มา เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขัดเกลาผิวหนัง
แต่เพื่อความรอบคอบเขาจึงติดตามอยู่สองสามวัน หลังยืนยันระดับของเฉินเฟยและไม่พบผู้คุ้มกันคนไหน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาวางแผนลงมือฆ่าเฉินเฟยวันนี้เพื่อจบภารกิจ
แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับการใช้ท่าร่างและกระบวนท่ากระบี่ของเฉินเฟย?
“ชึก!”
กระบี่แทงทะลุอก คนชุดดำล้มลงกับพื้น ปากเต็มกระอั่กเลือดออกมา
เฉินเฟยเดินไปด้านข้าง มองคนชุดดำแล้วถาม “ใครส่งเจ้ามา?”
“เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่ฆ่าข้า แล้วข้าจะบอก” คนชุดดำพูดเสียงเบาขณะที่กดบาดแผลไว้
“ได้” เฉินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
“ผูเหลียวเป็นคนส่งข้ามา!” คนชุดดำกัดฟัน เขารู้สึกว่าตัวเองโดนผูเหลียวหลอก หลังกลับไปครั้งนี้เขาจะให้ผูเหลียวชดใช้
เฉินเฟยขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เขาไม่ได้บาดหมางกับผูเหลียว แต่ผูเหลียวกลับส่งคนมาฆ่าเขา
“ข้าไปได้หรือยัง?” คนชุดดำพยายามลุกขึ้น กระบี่เฉินเฟยทำให้เขาหมดแรงจนแทบขยับไม่ได้
เฉินเฟยมองคนชุดดำแล้วส่ายหน้า เขาเดินไปหา “มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
“เจ้าจะทำอะไร เจ้าสัญญาแล้วว่าจะไม่ฆ่าข้า เจ้าจะกลับคำเช่นนี้ไม่ได้!” คนชุดดำกรีดร้องด้วยความกลัว
“ข้าผิดสัญญา!”
แสงกระบี่สั่นไหว ปลายกระบี่แทงทะลุหัวใจคนชุดดำ คนชุดดำมองเฉินเฟยอย่างไม่อยากเชื่อและค่อยๆล้มไปข้างหลัง