ตอนที่ 17 ภาพเหมือน
“ท่าร่างไม่เลว!”
ดวงตาเจี่ยนเหลียงเป็นประกาย เมื่อเขาจะพูดต่อก็เห็นเฉินเฟยกำลังวิ่งออกจากตรอกอย่างสิ้นหวัง เจี่ยนเหลียงยิ้มเย็นชาและกำลังจะตามไปฆ่าคนคนนั้น แต่มีเสียงเรียกดังมาจากลานบ้าน
เจี่ยนเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังวิ่งไปในลานบ้าน
ครู่ต่อมา เจี่ยนเหลียงยืนอยู่บนกำแพงลานบ้านอีกครั้ง แขนเสื้อเขาเต็มไปด้วยเลือด เจี่ยนเหลียงมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นเฉินเฟยแล้ว
ใบหน้าของเจี่ยนเหลียงนิ่งเฉย เขารู้สึกว่าเคยเห็นคนคนนี้จากที่ไหนมาก่อน แต่ถ้าเขาได้เห็นการเคลื่อนไหวแบบนั้นเขาย่อมจำได้ไม่มีวันลืม
เจี่ยนเหลียงขมวดคิ้ว ลมกลางคืนพัดมาและเขาหายไปจากจุดนั้น
ห่างออกไป เฉินเฟยซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง เขารู้สึกโล่งใจเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา
โชคดีเหลือเกินที่ได้มาเจอโจรภูเขาในเมืองแบบนี้ เกรงว่าครอบครัวนั้นคงพบหายนะเข้าแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรเฉินเฟยยังแทบเอาตัวไม่รอด เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปช่วยคนอื่น
“มีคนโดนลักพาตัวไป”
เฉินเฟยพูดกับตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะท่าร่างระดับรู้แจ้งซึ่งเกือบจะกลายเป็นสัญชาตญาณ เฉินเฟยคงไม่อาจหลบหนีจากเงื้อมมือเจี่ยนเหลียงได้
“ระดับยังต่ำเกินไป” เฉินเฟยเงยหน้ามองลานบ้านนั้น “ต้องผสานท่าร่างซ้อนทับต่อไป ทั้งสองต้องไม่ขัดแย้งและเสริมพลังซึ่งกันและกัน”
เขาไม่ได้ไปตลาดมืดทันทีเพราะคืนนี้เกรงว่าจะไม่สงบ เฉินเฟยตั้งใจว่าคืนพรุ่งนี้ค่อยไปหาเจ้าของร้าน
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเฉินเฟยมาถึงศูนย์การแพทย์เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านใน
“เกิดอะไรขึ้น?” เฉินเฟยถามอย่างสงสัย
“เมื่อคืนนี้ครอบครัวมากมายในเมืองถูกกวาดล้าง ข้าได้ยินมาว่ามีเลือดนองเต็มไปหมด” หลิวจวินเดินมาหาเฉินเฟยแล้วพูดด้วยเสียงเบา
เฉินเฟยขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเมื่อคืนนี้กลุ่มโจรภูเขาเลือกเพียงครอบครัวเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะเข้ามากวาดล้างในอำเภอใหญ่ทั้งหมด
“ที่ว่าการอำเภอโกรธมากจนถึงกับเสนอรางวัลก้อนโต ถ้าใครให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะได้รับรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงิน”
หลิวจวินพูดต่อ ในเดวงตาเขามีความกระตือรือร้น หนึ่งร้อยตำลึงเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีโอกาสได้สัมผัสเงินจำนวนมากแบบนี้หรือไม่
เฉินเฟยรู้สึกสะเทือนใจแต่กดความรู้สึกเอาไว้ทันที
เฉินเฟยยังไม่สามารถยั่วยุโจรภูเขาเหล่านั้นได้ ต่อให้ที่ว่าการอำเภอยังมอบรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงแต่สุดท้ายแล้วจะได้เท่าไรก็ยังไม่รู้ มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
และเงินจำนวนนี้ยังน้อยเกินไปสำหรับการเปิดเผยกลุ่มโจรภูเขา
แต่ถ้าไม่มีใครปราบปรามโจรภูเขาน เกรงว่าอีกไม่นานคนพวกนั้นคงมาก่ออาชญกรรมภายในเมืองอีกครั้ง พอถึงตอนนั้นเฉินเฟยอาจจะตกอยู่ในอันตราย
หลังให้กำลังใจหลิวจวินไม่กี่คำ เฉินเฟยมาที่ห้องหลอมโอสถและเริ่มหลอมโอสถเลือดลม
วันนี้หลังจากหลอมโอสถอีกสองสามเตา ความชำนาญการหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพของเฉินเฟยจะเข้าสู่ระดับเชี่ยวชาญ จากนั้นเขาจะสามารถเริ่มการหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพได้
ผ่านไปหนึ่งเค่อ เตาหลอมถูกเปิดออก ด้านในเป็นโอสถเลือดลมห้าเม็ด คะแนนความชำนาญของโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพบน+5
คะแนนความชำนาญคำนวณจากจำนวนโอสถเลือดลมที่หลอมได้ ไม่อย่างนั้นเฉินเฟยคงไม่สามารถเพิ่มความชำนาญโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพถึงระดับเชี่ยวชาญได้ภายในสองสามวัน
ใส่โอสถเลือดลมลงในขวดแล้วทำความสะอาดเตา เฉินเฟยเริ่มหลอมโอสถเลือดลมเตาที่สองโดยไม่พัก
เตาที่สาม เตาที่สี่ เตาที่ห้า
หลังจากหลอมโอสถเลือดลมห้าเตา เฉินเฟยอดถอนหายใจไม่ได้
แม้การหลอมโอสถเลือดลมจะอยู่ระดับรู้แจ้ง แต่การหลอมโอสถอย่างต่อเนื่องแบบนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เฉินเฟยมองระบบแล้วยิ้ม
[การหลอมโอสถ: โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ(เชี่ยวชาญ2/1000)]
“หลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพได้แล้ว!”
เนื่องจากพวกเขาให้ความสำคัญกับทักษะการหลอมโอสถและสนับสนุนการหลอมโอสถของเฉินเฟย ศูนย์การแพทย์จึงจัดเตรียมสมุนไพรหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพหนึ่งชุดให้เฉินเฟยฟรีทุกวัน
ตอนนี้เฉินเฟยมีสมุนไพรหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพอยู่ตรงเท้า ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีอย่างน้อยเขาจะได้โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพสองสามเม็ด
เฉินเฟยปรับลมหายใจเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป จากนั้นทำความสะอาดเตาหลอมอย่างระมัดระวังและใส่สมุนไพรลงในเตาตามสูตรโอสถ
จดจ่อสมาธิกับมัน ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเฟยหลอมโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ ต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติสมุนไพรในเตาตลอด เฉินเฟยเริ่มหลอมโอสถอย่างจริงจัง
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ กลิ่นหอมสมุนไพรเริ่มอบอวลไปทั่วห้องหลอมโอสถกลบกลิ่นโอสถเลือดลมที่เหลืออยู่
ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยเปิดฝาเตาและพบโอสถอยู่ในเตา
เฉินเฟยหยิบมันออกมาอย่างระมัดระวังและสังเกตโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างรอบคอบ
โอสถชั้นนอกยังไม่ค่อยกลม หากสังเกตให้ดียังมีสมุนไพรเล็กน้อยยังไม่ถูกหลอมอย่างสมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อผลสุดท้ายของโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ หากนำไปขายราคาจะลดลงเล็กน้อย
แต่ข้อบกพร่องเหล่านี้ไม่สามารถปิดบังรอยยิ้มเฉินเฟยได้
แม้ว่าผลของโอสถจะแย่ลงเล็กน้อยแต่มันยังดีกว่าโอสถเลือดลมมาก ถ้าเฉินเฟยได้รับโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพหนึ่งเม็ดทุกวัน เวลาในการทะลวงสู่ขัดเกลากล้ามเนื้อก็จะลดลง
การปรากฏตัวของโจรภูเขาเหล่านั้นทำให้เฉินเฟยรู้สึกไม่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
เฉินเฟยอ้าปากกลืนโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพแล้วนั่งขัดสมาธิเริ่มใช้วิธีหายใจลมล่องลอย สีหน้าเฉินเฟยสงบลงอย่างรวดเร็ว เขาจมดิ่งสู่สภาวะแห่งการบ่มเพาะอย่างสมบูรณ์
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เฉินเฟยลืมตาตื่นขึ้น ความเหนื่อยล้าจากการหลอมโอสถหายไป ทั้งร่างกายดุกระฉับกระเฉง เมื่อดูระบบเฉินเฟยก็อดยิ้มไม่ได้
[ระดับ: ขัดเกลาผิวหนัง(593/1000)]
โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพเพิ่มระดับของเขาสิบห้าคะแนน เดิมทีการใช้วิธีหายใจลมล่องลอยและโอสถเลือดลม จะใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนกว่าถึงจะทะลวงเข้าสู่ขัดเกลากล้ามเนื้อ
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใช้โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพ แม้ว่าจะกินได้วันละหนึ่งเม็ดแต่เวลาก็ลดเหลือเพียงครึ่งเดือน
ในสายตาของนักยุทธ์คนอื่นเวลาที่ลดลงนี้อาจไม่มีความหมายอะไร ท้ายที่สุดแล้วราคาโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพสูงกว่าโอสถเลือดลมหลายสิบเท่า
โอสถฟื้นฟูสมรรถภาพมีราคาสิบตำลึงเงิน ซึ่งราคานี้ไม่มีการหลอกลวงและไม่มีข้อเสนอพิเศษ!
เวลาลดลงครึ่งเดือนต้องแลกกับเงินทั้งหมด สิ่งนี้ฟุ่มเฟือยเกินไป
แต่ในฐานะนักหลอมโอสถ เฉินเฟยเข้าใจดีเพราะค่าสมุนไพรที่ต้องใช้ในการหลอมเพิ่มเป็นสองเท่า และส่วนที่เหลือเป็นค่าทักษะ
ตอนนี้เฉินเฟยเชี่ยวชาญทักษะนี้แล้ว
“ถ้าอยากเก็บเงินให้เร็วขึ้นคงต้องเอาโอสถฟื้นฟูสมรรถภาพบางส่วนไปขายในตลาดมืด”
เฉินเฟยครุ่นคิดในใจแต่เขาไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวของมือ เขายังคงหลอมโอสถต่อไป
ตกกลางคืน ที่ว่าการอำเภอสว่างไสว ทันใดนั้นมีหินก้อนหนึ่งลอยเข้ามากระแทกกำแพง
เหล่านักว่าการที่ได้ยินเสียงต่างวิ่งออกมาดูและพบว่ามีซองจดหมายอยู่ใต้ก้อนหิน ภายในซองนั้นมีภาพเหมือนอยู่ หากดูให้ดีจะพบว่าเป็นรูปหน้าตาของเจี่ยนเหลียงซึ่งเหมือนตัวจริงอย่างยิ่ง
ห่างออกไป เฉินเฟยซึ่งเคยเรียนการร่างภาพมาก่อนในชีวิตก่อนเดินเข้าไปในตลาดมืดและมาที่แผงขายตำรา
ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉินเฟยออกจากตลาดมืด ในห่อด้านหลังเขามีตำราท่าร่างพื้นฐานสิบเล่ม ตำราท่าร่างขั้นสูงหนึ่งเล่ม และวิชาเล่นกล
วิชาเล่นกลนี้เป็นวิชาปลอมตัว ไม่เพียงแต่เปลี่ยนหน้าตาได้ ในตำรายังบอกอักว่าถ้าฝึกจนถึงขั้นสูงจะสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ด้วย